สวัสดีครับเพื่อนๆชาว บลูเเพลนเน็ต ทุกคนครับ ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ได้มาอาศัยอยู่ที่ ยุโรป Germany ได้สิบกว่าปีแล้ว และผมก็ได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวธรรมชาติต่างๆตามประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างบ่อย อาจจะว่าได้ว่าได้ไปเกือบทุกอาทิตย์ก็ว่าได้ เพราะ แถวที่ผมอยู่จะอยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมัน จะติด 3 ประเทศ Austria, Switzerland,France ขับรถแค่ไม่ถึงสามชั่วโมงก็ถึงแต่ละประเทศแล้วครับ ชึ่งมันก็ใกล้มากๆ มาแรกๆก็เเปลกดีครับแทบจะปรับภาษาไม่ทันเลยทีเดียว
และผมคิดว่าบางที่ที่ผมไป ก็อาจจะยังไม่มีนักท่องเที่ยว หรือยังไม่เป็นที่รู้จัก หรือยังไม่มีบริษัทจัดทัวร์ไปก็ได้ ผมเลยอยากจะเอารูปมาเเชร์ให้เพื่อนๆดูกัน (เพราะไม่อยากเก็บภาพไว้ดูคนหนิเดียวครับ)
อาจจะมี เกล็ดลับ เกร็ดน้อย ในการเที่ยวแต่ละทริปมาฝากด้วยครับ บางทีก็อาจจะมีประโยชน์สำหรับบางคน ที่กำลังเเพลนไปเที่ยวที่คนไม่เยอะเที่ยวเเบบ คนที่เขาอยู่ที่นี่กัน ทุกทริปที่ผมไปส่วนมากก็จะขับรถไปกันเองครับ
ขอฝากไว้นิดหนึ่งนะครับ ถ้าชอบก็กดไลค์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ผมได้เอาทริปอื่นๆมาให้ดูต่อด้วยนะครับ เพราะผมมีอีกเยอะเลยทีเดียว มีทั้ง ต่างประเทศและในประเทศ สามารถ ติชม หรือแนะนำได้นะครับผมจะได้เอามาปรับปรุงเเก้ไข ขออภัยถ้าผมพิมพ์ผิดหรือไม่สุภาพด้วยนะครับผม
โอเคไปดูกันเล๊ยยยย
ถ้าถูกใจก็สามารถติดตาม ผมที่
https://www.facebook.com/YasoGoInter ขอบคุณ ทุก เเชร์ ทุกไลค์ ทุกเม้น ล้วนแต่เป็นกำลัง

เมืองนี้ชื่อว่า St. Anton am Arlberg ผมก็ขับรถออกจากบ้านแต่เช้าครับขับมาประมาณไม่ถึง สี่ชั่วโมง เราก็มาถึงที่นี่ประมาณ สี่โมงกว่าๆ ทริปนี่ผมใช้เงินสองคนหมดไม่ถึง 100Euro ครับรวมทุกอย่างยกเว้นค่าน้ำมันรถ เทคนิคคือ ผมจะเอาขวดน้ำเล็กๆใส่กระเป๋าเพื่อดื่มตอนเดิน ขนมขบเคี่ยวต่างๆ ที่สำคัญ การเดินไกลๆเราชื้อ กล้วย และ ช๊อตเเล็ต ไปด้วยนะครับช่วยได้เยอะเลยอันนี้ขาดไม่ได้ ประหยัดได้ประหยัดไปคริๆ ถ้าให้ดีก็ ทอดหมูเเดดเดียวพร้อมข้าวเหนียวนี่เเหละครับ
เราขี้นกระเช้าตัดเเรงเราได้ครึ่งทางครับ เราก็เดินมาได้สัก เกือบยี่สิบนาที เราก็นั่งพักชมวิวภูเขาที่สวยงาม ตัวเราเล็กมากๆครับมองรอบๆเขา ช่วงที่ผมไปไม่ร้อนมากเย็นๆสบายๆใส้เสื้อเเขนยาวบางๆ เป็นช่วง เดือน August


เดินมาหอบแทบจับเลยครับกว่าจะเดินขี้นมาบนยอดเขาอีกลูกได้ แต่เมื่อเราได้เห็นวิวเหมือนในรูปมันก็หายยยยเหนื่อยและอยากเดินต่อ เพราะอยากรู้ว่าด้านหน้ามีอะไรรอคอยเราอยู่


ตามเทรนอย่าคิดมากนะครับเห็นเขาทำก็ทำมั่งคริๆ
ผมชอบวิวตรงนี้มากครับ รู้สึกว่าจะเดินไม่กี่ก้าวก็นั่งตามเคยฮ๋าๆๆ รู้สึกไม่มีเเรงเเหละ หิวด้วยเลยเอาขนมและข้าวเหนียวหมูทอดที่เอามานั่งกินตรงนี้กันเลย เหมือนกับว่าข้าวเหนียวมันอหร่อยที่สุดเลย เพราะหิวหรือเปล่าเนี๊ย


ดอกไม้สวยๆตามทางเดินครับ ไม่ต้องกลัวหลงครับเราเดินไปเรื่อยๆมันจะมีป้ายบอกทางให้เราว่าจะไปไหน

จุดที่เราจะเดินไปเราจะเดินไปภูเขาลูกสุดท้ายครับไกลมากใช้เวลาในการเดิน เกือบ 6 ชั่วโมง เราต้องรีบเดินให้ถึงครับเพราะว่าเราไม่ได้จองห้องอีกอย่างไปช้าเต็มและแถมไม่มีข้าวให้กินอีกต่างหาก (สุดท้ายไปไม่ทันห้องเต็ม แต่ตามอ่านเรื่อยๆครับว่าผลจะเป็นยังไง)


นั่งถ่ายรูปนานไปหน่อยครับเพราะ เหนื่อยจริงๆลิ้นห้อยเลยแต่สู้ตายครับเพื่อให้ถึงยอดเขา


น้ำหมดครับต้องหาที่เติมน้ำ มันเย็นยิ่งกว่าน้ำในตู้เเข็งเลย และผมเเบกลูกแตกโมมาครึ่งทางขอบอกว่าหนักมากกกก ต้องกินให้หมด

อืมเกือบจะถึงละอีกนิดเดียว เห้อออออ

หมอกกำลังลงพอดีเลยครับ

เราเรียงก้อนหิวมั่ง

เราเดินมาถึงที่หมายกันแล้วครับเดินมาหลายชั่วโมงเหมือนกันน่าจะราวๆ 6ชั่วโมงได้ แต่พอมาถึงเราไม่ได้ทำการจองที่นอน เราเข้าไปถามสรุปว่าห้องเต็มครับ และเราก็ไม่มีที่อื่นอีกแล้วด้วย เห้อออ ทำยังไงดีละทีนี้ ถ้าเดินกลับก็คงไม่ไหวแล้ว บ้านหลังนี้มีนักเดินเขาทั้งหมด 140 คน แล้วจะนอนกันยังไงอะ

เราก็หิวมากด้วยละของที่เอามาก็หมดแล้ว เหลือนิดหน่อยไว้กินตอนขาเดินกลับ
เราก็ถามพนักงานทำกำลังรับออเด้ออาหารเราอยู่ อยู่เรื่องห้องพัก
: ไม่มีห้องจริงๆหรือ
: พนักงาน ก็ตอบว่า ห้องเต็ม พร้อมยิ้มเเหยะๆ คุณต้องจองล่วงหน้าก่อนมาสองสามวันเพราะห้องจะเต็มตลอด คุณก็ต้องนอนที่ห้องอาหารนี่เเหละ
: เราก็คิดถามไปว่า
เจงงงดี๊ คิดในใจต้องล้อเราเล่นเเหง๋ๆ (
ห้องอาหารมีแต่โต๊ะเก้าอี้จะนอนยังไงอะนี่)
: พนักงาน รับออเด้อที่เราสั่งอาหารไป แล้วบอกว่า คุณต้องนอนห้องนี่จริงๆมะได้ล้อเล่น
:
ตายละหว๋า คนก็เต็ม 140 คนเราจะอะไรยังไงนี่ เราก็มองช้ายมองขวา หาที่นั่งดีๆไม่ลุกไปไหนกลัวว่าจะเสียที่ จองไว้ก่อนละ
เราก็เอาของจองที่เราไว้บนเก้าอี้เเบบยาวๆไว้ เสร็จก็จะมีพนักงานเเจกผ้าห่มครับ ช่วงดึกๆหนาวมากๆเลย เราไม่ได้เตรียมตัวให้ดีว่าจะเป็นเเบบนี้ นักท่องเที่ยวหลายๆคนพกที่นอนมาด้วยเราต้องนอนบนที่นั่งไม้เเข็งๆ นอนเเทบไม่หลับเลยทีเดียว (แต่ดีนะครับเขามีห้องเเยกหญิงและชาย) เอาละวะแค่คืนเดียวก็ไม่เป็นไรหรอก ส่วนห้องน้ำก็รอคิวกันไปครับ เสื้อผ้าก็เปลี่ยนมันตรงนี้ชะเลย
ยอดเขานี้เรียกว่า Darmstädter Hütte

หมอกปกครบเทือกเขาหนามากเลย นี่หรือที่เขาเรียกว่าทะเลหมอก
หลังจากที่เมื่อคนได้นอนไม่อิ่มนัก ก็ตื่นแต่เช้าาาาเลย ตื่นมา 6 โมงเช้าเปิดประตูออกมา โอ้วววว ยังกะไม่สวรรค์เเหนะหมอกลอยฟุ้งไปหมดเลย
อดใจไม่ไหววิ่งจับกล้องแล้วไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำ
อากาศในตอนเช้ามันสดชื่นมากๆเลยนะครับ เเสงแดดอ่อนๆ ท้องฟ้าสีครามจริงๆ

หลังจากที่เราถ่ายรูปกันแล้วเราก็ กลับมาที่พัก รอคิวที่ยาวเหยียดลางหน้าปะเเป้งละ กินอาหารเช้ากับกลิ่นกาแฟที่หอมน่าดื่มยามเช้า
เราก็ออกเดินทางกลับไปยังที่เรามาต่อ ขากลับนี่ไม่ยากครับเดินไม่ถีงสองชั่วโมง แทบวิ่งเลยลงเขาเนี๊ย
ทริปนี้เราเที่ยวเเบบวันหยุดสุดสัปดาห์เสาร์อาทิตย์ครับงบประมาณไม่รวมค่ารถหมดไม่ถึง 100Euro เเถมเหลือกลับบ้านอีกต่างหาก
ทริปเสริมถัดไปครับ ขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆ 2 อาทิตย์ที่ America สดๆร้อนเมื่อเดือนที่ผ่านมา 15/06/2015
ขอบคุณที่ติดตาม ครับผม
เ ที่ ย ว Europe กับนายเปาโล (Austria part1) เก็บกระเป๋า เอามาเเชร์ ตามคำเรียกร้องครับ,นอนบนยอดเขา
สวัสดีครับเพื่อนๆชาว บลูเเพลนเน็ต ทุกคนครับ ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ได้มาอาศัยอยู่ที่ ยุโรป Germany ได้สิบกว่าปีแล้ว และผมก็ได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวธรรมชาติต่างๆตามประเทศเพื่อนบ้านค่อนข้างบ่อย อาจจะว่าได้ว่าได้ไปเกือบทุกอาทิตย์ก็ว่าได้ เพราะ แถวที่ผมอยู่จะอยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมัน จะติด 3 ประเทศ Austria, Switzerland,France ขับรถแค่ไม่ถึงสามชั่วโมงก็ถึงแต่ละประเทศแล้วครับ ชึ่งมันก็ใกล้มากๆ มาแรกๆก็เเปลกดีครับแทบจะปรับภาษาไม่ทันเลยทีเดียว
และผมคิดว่าบางที่ที่ผมไป ก็อาจจะยังไม่มีนักท่องเที่ยว หรือยังไม่เป็นที่รู้จัก หรือยังไม่มีบริษัทจัดทัวร์ไปก็ได้ ผมเลยอยากจะเอารูปมาเเชร์ให้เพื่อนๆดูกัน (เพราะไม่อยากเก็บภาพไว้ดูคนหนิเดียวครับ)
อาจจะมี เกล็ดลับ เกร็ดน้อย ในการเที่ยวแต่ละทริปมาฝากด้วยครับ บางทีก็อาจจะมีประโยชน์สำหรับบางคน ที่กำลังเเพลนไปเที่ยวที่คนไม่เยอะเที่ยวเเบบ คนที่เขาอยู่ที่นี่กัน ทุกทริปที่ผมไปส่วนมากก็จะขับรถไปกันเองครับ
ขอฝากไว้นิดหนึ่งนะครับ ถ้าชอบก็กดไลค์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้ผมได้เอาทริปอื่นๆมาให้ดูต่อด้วยนะครับ เพราะผมมีอีกเยอะเลยทีเดียว มีทั้ง ต่างประเทศและในประเทศ สามารถ ติชม หรือแนะนำได้นะครับผมจะได้เอามาปรับปรุงเเก้ไข ขออภัยถ้าผมพิมพ์ผิดหรือไม่สุภาพด้วยนะครับผม
โอเคไปดูกันเล๊ยยยย
ถ้าถูกใจก็สามารถติดตาม ผมที่ https://www.facebook.com/YasoGoInter ขอบคุณ ทุก เเชร์ ทุกไลค์ ทุกเม้น ล้วนแต่เป็นกำลัง
เมืองนี้ชื่อว่า St. Anton am Arlberg ผมก็ขับรถออกจากบ้านแต่เช้าครับขับมาประมาณไม่ถึง สี่ชั่วโมง เราก็มาถึงที่นี่ประมาณ สี่โมงกว่าๆ ทริปนี่ผมใช้เงินสองคนหมดไม่ถึง 100Euro ครับรวมทุกอย่างยกเว้นค่าน้ำมันรถ เทคนิคคือ ผมจะเอาขวดน้ำเล็กๆใส่กระเป๋าเพื่อดื่มตอนเดิน ขนมขบเคี่ยวต่างๆ ที่สำคัญ การเดินไกลๆเราชื้อ กล้วย และ ช๊อตเเล็ต ไปด้วยนะครับช่วยได้เยอะเลยอันนี้ขาดไม่ได้ ประหยัดได้ประหยัดไปคริๆ ถ้าให้ดีก็ ทอดหมูเเดดเดียวพร้อมข้าวเหนียวนี่เเหละครับ
เราขี้นกระเช้าตัดเเรงเราได้ครึ่งทางครับ เราก็เดินมาได้สัก เกือบยี่สิบนาที เราก็นั่งพักชมวิวภูเขาที่สวยงาม ตัวเราเล็กมากๆครับมองรอบๆเขา ช่วงที่ผมไปไม่ร้อนมากเย็นๆสบายๆใส้เสื้อเเขนยาวบางๆ เป็นช่วง เดือน August
เดินมาหอบแทบจับเลยครับกว่าจะเดินขี้นมาบนยอดเขาอีกลูกได้ แต่เมื่อเราได้เห็นวิวเหมือนในรูปมันก็หายยยยเหนื่อยและอยากเดินต่อ เพราะอยากรู้ว่าด้านหน้ามีอะไรรอคอยเราอยู่
ผมชอบวิวตรงนี้มากครับ รู้สึกว่าจะเดินไม่กี่ก้าวก็นั่งตามเคยฮ๋าๆๆ รู้สึกไม่มีเเรงเเหละ หิวด้วยเลยเอาขนมและข้าวเหนียวหมูทอดที่เอามานั่งกินตรงนี้กันเลย เหมือนกับว่าข้าวเหนียวมันอหร่อยที่สุดเลย เพราะหิวหรือเปล่าเนี๊ย
น้ำหมดครับต้องหาที่เติมน้ำ มันเย็นยิ่งกว่าน้ำในตู้เเข็งเลย และผมเเบกลูกแตกโมมาครึ่งทางขอบอกว่าหนักมากกกก ต้องกินให้หมด
อืมเกือบจะถึงละอีกนิดเดียว เห้อออออ
หมอกกำลังลงพอดีเลยครับ
เราเรียงก้อนหิวมั่ง
เราเดินมาถึงที่หมายกันแล้วครับเดินมาหลายชั่วโมงเหมือนกันน่าจะราวๆ 6ชั่วโมงได้ แต่พอมาถึงเราไม่ได้ทำการจองที่นอน เราเข้าไปถามสรุปว่าห้องเต็มครับ และเราก็ไม่มีที่อื่นอีกแล้วด้วย เห้อออ ทำยังไงดีละทีนี้ ถ้าเดินกลับก็คงไม่ไหวแล้ว บ้านหลังนี้มีนักเดินเขาทั้งหมด 140 คน แล้วจะนอนกันยังไงอะ
เราก็หิวมากด้วยละของที่เอามาก็หมดแล้ว เหลือนิดหน่อยไว้กินตอนขาเดินกลับ
เราก็ถามพนักงานทำกำลังรับออเด้ออาหารเราอยู่ อยู่เรื่องห้องพัก
: ไม่มีห้องจริงๆหรือ
: พนักงาน ก็ตอบว่า ห้องเต็ม พร้อมยิ้มเเหยะๆ คุณต้องจองล่วงหน้าก่อนมาสองสามวันเพราะห้องจะเต็มตลอด คุณก็ต้องนอนที่ห้องอาหารนี่เเหละ
: เราก็คิดถามไปว่า เจงงงดี๊ คิดในใจต้องล้อเราเล่นเเหง๋ๆ (ห้องอาหารมีแต่โต๊ะเก้าอี้จะนอนยังไงอะนี่)
: พนักงาน รับออเด้อที่เราสั่งอาหารไป แล้วบอกว่า คุณต้องนอนห้องนี่จริงๆมะได้ล้อเล่น
: ตายละหว๋า คนก็เต็ม 140 คนเราจะอะไรยังไงนี่ เราก็มองช้ายมองขวา หาที่นั่งดีๆไม่ลุกไปไหนกลัวว่าจะเสียที่ จองไว้ก่อนละ
เราก็เอาของจองที่เราไว้บนเก้าอี้เเบบยาวๆไว้ เสร็จก็จะมีพนักงานเเจกผ้าห่มครับ ช่วงดึกๆหนาวมากๆเลย เราไม่ได้เตรียมตัวให้ดีว่าจะเป็นเเบบนี้ นักท่องเที่ยวหลายๆคนพกที่นอนมาด้วยเราต้องนอนบนที่นั่งไม้เเข็งๆ นอนเเทบไม่หลับเลยทีเดียว (แต่ดีนะครับเขามีห้องเเยกหญิงและชาย) เอาละวะแค่คืนเดียวก็ไม่เป็นไรหรอก ส่วนห้องน้ำก็รอคิวกันไปครับ เสื้อผ้าก็เปลี่ยนมันตรงนี้ชะเลย
ยอดเขานี้เรียกว่า Darmstädter Hütte
หมอกปกครบเทือกเขาหนามากเลย นี่หรือที่เขาเรียกว่าทะเลหมอก
หลังจากที่เมื่อคนได้นอนไม่อิ่มนัก ก็ตื่นแต่เช้าาาาเลย ตื่นมา 6 โมงเช้าเปิดประตูออกมา โอ้วววว ยังกะไม่สวรรค์เเหนะหมอกลอยฟุ้งไปหมดเลย
อดใจไม่ไหววิ่งจับกล้องแล้วไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำ
อากาศในตอนเช้ามันสดชื่นมากๆเลยนะครับ เเสงแดดอ่อนๆ ท้องฟ้าสีครามจริงๆ
หลังจากที่เราถ่ายรูปกันแล้วเราก็ กลับมาที่พัก รอคิวที่ยาวเหยียดลางหน้าปะเเป้งละ กินอาหารเช้ากับกลิ่นกาแฟที่หอมน่าดื่มยามเช้า
เราก็ออกเดินทางกลับไปยังที่เรามาต่อ ขากลับนี่ไม่ยากครับเดินไม่ถีงสองชั่วโมง แทบวิ่งเลยลงเขาเนี๊ย
ทริปนี้เราเที่ยวเเบบวันหยุดสุดสัปดาห์เสาร์อาทิตย์ครับงบประมาณไม่รวมค่ารถหมดไม่ถึง 100Euro เเถมเหลือกลับบ้านอีกต่างหาก
ทริปเสริมถัดไปครับ ขับรถเที่ยวไปเรื่อยๆ 2 อาทิตย์ที่ America สดๆร้อนเมื่อเดือนที่ผ่านมา 15/06/2015
ขอบคุณที่ติดตาม ครับผม