กระทู้นี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นวิทยาทานเท่านั้นไม่มีเจตนาอื่นใด และเขียนขึ้นจากประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ

ต่อเนื่องจากกระทู้รีวิวที่ทำไว้ครั้งก่อนค่ะ ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสหญิงไทย-หนุ่มไต้หวัน(ประสบการณ์ส่วนตัวอย่างละเอียด)http://pantip.com/topic/33645835/comment15-3


และครั้งนี้จะมาพูดถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์การแต่งงานกับสามีชาวไต้หวันภายใต้กฏหมายไทย
คนอ่านอาจจะ งง เอ๊ะ อะไรทำไมต้องมีสัมภาษณ์

เชื่อว่าการแต่งงานกับชาวต่างชาตินั้นหลายๆประเทศจะมีการสัมภาษณ์การแต่งงาน ทั้งนี้เพื่อที่เราจะขอวีซ่าติดตามสามีนั่นเอง ขอเรียกง่ายๆแบบนี้ เนื่องจากเราต้องย้ายไปอยู่กับสามีที่ประเทศไต้หวัน ทำให้เกิดความยุ่งยากต่างๆมากมายเรื่องเอกสาร ตั้งแต่การจดทะเบียน เรารวบรวมไว้ที่ลิ้งด้านบนนะคะ จนถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์ วันนี้ขอเล่าถึงการสัมภาษณ์อย่างละเอียดค่ะ


วันที่ 24 มิถุนายน
เรายื่นคิวไว้ตั้งแต่ 24 เมษายน มีคู่แต่งงานหลายคู่ค่ะเลยยืดเวลาออกไป 2 เดือนเชียวก็รอจนกระทั่งวันสัมภาษณ์ ในวันสัมภาษณ์นั้นค่อนข้างใช้เวลาเลยทีเดียวจึงทำให้ทางสถานฑูตสัมภาษณ์ได้วันละ 2 คู่เท่านั้นค่ะ



1.เราได้คิวที่สองของวันนั้น การเริ่มสัมภาษณ์เริ่มประมาณบ่าย 2 แต่คู่เราต้องนั่งรอค่ะกระทั่งเกือบ 4 โมงเย็น ยาวนานมาก หนาว มือสั่นตื่นเต้นสุดๆ พอถึงคิวเค้าก็เรียกเข้าไปด้านในทั้งคู่เพื่อยื่นเอกสารเพิ่มเติมประกอบการสัมภาษณ์
สิ่งที่เราเตรียมไปเพิ่มเติมคือ
1.แฟ้มรูปภาพ เริ่มจากตั๋วเครื่องบินที่เราไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันในที่ต่างๆ กี่ประเทศ ที่ไหนบ้างเราใส่ไปหมดเลยค่ะ
2.รูปตั้งแต่เริ่มรู้จักกัน กระทั่งข้อความสนทนาทางเฟสบุ้คและไลน์ รวมถึงแคปรูปที่คุยกันผ่านทางไลน์ไว้ เอาให้ดูว่าเราติดต่อกันจริงๆ
3.รูปถ่ายที่เจอกันครั้งแรกที่ประเทศอะไร สถานที่อะไรบ้าง วันที่เท่าไหร่  ไล่มาเรื่อยๆ จนกระทั่งรูปวันแต่งงานค่ะ

เราเตรียมแฟ้มค่อนข้างละเอียดยิบและทางผู้สัมภาษณ์ก็ดูละเอียดยิบทุกรูปทุกหน้าเช่นกันค่ะ

4.แฟนยื่นเอกสารทางการเงินในบัญชี/และใบรับรองการทำงานของเขาว่าทำที่บริษัทนั้นๆ และมีอาชีพการงานอะไร ส่วนตัวเพื่อประกอบการสัมภาษณ์ว่าสามีสามารถเลี้ยงดูเราได้และเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ยื่นมันเข้าไปค่ะ



2.หลังจากยื่นเอกสารทุกอย่างแล้วเค้าจะเชิญเราฝ่ายไทยออกมารอด้านนอก และทำการสอบถามฝ่ายชายอย่างละเอียดยิบ

คำถามที่เกิดขึ้น มีแน่นอนคือ คุณทั้งคู่เจอกันได้อย่างไร  อันนี้ต้องตอบให้ตรงกันนะคะ แต่ก็อย่ากังวลจนเกินไป สบายๆตอบตามความเป็นจริง
ตัวอย่างคำถามอื่นๆที่เราโดนถามมานะคะ
1.คุณเจอกันครั้งแรกที่ไหน
2.สินสอดเท่าไหร่ ตกลงกันอย่างไร
3.ของขวัญชิ้นแรกที่ให้สามีคืออะไร
4.งานแต่งจัดขึ้นที่ไหน/ทำไมถึงจัดที่นั้น
5.คุณได้ขึ้นไปบนโตเกียวทาวเวอร์ไหม - -* ...คำถามนี้ไม่คิดว่าเค้าจะถามเหมือนกัน คือเราเจอกันครั้งแรกที่นั่นแต่ไม่ได้ขึ้นไปด้านบน ถามละเอียดมากอ่ะ เกือบลืมไปแล้ว
6.ใครเลือกที่จะไปเจอกันครั้งแรกที่โตเกียว ...ข้อนี้ฝ่ายชายตอบว่าเราเลือกแต่เราตอบว่าเราจำไม่ได้อ่ะมันนานแล้ว ตอบไม่ตรงกัน ช่างมันเถอะใครจะไปจำได้หมดเนอะมันนานมากแล้ว
7.คุณเรียนภาษาจีนที่ไหน เริ่มเรียนวันที่เท่าไหร่ รวมกี่ ชั่วโมง ...ข้อนี้ละเอียดค่ะ กี่วันกี่ ชม. เวลาจากกี่โมงถึงกี่โมง เราก็ งง ว่าเค้าถามทำไมที่แท้ก็ฝ่ายชายได้ไปให้ข้อมูลที่ละเอียดไว้นั่นเอง


หลังจากออกจากห้องสัมภาษณ์เราก็มานั่งไล่ๆคำถามกับสามี ซึ่งก็มีตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง จะเห็นได้ว่าคำถามเกิดจากสิ่งที่เราเตรียมไปเพิ่มเติมนั่นแหละค่ะและเกิดจากข้อมูลที่ทางฝ่ายชายให้ไว้กับผู้สัมภาษณ์เค้าเลยนำมาถามเราเพื่อที่จะดูคำตอบว่าตรงกันไหม
คำถามโดนเยอะกว่านี้ค่ะจำได้แค่นี้



เราโดนถามราวๆ 40 นาที สามีก็ราวๆ 40 นาทีค่ะ เหงื่อแทบตก 555555
หลังจากเสร็จขั้นตอนที่ถามเราเค้าจะพิมพ์ข้อความน่าจะ 8-10ข้อออกมา แล้วทวนให้เราฟังอีกครั้งว่าตรงไหมกับที่เราพูดเมื่อสักครู่ หลังจากนั้นก็เซนต์รับรองที่เราพูดไปค่ะ ฝ่ายชายก็เช่นเดียวกัน เราจับประเด็นได้ว่าเค้านำเอกสารสองใบนี้ไปเทียบกันค่ะว่าคำตอบตรงกันหรือไม่ คำตอบนี้สำคัญมากกว่าเอกสารต่างๆที่เตรียมไปอีกนะ



ทุกอย่างผ่านไป สัมภาษณ์วันพุธที่ 24 มิถุนายน รอรับผล จันทร์ที่ 29 มิถุนายน ก็คือวันที่นั่งพิมพ์นี่เอง

ตอนนี้ผ่านสัมภาษณ์แล้วค่ะ ตื่นเต้นมากกกกกกกกกกเหมือนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อ่ะ5555

ผ่านสัมภาษณ์ก็โล่งไปแล้วค่ะ หลังจากนี้สามีต้องกลับไต้หวันเพื่อนำชื่อเราที่เป็นภาษาจีนและเอกสารอื่นๆที่สถานฑูตได้รับรองนั้นไปแปลเป็นจีนและนำเอกสารไปยื่นเข้าทะเบียนบ้านที่ไต้หวัน ถึงจะคัดสำเนาส่งมาให้เราที่ไทยและนำเอกสารการคัดสำเนาทะเบียนบ้านนั้นไปยื่นขอวีซ่าได้ค่ะ

อยากเล่าถึงพี่เคสนึงที่เป็นหนุ่มไทย พูดจีนเก่งมาก แต่งงานกับภรรยาชาวไต้หวันและมีลูกด้วยกัน 2 ขวบแล้วแต่มาสัมภาษณ์ 4 รอบแหนะ รอบที่ 4 ถึงผ่าน เราก็ได้ถามถึงสาเหตุที่ไม่ผ่านพี่เค้าบอกแต่เพียงว่าทางสถานฑูตได้ขอข้อมูลเพิ่มเติม ทำให้เราคิดได้ว่าใครที่จะสัมภาษณ์ควรเตรียมข้อมูลไปให้แน่นๆเลยค่ะ ยังไงฝากเพื่อนๆที่เตรียมตัวสัมภาษณ์ว่าเตรียมหลักฐานให้แน่นที่สุดนะคะ เราเตรียมชนิดที่ว่าเค้าไม่รู้จะถามอะไรแล้วอ่ะเพราะหลักฐานกองอยู่ตรงหน้า แต่จริงๆแล้วเราคบหากันจริง บริสุทธิ์ใจจริงๆ ความจริงคือคำตอบอยู่แล้วค่ะอย่าไปกลัว





การยื่นขอวีซ่าและเตรียมตัวไปอยู่ที่ไต้หวัน รวมถึงชีวิตที่นั่นจะมาอัพเดทเรื่อยๆนะคะ เพราะมีคนถามเข้ามาเรื่องการแต่งงานเยอะเลยเราเลยอยากแชร์เพื่อเป็นวิทยาทานค่ะเพราะการทำทุกอย่างเริ่มจากความไม่รู้เลยนั้นมันกังวลค่ะ รวมถึงระยะเวลาในการทำเอกสาร การแปล ต่างๆจิปาถะ เราเลยเข้าใจความรู้สึกนี้ จึงเป็นที่มาของกระทู้ต่างๆ

เพิ่มเติมสิ่งที่น่าสนใจในไต้หวัน อาทิเช่น สถานที่ท่องเที่ยว
https://www.facebook.com/Travel-to-Taiwan-สะใภ้ไต้หวันพาเที่ยว-815686708592388/


สวัสดีค่ะ