สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาว pantip หลังจากที่แฝงตัวอ่านเรื่องราวคนอื่นมานาน ถึงคราวที่เราอยากจะแชร์เรื่องราวของตัวเองบ้าง เราเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องการเขียนนะคะ อาจจะวนไปวนมา หรืออ่านไม่รู้เรื่องยังไง ขออภัยทุกท่ามา ณ ที่นี้ ด้วยค่ะ เรื่องราวของเรามีอยู่ว่า เราเป็นแฟนกับ A คบกันมาได้ 2 ปีกว่าๆแล้วค่ะ A เป็น นายทหารอยู่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพ เราทำงานอยู่บริษัทออแกไนซ์ ตอนที่เริ่มรักกันอะไรๆก็หวานก็ดีไปหมดค่ะมีความทรงจำดีๆ กับแฟนคนนี้เยอะมาก ตอน A เรียนจบ ติดยศ เค้าอยากได้ bigbike เราก็ออกเงินให้ก่อนค่ะ ตอนนั้นถอยรถคันนึงเป็นรถมือสองราคา 210,000 เราไปธนาคารถอนเงินสดให้ซื้อเลย เราไปออกทริปด้วยกัน ไปเที่ยวกัน มีความสุขมาก อ่อ นอกจากรถ bigbike แล้ว เราให้ pcx ของที่บ้านให้เค้าไปอีกคันนึง เพราะจอดไว้ก็ไม่ได้ใช้อะไร เสื้อผ้า น้ำหอม รองเท้า แว่นตา ของแบรนเนม พุดง่ายๆเราทุ่มค่ะ ให้สารพัดจะให้ จนได้เกิดเรื่องขึ้น คือ เราท้องค่ะ ท้องโดยไม่ไดเจตนาป็นเพราะความประมาท เราเก็บเด็กไว้ค่ะ และปรึกษากันว่าจะเอายังไง A บอกว่า ที่บ้านเค้าค่อนข้างรับไม่ได้นะ เค้าเป็นความหวังของครอบครัว เราก็ไม่เป็นไร ไม่พร้อมก็ยังไม่ต้องบอกก็ได้ จนเราท้องได้ 5 เดือน ท้องเริ่มออกชัด เราตัดสินใจที่จะบอกพ่อของเรา เค้ากบ่ายเบี่ยงบอกยังไม่พร้อม ขอให้เค้าได้บอกที่บ้านที่เค้าก่อนได้มั้ย เราก็บอกรอไม่ได้แล้ว ท้องโตขึ้นเรื่อยๆ จนเราเป็นคนบอกพ่อเองค่ะ ตอนที่เราตัดสินใจบอกพ่อเราด้วยตัวเองเค้าก็อยู่ด้วยนะคะ แต่ไม่ได้เป็นคนพุด เราพูดเอง ลุ้นแทบตายว่าจะโดนตบกี่ฉาด เพราะเราก็เพิ่งเริ่มเรียน ป โท ปรากฏว่าพ่อไม่ว่าอะไรสักคำค่ะ กลับปลอบเราซะอีก เพราะเราร้องไห้หนักมาก พ่อบอกเราว่าอย่าคิดมาก หลานมาแล้วก็ดุแลตัวเองดีๆ ขออย่างเดียวอย่าทำแท้ง พ่อดีใจที่เราบอกพ่อ เชื่อมั้ยคะ คำปลอบโยนแค่ไม่กี่คำแต่เมื่อได้ฟังมันเหมือนกลับยกภุเขาออกจากอก จากที่เคยเครียดมานาน หายเป็นปลิดทิ้ง คิดว่าเราโชคดีมากๆที่มีพ่อเข้าใจเรา นอกจากไม่ซ้ำเติมลุกเมื่อตอนที่ลุกผิดพลาด พ่อกลับเป็นห่วงเราว่าทนเครียดทำไมตั้งนาน มีอะไรไม่บอกกัน เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ กับแฟนเรา พ่อก็หันไปถามว่าแล้วที่บ้านแฟนเรารุ้เรื่องหรือยัง แฟนเราก็บอกว่ายัง เค้ายังไม่กล้าบอก พ่อเราก็ไม่ไดคาดคั้นอะไรอีก บอกแค่ว่า ยังไม่พร้อมก็ไม่ต้องพูดล่ะกัน แต่ตอนนี้ก็ไปจดทะเบียนกันให้เรียบร้อย เพื่อเป็นประโยชน์กับลูก (สิทธิลูกข้าราชการ) เราสองคนก็เลยไปจดทะเบียนสมรสกันค่ะ มีอยู่วันหนึ่งเป็นวันหยุดยาวแฟนเราจะขับรถกลับบ้านเกิด เค้าเลยชวนเรากลับไปด้วยกันเพื่อที่จะได้บอกเรื่องของเรากับทางบ้านด้วย เราก็ถามเค้านะคะว่าพร้อมแล้วเหรอ เค้าก็พูดว่าสักวันก็ต้องบอกอยุ่ดี เราก็อ่ะไปก็ไปตอนนั้นท้อง 5 เดือนกว่าๆ นั่งรถประมาณ 10 ชั่วโมง ปวดเมื่อยทั้งตัว ไปถึงบ้านเค้าตอนกลางคืนแล้ว ด้วยความเพลียก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันเข้านอนเลย (เค้าพาเราไปครั้งแรกค่ะ ก่อนหน้านั้นเราเคยเจอพ่อแม่เค้า สองครั้ง ในงานรับกระบี่ กับ งานแต่งญาตเค้าที่ กทม) เค้านอนกับพ่อแม่ เราพ่อแม่เค้าให้นอนในห้องพี่สะใภ้ วันรุ่งขึ้นเหตุการณ์ปกติค่ะ เราทำตัวปกติ ไม่มีใครดูออกว่าเราท้องเพราะเราตัวเล็กมาก ท้องไม่ออกเลย และไม่มีอาการแพ้มาก อยุ่ประมาณสามวันค่ะ เค้าก็ยังไม่บอกพ่อแม่เค้า จนตอนเย็นเข้าไปในตัวเมืองกัน เค้พาพ่อแม่ไปเยี่ยมเพื่อนที่มาอยู่ที่ค่ายทหารที่จังหวัดนั้น ถึงค่ายเค้าลงไปกับพ่อเค้า ปล่อยเรานั่งกับแม่เค้าสองคนบนรถ เราก็เกร็งสิคะ ปกติเราเป็นคนเงียบๆ ขี้อาย เข้าหาผู้ใหญ่ไม่เก่ง คนอื่นที่ไม่รู้จักเรามาก่อนจะมองว่าเราหยิ่ง ทั้งทีเห็นเรานิ่งๆจริงเราขี้อายมาก แม่เค้าก็เริ่มเปิดประเด็นมาค่ะ ว่ามาทำไม มาแบบนี้พ่อไม่ว่าเหรอ รู้มั้ยว่าลูกชายเค้าไม่เคยพาใครไปบ้านมาก่อน แม่อยากให้ดูๆกันไปก่อน ลุกชายเค้ายังเด็ก ยังไม่พร้อมมีครอบครัวหรอก อีกอย่าง ลุกชายเค้าต้องบวชซะก่อน แม่เป็นคนหัวโบราณแม่รับเรื่องพวกนี้ไม่ได้ คือคำพูดฟังแล้วรู้เลยอ่ะค่ะ ว่าเค้าไม่ปลื้มเรา เชื่อมั้ยคะ เราฟังไปนั่งก้มหน้ากลั้นน้ำตาไป เราคิดในใจ หนูขอโทษ หนูก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ ที่แม่เตือนมันไม่ทันแล้ว เรื่องเกิดขึ้นแล้ว แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปนะคะ นั่งฟังเงียบๆ คืนนั้นกลับมานอนร้องไห้ที่ห้องพี่สะใภ้ ตั้งแต่มาถึงบ้านแฟนเราเค้าตัวติดกับแม่ตลอดค่ะ ปล่อยเราเงิๆอยู่บ้าน เราก็ทำงานบ้านช่วยหยบจับนู่นนี่ ังดีพี่สะใภ้ใจดีค่ะ ชวนคุย ให้เราหายเกร็งบ้าง เราแทบไม่ได้คุยกับแฟนเลย เราร้องไห้ เครียดมาก โทรหาเพื่อน เล่าให้เพื่อนฟังว่ามาบ้านแฟนนะ แล้วเจอแม่เค้าพูดแบบนี้ เพื่อนเราก็เป็นห่วง บอกว่าอยู่ไม่ไหวก็กลับมั้ยนังเครื่องกลับมาเลย อยุไปแฟนเราก็ไม่พูดอยู่ดี พื่อนเราโมโหแฟนเราใหญ่เลยค่ะ บอกว่าลากเมียไป เมียท้อง นั่งรถตั้งไกล ยังปล่อยเมีย ไม่ปกป้อง ไม่สนใจอีก ใช้ไม่ได้ เราก็บอกไม่เป็นไร เราทนได้ เพื่อนก็ปลอบจนเราหลับไป เช้าวันต่อมา เรายืนล้างจานอยู่แฟนเราเข้ามาในครัวแล้วถามว่าเมื่อวานเป็นอะไรดูซึมๆ อูยู่กับแม่คุยอะไรกัน เราบอกไม่มีอะไร เค้าก็บอกว่า เค้าจะบอกล่ะนะเรื่องลูก เราก็ห้ามเค้าค่ะ บอกไม่ต้องพูดแล้ว มันสายไปแล้ว อยู่หลายวันไม่พูด เราก็เดินหนีออกมาค่ะ เรารู้ว่าเค้ายังไม่กล้าพูด มันดูออกอ่ะ เลยตัดปัญหา ไม่ต้องพูดตอนนี้หรอก ให้เค้าได้บวชให้แม่ก่อนแล้วกัน ค่อยว่ากันอีกที สรุปว่านั่งรถฟรีค่ะ เมื่อยมาก จากนั้นก็อยู่มาเรื่อยๆจนเค้าบวช ตอนบวชนี่เราท้อง 8 เดือนล่ะค่ะ ไม่ได้ไปงานบวชเค้าหรอกค่ะ อยากให้แม่เค้าสบายใจ มีความสุขในวันบวชลูกชายคนสุดท้อง พอเค้าสึกออกมา เค้าก็ต้องมาเรียนชั้นนายร้อยที่ กทม ค่ะ ช่วงที่เรียนเค้าอยู่บ้านเรา แล้วจุดเปลี่ยนเริ่มจากตรงนี้ค่ะ
ควรพอหรือทนต่อดี