"A Million Climb" ชายผู้ปีนโลก



"A Million Climb" ชายผู้ปีนโลก

"ความบ้าที่สุดของโลกนี้คือ ความบ้าของคนที่มองโลกอย่างที่มันเป็น มากกว่าที่มันควรจะเป็น"
"Miguel de Cervantes Saavedra"


คำพูดของข้างต้นมาจากบทประพันธ์เรื่อง ดอนกิโฆเต้ (Don Quixote)
โดยคุณ วิทิตนันท์ โรจนพาณิช เอามาพูด ตอนที่ตนเองตัดสินใจ
ปีนยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก เพื่อ เทิดพระเกียรติ 60 ปี ครองราชย์ในหลวง

การพบกับ ดูล สวี เชาว์ นักปีนเขาที่เป็นคนแรกของ
ประเทศสิงคโปร์ที่ขึ้นไปเหยียบยอดเขาเอเวอเรสต์
บอกคุณ วิทิตนันท์ว่า อยากเห็นคนไทยทำได้เหมือนที่คน สิงคโปร์ ทำได้

"ได้ผมจะทำให้ดู"

การที่คุณวิทิตนันท์ เป็นโปรดิวเซอร์ ครีเอทีฟรายการโทรทัศน์
และกำลังจะผันตัวเองไปเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ นั้นมันน่าจะเป็น
สิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาอยากจะทำ

แต่เชื่อเถอะครับ ความฝันมันอยู่ข้างๆเรา รอเราไปเล่นกับมันเสมอแหละ

ท่ามกลางกระแสต่อต้านจากคนรอบข้าง (พวกนี้มันเยอะจริงๆ)
ที่แต่ละคนว่าเค้าบ้า ทำไปทำไม ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดรังแต่จะเอาชีวิตไปทิ้งเสียเปล่า

"ผมรักในหลวง สิ่งที่ผมทำขึ้นมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
และอยากสร้างปราฎการของความมุ่งมั่นและ
บากบั่นให้คนรุ่นหลังได้ดูและเป็นตัวอย่าง"

" การที่คนเราทำความดีกลายเป็นเรื่องของความบ้า
ซึ่งสังคมตอนนี้ก็กลายเป็นแบบนั้นเป็นเรื่องของคนที่อยากจะทำความดี
เป็นคนดี ก็โดนมองกลับว่าเป็นคนบ้า
ซึ่งสิ่งที่ผมทำหลายคนอาจมองว่าบ้าแต่ผมก็จะทำให้ดู"


ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา นายวิทิตนันท์
ขวนขวายที่จะเดินทางไปปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ให้สำเร็จ
โดยเริ่มแรกไปทดลองปีนเขาชินาบูลู
ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 4,095 เมตร

การวิ่งไล่หาสปอนเซอร์กว่า 5 ปี แสดงให้เห็นว่า ไม่มีใครเชื่อว่าเค้าจะทำได้

จนกระทั่งได้สปอนเซอร์ใหญ่ที่จะสานฝันให้เป็นจริง
น่าเศร้าใจนักที่สปอนเซอร์รายนั้นเป็น ชาวเวียดนาม

จากนั้นก็เริ่มซ้อมกับกลุ่มชาวเวียดนามที่ทางสปอนเซอร์คัดเลือกมาให้
กว่า 8เดือน ที่ต้องฝึกซ้อมทั้งยอดเขา ฟางสิปัง ในเวียดนามที่สูงจากระดับ
น้ำทะเล 3,100 เมตร และปีนยอดเขาชินาบาลู ในประเทศมาเลเซีย สูง 4,095 เมตร

ปิดท้ายการฝึกซ้อมโดยการปีนเขาไอซ์แลนด์ฟิกส์
ซึ่งเป็นภูเขาน้ำแข็งสูง 6,189 เมตร ในประเทศเนปาล
เพื่อให้นักปีนเขาเคยชินกับสภาพอากาศและภูมิประเทศ
ของภูเขาลูกนี้ที่มีความใกล้เคียงกับยอดเขาเอเวอเรสต์

เมื่อถึงวันที่ต้องเดินทางจริง เค้าพร้อมทีมงานพร้อม......

นรกบนดินอาจไม่สามารถอธิบายความยากลำบากของทริปนี้ได้
ทุกวินาทีที่เดิน การพลาดพรั้งอาจหมายถึงชีวิต
และมันก็เดินเล่นวนรอบคุณวิทิตนันท์ กับทีม และยิ้มให้
ตลอดการเดินทาง

สิ่งเดียวที่คุณวิทิตนันท์ กลัวก็คือ
"กลัวที่จะทำธงชาติและพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สูญหาย"

"7 ชั่วโมงจากแคมป์ 4 ไปยังซามิต ผมพะวงอย่างเดียว กลัวพระบรมฉายาลักษณ์ กับธงชาติ
หล่นหาย เพราะเส้นทางลำบากมาก แต่เมื่อถึงซามิต ผมโล่งอก พระบรมฉายาลักษณ์ยังอยู่
ธงชาติยังอยู่ ผมรีบหยิบพระบรมฉายาลักษณ์ออกมาชูขึ้นเหนือหัวและให้ มร.แชรัม แชร์ปา
หัวหน้าทีมแชร์ปา ถ่ายภาพให้ ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นถามผมว่าคนในภาพเป็นพ่อผมหรือ
ผมตอบเขาว่าใช่นอกจากจะเป็นพ่อผมแล้วยังเป็นพ่อของคนไทยอีก 60 ล้านคน

หลังจากนั้นผมก็ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี"


รอยยิ้มของชายผู้สำเร็จ......   ไม่มีเงินทอง
ไม่ต้องการชื่อเสียง          ตลอดข้างทางมีแต่หิมะ
และข้างบนยอดเขานั้นก็ไม่มีอะไร

แต่นั้นแหละคือสิ่งที่ชายคนนึง อยากได้จริงๆ.....

ความฝันต่อไปของผมคือปีน ยอดเขาที่สูงที่สุดให้ครบ 7 ทวีป
ผมไม่กลัวหรอก ผมรู้แล้วว่า ภูเขาที่สูงที่สุด อยู่ในใจผมเอง
ในชื่อแตกต่างกันไป.....

"ภูเขาแห่งความกลัว ภูเขาแห่งความอ่อนแอ ภูเขาแห่งความขลาด"

"พวกนี้มันมีแรงโน้มถ่วงชีวิตมากกว่าที่อื่น ผมข้ามมันมาแล้ว
ผมผ่านมันมาแล้วไม่มีภูเขาลูกไหนที่ผมปีนไม่ได้"


โลกมันควรจะเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น ไม่ใช่เป็นอย่างที่มันเป็นตอนนี้

#วิทิตนันท์ โรจนพาณิช
#ชายผู้ปีนโลก

First Published on http://storylog.co/story/55a63cac2f04006b71ccbb5e
Inspiration Story
หนังสือ : No More No Less วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์( โหน่ง a day)
กระทู้ Pantip โดยคุณ lady vodka http://topicstock.pantip.com/siam/topicstock/2009/07/F8083245/F8083245.html
ASTVผู้จัดการออนไลน์ :
http://www2.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000131666

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่