ผมไม่ใช่นักการเมือง ผมไม่เคยคิดจะเป็นทาสนักการเมือง แต่ผมเชื่อของผม---------ทวดเอง

ผมเชื่อนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ที่มาจากความต้องการของประชาชน จะทำอะไรก็ต้องคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก แม้ใครจะคิดว่า เป็นการหาเสียง แต่ประโยชน์ก็ตกอยู่กับประชาชนไม่ใช่หรือครับ

ดังนั้นที่ผมเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ที่ผมต้องการประชาธิปไตย ก็เพื่อประโยชน์ส่วนตนที่จะได้รับจากนักการเมืองนั่นเอง

เพราะผมเคยเห็น เมื่อคราวเกิดภัยสึนามิ ภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย รัฐบาลที่มาจากเสียงส่วนใหญ่ พากันลงพื้นที่บัญชาการช่วยเหลือกันอย่างไม่กลัวเหน็ดเหนื่อย แม้จะเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยพบ แต่ก็สามารถช่วยเหลือเยียวยา พร้อมทั้งสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยให้รู้ว่า รัฐไม่ได้ปล่อยให้โดดเดี่ยว ไม่ได้ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม และยังไม่จำเป็นต้องพึ่งการช่วยเหลือจากนานาชาติ เว้นแต่หยูกยาเวชภัณฑ์เท่านั้น

เพราะผมเคยเห็น เมื่อคราวเกิดจลาจลที่เขมร คนไทยในเขมรอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อภยันอันตราย รัฐบาลไทยไม่รอช้าที่จะประกาศให้คนไทยทุกคนต้องปลอดภัย พร้อมทั้งส่งเครื่องบินไปรับถึงเขมร กลับบ้านอย่างปลอดภัยทุกคน จนรัฐบาลไทยและกองทัพได้รับความชื่นชมจากคนไทยทั้งชาติ

เพราะผมเคยเห็น เมื่อคราวเกิดไข้หวัดนก ที่นกตายกันเป็นเบือ ประชาชนติดโรคจนตายไปหลายคน ช่วงนั้นไม่มีใครกล้ากินสัตว์ปีกแทบทุกชนิด จนทำให้เหล่าผู้ค้าสัตว์ปีกเกิดความเดือดร้อน ส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลจากประชาชนก็สร้างความเชื่อมั่นด้วยการกินไก่ออกสื่อ ให้ประชาชนลดความวิตก กล้ากินไก่ที่สุกแล้ว และรัฐบาลยังสามารถสยบโรคไข้หวัดนก จนแทบสิ้นไปจากแผ่นดินไทยมาจนถึงทุกวันนี้

เพราะผมเคยเห็น เมื่อคราวเกิดโรคซาร์ส ที่เป็นโรคที่ติดต่อทางเดินหายใจ เป็นโรคใหม่ที่คร่าชีวิตคนไปไม่ใช่น้อย ช่วงนั้นประชาชนต่างวิตก ต่างชาติก็เกรงความไม่ปลอดภัย รัฐบาลจากประชาชนไม่รอช้าที่จะสกัดกั้นตั้งแต่ประตูเข้าประเทศเลยทีเดียวเชียว จากนั้นยังกล้าที่จะผูกปากไปรับคนที่สนามบิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และยังกล้าประกาศใครต้องตายเพราะโรคซาร์ส จะได้รับเงินเยียวยาหนึ่งล้านบาท ความหวั่นวิตกก็หมดไป โรคร้ายก็สกัดอยู่ นี่ก็อีกหนึ่งผลงานที่นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติ

เพราะผมเคยเห็น เมื่อคราวเกิดมหาอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 54 ผมได้เห็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ลงพื้นที่ช่วยเหลือและอยู่เป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบภัย ทั้งที่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล และหลังจากเป็นรัฐบาลก็พยายามช่วยเหลือ บรรเทา โดยไม่ใช่ให้ผู้สื่อข่าวดำเนินการกันเอง แม้ท้ายสุดไม่สามารถจะสกัดกั้นมวลน้ำอันมากมายได้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายาม และยังให้ความมั่นใจกับผู้ประสบภัยให้รู้ว่า รัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชนอย่างแน่นอน และท้ายสุดรัฐบาลก็สามารถนำพาประเทศก้าวพ้นวิกฤติมาจนได้

เพราะผมเคยเห็น นักการเมืองที่มีวิสัยทัศน์ ต้องการแก้ไขความเดือดร้อนของชาวนา ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนาให้ดีขึ้น กอรปกับเล็งเห็นภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นทั่วโลกในอนาคต จึงกล้าที่จะออกนโยบายจำนำข้าว เพื่อช่วยเหลือชาวนา ไม่ให้ประโยชน์ที่พึงได้ตกไปอยู่กับกลุ่มพ่อค้าคนกลาง และยังเป็นการสต๊อกไว้ เมื่อทั่วโลกเกิดวิกฤติความแล้ง ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยเราเอง

แต่น่าเสียดาย เพราะต้องการทำลายคู่แข่ง เพราะต้องการทำลายนักการเมือง จึงมีการรวมหัวกันระหว่างฝ่ายเสียผลประโยชน์ ฝ่ายที่ไม่สามารถชนะการเลือกตั้ง และฝ่ายที่แสวงอำนาจโดยไม่ต้องการผ่านประชาชน ร่วมด้วยช่วยกันทุกวิถีทางที่จะทำให้ข้าวไทยเสียชื่อเสียง ทำให้ข้าวไทยขายไม่ออก และยังหาเรื่องทำร้ายนักการเมืองที่ทำเพื่อประชาชนด้วยข้อหาทำให้รัฐขาดทุน เลยทำให้วิกฤติควรจะเป็นโอกาส เลยกลายเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติอย่างน่าเสียดายนัก

เพราะผมเคยเห็น นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ต่อให้มีเสียงข้างมากในสภาแค่ไหนก็ตาม เพื่อประชาชนไม่เห็นด้วยกับนโยบายบางนโยบาย เกิดความขัดแย้งกันในด้านความคิด พวกเขาก็พร้อมจะยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน เพื่อเลือกคนที่ใช่ ตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย

เพราะผมเคยเห็น การปราบปรามประชาชนด้วยความรุนแรงจากภาครัฐ ล้วนมาจากกลุ่มคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง หรือแม้จะมาจากการเลือกตั้ง ก็ไม่ใช่ความต้องการของเสียงส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ความรุนแรง เพื่อรักษาอำนาจให้อยู่ต่อไป

และเพราะผมเคยเห็น นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง แม้จะมีเสียงมากมายจนถูกเรียกว่า เผด็จการรัฐสภาก็ตาม แต่อย่างน้อยเราก็ยังมีฝ่ายค้านคอยถ่วงดุล และต่อให้ฝ่ายค้านไม่มีคุณภาพ ต่อให้ข้อมูลที่อภิปรายจะไม่รู้จริงหรือเท็จก็ตาม ผมก็มีโอกาสที่จะนำประเด็นเหล่านี้มาวิเคราะห์ เพื่อเป็นแนวทางในการคัดเลือกนักการเมืองคุณภาพในโอกาสต่อไป

ดังนั้นผมจึงอยากบอกว่า ผมไม่ใช่ทาสของนักการเมือง แต่ผมต้องการเลือกนักการเมืองมาทำงานให้ผมต่างหากครับ มาทำงานแทนท่ามกลางการจับจ้องของผม เมื่อทำดีผมก็ให้โอกาส ถ้าทำไม่ดี ผมก็ให้โอกาสคนอื่นบ้าง ก็แค่นั้นเองสำหรับการเมืองในแนวคิดผม

สุดท้ายผมอยากบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นการหาเสียงหรือไม่ก็ตาม
ผมอยากได้ นักการเมืองที่แสดงผลงาน มากกว่า นักการเมืองที่คอยโจมตีฝ่ายตรงข้าม
ผมอยากได้ นักการเมืองที่เข้ามาแก้ปัญหา มากกว่า นักการเมืองที่คอยโทษรัฐบาลอื่นครับ