MRDIYT..ตัวใหญ่ล้มดัง / สุนันท์ ศรีจันทรา

ที่มา :- https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000102449




หุ้นน้องใหม่ที่ได้รับความสนใจสูงตัวล่าสุดคือ หุ้น บริษัท มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย.โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MRDIYT เจ้าของธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ภายใต้ชื่อการค้า มิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. ซึ่งมีสาขาทั่วทุกจังหวัด 1,027 แห่ง และกำลังจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วีนที่ 5 พฤศจิกายนนี้

สาเหตุที่ MRDIYT ได้รับความสนใจสูง เนื่องจากเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ขนาดใหญ่ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคปประมาณ 5 หมื่นล้านบาท และจะดมทุนจากการเสนอขายหุ้นครั้งแรกมูลค่าประมาณ 5.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่ระดมทุนสูงที่สุดในรอบ 3 ปี

และยังเป็นธุรกิจค้าปลีกที่เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ

MRDIYT เริ่มก่อตั้งในประเทศไทยเมื่อปี 2562 โดยผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นชาวมาเลเชีย โดยผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง พร้อมการแตกสาชาจนครอบคลุมทั่วประเทศ

ชื่อเสียงของ MRDIYT โด่งดังจนเป็นที่ยอมรับ แล้หากย้อนหลัง 6 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่การนำหุ้นจำนวนประมาณ 655 ล้านหุ้น เสนอขายในราคา 8.60 บาท โดยมีค่า พี/อี เรโช ประมาณ 23 เท่า ถือว่า เป็นราคาขายที่ไม่ถูกนัก

MRDIYT กำหนดราคาเสนอขายหุ้นในเบื้องต้นระหว่าง 8.30 บาทถึง 8.6 บาท โดยเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยชำระราคาที่ 8.60 บาทไว้ล่วงหน้า ซึ่งเปรียบเหมือนการมัดมือชกนักลงทุน

เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา MRDIYT ได้สรุปการพิจารณาราคาเสนอขายหุ้น โดยกำหนดราคาสูงสุดที่ 8.60 บาท เช่นเดียวกับหุ้นบางตัวในอดีต ที่เปิดให้นักลงทุนจองซื้อไว้ก่อน โดยกำหนดราคาเบื้องต้นต่ำสุดและสูงสุดไว้ แต่สุดท้ายได้เลือกขายราคาสูงสุด ซึ่งเมื่อเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นแล้ว ราคาต่ำกว่าจอง


วิธีการกำหนดราคาเบื้องต้นเป็นช่วงต่ำสุดและสูงสุดไว้ โดยเปิดให้นักลงทุนจองซื้อและจ่ายในราคาสูงสุดก่อน ควรจะเลิกกันเสียที เพราะเป็นการขายหุ้นแบบมัดมือชก หุ้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทอะไร ถ้าจะขายราคาเท่าไหร่ ต้องประกาศทันทีหรือสรุปให้จบ ก่อนเปิดเสนอขายหุ้น ไม่ต้องมีลูกเล่น กำหนดช่วงราคาเบื้องต้น แต่สุดท้ายขายในราคาสูงสุดทุกที

หุ้น MRDIYT ไม่ได้มีประเด็น ราคาเสนอขายไม่ถูกเท่านั้น แต่ยังมีกรณี ผู้ถือหุ้นใหญ่บางราย นำหุ้นจำนวน 553 ล้านหุ้น จากหุ้นที่ถือทั้งหมดจำนวน 1,230 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 21% ของทุนจดทะเบียนไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับข้อตกลงทางการเงินส่วนบุคคล หรือนำหุ้นไปจำนำ และเตรียมขายหุ้นในวันแรกที่หุ้นเข้าซื้อขายอีก 4.07% ในราคาเดียวกับราคาที่เสนอขายนักลงทุน

นอกจากนั้น MRDIYT ผู้ถือหุ้นใหญ่ยังเป็นต่างชาติ ซึ่งนักลงทุนหุ้นมูลค่าเพิ่มรายใหญ่บางคน จะหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นที่ถือหุ้นใหญ่โดยต่างชาติ เพราะกลัวความเสี่ยงจากต่างชาติขายหุ้นทิ้ง หรือการถ่ายเทเงินกลับบ้าน ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในหุ้นหลายตัว เช่น บริษัท กรุ๊ปลิส จำกัด (มหาชน) หรือ GL หุ้นบริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL และล่าสุด หุ้น บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEK

MRDIYT อาจรอจังหวะ สบช่องบรรยากาศการลงทุนฟื้น และหุ้นใหม่กำลังได้รับความสนใจ จึงนำหุ้นออกเสนอขาย ในราคาที่ไม่ถูกนัก จนไม่อาจคาดหมายว่า เมื่อหุ้นเข้ามาซื้อขายแล้ว ราคาจะเป็นอย่างไร มีสิทธิ์หลุดจองหรือไม่

นักลงทุนที่ถูกมัดมือชก จองซื้อไว้แล้ว คงไม่มีโอกาสเปลี่ยนใจ ต้องรอลุ้นระทึกในวันที่เข้าซื้อขาย 5 พฤศจิกายนนี้

แต่นักลงทุนที่ไม่มีหุ้นอยู่ในมือ ไม่ได้รับการจัดสรรโควตาจองหุ้น สามารถเลือกได้ว่า จะเข้าไปเสี่ยงหรือไม่ จะเก็งกำไรหุ้นน้องใหม่ตัวใหญ่ที่อาจล้มดังก็ได้

เพราะหุ้นใหม่ไม่ได้ดีทุกตัว และไม่มีหลักประกันใดว่า MRDIYT จะยืนเหนือจอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่