ท่านที่เคารพรักครับ ศรีปราชญ์และสุนทรภู่รุ่งเรืองและตกอับเพราะบทกวี
เป็นตัวอย่างของกวีที่มีชีวิตอยู่ระหว่างความแหลมคมของการเมืองและอำนาจ
ย้อนยุคไปไกลถึงในอดีตนั้น โจสิดก็เอาชีวิตรอดจากความตายมาได้ด้วยบทกวี
ซึ่งเป็นที่โด่งดังรู้จักกันในนาม บทกวีเจ็ดก้าว ซึ่งสำนวนแปลฉบับของเจ้าพระยามีว่า
คั่วถั่วเอากิ่งถั่วมาเป็นฟืนใส่ไฟ
เมล็ดถั่วในกระทะจะไหม้
ก็เพราะกิ่งถั่ว ต้นรากอันเดียวกันนั่นเอง
เหตุใดจึงเร่งไฟเข้าให้หนักนัก
ความจริงบทกวีเจ็ดก้าว มีอีกส่วนหนึ่งก่อนหน้า ที่โจผีให้โจสิดแต่ง แต่ไม่ได้เอ่ยถึง เพราะเนื้อหาบทกวีเจ็ดก้าวที่เอ่ยมานี้
ติดตรึงประทับใจแพร่หลายในหมู่ชนที่อ่านสามก๊ก จนมีหลายสำนวนแปล
เช่นเป็นกลอนว่า
เขาต้มถั่วด้วยถั่วเป็นต้นต้น
มันร้อนรนร้องลั่นจากอวยใหญ่
โอ้เกิดหน่อเดียวกันใช่ห่างไกล
เหตุไฉนเข่นฆ่าไม่ปราณี
เป็นกาพย์ว่า
เถาถั่วเผาต้มถั่ว ร่ำระรัวถั่วในกระทะ
ร่วมรากเกิดแล้วจะ เร่งเผาผลาญกันทำไม
เป็นโคลงว่า
คั่วถั่วเอากิ่งนั้น ทำฟืน เผาแฮ
เมล็ดถั่วสุดทนฝืน ป่นไหม้
โอ้เมล็ดกิ่งก้านยืน เหง้าราก เดียวนา
ไฉนจึงรุนเร่งได้ ดั่งเกรี้ยว โทโส
หลายสิบปีก่อน ในขณะที่ฝ่ายกุมอำนาจตกอยู่ใต้อิทธิพลของอเมริกา จนมีคำพูดกันว่า อเมริกันอันตรายนั้น
เหล่านักคิด นักเขียน นักวิชาการ ปัญญาชน สนใจหลักคิดของทางจีนและรัสเซีย
แม้แต่คนหนุ่มคนสาวในอเมริกาเอง ก็ยังต่อต้านนโยบายรัฐ ต่อต้านสงครามเวียดนาม
บทเพลง บทกวีจำนวนมาก ก่อเกิดกระแสบริสุทธิ์ ในหัวใจผู้ที่รักความเป็นธรรม
มันคือบทเพลง บทกวีที่ต่อสู้ ที่เขียนขึ้นมาด้วยหยาดเหงื่อ น้ำตาและการสูญเสีย มันตีแผ่ช่องว่างระหว่างชนชั้น
การโดนกดขี่ เอารัดเอาเปรียบในสังคม
ความยากไร้แล้งเข็ญ ความลำเค็ญ รวมไปถึงความไม่เสมอภาคในความยุติธรรม มันเจ็บปวดและต้องแลกมากับการสูญเสีย
ผิดด้วยหรือที่อยากให้ความฝันและวันที่เป็นจริง เกิดขึ้น ไม่ว่าวันใดก็วันหนึ่ง
ไม่รุ่นเรา ก็รุ่นลูก รุ่นหลานเรา ให้พึงมีเท่าที่มนุษย์จะควรมี
นั่นคือความเหลื่อมล้ำของชนชั้นจะหมดไป ความอดอยากปากหมองจะหมดไป
รุ่นลูก รุ่นหลานเราจะมีสิทธิเสรีภาพ และให้คนรุ่นลูก รุ่นหลานเรา เรียนรู้ถึงคนรุ่นเรา จากบทเพลงแห่งการต่อสู้ การเสียสละ
ซึ่งพลังแห่งดนตรี ที่เรียกร้องก่อเกิดเปลี่ยนแปลงโลกนี้ มีแต่จะเป็นอมตะ เป็นตำนาน
เวลานั้น คนเห็นต่างถูกมองว่าเป็นภัย ถูกจับกุมคุมขัง ไม่ก็หนีไปต่างประเทศ เวลานั้นหนังสือถูกเผา
ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก หนังสือวรรณกรรมที่ดี เป็นหนังสือต้องห้าม ใครมีต้องถูกจับกุมคุมขัง
ขณะที่หนังสืออย่าง เพลย์บอย เพนเฮ้าส์กลับขายดิบขายดี ใครมีไว้ในครอบครอง จะถูกขอซื้อต่อ
เวลานี้กลับตาลปัตร เมื่อสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงพัดผ่าน จากการตกผลึกทางแนวทางความคิด
เศรษฐกิจ การเมือง นักคิด นักเขียน นักวิชาการ ปัญญาชน ตระหนักถึงความเป็นอารยะสากลในด้านระบอบการปกครอง
ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน อันมาจากความหมายที่ว่า ประชาชนเป็นใหญ่อันมีรากฐานมาจากอังกฤษ อเมริกา
แต่รอก่อน เพราะกลับกันเวลานี้ผู้กุมอำนาจ หันไปฝักใฝ่ทางจีนและรัสเซีย
มิหนำซ้ำยังนับญาติกันอีกด้วย
จากเหมยถึงกาสะลอง จากโกวเล้งถึงคุณยิ่งลักษณ์ ( บทกวี บทเพลง ห้องเพลงการเมือง พลังทางการเมือง 2 )
เป็นตัวอย่างของกวีที่มีชีวิตอยู่ระหว่างความแหลมคมของการเมืองและอำนาจ
ย้อนยุคไปไกลถึงในอดีตนั้น โจสิดก็เอาชีวิตรอดจากความตายมาได้ด้วยบทกวี
ซึ่งเป็นที่โด่งดังรู้จักกันในนาม บทกวีเจ็ดก้าว ซึ่งสำนวนแปลฉบับของเจ้าพระยามีว่า
คั่วถั่วเอากิ่งถั่วมาเป็นฟืนใส่ไฟ
เมล็ดถั่วในกระทะจะไหม้
ก็เพราะกิ่งถั่ว ต้นรากอันเดียวกันนั่นเอง
เหตุใดจึงเร่งไฟเข้าให้หนักนัก
ความจริงบทกวีเจ็ดก้าว มีอีกส่วนหนึ่งก่อนหน้า ที่โจผีให้โจสิดแต่ง แต่ไม่ได้เอ่ยถึง เพราะเนื้อหาบทกวีเจ็ดก้าวที่เอ่ยมานี้
ติดตรึงประทับใจแพร่หลายในหมู่ชนที่อ่านสามก๊ก จนมีหลายสำนวนแปล
เช่นเป็นกลอนว่า
เขาต้มถั่วด้วยถั่วเป็นต้นต้น
มันร้อนรนร้องลั่นจากอวยใหญ่
โอ้เกิดหน่อเดียวกันใช่ห่างไกล
เหตุไฉนเข่นฆ่าไม่ปราณี
เป็นกาพย์ว่า
เถาถั่วเผาต้มถั่ว ร่ำระรัวถั่วในกระทะ
ร่วมรากเกิดแล้วจะ เร่งเผาผลาญกันทำไม
เป็นโคลงว่า
คั่วถั่วเอากิ่งนั้น ทำฟืน เผาแฮ
เมล็ดถั่วสุดทนฝืน ป่นไหม้
โอ้เมล็ดกิ่งก้านยืน เหง้าราก เดียวนา
ไฉนจึงรุนเร่งได้ ดั่งเกรี้ยว โทโส
หลายสิบปีก่อน ในขณะที่ฝ่ายกุมอำนาจตกอยู่ใต้อิทธิพลของอเมริกา จนมีคำพูดกันว่า อเมริกันอันตรายนั้น
เหล่านักคิด นักเขียน นักวิชาการ ปัญญาชน สนใจหลักคิดของทางจีนและรัสเซีย
แม้แต่คนหนุ่มคนสาวในอเมริกาเอง ก็ยังต่อต้านนโยบายรัฐ ต่อต้านสงครามเวียดนาม
บทเพลง บทกวีจำนวนมาก ก่อเกิดกระแสบริสุทธิ์ ในหัวใจผู้ที่รักความเป็นธรรม
มันคือบทเพลง บทกวีที่ต่อสู้ ที่เขียนขึ้นมาด้วยหยาดเหงื่อ น้ำตาและการสูญเสีย มันตีแผ่ช่องว่างระหว่างชนชั้น
การโดนกดขี่ เอารัดเอาเปรียบในสังคม
ความยากไร้แล้งเข็ญ ความลำเค็ญ รวมไปถึงความไม่เสมอภาคในความยุติธรรม มันเจ็บปวดและต้องแลกมากับการสูญเสีย
ผิดด้วยหรือที่อยากให้ความฝันและวันที่เป็นจริง เกิดขึ้น ไม่ว่าวันใดก็วันหนึ่ง
ไม่รุ่นเรา ก็รุ่นลูก รุ่นหลานเรา ให้พึงมีเท่าที่มนุษย์จะควรมี
นั่นคือความเหลื่อมล้ำของชนชั้นจะหมดไป ความอดอยากปากหมองจะหมดไป
รุ่นลูก รุ่นหลานเราจะมีสิทธิเสรีภาพ และให้คนรุ่นลูก รุ่นหลานเรา เรียนรู้ถึงคนรุ่นเรา จากบทเพลงแห่งการต่อสู้ การเสียสละ
ซึ่งพลังแห่งดนตรี ที่เรียกร้องก่อเกิดเปลี่ยนแปลงโลกนี้ มีแต่จะเป็นอมตะ เป็นตำนาน
เวลานั้น คนเห็นต่างถูกมองว่าเป็นภัย ถูกจับกุมคุมขัง ไม่ก็หนีไปต่างประเทศ เวลานั้นหนังสือถูกเผา
ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก หนังสือวรรณกรรมที่ดี เป็นหนังสือต้องห้าม ใครมีต้องถูกจับกุมคุมขัง
ขณะที่หนังสืออย่าง เพลย์บอย เพนเฮ้าส์กลับขายดิบขายดี ใครมีไว้ในครอบครอง จะถูกขอซื้อต่อ
เวลานี้กลับตาลปัตร เมื่อสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงพัดผ่าน จากการตกผลึกทางแนวทางความคิด
เศรษฐกิจ การเมือง นักคิด นักเขียน นักวิชาการ ปัญญาชน ตระหนักถึงความเป็นอารยะสากลในด้านระบอบการปกครอง
ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน อันมาจากความหมายที่ว่า ประชาชนเป็นใหญ่อันมีรากฐานมาจากอังกฤษ อเมริกา
แต่รอก่อน เพราะกลับกันเวลานี้ผู้กุมอำนาจ หันไปฝักใฝ่ทางจีนและรัสเซีย
มิหนำซ้ำยังนับญาติกันอีกด้วย