พระสัทธรรมที่ชาวพุทธยึดถือสืบต่อกันมา คือ พระสัทธรรม ที่เป็น พระธรรมคำสอน
พระสัทธรรม ที่เป็น พระวินัย
พระสัทธรรมที่เป็นพระธรรมคำสอน รวบรวมไว้ในครั้ง ปฐมสังคายนา มีพระมหากัสสปะเถระ เป็นองค์ ปุจฉา และ มีพระอานนท์เถระ เป็นองค์วิสัชนา
พระสัทธรรมที่เป็นพระวินัย รวบรวมไว้ในครั้ง ปฐมสังคายนา มีพระมหากัสสปะเถระ เป็นองค์ ปุจฉา และ มีพระอุบาลีเถระ เป็นองค์วิสัชนา
พระสัทธรรม ที่เป็นพระธรรมคำสอน
พระสัทธรรม ที่เป็นพระธรรมคำสอน ที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม โดย บัญญัติ จำแนก ย่อ ขยาย และโดยพิสดาร บริบูรณ์ บริสุทธิ์สิ้นเชิง
พระสัทธรรม ที่พระอรหันต์สาวกแสดง โดย จำแนก ย่อ ขยาย และ โดยพิสดาร บริสุทธิ์สิ้นเชิง
คำว่า บริสุทธิ์สิ้นเชิง หมายถึง สภาวะ หมดกิเลส รู้แจ้งทำลายอวิชชาได้อย่างสิ้นเชิง ดังนั้น ธรรมะ ที่พระอรหันต์สาวกแสดง จึงมีความ บริสุทธิ์สิ้นเชิง เพราะภูมิแห่ง อรหันต์ผล
พระสัทธรรม ในส่วนที่เป็นพระวินัย เป็น ข้อห้าม หรือเป็นข้ออนุญาติ เป็น พระสัทธรรม ที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้นที่จะ ทรงบัญญัติ ห้าม หรืออนุญาติ และ การประชุมสงฆ์ ในการปฐมสังคายนา และที่ประชุมสงฆ์ได้ใช้ อำนาจครั้งแรก วินิจฉัย ร่วมถึง วิธีการ พิจารณาพระวินัย ไว้แล้ว และมี มติ ไม่เพิ่ม หรือ ลด พระวินัย เป็นข้อยุติ
เมื่อแยกได้ดังนี้ จะเห็นว่า พระสัทธรรม ที่เป็นพระธรรมคำสอน ในส่วน ที่พระอรหันต์สาวกท่านแสดงไว้ เพื่อความพ้นทุกข์ นั้น ซึ่งพระสัทธรรมที่ พระอรหันต์สาวกแสดง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้ตรัส รับรองไว้หลาย นัยยะ ใครมีสิทธิ์อะไรไปตัดออก และ กระทำการ เรื่องพระวินัย นอกเหนือจาก ครั้งปฐมสังคายนา แม้เป็นชั้น อรรถกถา โดยพระสัทธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านตรัสรับรองไว้ ในเรื่องพระสัทธรรม และถ้า พระอรรถกถา ที่เป็น พระอรหันต์ จึงไม่ควรที่จะกล่าวปรามาสท่าน
พระสัทธรรม ที่เป็นพระวินัย นั้น เราควรเข้าใจว่า เป็น พระสัทธรรม ในส่วนพระวินัย ที่
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ที่ท่านจะทรงบัญญัติ ห้าม หรืออนุญาติ
ในครั้ง ปฐมสังคายนา ได้ข้อยุติ ต่างๆ เป็นที่ชัดเจนแล้ว
พระสัทธรรม ที่ชาวพุทธเถรวาท ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา
พระสัทธรรม ที่เป็น พระวินัย
พระสัทธรรมที่เป็นพระธรรมคำสอน รวบรวมไว้ในครั้ง ปฐมสังคายนา มีพระมหากัสสปะเถระ เป็นองค์ ปุจฉา และ มีพระอานนท์เถระ เป็นองค์วิสัชนา
พระสัทธรรมที่เป็นพระวินัย รวบรวมไว้ในครั้ง ปฐมสังคายนา มีพระมหากัสสปะเถระ เป็นองค์ ปุจฉา และ มีพระอุบาลีเถระ เป็นองค์วิสัชนา
พระสัทธรรม ที่เป็นพระธรรมคำสอน
พระสัทธรรม ที่เป็นพระธรรมคำสอน ที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม โดย บัญญัติ จำแนก ย่อ ขยาย และโดยพิสดาร บริบูรณ์ บริสุทธิ์สิ้นเชิง
พระสัทธรรม ที่พระอรหันต์สาวกแสดง โดย จำแนก ย่อ ขยาย และ โดยพิสดาร บริสุทธิ์สิ้นเชิง
คำว่า บริสุทธิ์สิ้นเชิง หมายถึง สภาวะ หมดกิเลส รู้แจ้งทำลายอวิชชาได้อย่างสิ้นเชิง ดังนั้น ธรรมะ ที่พระอรหันต์สาวกแสดง จึงมีความ บริสุทธิ์สิ้นเชิง เพราะภูมิแห่ง อรหันต์ผล
พระสัทธรรม ในส่วนที่เป็นพระวินัย เป็น ข้อห้าม หรือเป็นข้ออนุญาติ เป็น พระสัทธรรม ที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้นที่จะ ทรงบัญญัติ ห้าม หรืออนุญาติ และ การประชุมสงฆ์ ในการปฐมสังคายนา และที่ประชุมสงฆ์ได้ใช้ อำนาจครั้งแรก วินิจฉัย ร่วมถึง วิธีการ พิจารณาพระวินัย ไว้แล้ว และมี มติ ไม่เพิ่ม หรือ ลด พระวินัย เป็นข้อยุติ
เมื่อแยกได้ดังนี้ จะเห็นว่า พระสัทธรรม ที่เป็นพระธรรมคำสอน ในส่วน ที่พระอรหันต์สาวกท่านแสดงไว้ เพื่อความพ้นทุกข์ นั้น ซึ่งพระสัทธรรมที่ พระอรหันต์สาวกแสดง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้ตรัส รับรองไว้หลาย นัยยะ ใครมีสิทธิ์อะไรไปตัดออก และ กระทำการ เรื่องพระวินัย นอกเหนือจาก ครั้งปฐมสังคายนา แม้เป็นชั้น อรรถกถา โดยพระสัทธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านตรัสรับรองไว้ ในเรื่องพระสัทธรรม และถ้า พระอรรถกถา ที่เป็น พระอรหันต์ จึงไม่ควรที่จะกล่าวปรามาสท่าน
พระสัทธรรม ที่เป็นพระวินัย นั้น เราควรเข้าใจว่า เป็น พระสัทธรรม ในส่วนพระวินัย ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ที่ท่านจะทรงบัญญัติ ห้าม หรืออนุญาติ
ในครั้ง ปฐมสังคายนา ได้ข้อยุติ ต่างๆ เป็นที่ชัดเจนแล้ว