ความจริงจากปากของคนที่บอกว่ารักคุณมากในวันที่คุณท้อง

เชื่อว่าหลายคนที่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นพ่อแม่คน มันมาพร้อมกับความตื่นเต้นและดีใจ และคงตกใจสำหรับคนที่ยังไม่พร้อม แต่จงบอกตัวเองว่า นั่นคือของขวัญที่สวรรค์ให้คุณมา

ก่อนอื่นขอบอกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวของเจ้าของกระทู้เอง นี่เป็นหัวข้อแรกของเจ้าของกระทู้ อาจวกวนไปมา แต่จะเรียบเรียงให้รู้เรื่องที่สุด ขอแทนตัวเองว่า เอ และพ่อของเด็กว่าออฟ

เอกับออฟเราเคยทำงานที่เดียวกัน เอทำงานเป็นไอทีส่วนออฟทำงานอีกแผนก เรารู้จักกันมาปีกว่า เพราะออฟเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ปีกว่า แต่โลกกลมกว่านั้นตรงเอกับออฟเรียนจบจากที่เดียวกัน ออฟรู้จักเอมาก่อนตั้งแต่เรียนมหาลัย แต่เราเพิ่งคุยกันเมื่อสามเดือนก่อน ก่อนหน้านี้ทั้งออฟและเอต่างก็มีแฟนอยู่แล้ว แต่เอเพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อสามเดือนก่อน ในช่วงที่ออฟก็ห่างกับแฟนเหมือนกัน

เรื่องเกิดขึ้นเมื่อเอแอบปลื้มรุ่นพี่ของเอคนหนึ่ง และรุ่นพี่ได้ชวนเอไปดูบอลคู่ อาเซนอล ลิเวอร์พูล เอเด็กหงส์ ส่วนรุ่นพี่เด็กปืน เราไปดูบอลกันที่ร้านแห่งหนึ่ง และในวันนั้นออฟก็ไปดูบอลเหมือนกัน ออฟเห็นเราเลยทักเฟสมา ว่าเห็นนะ มากับไครเหรอ เอเป็นผู้หญิงเฮฮา ฮามากกว่า ภายนอกจะดูตลก โก๊ะมากๆ เลยตอบไปว่า กำลังอ่อยผู้ชาย อย่าเพิ่งมายุ่งกับฉัน และออฟก็บอกกับเราว่ารีบๆกลับหล่ะเป็นห่วง เราก็ไม่ได้สนใจออฟ เพราะวันนั้นเอโฟกัสไปที่รุ่นพี่มากกว่า

วันต่อมาบ่ายๆ ออฟทักเฟสมาว่าเราไปดูหนังกันไหม ตอนนั้น Fast7 กำลังเข้า วินาทีนั้นเราก็ตามประสาสาวโสด ที่ชอบหยอดหนุ่มๆ ก็บอกว่าไปสิ แล้วแต่คนเลี้ยง ซึ่งเอไม่ได้จริงจังอะไร จนตกเย็น ออฟทักมาว่าปะไปดูหนังกัน ในวันนี้เอได้นัดกับเพื่อนไปปาร์ตี้กัน ออฟเลยทำเชิงงอลๆว่านัดแล้วก้ไม่ทำตามนัด ตอนแรกเอก็งงๆว่าจะบ้าเหรอ เป็นไรกันมาชวนเราไปดูหนัง

และเอก็ไปปาร์ตี้กับเพื่อน แต่ออฟก็มีปาร์ตี้กับเพื่อนเหมือนกันกับร้านไกล้ๆร้านที่เอไป และโทรมาชวนว่าไปนั่งด้วยกัน ขอบอกก่อนว่าที่ทำงานเราติดต่อกันผ่านวอทแอพ ซึ่งหมายความว่าพนักงานทุกคนจะมีเบอร์กันและกันโดยที่ไม่ได้รู้จักกัน โอเค เอเลยไปนั่งกินกับออฟ เพราะถือว่าขอโทษแล้วกันที่ไม่ได้ไปดูหนังด้วย

เราไปนั่งแปปนึงและก็กลับมานั่งกับเพื่อนๆต่อ เค้าก็ทักมาเรื่อยๆนะ ว่ากลับตอนไหน ให้ไปส่งไหม เราก็โสดๆไง เลยหยอดๆให้เค้าไปส่ง แลดูเราอ่อยไปนะ แต่เขาก็มาส่งเราที่บ้าน ปลอดภัยดีค่ะ และเขาก็กลับไป พอเขาถึงบ้านก็โทรหาเรา

วันนั้นเราคุยกันถึงตีสองกว่า เราก็ถาม จะจีบพี่เหรอ (คือเอเข้าทำงานที่นี่ก่อนออฟ ออฟเลยเรียกว่าพี่) ออฟเลยบอกว่าคิดว่าอะไรหล่ะ จีบป่ะหล่ะ โทรมาตั้งขนาดนี้ แล้วแต่จะคิดเลย เราก็ไม่ได้โง่นะ เอก็โอเค แต่ก็ถามออฟนะว่าโสดจริงเหรอ เค้าบอกโสด   จีบก็จีบ

ตอนนั้นเอมีแพลนจะลาออกไปหางานใหม่ ไม่ได้มีปัญหานะ เอทำงานอยู่ที่นี่มาสามปีแล้ว และอยากไปหาประสบการณ์ใหม่ เลยตัดสินใจลองคุยกับออฟดูเผื่อจะเวิร์ค เพราะตอนนั้นเอเองก็โสด และคิดว่าถ้าไม่เวิร์คเราก็จะออกแล้วคงไม่เป้นอะไร

เราก็คุยกันมาเรื่อยๆนะ ดูหนังด้วยกัน กินข้าวเย็นด้วยกัน เหมือนจะมีความสุขนะ โดยตอนนั้นเอไม่ได้สนใจว่าออฟมีแฟนหรือเปล่าเพราะเราเป้นคนโมงโลกในแง่ดีมาก คิดว่าเขาคงไม่โกหกหรอก แต่แล้วเราก็รู้ว่าออฟยังไม่เลิกกับแฟนแค่ห่างกัน วันนั้นเอตัดสินใจเลิกคุยกับออฟ และบอกออฟว่าไปเลิกกันก่อนแล้วคอยกลับมาคุยกับเอ เอเป็นคนที่ค่อนข้างโลกสวย ทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้แบบนี้นะ ผู้ชายต้องแบบนี้แบบนี้ ชอบผู้ชายให้เกียรติ เป็นสุภาพบุรุษ เอเลยตัดสินใจหยุดคุยกับออฟ ในวันที่เรารู้สึกดีต่อกันแล้วนะ

ช่วงเวลา 1 เดือนสุดท้ายของการทำงานที่เดียวกัน เออึดอัดมาก คือเอไม่อยากให้ทุกคนรู้ว่าเราคุยกัน แต่ออฟจะพยายามทำให้ทุกคนรู้ว่าเราคุยกัน ทั้งๆที่ที่ทำงานทุกคนรู้ว่าออฟมีแฟนอยู่แล้วนะ เรายิ่งรู้สึกแย่ และในที่สุดเอก็ออกจากงาน และหยุดพักการทำงาน 1 เดือน เพราะเอทำงานตั้งแต่เรียนจบ ยังไม่เคยหยุดพักผ่อนเลยคิดพักผ่อน

ช่วงนั้นมีการสอบเข้าการทำงานในที่ที่หนึ่งที่มันโอเคมาก เอเลยตัดสินใจสอบเผื่อติด และออฟก็ขอให้เอสอบที่นี่ทำงานที่นี่ เพราะไม่อยากให้เอไปทำงานที่อื่น แน่นอนเอสอบติดได้ทำงานในที่นั้น เรื่องมันไม่ได้ราบรื่นแบบที่ทุกคนคิด ตลอดเวลาออฟยังติดต่อกับเออยู่ ออฟบอกกับเอว่าออฟกำลังจะเลิกกับแฟนแล้ว แต่เป็นเพราะแฟนคนนี้เข้าบ้านแล้วไมได้เลิกง่ายๆ แต่ตอนนี้ต่างคนต่างอยู่แล้ว เอก็เชื่อเพราะคิดว่าออฟคงไม่โกหกหรอก

ออฟเริ่มเข้ามาในชีวิตเอมากขึ้น มาอยู่ด้วยและขอนอนด้วย ซึ่งเอก็ไม่โอเค แต่ด้วยความเร้าหรือของผู้ชาย เอเลยยอมให้นอนด้วย และสัญญาว่าเราจะไม่ทำอะไรกันนะ เอยังไม่พร้อม และออฟก็สัญญาว่าจะไม่ทำ กว่าจะผ่านไปแต่ละคืนมันลำบากมาก นอนไปด้วยความระแวง มือไม้ปลาหมึก บอกก่อนว่าเอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเรียบร้อย ไม่มั่ว ไม่ใจง่าย และไม่ได้มีแฟนเป็นผู้ชาย การใช้ชีวิตกับผู้ชายมันเลยไม่ปกติ และสุดท้ายเอก็พลาด  จะบอกว่าเอถูกขืนใจก็ไม่ใช่ เพราะเราเองอายุเยอะ บรรลุนิติภาวะแล้ว (เอ 25 ปี) แต่ไม่ใช่กินยินยอม

เรื่องโชคร้ายก็เกิดขึ้นจริงๆ เอท้อง และรีบโทรไปบอกออฟว่า เอท้อง ตอนนี้บอกความรู้สึกไม่ถูกจริงๆ คำถามเต็มหัวไปหมดไม่รู้ดีใจหรือเสียใจ แต่มันไม่โอเคแน่ๆ เพราะตอนนี้ออฟยังไม่เลิกกับแฟน เอส่งรูปที่ตรวจครรภ์ส่งให้ออฟดูทางข้อความ โดยวินาทีนั้นออฟอยู่กับแฟน และแฟนออฟโทรมาถามวาพี่คะที่พี่ส่งมานี่คืออะไรเหรอ วินาทีนั้นเอตัวลอย ไร้ความรู้สึก ไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืออะไร ฝันไปหรือเปล่า และเย็นวันนั้น ออฟโทรมาบอกเลิกเอ เอาสิมีอะไรแย่ไปกว่านี้ไหม ท้อง ท้องไม่มีพ่อ โดนแฟนบอกเลิก และคนของแฟนของออฟที่โทรมาต่อว่าเอ และโพสเฟสบุคด่าเอ ว่าเอเป็นผู้หญิงไม่ดี เออ่อยผู้ชาย เอจับผู้ชาย เอใจง่าย ทั้งๆที่เรื่องทั้งหมดเอไม่ได้ต้องการให้เกิดขึ้น เอบอกออฟเสมอที่เอไม่ยอมมีอะไรด้วย เพราะเอกลัวเอท้อง และปัญหาจะตามมามากมาย และมันเกิดขึ้นจริงๆ

เอคิดว่าเรื่องนี้มันใหญ่มากและออฟคงตกใจ เลยบอกเลิกเอ และเอเองก็ได้รู้ความจริงว่าออฟยังรักดีกับแฟน แค่ห่างๆกัน และเมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้น มันทำให้ออฟเลิกที่จะรักแฟน และปล่อยเอ แต่เพื่อเอได้โทรไปบอกออฟว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะ ทำท้องแล้วต้องรับผิดชอบ ออฟก็โอเค เค้าหายไปสองวัน และมาหาเอ บอกว่าบอกแม่แล้วนะ แม่บอกให้มาตรวจว่าท้องจริงเหรอ ให้เอาที่ตวจครรภ์มาตรวจ เราก็ตรวจและท้องจริงๆ

วันรุ่งขึ้น ออฟส่งข้อความมาบอกเอว่าเอาเด็กออกเถอะนะ ออฟไม่ได้รักเอแล้ว ออฟรักแฟน และพ่อแม่รับไม่ได้ที่ทำเอท้อง ขอบอกไว้ก่อนว่าเอไม่เคยคิดจะเอาลูกออก เพราะลูกไม่ผิด มันบาป สิ่งที่เอต้องการเพียงแค่ออฟบอกพ่อแม่เอว่านี่นะคือพ่อของเด็ก ไม่ได้ต้องการค่าเลี้ยงดูจากออฟ แม้กระทั่งความรัก เอไม่ได้ต้องการเลย

เอเป็นลุกมีพ่อมีแม่ และเป็นความหวังสูงสุดของครอบครัว คือเอเป็นความภูมิใจของครอบครัว แน่นอนสิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่แย่มากสำหรับเอ เอยอมรับว่าเอผิด ที่ปล่อยให้ออฟเข้ามาในชีวิตในขณะที่รู้ว่าออฟมีแฟนอยู่แล้ว แต่เพราะเชื่อคำพูดของออฟที่บอกว่าต่างคนต่างอยู่ และเชื่อว่าออฟรักเอจริงๆ  คิดว่าออฟจะเลือกเอ ตอนเที่ยงออฟโทรมาขอร้องให้เอเอาลูกออกอีกครั้ง แต่เอยืนยันว่าเอไม่มีวนเอาลูกออกแน่ๆ ออฟเลยโอเค ไม่เอาออก็ไม่เอาออก

ตกเย็นแฟนของออฟโทรมาบอกเอว่า จะไม่มีวันได้อะไรจากออฟ ทั้งความรัก เงิน แม้กระทั่งลูกออฟก้ไม่เอา ไปยิ้มเอากับไครแล้วมาบอกว่าท้องกับออฟ

ณ วันนี้ เราตั้งท้องได้ 5 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการนับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งล่าสุด ถ้านับจากวันที่ปฏิสนธิก็ประมาณ 3 สัปดาห์ ซึ่งแฟนออฟสั่งให้เราไปซาวเพื่อดูอายุครรภ์จริงๆ และเอกยินยอมที่จะตรวจ แต่ด้วยอายุครรภ์มันน้อยมาก จึงไม่เจอ ณ วันนี้ออฟบอกเอว่าออฟจะรับผิดชอบทุกๆอย่าง ที่ทำแค่ต้องการให้แฟนสบายใจและเชื่อว่าท้องกับออฟจริงๆ

วันต่อมาออฟบอกเอวาจะมากินข้าวเที่ยงด้วย แต่ความจริงออฟพาไปตรวจที่คลิดนิกแห่งหนึ่งหาอายุครรภ์จริงๆ และผลก็ออกมาเหมือนเดิม หาไม่เจอเพราะอายุครรภ์น้อยมาก และเอจึงบอกออฟว่า ถ้าเอหาหลักฐานว่าท้องแค่สามสัปดาห์จริงๆ แฟนออฟจะยอมหยุดใช่ไหม หยุดวุ่นวายกับเอ และเอก็สามารถตรวจหาอายุครรภ์จริงๆ มีคลินิกที่หนึ่งที่สามารถตรวจได้โดยการส่องเจ้าไปในช่องคลอด และผลออกมาคือ 5 สัปดาห์ 2 วัน

รู้ไหม วินาทีที่ส่องเห็นก้อนดำๆมันเป็นอะไรที่พิเศษมาก มันคือลูกของเอ เอบอกหมอระวังนะคะ เอกลัวลูกหลุด  และบอกตัวเองว่าเอจะรักษาลุกให้ดีที่สุด และเอก็เอาแผ่นอัลตร้าซาวไปให้ออฟ และบอกออฟว่าเอขอให้ทุกอย่างจบนะ ออฟรับปากว่ามันจะจบ

แต่สุดท้ายแล้วออกก็บอกว่า ให้ไปเอาออก ไปเอาออกซะ ออฟไม่เอา ไม่ใ่ลูกออฟ ถึงใช่ออฟก้ไม่เอา ไม่เอาออกก็แล้วแต่ คือแบบ อึน มึน งง แล้วเอก้ถามตัวเองว่าเอทำแบบนี้ถูกแล้วเหรอ การเอาเด็กไว้ และการขอให้ออฟมารับเป็นพ่อมันเป็นเรื่องเห็นแก่ตัวหรือเปล่า เพราะเค้ายังรักกันดี และรักกันมาก เราเป็นนางมารร้ายหรือเปล่า

แต่ด้วยอะไรไม่รู้ เพื่อนเอได้พาเอไปบ้านออฟ และจ๊ะเอ๋ ออฟกับแฟนกำลังไปขอนแก่นกัน แฟนออฟกำลังเปิดประตูรถและค้างอยู่อย่างนั้นเมื่อเห็นเอบุกไปถึงบ้าน เอเดินไปหาแฟนออฟและบอกว่ามีเรื่องจะคุย แลให้ออฟลงมาคุยด้วย แต่ออฟไม่ลงมาบอกว่าแม่ไม่สบายไปคุยข้างนอกได้ไหม หน้าซอยก้ได้ แต่วินานั้นเอกับออฟเกินจุดที่จะคุยกันได้แล้ว ออฟขับรถออกไป แต่เอเดินเข้าไปในบ้านและพ่อเลี้ยงของออฟก็ออกมา ออฟเป็นลุกตำรวจระดับสูงคนหนึ่ง เอบออกพ่อว่าเอท้องกับออฟ ทุกคนก็อึนมึนงง กับเหตุการที่เกิดขึ้น ออฟขับรถกลับมาและเดินเข้ามาในบ้าน แม่ออฟเรียกออฟไปคุยด้วยและขอให้เอกลับก่อน เอเดินออกมาและจะกลับ แต่เพื่อนๆเอยังไม่กลับและยินอยู่หน้าบ้านออฟ และออฟก็เดินออกมา ตะโกนบอกว่า กูบอกแล้วว่าค่อยคุยกัน ให้พวกกลับไปก่อน กูไม่ได้เก่งแค่ในบ้าน นอกบ้านกูก็เก่ง (ทุกความรู้สึกดีดีที่เคยมีให้ จบลง)


ช่วงแรก เอมีปัญหาว่าจะบอกทางบ้านอย่างไง เอเครียดมาก เอเป็นความหวังของครอบครัว เป็นความภูมิใจสูงสุดของครอบครัว แล้วเอกำลังทำให้ทุกคนผิดหวัง ทำให้ทุกคนเสียใจ และแม่ต้องร้องให้ผิดหวังในตัวเอ คือทุกๆความไว้ใจ ทุกๆความหวัง ทุกๆอย่างที่ทุกคนมอบให้เอ เอทำลายมันหมด เอปรึกษาเพื่อนๆเอ ว่าเอจะทำอย่างไง หลายคนแนะนำให้เอาออก ปัญหาจะได้จบ (มันเป็นความคิดเห็นที่แย่มากสำหรับเอ) และเอตัดสินใจบอกพี่สะใภ้ของเอ ซึ่งกำลังท้องเหมือนกัน พี่ชายเอและพี่สะใภ้เอ รู้ว่าเอมีปัญหา เพราะเขาจะคอยติดตามชีวิตเอผ่านเฟสบุค เอปิดเฟสบุคตั้งแต่มีปัญหา เอเป็นคนติดเฟสบุคมาก ทุกคนรู้ทันทีว่าเอมีปัญหา ถึงขั้นปิดเฟสบุค และเขาก็ให้กำลังใจเอเมื่อรู้ความจริง เอผ่านด่านแรกไปได้ คราวนี้เหลือแค่เอหาโอกาศบอกแม่ ในช่วงเวลาที่เหมาะสม และหวังว่าแม่จะเข้าใจเอ



ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นในตัวเอ เออยากแชร์ประสบการณ์ชีวิตให้เพื่อนๆได้ฟัง อย่ามองโลกในแง่ดีเกินไป และครอบครัวพร้อมจะให้อภัยเราเสมอ ลูกเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดที่สวรรค์ให้มา รักษาชีวิตที่บริสุทธิ์นี้ได้และวันที่คุณเห็นหน้าเค้า คุณจะเข้าใจว่าที่คุณอดทนมาทั้งหมด เพื่ออะไร  และเอมีขอความบางส่วนที่ออฟคุยกับเอ  











คือตอนนี้เรายังเถียงกันเรื่องอายุครรภ์ ทางการแพทย์จะนับการตั้งครรภ์ตั้งแต่วันแรกของการมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย แต่ออฟกลับนับจากวันที่เรามีเพศสัมพันธ์ และอ้างว่าไม่ใช่ลูกของออฟ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่