มัมพลอย เฌอมาลย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Sisterhood ว่าที่ผ่านมา เธอเพิ่งต่อสู้กับโรคร้าย
คือ “มะเร็งเต้านม”
โดยได้เล่าให้ฟังว่า ช่วงแรกได้ไปตรวจสุขภาพประจำปี และพบว่าบริเวณเต้านมมีก้อนที่ผิดปกติ คุณหมอจึงแนะนำให้เจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ เพื่อดูว่ามีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งหรือไม่
ปรากฏว่าเธอยังไม่พร้อมในการตรวจในตอนนั้น และได้ทิ้งระยะเวลาไว้ประมาณหนึ่งปีครึ่ง ก่อนจะกลับไปตรวจอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากตรวจเรียบร้อยแล้ว โดยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ พบว่าเธอเป็น “เนื้อร้ายที่เต้านม” และได้เข้ารับการรักษาด้วยวิธี “ผ่าตัดแบบสงวนเต้า” (Breast-Conserving Surgery) จากนั้นพบว่ามะเร็งได้ลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ซึ่งจัดเป็น “มะเร็งเต้านมระยะที่ 2”
โชคดีที่มะเร็งชนิดนี้ของเธอ ไม่จำเป็นต้องให้ยาเคมีบำบัด แต่ต้องเข้ารับการรักษาด้วย “การฉายแสงบริเวณเต้านมทั้งหมด” จำนวน 25 ครั้ง ซึ่งเธอเองก็เจอกับภาวะแทรกซ้อนจากการฉายแสง คือ “ผิวหนังไหม้”
การรักษาอีกหนึ่งอย่างคือ “การกินยาต้านฮอร์โมน” โดยเธอต้องรับประทานยาต้านฮอร์โมนอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยประมาณ 5 ปี และอาจต้องฉีดยาร่วมด้วย คาดว่าอาจเป็นยากดฮอร์โมนที่รังไข่ด้วย (ตรงนี้รายละเอียดไม่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น)
ผลกระทบที่เธอพบมากคือเรื่อง “อารมณ์แปรปรวน” เนื่องจากยากลุ่มนี้ไปยับยั้งการทำงานของ
ฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้อารมณ์สวิง หงุดหงิด เหวี่ยงง่าย ซึ่งจริง ๆ แล้วก็เหมือนทำให้เธอเข้าสู่วัยทองเร็วกว่ากำหนดนั่นเอง
เมื่อมองย้อนกลับไปจึงเข้าใจได้ว่า ช่วงปีที่ผ่านมาที่หลายคนเห็นเธอมีอารมณ์ไม่คงที่นั้น เป็นผลจากการรักษาที่ต้องต่อสู้ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างมาก
นอกจากนี้ เธอยังมีน้ำหนักลดลงถึง 13 กิโลกรัม ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน และการทำงานของอวัยวะหลายส่วนในร่างกาย
⸻
ความเสี่ยงที่แก้ไขไม่ได้
• พันธุกรรม: เธอระบุชัดเจนว่ามีพันธุกรรมทางฝั่งคุณย่า ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญมากต่อการเกิดมะเร็งเต้านม
ความเสี่ยงที่แก้ไขได้
• พฤติกรรมการบริโภค: เคยมีพฤติกรรมการกินอาหารแปรรูป
• พฤติกรรมนอน: “นอนเช้า” ซึ่งส่งผลต่อวงจรชีวภาพ (Circadian Rhythm) และการหลั่งฮอร์โมนในร่างกาย
• ความเครียด (Stress): ความเครียดเรื้อรังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบในร่างกาย
ปัจจุบันเธอเองก็กลับมามีชีวิตที่ปกติแล้วก็ดูแลตัวเองได้ดีกว่าเดิมนะครับ น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาแปดกิโล และยังออกกำลังกายสัปดาห์ละสี่ถึงห้าวัน รวมไปถึงดูแลเรื่องของอาหารการกินและการนอนให้ดีขึ้น เชื่อว่าแฟนคลับหลายหลายคนอยากเห็นคุณพลอยกลับมามีรอยยิ้มที่สดใสน่ารักเหมือนเดิมครับ
หมอเจด...เจตนาดี
CR
https://www.facebook.com/share/17MGFCeMLx/?mibextid=wwXIfr
#มะเร็งป้องกันได้ไม่ควรเป็น
#มะเร็งรักษาได้ไม่ควรตาย
#มะเร็งเต้านม #สุขภาพ
#สุขภาพดี #มะเร็ง #ตรวจสุขภาพประจำปี
#เบาหวานหายได้ #อ้วนได้ก็ผอมได้
คุณผู้หญิงไม่ควรละเลยการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมในทุกๆปี…. คุณพลอยเผยการรักษามะเร็งเต้านมของเธอ…
คือ “มะเร็งเต้านม”
โดยได้เล่าให้ฟังว่า ช่วงแรกได้ไปตรวจสุขภาพประจำปี และพบว่าบริเวณเต้านมมีก้อนที่ผิดปกติ คุณหมอจึงแนะนำให้เจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ เพื่อดูว่ามีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งหรือไม่
ปรากฏว่าเธอยังไม่พร้อมในการตรวจในตอนนั้น และได้ทิ้งระยะเวลาไว้ประมาณหนึ่งปีครึ่ง ก่อนจะกลับไปตรวจอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากตรวจเรียบร้อยแล้ว โดยการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ พบว่าเธอเป็น “เนื้อร้ายที่เต้านม” และได้เข้ารับการรักษาด้วยวิธี “ผ่าตัดแบบสงวนเต้า” (Breast-Conserving Surgery) จากนั้นพบว่ามะเร็งได้ลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้ ซึ่งจัดเป็น “มะเร็งเต้านมระยะที่ 2”
โชคดีที่มะเร็งชนิดนี้ของเธอ ไม่จำเป็นต้องให้ยาเคมีบำบัด แต่ต้องเข้ารับการรักษาด้วย “การฉายแสงบริเวณเต้านมทั้งหมด” จำนวน 25 ครั้ง ซึ่งเธอเองก็เจอกับภาวะแทรกซ้อนจากการฉายแสง คือ “ผิวหนังไหม้”
การรักษาอีกหนึ่งอย่างคือ “การกินยาต้านฮอร์โมน” โดยเธอต้องรับประทานยาต้านฮอร์โมนอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยประมาณ 5 ปี และอาจต้องฉีดยาร่วมด้วย คาดว่าอาจเป็นยากดฮอร์โมนที่รังไข่ด้วย (ตรงนี้รายละเอียดไม่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น)
ผลกระทบที่เธอพบมากคือเรื่อง “อารมณ์แปรปรวน” เนื่องจากยากลุ่มนี้ไปยับยั้งการทำงานของ
ฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้อารมณ์สวิง หงุดหงิด เหวี่ยงง่าย ซึ่งจริง ๆ แล้วก็เหมือนทำให้เธอเข้าสู่วัยทองเร็วกว่ากำหนดนั่นเอง
เมื่อมองย้อนกลับไปจึงเข้าใจได้ว่า ช่วงปีที่ผ่านมาที่หลายคนเห็นเธอมีอารมณ์ไม่คงที่นั้น เป็นผลจากการรักษาที่ต้องต่อสู้ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างมาก
นอกจากนี้ เธอยังมีน้ำหนักลดลงถึง 13 กิโลกรัม ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน และการทำงานของอวัยวะหลายส่วนในร่างกาย
⸻
ความเสี่ยงที่แก้ไขไม่ได้
• พันธุกรรม: เธอระบุชัดเจนว่ามีพันธุกรรมทางฝั่งคุณย่า ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญมากต่อการเกิดมะเร็งเต้านม
ความเสี่ยงที่แก้ไขได้
• พฤติกรรมการบริโภค: เคยมีพฤติกรรมการกินอาหารแปรรูป
• พฤติกรรมนอน: “นอนเช้า” ซึ่งส่งผลต่อวงจรชีวภาพ (Circadian Rhythm) และการหลั่งฮอร์โมนในร่างกาย
• ความเครียด (Stress): ความเครียดเรื้อรังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและการอักเสบในร่างกาย
ปัจจุบันเธอเองก็กลับมามีชีวิตที่ปกติแล้วก็ดูแลตัวเองได้ดีกว่าเดิมนะครับ น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาแปดกิโล และยังออกกำลังกายสัปดาห์ละสี่ถึงห้าวัน รวมไปถึงดูแลเรื่องของอาหารการกินและการนอนให้ดีขึ้น เชื่อว่าแฟนคลับหลายหลายคนอยากเห็นคุณพลอยกลับมามีรอยยิ้มที่สดใสน่ารักเหมือนเดิมครับ
หมอเจด...เจตนาดี
CR https://www.facebook.com/share/17MGFCeMLx/?mibextid=wwXIfr
#มะเร็งป้องกันได้ไม่ควรเป็น
#มะเร็งรักษาได้ไม่ควรตาย
#มะเร็งเต้านม #สุขภาพ
#สุขภาพดี #มะเร็ง #ตรวจสุขภาพประจำปี
#เบาหวานหายได้ #อ้วนได้ก็ผอมได้