[สิ่งประดิษฐ์] ผมลองให้คนตาบอดสวมของชิ้นนี้แล้วบังคับแฮนด์จักรยานดู

แก้ไขเพิ่มความมุ่งหมายของการประดิษฐ์ เผื่อหลายท่านสงสัยว่าแบบนี้มีคนทำมาก่อนแล้วนี่หน่า ฯลฯ จะได้ทราบรายละเอียดและสังเกตเห็นข้อแตกต่าง เผื่อจะคลายข้อสงสัยไปเปราะหนึ่งนะครับ

โจทย์ของผมก็คือ สร้างอุปกรณ์ราคาถูกกว่าจักรยาน พกพาได้ ที่จะแปลงจักรยานสองล้อธรรมดาที่มีขายทั่วๆไป 2 คัน มาประกอบกันให้เป็น tandem โดยให้มีการดัดแปลงตัวจักรยานน้อยที่สุด (อย่างมากก็ถอดล้อ) ดังนั้น จะขอยังไม่พูดถึงจักรยานเฟรมพิเศษที่มีไว้สำหรับลากจูงโดยเฉพาะนะครับ เพราะผมคิดว่าราคามันน่าจะใกล้เคียงกับจักรยานคันหนึ่งเลย

แบบที่ 1 อุปกรณ์ต่อพ่วงจักรยาน
อุปกรณ์นี้คล้ายกับ FollowMe tandem coupling ของเยอรมัน ในหลักการลากจูง แต่ชนิดของจักรยานที่ใช้ได้ และกลไกการจับยึดแตกต่างกัน เพราะจักรยานผู้ใหญ่รับน้ำหนักมากกว่าจักรยานเด็ก จึงต้องการจุดยึดเฟรมมากกว่าเพื่อเพิ่มความแข็งเกร็ง (rigidity) แบบนี้แฮนด์หลังล็อคเลี้ยวไม่ได้ ผมนำเสนอแบบนี้ด้วยเพื่อให้เห็นความเป็นมาของการประดิษฐ์แบบที่สองครับ ว่ามันลงทุนลงแรงอะไรไปบ้าง ที่จริงก่อนสร้างแบบที่ 1 ก็ได้ประดิษฐ์อุปกรณ์พ่วงที่ยึดระหว่างหลักอานรถคันหน้ากับแฮนด์คันหลัง แต่ก็เจอปัญหาเรื่องมุม caster ขณะเลี้ยว เลยต้องรื้อทิ้งไป

แบบที่ 2 (ตามหัวข้อกระทู้) ไม้ลากจูงนำทางบุคคลแบบสะพาย
เป็นอุปกรณ์นำทาง และช่วยลากจูงได้บ้าง สาระสำคัญอยู่ที่อิสรภาพในการควบคุมจักรยาน คนตาบอดหลายคนก็ต้องการความรู้สึกนี้เช่นกันครับ ขณะหลับตาปั่นให้อาสาปั่นนำทาง ผมพบว่าต้องใช้สมาธิในการรับรู้ทิศทางจากไม้ที่สะพายอยู่ มันจึงเป็นความท้าทายที่อยากให้เกิดการวิจัยอย่างจริงจัง ว่าคนตาบอดกลุ่มตัวอย่างมีศักยภาพในการบังคับจักรยานขนาดไหน และคนตาดีจะได้ประโยชน์อะไรจากอุปกรณ์นี้บ้าง เพราะผมคลุกคลีกับคนตาบอดมาทั้งชีวิต แต่ยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ เลยอยากให้พวกเขาได้ประสบการณ์ที่ไม่เคยได้สัมผัส

---สิ้นสุดการแก้ไข---

สวัสดีครับพี่น้อง ขอพื้นที่ให้แรงบันดาลใจเล็กๆนะครับ

ไม่ได้เชิญชวนทุกคนมาเป็นนักประดิษฐ์ แต่ให้เรียนรู้จากความล้มเหลวและไม่ยอมแพ้ครับ ถึงตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าสิ่งประดิษฐ์นี้จะประสบความสำเร็จในเชิงธุรกิจหรือไม่ แต่การได้ทำให้ผู้ที่ใช้มันมีความสุข ผมว่ามันทำให้คนประดิษฐ์ได้กำลังใจไม่แพ้กัน

ขอเล่าเป็นเรื่องราวของการประดิษฐ์ชิ้นหนึ่งของผมครับ

เนื่องด้วยความรักในการประดิษฐ์ สนุกคิดคำนวณ คลุกคลีกับคนตาบอดมาตั้งแต่เกิด (พ่อเป็นครูตาบอด ผมเกิดมาในโรงเรียนสอนคนตาบอด) และปั่นจักรยานในชีวิตประจำวัน เลยเกิดความสงสัยว่าถ้าเราหลับตาปั่นจักรยานมันจะรู้สึกอย่างไร? แล้วคนตาบอดล่ะจะปั่นจักรยานธรรมดาอย่างเราๆได้ไหม? จักรยานสองตอน (tandem) มันก็ใหญ่เทอะทะ ขนไปปั่นในสนามดีๆไม่ค่อยสะดวก เลยพยายามคิดค้นอุปกรณ์ต่อพ่วงจักรยานธรรมดาให้เป็น tandem ใช้เวลาและลงทุนไปกับความล้มเหลวมากมาย และก็ได้บทเรียนที่ดีจากมัน

ภาพ sketch แนวคิดแรก (ขอบคุณโมเดลจักรยาน 3D จาก Ján Kostka)

ผมทำแค่ตัวพ่วงตรงกลางนะครับ ถ้าจะชมว่าจักรยานสวยไปชมพี่แจนเค้าได้เลย


แนวคิดนี้ได้นำเสนอในงานประชุมของชมรมจักรยานไม่นานมานี้ ก็เป็นที่สนใจบ้าง ต่อมาก็ไปยื่นจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์

ทำไปทำมามันก็ออกมามีหน้าตาตามในคลิป
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
หลักการคือการเอาอุปกรณ์มาต่อพ่วงจักรยานธรรมดาให้เป็น tandem โดยถอดชิ้นส่วนนิดหน่อย ตั้งใจจะให้ปั่นได้เหมือน tandem แต่คล่องตัวกว่า รอบขาเป็นอิสระต่อกัน เลยคิดแต่ kinematics ลืม kinetics ไปซะงั้น ผลคือ คันหลังขี่ส่ายน่ากลัวมาก ตอนนั้นก็รู้ว่าจะแก้ปัญหาเสถียรภาพยังไง แต่ขี้เกียจรื้อและพอดีคิดไอเดียใหม่ได้ก่อน และน่าจะคุ้มค่ากว่า เลยพับไอเดียเก่าไว้ มีตังค์และเวลาค่อยมาลุยกันต่อ

แนวคิดใหม่ที่ว่า มันเกิดในอารมณ์ที่รู้สึกล้มเหลวจนต้องเปลี่ยนมุมมองต่อปัญหาใหม่ เกิดจากการมองตรงไปที่ผลลัพธ์ที่ต้องการโดยไม่ยึดติดกับรูปแบบที่เคยชิน แล้วผมก็มองตรงไปที่การนำทางที่ตัวคน เมื่อเราออกแบบเพื่อให้คนได้ใช้ก็ลองทำให้มันติดกับตัวคนไปเลยสิ ตัดปัญหาจุกจิกเรื่องความแตกต่างของจักรยานออกไปได้โข และยังอาจตอบโจทย์ให้กิจกรรมอีกหลายๆอย่างนอกจากการปั่นจักรยาน

ในที่สุดก็ได้ไปจดอนุสิทธิบัตรการประดิษฐ์อุปกรณ์ตามคลิป (ต่อยอดจากนี้นิดหน่อยให้ถอดประกอบได้ ติดอุปกรณ์ส่งเสียงช่วยบอกทิศทางได้ ฯลฯ)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโออันนี้มีคำบรรยาย CC ทั้งไทยและอังกฤษนะครับ พยายามทำสั้นๆ

ความรู้สึกของคนที่ปั่นจักรยานประจำ พอมาหลับตาปั่นมันก็มีความสุขไปอีกแบบ วันแรกก่อนติดกล้อง GoPro ได้ลองปั่นในซอยเล็กๆในหมู่บ้านทำได้ดีและมั่นใจกว่าในคลิปเยอะ (อาจเป็นเพราะจักรยานดีกว่าที่ใช้ในคลิป) คิดว่าถ้าคนสายตาปกติเอามาลองปั่นไกลๆก็น่าจะเหนื่อยน้อยดี หัวลากหมดแรงก็ผ่อนขาให้คนหลังดัน ไม่ต้องสลับกันลาก

เรื่องราวของการประดิษฐ์ยังไม่จบแค่นี้ ยังต้องทดสอบ วิจัย และหาขีดจำกัดของการใช้อุปกรณ์นี้เพื่อให้คนได้ใช้มันอย่างปลอดภัย มีเสียงเรียกร้องจากคนตาบอดหลายคนที่รู้จัก สั่งล่วงหน้าอยากให้ทำมาขาย ความท้าทายต่อๆไปคงอยู่ที่การพูดคุยเจรจากับผู้ผลิตและจัดจำหน่าย/ส่งออก ที่มีศักยภาพนำไปถึงผู้ใช้ได้ แล้วค่อยมาเขียนโครงการหยั่งตลาดกันใน Kickstarter

เป็นเรื่องราวที่ยังไม่จบ แต่หวังว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้คนเราไม่ย่อท้อต่อความล้มเหลวได้ครับ ผมก็เคยเป็นพนักงานบริษัทอยู่หลายปี ไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง เคยลงทุนทำธุรกิจเจ๊งกับเพื่อนๆมาบ้าง ติดหนี้บ้าง แต่ยังยืนหยัดที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง

ใครมีคำแนะนำด้านการวิจัยและผลิตก็แสดงความคิดเห็นกันได้เลยนะครับ รับทั้งหน้าไมค์และหลังไมค์ ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่