"ล้านแรก ต้องแหกกฏ" โดย ภาววิทย์ / ดร. ต้อง
คงเป็นธรรมเนียมไปแล้วกับการดึงดูดคนซื้อหนังสือ ที่ต้องมีคำว่า
"ล้าน" "รวย" หรือ "ง่าย"
ในการเขียนชื่อหนังสือ มันเป็นกลวิธีที่แยบยลในการดึงดูดเหล่า
คนธรรมดาที่มีความฝัน ฝันว่าจะรวย จะยิ่งใหญ่จะเป็น Some one
ในโลกอันเต็มไปด้วยการแข่งขันใบนี้ที่น่าขำคือการสร้างล้านอย่างง่ายๆ
ด้วยเงินเพียงไม่กี่ร้อยจาการซื้อหนังสือ มันก็คล้ายๆกับการซื้อหวยชาเขียว
ที่อาจจะมอมเมาด้วยคำโฆษณาเพ้อฝัน ผมก็ซื้อนะ
ซื้อทั้งหนังสือสอนรวย สอนหาเงินล้าน
และซื้อชาเขียวที่กินกันจนเบาหวานจะขึ้นตาตายอยู่แล้ว
เนื้อหาในหนังสือ
หนังสือเล่มนี้เป็นมากกว่าขายฝัน เป็นหนังสือที่สอนเกี่ยวกับกระแสการหาแนวทางการสร้างธุรกิจ
หรือการสร้างตัวตนของเรา ในสโลแกนที่ว่า "ยิ่งให้ ยิ่งได้" หนังสือได้สรุปเกี่ยวกระแสของโลกออนไลน์ โดยเฉพาะ
โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ที่มีอิทธิพลต่อเราอย่างไร เราจะใช้มันในการสร้างตัวตนอย่างไร
มีการบอกกล่าวเกี่ยวกระแสของการหารายได้แบบใหม่ที่เรียกว่า " Idol" ว่าคืออะไร ทำอย่างไร ปลุกกระแสการคิดรอบด้าน เริ่มจาก
- การเปลี่ยนถ่ายกระแสของ GEN ต่างๆ จาก Baby Boomer ไป Gen X และส่งต่อมา GEN Y
- การตามหา Trend Settle หรือการมองการคนปลุกกระแสต่างๆว่าเค้าทำอย่างไร มีจุดยืนอย่างไร
- การใช้ Reverse Marketing หรือ ธุรกิจตีลังกา
- การคิดแบบ Inside out และ Outside In
- การทำงานที่อธิบายตัวตนเพื่อเป็รการปูทางสู่การเป็น IDOL
- การแยกประเภทของคนทำงาน
และอีกมากมายที่ถูกอัดมาในหนังสือ กว่า 47 บท
ผู้เขียน
ผมเพิ่งเคยอ่านหนังสือของคุณภาววิทย์เล่มนี้เป็นเล่มแรกครับ สิ่งที่พบในหนังสือคือความคิดของผู้เขียนที่ถ่ายทอดออกมาได้ดีเยี่ยม
อธิบายที่มาที่ไปได้ สวยงามวาทะ ในการเขียนที่ทรงพลัง และทำให้ผู้อ่านมองเข้าไปถึงสิ่งที่ผู้เขียนอยากนำเสนอ
ทำให้ผมคงต้องหาหนังสือเล่มอื่นๆของผู้เขียนคนนี้มาอ่านอีกแน่ๆครับ
ส่วนผู้เขียนอีกท่าน คือ ดร.ต้อง Filters ผมขอเรียนตามตรงนะครับผมมองไม่เห็นเค้าในเล่มนี้
ที่เห็นเด่นชัดคือในส่วนของ Filters ต่างๆที่มีอยู่ในเล่มนิดหน่อย จากเรื่องนี้แสดงได้ 2 แบบ ครับ
1 คือการเขียนหรือผู้เรียบเรียงเก่งมากทำให้เรื่องต่างๆถูกนำเสนอออกมาเหมือนดังมีผู้เขียนคนเดียว
2 อาจดูเหมือนไม่มีบทบาทมากนักในการลงรายละเอียดของภาษาที่อยู่ในเล่ม อาจทำในส่วนของการลงข้อมูล
อย่างเดียวและให้คุณ ภาววิทย์ เป็นผู้นำเสนอ
แบบนี้จึงขอไม่กล่าวถึงมากครับเพราะก็ยังไม่ทราผลงานอาจารณ์เหมือนกัน แต่คงหาเวลามารีวิวสักเล่มครับ
สิ่งที่ได้จากหนังสือเล่มนี้
ผมได้ความคิดเรื่องการสร้างตัวตนในโลกยุคนี้ การมองเรื่องเงินเป็นเพียงแค่เครื่องมือ
(แต่เป็นสิ่งจูงใจเมื่อนำมาเป็นชื่อหนังสือ) การมองต่าง มองให้ออกระหว่าง การทำงานบริษัทกับการทำงานอิสระ
มีเนื้อหาที่บอกตรงนี้ไว้ดีมาก และเป็นจุดที่ชอบมากๆ สิ่งที่ต้องทำหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้ ต้องทำอย่างไร
สรุป(ตามความเห็นส่วนตัว)
ผมว่าหนังสือเล่มนี้พลาดอย่างเดียวคือ "ชื่อหนังสือ" มันกลายเป็นว่านำกระแสมาตั้งชื่อทั้งที่เนื้อในมีดีกว่าที่เห็น
(ผมอาจจะคิดไปเองนะครับ) การจัดรูปเล่มการนำเสนอ วาทะการเขียนเข้าขั้นดีมาก
(สงสัยผมต้องไปตามอ่านบล๊อกของคุณภาววิทย์แล้ว) แต่การนำเสนอมีบางอย่างยังกั๊กๆไว้ (อาจมีซีรี่ต่อไปนั้นเอง)
แต่ก็ถือว่าให้รายละเอียดตามหัวข้อที่ต้องการขายได้ดี แต่มีการนำเสนอหัวข้ออื่นมาเพื่อให้เราอยากรู้ไว้เยอะอยู่นะ
อืม บางที่ผูเขียนอาจจะ มีข้อมูลเยอะมากจนอั้นไว้ไม่อยู่ปล่อยๆทะลักมาบ้างให้ผู้คนอยากรู้ก็เป็นได้
ความคุ้มค่า
ผมให้ 7.5 ครับ ขอหักเรื่องชื่อหนังสือ และการกั๊กบางข้อมูลที่น่าจะลงไปด้วย เช่นการใช้ Birkman
ในการหาว่าเราอยู่ในสีไหน เป็นต้น (หรือเค้าต้องการอยากให้เราค้นคว้าเองหรือผิด ลิขสิทธิ์อันนี้ไม่แน่ใจ)
ยังไงก็หนังสือทุกเล่มมีคุณค่าในตัวมันเอง หนังสือแต่ละประเภทสอนเราไม่เหมือนกัน ค้นหาให้เจอว่ามันสื่อถึงอะไร
และที่สำคัญที่สุดคือลงมืทำมัน หรือนำเอาสิ่งที่เราเรียนรู้มาปฏิบัติ ปรับปรุงนั่นเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระทู้อื่นๆที่เขียน
[CR]รีวิวหนังสือ "คิดจะไปดวงจันทร์ อย่าหยุดแต่ปากซอย" http://pantip.com/topic/33714673
[CR]รีวิว "งานไม่ประจำทำเงินกว่า" (บอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ)http://pantip.com/topic/33717563
ฝากแฟนเพจนะครับ พึ่งหัดเขียนอาจ ขาดตกบกพร่องบ้างก็ขออภัยครับ
https://www.facebook.com/imonkeyBooks?ref=aymt_homepage_panel
[CR] รีวิว "ล้านแรก ต้องแหกกฏ" โดย ภาววิทย์ / ดร. ต้อง
"ล้าน" "รวย" หรือ "ง่าย"
ในการเขียนชื่อหนังสือ มันเป็นกลวิธีที่แยบยลในการดึงดูดเหล่า
คนธรรมดาที่มีความฝัน ฝันว่าจะรวย จะยิ่งใหญ่จะเป็น Some one
ในโลกอันเต็มไปด้วยการแข่งขันใบนี้ที่น่าขำคือการสร้างล้านอย่างง่ายๆ
ด้วยเงินเพียงไม่กี่ร้อยจาการซื้อหนังสือ มันก็คล้ายๆกับการซื้อหวยชาเขียว
ที่อาจจะมอมเมาด้วยคำโฆษณาเพ้อฝัน ผมก็ซื้อนะ
ซื้อทั้งหนังสือสอนรวย สอนหาเงินล้าน
และซื้อชาเขียวที่กินกันจนเบาหวานจะขึ้นตาตายอยู่แล้ว
เนื้อหาในหนังสือ
หรือการสร้างตัวตนของเรา ในสโลแกนที่ว่า "ยิ่งให้ ยิ่งได้" หนังสือได้สรุปเกี่ยวกระแสของโลกออนไลน์ โดยเฉพาะ
โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ที่มีอิทธิพลต่อเราอย่างไร เราจะใช้มันในการสร้างตัวตนอย่างไร
มีการบอกกล่าวเกี่ยวกระแสของการหารายได้แบบใหม่ที่เรียกว่า " Idol" ว่าคืออะไร ทำอย่างไร ปลุกกระแสการคิดรอบด้าน เริ่มจาก
- การเปลี่ยนถ่ายกระแสของ GEN ต่างๆ จาก Baby Boomer ไป Gen X และส่งต่อมา GEN Y
- การตามหา Trend Settle หรือการมองการคนปลุกกระแสต่างๆว่าเค้าทำอย่างไร มีจุดยืนอย่างไร
- การใช้ Reverse Marketing หรือ ธุรกิจตีลังกา
- การคิดแบบ Inside out และ Outside In
- การทำงานที่อธิบายตัวตนเพื่อเป็รการปูทางสู่การเป็น IDOL
- การแยกประเภทของคนทำงาน
ผู้เขียน
ผมเพิ่งเคยอ่านหนังสือของคุณภาววิทย์เล่มนี้เป็นเล่มแรกครับ สิ่งที่พบในหนังสือคือความคิดของผู้เขียนที่ถ่ายทอดออกมาได้ดีเยี่ยม
อธิบายที่มาที่ไปได้ สวยงามวาทะ ในการเขียนที่ทรงพลัง และทำให้ผู้อ่านมองเข้าไปถึงสิ่งที่ผู้เขียนอยากนำเสนอ
ทำให้ผมคงต้องหาหนังสือเล่มอื่นๆของผู้เขียนคนนี้มาอ่านอีกแน่ๆครับ
ส่วนผู้เขียนอีกท่าน คือ ดร.ต้อง Filters ผมขอเรียนตามตรงนะครับผมมองไม่เห็นเค้าในเล่มนี้
ที่เห็นเด่นชัดคือในส่วนของ Filters ต่างๆที่มีอยู่ในเล่มนิดหน่อย จากเรื่องนี้แสดงได้ 2 แบบ ครับ
1 คือการเขียนหรือผู้เรียบเรียงเก่งมากทำให้เรื่องต่างๆถูกนำเสนอออกมาเหมือนดังมีผู้เขียนคนเดียว
2 อาจดูเหมือนไม่มีบทบาทมากนักในการลงรายละเอียดของภาษาที่อยู่ในเล่ม อาจทำในส่วนของการลงข้อมูล
อย่างเดียวและให้คุณ ภาววิทย์ เป็นผู้นำเสนอ
สิ่งที่ได้จากหนังสือเล่มนี้
(แต่เป็นสิ่งจูงใจเมื่อนำมาเป็นชื่อหนังสือ) การมองต่าง มองให้ออกระหว่าง การทำงานบริษัทกับการทำงานอิสระ
มีเนื้อหาที่บอกตรงนี้ไว้ดีมาก และเป็นจุดที่ชอบมากๆ สิ่งที่ต้องทำหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้ ต้องทำอย่างไร
สรุป(ตามความเห็นส่วนตัว)
(ผมอาจจะคิดไปเองนะครับ) การจัดรูปเล่มการนำเสนอ วาทะการเขียนเข้าขั้นดีมาก
(สงสัยผมต้องไปตามอ่านบล๊อกของคุณภาววิทย์แล้ว) แต่การนำเสนอมีบางอย่างยังกั๊กๆไว้ (อาจมีซีรี่ต่อไปนั้นเอง)
แต่ก็ถือว่าให้รายละเอียดตามหัวข้อที่ต้องการขายได้ดี แต่มีการนำเสนอหัวข้ออื่นมาเพื่อให้เราอยากรู้ไว้เยอะอยู่นะ
อืม บางที่ผูเขียนอาจจะ มีข้อมูลเยอะมากจนอั้นไว้ไม่อยู่ปล่อยๆทะลักมาบ้างให้ผู้คนอยากรู้ก็เป็นได้
ความคุ้มค่า
ในการหาว่าเราอยู่ในสีไหน เป็นต้น (หรือเค้าต้องการอยากให้เราค้นคว้าเองหรือผิด ลิขสิทธิ์อันนี้ไม่แน่ใจ)
ยังไงก็หนังสือทุกเล่มมีคุณค่าในตัวมันเอง หนังสือแต่ละประเภทสอนเราไม่เหมือนกัน ค้นหาให้เจอว่ามันสื่อถึงอะไร
และที่สำคัญที่สุดคือลงมืทำมัน หรือนำเอาสิ่งที่เราเรียนรู้มาปฏิบัติ ปรับปรุงนั่นเอง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้