วันก่อนโบก taxi จากสถานทูตพม่าไปลงที่แห่งหนึ่ง
คุณลุงคนขับทักทาย จนรู้ว่าไปทำวีซ่ามา
และรู้ว่า ผมจะไปเทคคอร์สปฏิบัติธรรมที่นั่น
คุณลุงเลยเล่าว่า เคยนับถือศาสนานึง
แต่ตอนนี้เป็นศาสนานึง
ตั้งแต่นับถือมา ก็งดทำบาปเพื่อพระเจ้า
ผมก็ชื่นชมแกว่าดีนะ เมื่อศรัทธาใครแล้วเรามีกำลังใจ
ซักพักแกควักคัมภีร์เล่มหนามาวาง
และเข้าจังหวะก็เริ่มพูดบทในคัมภีร์เรื่อยๆ
ผมนึกในใจว่า คนไรวะพูดได้ไม่หายใจ
เหมือนเป็นหุ่นยนต์ พูดๆๆ ถึงคัมภีร์
แรกๆ ก็ตั้งใจฟัง จนเยอะไปชักรำคาญ
เลยถามแกว่า
ผม : นี่ลุง วางใจยังไงเมื่อเราต้องเจอกับคนที่เห็นต่างจากเรา ?
ลุง : (ทำนองว่า) ผมก็รู้ยอมรับได้ .....
แล้วเทศน์ต่อ ....
ผมเลยขัดแก (เสร็จ ตากรูล่ะ)
ผม : ลุงรู้มั้ยว่า ที่ลุงพูดมาเนี่ย
วิทยาศาสตร์กระบวนทัศน์ใหม่เค้าเรียกว่า vortex นะ อยากได้อยากขออะไร ก็ทำตัวให้อยู่ในกระแสโลก ตามกระแสไป ....ทางพุทธก็มีเรื่องนี้นะ เหมือนกันเลย
"อย่างนี้แล้ว ลุงเห็นว่ายังไงล่ะ"
ลุง : ไม่ได้ต้องเชื่อในพระเจ้าเท่านั้น
ผม : (จังหวะใกล้ลงรถ) หรอๆ ผมเชื่อลุงนะ แต่ผมไม่เชื่อในพระเจ้านะ และผมก็ได้อะไรที่ต้องการมาฟรีๆ เลย
'การตามกระแส มันเป็นของกลางๆ ของโลกนะลุง .....
ลุงแกคงทึ่งไปบ้าง ช่วงลงรถพอดี
.
.
.
อยากจะบอกว่า ถ้าผมจะหักลุงตั้งแต่แรกหน่ะง่ายshipหาย
จี้จุดแกหน่อยก็หงายแล้ว
แต่ผมก็เลือก ฟังอย่างตั้งใจ แต่พอเยอะไป
และท่าจะหยุดยาก ก็ขอเล็กๆ เป็นนํ้าจิ้มหน่อย
และ
เรื่องนี้ ผมไม่ได้มีปัญหาไรกับพี่น้องคริสเตียนเลย
ดูแล้ว น่าเป็นเรื่องคุณลุงที่กำลังอยู่ในฐานะผู้ให้บริการขับ taxi
ที่ผมคิดว่า taxi ไทยนี่คงไม่ได้มีจรรยาบรรณคนขับที่ชัดเจน
เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยสำนึกส่วนตัวกระมัง
.
.
.
เรียนถามพี่น้องคริสเตียนว่า
หากเราเจอเหตุการณ์เช่นนี้
ควรทำเช่นไรเพื่อเลี่ยงการฟังเรื่องที่เราไม่สะดวกใจครับ ?
เมื่อเจอคนขับ taxi สวมบทนักเทศน์ ....
คุณลุงคนขับทักทาย จนรู้ว่าไปทำวีซ่ามา
และรู้ว่า ผมจะไปเทคคอร์สปฏิบัติธรรมที่นั่น
คุณลุงเลยเล่าว่า เคยนับถือศาสนานึง
แต่ตอนนี้เป็นศาสนานึง
ตั้งแต่นับถือมา ก็งดทำบาปเพื่อพระเจ้า
ผมก็ชื่นชมแกว่าดีนะ เมื่อศรัทธาใครแล้วเรามีกำลังใจ
ซักพักแกควักคัมภีร์เล่มหนามาวาง
และเข้าจังหวะก็เริ่มพูดบทในคัมภีร์เรื่อยๆ
ผมนึกในใจว่า คนไรวะพูดได้ไม่หายใจ
เหมือนเป็นหุ่นยนต์ พูดๆๆ ถึงคัมภีร์
แรกๆ ก็ตั้งใจฟัง จนเยอะไปชักรำคาญ
เลยถามแกว่า
ผม : นี่ลุง วางใจยังไงเมื่อเราต้องเจอกับคนที่เห็นต่างจากเรา ?
ลุง : (ทำนองว่า) ผมก็รู้ยอมรับได้ .....
แล้วเทศน์ต่อ ....
ผมเลยขัดแก (เสร็จ ตากรูล่ะ)
ผม : ลุงรู้มั้ยว่า ที่ลุงพูดมาเนี่ย
วิทยาศาสตร์กระบวนทัศน์ใหม่เค้าเรียกว่า vortex นะ อยากได้อยากขออะไร ก็ทำตัวให้อยู่ในกระแสโลก ตามกระแสไป ....ทางพุทธก็มีเรื่องนี้นะ เหมือนกันเลย
"อย่างนี้แล้ว ลุงเห็นว่ายังไงล่ะ"
ลุง : ไม่ได้ต้องเชื่อในพระเจ้าเท่านั้น
ผม : (จังหวะใกล้ลงรถ) หรอๆ ผมเชื่อลุงนะ แต่ผมไม่เชื่อในพระเจ้านะ และผมก็ได้อะไรที่ต้องการมาฟรีๆ เลย
'การตามกระแส มันเป็นของกลางๆ ของโลกนะลุง .....
ลุงแกคงทึ่งไปบ้าง ช่วงลงรถพอดี
.
.
.
อยากจะบอกว่า ถ้าผมจะหักลุงตั้งแต่แรกหน่ะง่ายshipหาย
จี้จุดแกหน่อยก็หงายแล้ว
แต่ผมก็เลือก ฟังอย่างตั้งใจ แต่พอเยอะไป
และท่าจะหยุดยาก ก็ขอเล็กๆ เป็นนํ้าจิ้มหน่อย
และ
เรื่องนี้ ผมไม่ได้มีปัญหาไรกับพี่น้องคริสเตียนเลย
ดูแล้ว น่าเป็นเรื่องคุณลุงที่กำลังอยู่ในฐานะผู้ให้บริการขับ taxi
ที่ผมคิดว่า taxi ไทยนี่คงไม่ได้มีจรรยาบรรณคนขับที่ชัดเจน
เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยสำนึกส่วนตัวกระมัง
.
.
.
เรียนถามพี่น้องคริสเตียนว่า
หากเราเจอเหตุการณ์เช่นนี้
ควรทำเช่นไรเพื่อเลี่ยงการฟังเรื่องที่เราไม่สะดวกใจครับ ?