สวัสดีค่าทุกๆคน คือเมื่อช่วงวันที่30พ.ค-20 มิ.ย 2558เราและเพื่อนรวมยี่สิบกว่าคนได้ทุนจากทางมหาลัยให้ไปเรียนภาษาที่ประเทศAustraliaค่ะ (ต้องกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีที่โอกาสเด็กดอยคนนี้จริงๆค่ะ >< ) จึงอยากจะมาเเชร์ประสบการ์ณให้ทุกๆคนได้อ่านกัน
ปล.นี่เป็นกระทู้เเรกของเรารูปภาพส่วนมากก็ถ่ายจากไอโฟน5 อาจจะมีผิดพลาดไปบ้างก็ขอโทษนะคะ ทนๆอ่านกันหน่อยเนอะ ^^
เริ่มกันเลยเนอะ ตอนที่1
สถาบันที่เราไปเรียนชื่อว่า Phoenix Academyค่ะ (หลายๆคนคงเคยจะได้ยินชื่อมาเเล้ว) อยู่ที่เมืองPerthค่ะ ก่อนจะไปเราตื่นเต้นมากกกกก ก็ตามประสาเด็กดอยอ่ะเนอะ555 เปิดอากู๋เสิร์ชหาข้อมูลมากมายทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่ช้อป สภาพอากาศ สภาพบ้านเมือง นู้นนี่นั่น (จดเป็นลิสต์ใส่กระดาษไว้ด้วยนะเเต่ดันลืมทิ้งไว้ที่หอ555) เราออกเดินทางจากสุวรรณภูมิเวลาประมาณเที่ยงคืนด้วยสายการบินที่รักคุณเท่าฟ้า ใช้เวลาบินทั้งหมด6ชั่วโมง
อาหารบนเรื่องเสร์ฟสองมื้อค่ะ มื้อเเรกประมานเกือบๆตี1เป็นสเต็กไก่กับมันบด มีเเซลม่อนรมควันด้วย ส่วนรสชาติสำหรับเราก็ถือว่าอร่อยค่ะตามมาตรฐานการบินไทย(ยกเว้นของหวาน ไม่อร่อยเลยT^T)
มื้อที่สองเสิร์ฟตอนประมานหกโมงเช้า เป็นครัวซ็องต์แฮมไก่กะเเซนวิชใส้ชีสกับมะเขือเทศที่ขนมปังไม่อร่อย(เรากินเเต่แฮม ชีสเเละมะเขือเทศ) ของหวานน่าจะเป็นเค้กสัปรด
ก่อนเครื่องจะลงกัปตันประกาศว่าอากาศกำลังเย็นสบาย ไอ้เราก็มองมานอกหน้าต่าง เออสงสัยจะจริงแฮะแดดจ้ามาก เเต่พอลงเครื่องเท่านั้นแหละร้อง_หนักมาก ไหนบอกอากาศกำลังเย็นสบายไหงมันหนาวอย่างนี้คะกัปตัน คือเห็นแดดจ้าๆอย่างนี้เเต่อากาศประมาณ8องศานะจ้ะ ว่าอากาศที่บ้านตอนหน้าหนาวก็หนาวเเล้วนะพอมาเจอที่นี่เเล้วสั่นกันเลยทีเดียว
ขั้นตอนส่วนimmigrationก็ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ เเค่กรอกใบขาเข้าอะไรให้เรียบร้อยตั้งเเต่อยู่บนเครื่อง อ้อ!เนื่องจากออสเป็นประเทศเกาะเค้าค่อนข้างจะเข้มงวดกับเรื่องโรคมากอ่ะค่ะ เราเลยจำเป็นต้องกรอกใบประวัติความเสี่ยงติดเชื้อโรคอะไรสักอย่างเพิ่มมาอีก1ใบ พอเราไปถึงเจ้าหน้าที่immigrationก็จะถามคำถามปกติ เเค่ว่ามาทำอะไร มาหาใคร พักที่ไหน อยู่กี่วัน ไรประมาณนี้ค่ะ (เจ้าหน้าที่ผู้หญิงแอบโหด นางเหวี่ยงใส่ตลอดเวลา55) เราพักอยู่กับโฮสเราก็ยื่นที่อยู่ของโฮสให้เค้าดูเค้าก็โอเคค่ะให้ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย
เห็นเค้าป่าว ^^
เรื่องซิมของที่นี่จะมีสามค่ายมั้งคะไม่เเน่ใจเท่าไหร่ เเต่เราเลือกใช้ของVodafoneเพราะคนดูเเลเค้าเเนะนำมาว่าสำหรับที่Perthค่ายนี้สัญญาณดีที่สุดละ ราคาอยู่ที่50AUD(เรท25.7) ใช้เน็ตได้1GB ส่งข้อความฟรีไม่อั้น โทรหาเบอร์เครือข่ายเดียวกันฟรี มีค่าโทรให้โทรกลับบ้านอีก150AUD ใช้ได้30วัน หาซื้อได้ทั่วไปค่ะที่สนามบินก็มีขาย เเต่เราไปซื้อที่ช๊อปในPerth Cityเลยค่ะมีปัญหาอะไรจะได้พนักงานได้ทันทีเพราะบางทีซิมอาจจะactivateไม่ได้ก็มีค่ะ
เอาล่ะพอทุกคนผ่านตม.มาได้อย่างปลอดภัยเราก็นั่งรถบัสไปโรงเรียนเพื่อให้โฮสของเเต่ละคนมารับ พอเห็นเมืองครั้งเเรกคือรู้สึกเลยว่าโคตรรรรรสะอาด รถก็ขับกันเป็นระเบียบไม่วุ่นวาย ไม่ปาดซ้ายปาดขวา อยากให้เมืองไทยเป็นอย่างนี้บ้างจริงๆเฮ้อ ครอบครัวโฮสเรามีกันกันอยู่สี่คน ลูกชายคนโตอายุ20ชื่อThomas ลูกสาวอีกสองคนอายุ16กับ12ชื่อKatherineกับLilly ส่วนโฮสมัมชื่อMarry พอไปถึงบ้านแมรี่ก็พาไปดูห้องเอาของไปเก็บ ไปดูส่วนต่างๆของบ้าน พาไปทักทายเคทเเละลิลลี่(ทอมมัสไม่ค่อยอยู่บ้านให้เจอเท่าไหร่) บอกว่ากินข้าวกี่โมง อะไรประมานนี้ เราโชคดีที่เพื่อนที่มาด้วยกันอยู่บ้านระเเวกเดียวกัน โฮสบอกว่าเดินไปหากันได้ใกล้ๆ (โลกว่าๆ= =) บ้านเราอยู่Kingsleyมีศูนย์การค้าอยู่หน้าปากซอย เดินไปประมาณ15นาที(เดินไปกลับก็เหนื่อยเอาการอยู่) อยู่ใกล้กับสถานีที่รถไฟถ้าจะไปโรงเรียนก็นั่งรถไฟประมาณ30นาทีเเต่ถ้าเข้าเมืองก็ประมาณ40-50นาที แอบห่างไกลความเจริญนิดนึง5555 ที่นี่เค้าจะเเบ่งเป็นZone บ้านเราอยู่Zone3(มั้ง แหะๆ) ต้องนั่งรถไฟสายgreenwoodหรือสายNorth line(บ้านเราอยู่ป้ายรองสุดท้ายของสาย) เเต่ข้อดีของการที่อยู่ชานเมืองข้าวของจะไม่ค่อยเเพงเท่าที่อื่นเท่าไหร่เช่นเเถวHillarys(ค่าครองชีพสูง บ้านเเพง อาหารเเพง)
การเดินทางสามารถซื้อบัตรsmart riderได้เวลาเราขึ้นรถบัสหรือรถไฟก็สเเกนบัตรได้เลยเเละสำหรับนักเรียนเราสามารถซื้อตั๋วได้ในราคาที่ถูกกว่าปกติครึ่งนึงค่ะ ของเราทางมหาลัยจัดการให้เรียบร้อยเเล้ว ในบัตรมีเงินอยู่ 110AUD ใช้ได้1ปี ถ้าใช้แบบคนปกติก็ใช้ได้เป็นปีสบายๆเพราะไปกลับระหว่างบ้านเรากับซิตี้ก็ประมาณหกดอล แต่ว่าเราไปแค่3อาทิตย์ไงเลยเที่ยวให้คุ้มเที่ยวทุกวันจำได้ว่าอยู่บ้านเเค่วันอาทิตย์วันเดียวไปนอกเมืองโซนสายใต้สายตะวันออกไปทะเลนู้นนี่นั่นสุดท้ายเงินเหลือในบัตรประมาณ60ดอล เสียด๊าย เสียดาย หรือถ้าใครไม่อยากเสียเงินก็จะมีรถบัสฟรีค่ะชื่อgreen cat, yellow cat, red catเเล้วเเต่suburb
ขอเเนะนำจากใจเลยนะคะถ้ามาที่นี่อยากให้นั่งรถไฟค่ะเพราะจะได้เจออะไรดีๆเยอะมากยิ่งถ้าเป็นตอนเช้าๆนี่นะ อื้อหืออออออออดี๊ดี ตลอดสามอาทิตย์ที่อยู่ที่นี่ไม่มีวันไหนขี้เกียจตื่นเช้าไปโรงเรียนเลยค่ะ555555555
[SR] เมื่อเด็กดอยโกอินเตอร์ 20วัน ณ เมืองเล็กๆที่ฝรั่งเเซ่บเว่อร์ (Perth, Australia)
สวัสดีค่าทุกๆคน คือเมื่อช่วงวันที่30พ.ค-20 มิ.ย 2558เราและเพื่อนรวมยี่สิบกว่าคนได้ทุนจากทางมหาลัยให้ไปเรียนภาษาที่ประเทศAustraliaค่ะ (ต้องกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีที่โอกาสเด็กดอยคนนี้จริงๆค่ะ >< ) จึงอยากจะมาเเชร์ประสบการ์ณให้ทุกๆคนได้อ่านกัน
ปล.นี่เป็นกระทู้เเรกของเรารูปภาพส่วนมากก็ถ่ายจากไอโฟน5 อาจจะมีผิดพลาดไปบ้างก็ขอโทษนะคะ ทนๆอ่านกันหน่อยเนอะ ^^
เริ่มกันเลยเนอะ ตอนที่1
สถาบันที่เราไปเรียนชื่อว่า Phoenix Academyค่ะ (หลายๆคนคงเคยจะได้ยินชื่อมาเเล้ว) อยู่ที่เมืองPerthค่ะ ก่อนจะไปเราตื่นเต้นมากกกกก ก็ตามประสาเด็กดอยอ่ะเนอะ555 เปิดอากู๋เสิร์ชหาข้อมูลมากมายทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่ช้อป สภาพอากาศ สภาพบ้านเมือง นู้นนี่นั่น (จดเป็นลิสต์ใส่กระดาษไว้ด้วยนะเเต่ดันลืมทิ้งไว้ที่หอ555) เราออกเดินทางจากสุวรรณภูมิเวลาประมาณเที่ยงคืนด้วยสายการบินที่รักคุณเท่าฟ้า ใช้เวลาบินทั้งหมด6ชั่วโมง
อาหารบนเรื่องเสร์ฟสองมื้อค่ะ มื้อเเรกประมานเกือบๆตี1เป็นสเต็กไก่กับมันบด มีเเซลม่อนรมควันด้วย ส่วนรสชาติสำหรับเราก็ถือว่าอร่อยค่ะตามมาตรฐานการบินไทย(ยกเว้นของหวาน ไม่อร่อยเลยT^T)
มื้อที่สองเสิร์ฟตอนประมานหกโมงเช้า เป็นครัวซ็องต์แฮมไก่กะเเซนวิชใส้ชีสกับมะเขือเทศที่ขนมปังไม่อร่อย(เรากินเเต่แฮม ชีสเเละมะเขือเทศ) ของหวานน่าจะเป็นเค้กสัปรด
ก่อนเครื่องจะลงกัปตันประกาศว่าอากาศกำลังเย็นสบาย ไอ้เราก็มองมานอกหน้าต่าง เออสงสัยจะจริงแฮะแดดจ้ามาก เเต่พอลงเครื่องเท่านั้นแหละร้อง_หนักมาก ไหนบอกอากาศกำลังเย็นสบายไหงมันหนาวอย่างนี้คะกัปตัน คือเห็นแดดจ้าๆอย่างนี้เเต่อากาศประมาณ8องศานะจ้ะ ว่าอากาศที่บ้านตอนหน้าหนาวก็หนาวเเล้วนะพอมาเจอที่นี่เเล้วสั่นกันเลยทีเดียว
ขั้นตอนส่วนimmigrationก็ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ เเค่กรอกใบขาเข้าอะไรให้เรียบร้อยตั้งเเต่อยู่บนเครื่อง อ้อ!เนื่องจากออสเป็นประเทศเกาะเค้าค่อนข้างจะเข้มงวดกับเรื่องโรคมากอ่ะค่ะ เราเลยจำเป็นต้องกรอกใบประวัติความเสี่ยงติดเชื้อโรคอะไรสักอย่างเพิ่มมาอีก1ใบ พอเราไปถึงเจ้าหน้าที่immigrationก็จะถามคำถามปกติ เเค่ว่ามาทำอะไร มาหาใคร พักที่ไหน อยู่กี่วัน ไรประมาณนี้ค่ะ (เจ้าหน้าที่ผู้หญิงแอบโหด นางเหวี่ยงใส่ตลอดเวลา55) เราพักอยู่กับโฮสเราก็ยื่นที่อยู่ของโฮสให้เค้าดูเค้าก็โอเคค่ะให้ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย
เห็นเค้าป่าว ^^
เรื่องซิมของที่นี่จะมีสามค่ายมั้งคะไม่เเน่ใจเท่าไหร่ เเต่เราเลือกใช้ของVodafoneเพราะคนดูเเลเค้าเเนะนำมาว่าสำหรับที่Perthค่ายนี้สัญญาณดีที่สุดละ ราคาอยู่ที่50AUD(เรท25.7) ใช้เน็ตได้1GB ส่งข้อความฟรีไม่อั้น โทรหาเบอร์เครือข่ายเดียวกันฟรี มีค่าโทรให้โทรกลับบ้านอีก150AUD ใช้ได้30วัน หาซื้อได้ทั่วไปค่ะที่สนามบินก็มีขาย เเต่เราไปซื้อที่ช๊อปในPerth Cityเลยค่ะมีปัญหาอะไรจะได้พนักงานได้ทันทีเพราะบางทีซิมอาจจะactivateไม่ได้ก็มีค่ะ
เอาล่ะพอทุกคนผ่านตม.มาได้อย่างปลอดภัยเราก็นั่งรถบัสไปโรงเรียนเพื่อให้โฮสของเเต่ละคนมารับ พอเห็นเมืองครั้งเเรกคือรู้สึกเลยว่าโคตรรรรรสะอาด รถก็ขับกันเป็นระเบียบไม่วุ่นวาย ไม่ปาดซ้ายปาดขวา อยากให้เมืองไทยเป็นอย่างนี้บ้างจริงๆเฮ้อ ครอบครัวโฮสเรามีกันกันอยู่สี่คน ลูกชายคนโตอายุ20ชื่อThomas ลูกสาวอีกสองคนอายุ16กับ12ชื่อKatherineกับLilly ส่วนโฮสมัมชื่อMarry พอไปถึงบ้านแมรี่ก็พาไปดูห้องเอาของไปเก็บ ไปดูส่วนต่างๆของบ้าน พาไปทักทายเคทเเละลิลลี่(ทอมมัสไม่ค่อยอยู่บ้านให้เจอเท่าไหร่) บอกว่ากินข้าวกี่โมง อะไรประมานนี้ เราโชคดีที่เพื่อนที่มาด้วยกันอยู่บ้านระเเวกเดียวกัน โฮสบอกว่าเดินไปหากันได้ใกล้ๆ (โลกว่าๆ= =) บ้านเราอยู่Kingsleyมีศูนย์การค้าอยู่หน้าปากซอย เดินไปประมาณ15นาที(เดินไปกลับก็เหนื่อยเอาการอยู่) อยู่ใกล้กับสถานีที่รถไฟถ้าจะไปโรงเรียนก็นั่งรถไฟประมาณ30นาทีเเต่ถ้าเข้าเมืองก็ประมาณ40-50นาที แอบห่างไกลความเจริญนิดนึง5555 ที่นี่เค้าจะเเบ่งเป็นZone บ้านเราอยู่Zone3(มั้ง แหะๆ) ต้องนั่งรถไฟสายgreenwoodหรือสายNorth line(บ้านเราอยู่ป้ายรองสุดท้ายของสาย) เเต่ข้อดีของการที่อยู่ชานเมืองข้าวของจะไม่ค่อยเเพงเท่าที่อื่นเท่าไหร่เช่นเเถวHillarys(ค่าครองชีพสูง บ้านเเพง อาหารเเพง)
การเดินทางสามารถซื้อบัตรsmart riderได้เวลาเราขึ้นรถบัสหรือรถไฟก็สเเกนบัตรได้เลยเเละสำหรับนักเรียนเราสามารถซื้อตั๋วได้ในราคาที่ถูกกว่าปกติครึ่งนึงค่ะ ของเราทางมหาลัยจัดการให้เรียบร้อยเเล้ว ในบัตรมีเงินอยู่ 110AUD ใช้ได้1ปี ถ้าใช้แบบคนปกติก็ใช้ได้เป็นปีสบายๆเพราะไปกลับระหว่างบ้านเรากับซิตี้ก็ประมาณหกดอล แต่ว่าเราไปแค่3อาทิตย์ไงเลยเที่ยวให้คุ้มเที่ยวทุกวันจำได้ว่าอยู่บ้านเเค่วันอาทิตย์วันเดียวไปนอกเมืองโซนสายใต้สายตะวันออกไปทะเลนู้นนี่นั่นสุดท้ายเงินเหลือในบัตรประมาณ60ดอล เสียด๊าย เสียดาย หรือถ้าใครไม่อยากเสียเงินก็จะมีรถบัสฟรีค่ะชื่อgreen cat, yellow cat, red catเเล้วเเต่suburb
ขอเเนะนำจากใจเลยนะคะถ้ามาที่นี่อยากให้นั่งรถไฟค่ะเพราะจะได้เจออะไรดีๆเยอะมากยิ่งถ้าเป็นตอนเช้าๆนี่นะ อื้อหืออออออออดี๊ดี ตลอดสามอาทิตย์ที่อยู่ที่นี่ไม่มีวันไหนขี้เกียจตื่นเช้าไปโรงเรียนเลยค่ะ555555555