พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 น่ากลัวนะครับ

กระทู้คำถาม
น่ากลัวตรงนี้ครับ

มาตรา 123/2 ผู้ใดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ของ องค์การระหว่างประเทศ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษ จําคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจําคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต


น่ากลัวตรงที่ว่า

ตอนนี้  ในองค์กร ป.ป.ช. มีปัญหาอยู่สองเรื่อง

เรื่องแรก

นายภักดี  โพธิศิริ  กรรมการ ป.ป.ช. ที่ขาดคุณสมบัติการเป็น ป.ป.ช. มาตั้งแต่แรก

พ.ร.บ. ป.ป.ช. 2542  มาตรา 11   บัญญัติไว้ว่า

"ถ้าผู้นั้นมิได้ลาออกหรือเลิกประกอบวิชาชีพอิสระภายในเวลาที่กําหนด
ให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยรับเลือกหรือได้รับความเห็นชอบให้เป็นกรรมการ"

นายภักดี  โพธิศิริ   เป็นกรรมการบริษัทองค์การเภสัชกรรม-เมอร์ริเออร์ชีววัตถุ จำกัด
ซึ่งตาม พ.ร.บ. ป.ป.ช. 2542   นายภักดีต้องลาออกจากบริษัทภายใน 15 วัน หลังได้รับการแต่งตั้งเป็น ป.ป.ช.

นายภักดี  โพธิศิริ   ได้รับการแต่งตั้งเป็น ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2549
แต่ลาออกจากบริษัทองค์การเภสัชกรรม-เมอร์ริเออร์วีวัตถุ  ในวันที่ 15 ธันวาคม 2549

ขัดกฎหมาย  ขาดคุณสมบัติการเป็น ป.ป.ช. มาตั้งแต่ต้น !!!



เรื่องสอง

กรณีนางสาวสุภา  ปิยะจิตติ  กรรมการ ป.ป.ช.

โปรดคลิกดูรายละเอียด   http://f.ptcdn.info/942/032/000/1435667323-o.jpg




สองเรื่องนี้  ป.ป.ช. ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐทำเฉย ไม่รู้สึกไม่รู้สา ไม่รับผิดชอบมาโดยตลอด
เป็นการรับผลประโยชน์สำหรับตนเองและผู้อื่นหรือไม่

รู้แล้วยังกระทำ  และกระทำอย่างต่อเนื่อง  ความผิดก็ย่อมต่อเนื่อง

หากถือว่าผิดต่อเนื่องจนถึงกฎหมายที่เพิ่งมีผลบังคับใช้

โทษสูงสุดคือประหารชีวิต

ไม่น่ากลัวได้ไง
เม่าแพนิค



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่