ปล.กระทู้นี้ไม่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเลิกกันของคุณแตงโมและโตโน่นะคะ
แต่เห็นกำลังเป็นประเด็น จขกทก็เลยเข้าไปเผือกมาบ้าง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฟังเคสของคุณแตงโมกับอีกประเด็นคือ โลกโซเชียล
เคสคุณแตงโม พูดเลยว่าสภาพจิตใจไม่ปกติจริงๆ เป็นมานานแค่ไหนแล้วไม่อาจทราบได้ ควรได้รับการรักษาอย่างจริงจัง
อย่าเห็นว่าเป็นดาราแล้วป่วยไม่ได้
และสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดมาคือ เธอยึดติดกับโลกโซเชียลมาก มากจนก่อแต่ผลเสียต่อตัวเธอเอง
อย่างที่ทราบๆกัน ทุกเคสทุกกรณีที่เธอตกเป็นข่าว ส่วนมากเกิดในโลกโซเชียลทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นการไปเม้นท์ด่าเม้นท์แซว เม้นท์ปากหมา ตั้งสเตตัส ลบสเตตัส อะไรต่างๆ หรือการไปอ่านที่คนอื่นพูดแล้ว
เกิดขัดใจก็ไปต่อล้อต่อเถียงกับเขา ทุกสิ่งที่เกิดคือจากโลกโซเชียลทั้งนั้น!
โลกโซเชียล คือดาบสองคมโดยแท้....
คนปกติทั่วไปถ้าไม่ยึดติดสิ่งเหล่านี้ ก็จะใช้ชีวิตแบบปกติในโลกปกติโดยที่ไม่ต้องสนใจโลกโซเชียล
คนที่นินทาเราแต่เราไม่ได้ยิน มันก็ไม่ร้อนใจเรา
กลับกัน เคสคุณแตงโม หรือยิ่งเด็กสมัยนี้ พวกเขาอยู่ในโลกเสมือนนี้มากกว่าโลกความจริงเสียอีก
เขาจะเซนซิทีฟต่อคำพูด การแชร์ภาพ จำนวนlike และความเห็นของคนที่ไม่รู้จัก จนมันบั่นทอนสุขภาพจิตของตัวเอง
เอาจริงๆพวกเราทุกคน ถ้ามีคนมานินทาหรือเกลียดเราด่าเรา แค่ 2 คนในชีวิต เราก็เครียดจะแย่แล้ว หรือก็รู้สึกไม่ดีมากๆ
แต่นี่เคสคุณแตงโมช่วงที่เป็นข่าวที่ผ่านๆมา มีคนด่าคนเกลียดกันเป็นหมื่นๆแสนๆ ด่าทุกรูป คอมเมนท์ทุกภาพ
ถึงคนจิตใจปกติมาอ่านก็คงจะกลายเป็นจิตไม่ปกติเข้าสักวัน ใจคงคิดว่าตัวกรูนั้นแย่ขนาดนั้นเชียวหรือ (ก็อาจจะแย่จริงๆ)
แต่นี่คุณแตงโมนี่มีอาการป่ายทางจิตเวทด้วย(ซึมเศร้าและแพนิคตามคำบอกเล่าของหมอ) บวกกับเป็นบุคคลที่เสพติดโซเชียล ยิ่งอาจทำให้เธอคิดมากไปอีกเท่าตัว
ใครๆก็เข้ามาด่าได้ในโลกโซเชียล.... อยู่ตรงไหนในมุมโลกก็ด่าได้ในโลกโซเชียล....
นี่ไงผลเสียของโซเชี่ยล น่าสงสารมากๆ
ล่าสุด เคสคุณแตงโมก็ยังคงเล่นโซเชียล และอัพเดทเกือบจะทุกชั่วโมง ใน ig monoeternallovestory (เอาจริงๆจขกทก็ไม่แน่ใจว่าใครสร้างขึ้นมาแต่ดูจากรูปภาพและคำพูดแคปชั่น คาดว่าอาจจะเป็นตัวคุณแตงโมเองที่เล่น)
ซึ่งสาเหตุอาจไม่ใช่แค่อยากสร้างกระแส
สาเหตุอาจจะเป็นจากการอยากเรียกร้องความสนใจจากฝ่ายตรงข้าม (เผื่อเขามาอ่าน) --กรณีนี้ไม่ต่างจากคนสมัยนี้หลายๆคนที่พอทะเลาะกะแฟนต้องมาพิมพ์ลงโซเชียล หลักๆเพื่ออยากให้แฟน(คนเดียวเท่านั้น)นี่แหละ เข้ามาอ่าน
หรือสาเหตุอาจเป็นจากอยากเก็บภาพความทรงจำช่วงหวานซึ้งเอาไวัดูต่างหน้า --แต่ก็อีกนั่นแหละพวกคนเสพติดโซเชียล เขาจะไม่ดูคนเดียว เขาจะต้องแชร์ให้คนอื่นรู้ด้วย
ค่อนข้างจะอันตรายมากๆ
การแชร์หรือพิมพ์หรือต่อว่าอะไรต่างๆ หรือบรรยายความรู้สึกของตัวเองขณะนั้นลงในโซเชียล นอกจากจะทำให้คนอื่น(ที่ทั้งรู้จักและไม่รู้จักคุณ) มองคุณไปในทางที่ไม่ค่อยดี,วิพากวิจารณ์, หรือบางคนอาจจะรำคาญเลยด้วยซ้ำ
การที่คุณกลับมาอ่านสิ่งที่คุณแชร์ขณะที่สภาพจิตใจไม่ปกติในอีก 1-2วันข้างหน้า คุณจะพบว่าคุณไม่ควรจะพิมพ์มันลงไปและมันดูไร้สาระมากจริงๆ
เพราะฉะนั้น ฝากถึงหลายๆคนที่ติดโซเชียลรู้สึกอะไรต้องแชร์ด้วยนะ
ก่อนพิมพ์ ก่อนแชร์ ก่อนเวิ่นเว้อ หรือก่อนพิมพ์ด่าใคร
ลองหยุดอยู่เฉยๆ หาอะไรกิน หรือไปอาบน้ำก็ได้
เมื่อผ่านไป 1 ชม รับรองว่าสิ่งที่คุณคิดในหัวมันจะเปลี่ยนไปแล้ว
(ความคิดคนเราเปลี่ยนตลอดเวลาโดยที่ไม่รู้ตัว)
และคุณจะไม่รู้สึกว่าอยากจะพิมพ์เรื่องราวที่คิดไว้ตอนนั้นอีก
อยู่กับตัวเองและคนรอบข้างให้มาก ลดละเลิกโซเชี่ยลบ้าง แล้วชีวิตคุณจะง่ายและเป็นสุขขึ้นเยอะเลย
สวัสดี
เคสคุณแตงโมกับอีกประเด็นคือ โลกโซเชียล!?
แต่เห็นกำลังเป็นประเด็น จขกทก็เลยเข้าไปเผือกมาบ้าง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฟังเคสของคุณแตงโมกับอีกประเด็นคือ โลกโซเชียล
เคสคุณแตงโม พูดเลยว่าสภาพจิตใจไม่ปกติจริงๆ เป็นมานานแค่ไหนแล้วไม่อาจทราบได้ ควรได้รับการรักษาอย่างจริงจัง
อย่าเห็นว่าเป็นดาราแล้วป่วยไม่ได้
และสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดมาคือ เธอยึดติดกับโลกโซเชียลมาก มากจนก่อแต่ผลเสียต่อตัวเธอเอง
อย่างที่ทราบๆกัน ทุกเคสทุกกรณีที่เธอตกเป็นข่าว ส่วนมากเกิดในโลกโซเชียลทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นการไปเม้นท์ด่าเม้นท์แซว เม้นท์ปากหมา ตั้งสเตตัส ลบสเตตัส อะไรต่างๆ หรือการไปอ่านที่คนอื่นพูดแล้ว
เกิดขัดใจก็ไปต่อล้อต่อเถียงกับเขา ทุกสิ่งที่เกิดคือจากโลกโซเชียลทั้งนั้น!
โลกโซเชียล คือดาบสองคมโดยแท้....
คนปกติทั่วไปถ้าไม่ยึดติดสิ่งเหล่านี้ ก็จะใช้ชีวิตแบบปกติในโลกปกติโดยที่ไม่ต้องสนใจโลกโซเชียล
คนที่นินทาเราแต่เราไม่ได้ยิน มันก็ไม่ร้อนใจเรา
กลับกัน เคสคุณแตงโม หรือยิ่งเด็กสมัยนี้ พวกเขาอยู่ในโลกเสมือนนี้มากกว่าโลกความจริงเสียอีก
เขาจะเซนซิทีฟต่อคำพูด การแชร์ภาพ จำนวนlike และความเห็นของคนที่ไม่รู้จัก จนมันบั่นทอนสุขภาพจิตของตัวเอง
เอาจริงๆพวกเราทุกคน ถ้ามีคนมานินทาหรือเกลียดเราด่าเรา แค่ 2 คนในชีวิต เราก็เครียดจะแย่แล้ว หรือก็รู้สึกไม่ดีมากๆ
แต่นี่เคสคุณแตงโมช่วงที่เป็นข่าวที่ผ่านๆมา มีคนด่าคนเกลียดกันเป็นหมื่นๆแสนๆ ด่าทุกรูป คอมเมนท์ทุกภาพ
ถึงคนจิตใจปกติมาอ่านก็คงจะกลายเป็นจิตไม่ปกติเข้าสักวัน ใจคงคิดว่าตัวกรูนั้นแย่ขนาดนั้นเชียวหรือ (ก็อาจจะแย่จริงๆ)
แต่นี่คุณแตงโมนี่มีอาการป่ายทางจิตเวทด้วย(ซึมเศร้าและแพนิคตามคำบอกเล่าของหมอ) บวกกับเป็นบุคคลที่เสพติดโซเชียล ยิ่งอาจทำให้เธอคิดมากไปอีกเท่าตัว
ใครๆก็เข้ามาด่าได้ในโลกโซเชียล.... อยู่ตรงไหนในมุมโลกก็ด่าได้ในโลกโซเชียล....
นี่ไงผลเสียของโซเชี่ยล น่าสงสารมากๆ
ล่าสุด เคสคุณแตงโมก็ยังคงเล่นโซเชียล และอัพเดทเกือบจะทุกชั่วโมง ใน ig monoeternallovestory (เอาจริงๆจขกทก็ไม่แน่ใจว่าใครสร้างขึ้นมาแต่ดูจากรูปภาพและคำพูดแคปชั่น คาดว่าอาจจะเป็นตัวคุณแตงโมเองที่เล่น)
ซึ่งสาเหตุอาจไม่ใช่แค่อยากสร้างกระแส
สาเหตุอาจจะเป็นจากการอยากเรียกร้องความสนใจจากฝ่ายตรงข้าม (เผื่อเขามาอ่าน) --กรณีนี้ไม่ต่างจากคนสมัยนี้หลายๆคนที่พอทะเลาะกะแฟนต้องมาพิมพ์ลงโซเชียล หลักๆเพื่ออยากให้แฟน(คนเดียวเท่านั้น)นี่แหละ เข้ามาอ่าน
หรือสาเหตุอาจเป็นจากอยากเก็บภาพความทรงจำช่วงหวานซึ้งเอาไวัดูต่างหน้า --แต่ก็อีกนั่นแหละพวกคนเสพติดโซเชียล เขาจะไม่ดูคนเดียว เขาจะต้องแชร์ให้คนอื่นรู้ด้วย
ค่อนข้างจะอันตรายมากๆ
การแชร์หรือพิมพ์หรือต่อว่าอะไรต่างๆ หรือบรรยายความรู้สึกของตัวเองขณะนั้นลงในโซเชียล นอกจากจะทำให้คนอื่น(ที่ทั้งรู้จักและไม่รู้จักคุณ) มองคุณไปในทางที่ไม่ค่อยดี,วิพากวิจารณ์, หรือบางคนอาจจะรำคาญเลยด้วยซ้ำ
การที่คุณกลับมาอ่านสิ่งที่คุณแชร์ขณะที่สภาพจิตใจไม่ปกติในอีก 1-2วันข้างหน้า คุณจะพบว่าคุณไม่ควรจะพิมพ์มันลงไปและมันดูไร้สาระมากจริงๆ
เพราะฉะนั้น ฝากถึงหลายๆคนที่ติดโซเชียลรู้สึกอะไรต้องแชร์ด้วยนะ
ก่อนพิมพ์ ก่อนแชร์ ก่อนเวิ่นเว้อ หรือก่อนพิมพ์ด่าใคร
ลองหยุดอยู่เฉยๆ หาอะไรกิน หรือไปอาบน้ำก็ได้
เมื่อผ่านไป 1 ชม รับรองว่าสิ่งที่คุณคิดในหัวมันจะเปลี่ยนไปแล้ว
(ความคิดคนเราเปลี่ยนตลอดเวลาโดยที่ไม่รู้ตัว)
และคุณจะไม่รู้สึกว่าอยากจะพิมพ์เรื่องราวที่คิดไว้ตอนนั้นอีก
อยู่กับตัวเองและคนรอบข้างให้มาก ลดละเลิกโซเชี่ยลบ้าง แล้วชีวิตคุณจะง่ายและเป็นสุขขึ้นเยอะเลย
สวัสดี