มั่นใจได้เลยว่า ถ้าคุณหาในGoogle ด้วยประโยคที่ว่า "สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่"
คุณจะไม่เจอถนนสายต้นยาง
หลายวันก่อน ผมอ่านหนังสือพิมพ์แจกฟรี เขาเขียนเกี่ยวกับ "อุโมงค์ต้นไม้ เมืองน่าน"
ผมไม่ได้ติดตามข่าวความขัดแย้งเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้สักอะไรนั่นหรอกนะครับ
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมพอจะทราบ คือ ชาวน่าน ยกให้ถนนเส้นนี้เป็น "สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองน่าน"

ผมก็เลยฉุกคิดว่า แล้วเชียงใหม่ บ้านเกิดผมหละ
มีถนนเส้นหนึ่งที่เรียกว่าเป็นUnseenเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นถนนที่ถูกขนาบข้างด้วยต้นยางยักษ์ ที่มีความสูงเท่ากับตึก20ชั้น (50-60เมตร)
และมีอายุมากกว่า 100 ปี (ปลูกมาตั้งแต่ปี2454)
ในเมื่อมันเป็นต้นไม้ที่วิเศษ เก็บประวัติศาสตร์ล้ำค่าคู่เมืองเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน
แต่ทำไม ผมไม่เห็นมีใครให้ความสำคัญอะไรกับมันเลย
ไม่เห็นมีใครผลักดันมันเลย
พอมันล้มตายไป ก็แทบจะไม่มีใครสนใจ
ต้นยางหนึ่งต้นล้ม ถามว่าเรื่องนี้เคยไปเข้าหูท่านผู้ปกครองเมืองคนไหนบ้างมั้ย
หรือเพราะว่า ต้นยางนามันไม่สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้เหมือนไม้สัก เมืองน่าน
พวกผู้ใหญ่ ผู้ว่าราชการ เขาถึงไม่มาเหลียวแล?
กลับมาเรื่องผลักดันให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ผมว่า ไม่มีถนนเส้นไหนในเชียงใหม่จะร่มรื่นไปกว่า ถนนเส้นต้นยางอีกแล้วครับ
สำหรับผม ผมว่าถนนเส้นนี้เป็นถนนที่ช่างภาพต้องสนใจ เพราะมีเส้นนำสายตาเพียบ แดดไม่จ้า แสงก็สวย
ยิ่งตอนเช้าๆจะมีหมอกอ่อนๆ

ลองคิดภาพให้พระ500รูป ย้ายจากเดินแบบนี้รอบคูเมือง มาเป็นถนนเส้นนี้แทน
ภาพมันออกมาสวยไม่แพ้กัน อากาศไม่ร้อน แถมรถไม่ติดอีก(เพราะเลี่ยงใช้ถนนเส้นรางรถไฟได้)
ทำไมถนนสายต้นยาง เชียงใหม่ ไม่ถูกผลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว?
คุณจะไม่เจอถนนสายต้นยาง
หลายวันก่อน ผมอ่านหนังสือพิมพ์แจกฟรี เขาเขียนเกี่ยวกับ "อุโมงค์ต้นไม้ เมืองน่าน"
ผมไม่ได้ติดตามข่าวความขัดแย้งเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้สักอะไรนั่นหรอกนะครับ
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมพอจะทราบ คือ ชาวน่าน ยกให้ถนนเส้นนี้เป็น "สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองน่าน"
ผมก็เลยฉุกคิดว่า แล้วเชียงใหม่ บ้านเกิดผมหละ
มีถนนเส้นหนึ่งที่เรียกว่าเป็นUnseenเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นถนนที่ถูกขนาบข้างด้วยต้นยางยักษ์ ที่มีความสูงเท่ากับตึก20ชั้น (50-60เมตร)
และมีอายุมากกว่า 100 ปี (ปลูกมาตั้งแต่ปี2454)
ในเมื่อมันเป็นต้นไม้ที่วิเศษ เก็บประวัติศาสตร์ล้ำค่าคู่เมืองเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน
แต่ทำไม ผมไม่เห็นมีใครให้ความสำคัญอะไรกับมันเลย
ไม่เห็นมีใครผลักดันมันเลย
พอมันล้มตายไป ก็แทบจะไม่มีใครสนใจ
ต้นยางหนึ่งต้นล้ม ถามว่าเรื่องนี้เคยไปเข้าหูท่านผู้ปกครองเมืองคนไหนบ้างมั้ย
หรือเพราะว่า ต้นยางนามันไม่สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้เหมือนไม้สัก เมืองน่าน
พวกผู้ใหญ่ ผู้ว่าราชการ เขาถึงไม่มาเหลียวแล?
กลับมาเรื่องผลักดันให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ผมว่า ไม่มีถนนเส้นไหนในเชียงใหม่จะร่มรื่นไปกว่า ถนนเส้นต้นยางอีกแล้วครับ
สำหรับผม ผมว่าถนนเส้นนี้เป็นถนนที่ช่างภาพต้องสนใจ เพราะมีเส้นนำสายตาเพียบ แดดไม่จ้า แสงก็สวย
ยิ่งตอนเช้าๆจะมีหมอกอ่อนๆ
ลองคิดภาพให้พระ500รูป ย้ายจากเดินแบบนี้รอบคูเมือง มาเป็นถนนเส้นนี้แทน
ภาพมันออกมาสวยไม่แพ้กัน อากาศไม่ร้อน แถมรถไม่ติดอีก(เพราะเลี่ยงใช้ถนนเส้นรางรถไฟได้)