สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 133
ถึงมีน....
เราไม่รู้ตอนนี้เธออยู่ไหน แต่ถ้าเธอมาอ่านเธอคงจะรู้ว่าเราเขียนถึงเธอ
เราคิดมาตลอดว่าเราสองคนคงจะเคยทำกรรมไรร่วมกันไว้ถึงได้มาหลงกับผุ้ชายคนเดียวกัน
ตอนนี้พี่เค้าไปมีความสุขแล้วแต่เราไม่รู้ว่าเธอเป็นยังไง
เราไม่เคยโกรธหรือเกลียดเธอเลยนะ ลึกๆเรารู้สึกเสียใจแทนเธอด้วยซ้ำตอนนั้นที่โดนแฟนตัวเองทำแบบนี้
และเรามันก็แย่มากๆๆๆๆเองที่ยื้อทุกอย่างก็เท่ากับยื้อความทรมานของเธอเพิ่มออกไปอีก
วันนี้เรานึกย้อนหลังเรายิ่งรู้สึกเสียใจและเสียดายที่เราสองคนไม่ฉลาดพอที่จะออกจากตรงนั้นได้เร็วกว่านั้น
แต่วันนี้เรารู้ว่าเธอคงไม่ได้อยุ่กับเค้าแล้ว (ดีใจด้วย)
เราขออโหสิกรรมให้มีนกับพี่ต่อ และเราก็ขอให้มีนอโหสิกรรมให้เราด้วย
เราก็ขอให้มีนได้เจอได้อยู่กับคนดีๆมีชีวิตที่ดีตลอดไปในอนาคตนะคะ
จาก...
ผู้หญิงที่เคยไปดูไพ่ยิปซีด้วยกัน
ปล. แอนกับมีนเคยบ้าขนาดไปดูไพ่ด้วยกันแล้วหมอดูถามว่ารักผู้ชายคนเดียวกันอยู่หรือเปล่า
ตอนนี้ถ้าหมอดูได้มาอ่านแล้วมีญานทิพย์รู้ว่าเป็นตัวเองช่วยบอกด้วยนะคะว่าไปอยู่ที่ไหนถ้ากลับไทยจะไปดูอีกเพราะแม่นมาก
หมอดูทำนายไว้ว่าสุดท้ายไม่มีใครได้ผู้ชายคนนี้ อย่าทะเลาะกันให้เสียเวลาเปล่า
ใครที่อยู่กับผู้ชายคนนี้นานกว่าคือคนที่มีกรรมมากกว่า
เมื่อไหร่ที่หลุดจากเค้าได้ก็คือหมดกรรม และผลบุญที่ทำมาจะส่งให้คุณไปเจอคนที่ดีดี
และมันก็คงจะจริง...
จบแล้วค่ะขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ พับเสื่อค่ะ!!
เราไม่รู้ตอนนี้เธออยู่ไหน แต่ถ้าเธอมาอ่านเธอคงจะรู้ว่าเราเขียนถึงเธอ
เราคิดมาตลอดว่าเราสองคนคงจะเคยทำกรรมไรร่วมกันไว้ถึงได้มาหลงกับผุ้ชายคนเดียวกัน
ตอนนี้พี่เค้าไปมีความสุขแล้วแต่เราไม่รู้ว่าเธอเป็นยังไง
เราไม่เคยโกรธหรือเกลียดเธอเลยนะ ลึกๆเรารู้สึกเสียใจแทนเธอด้วยซ้ำตอนนั้นที่โดนแฟนตัวเองทำแบบนี้
และเรามันก็แย่มากๆๆๆๆเองที่ยื้อทุกอย่างก็เท่ากับยื้อความทรมานของเธอเพิ่มออกไปอีก
วันนี้เรานึกย้อนหลังเรายิ่งรู้สึกเสียใจและเสียดายที่เราสองคนไม่ฉลาดพอที่จะออกจากตรงนั้นได้เร็วกว่านั้น
แต่วันนี้เรารู้ว่าเธอคงไม่ได้อยุ่กับเค้าแล้ว (ดีใจด้วย)
เราขออโหสิกรรมให้มีนกับพี่ต่อ และเราก็ขอให้มีนอโหสิกรรมให้เราด้วย
เราก็ขอให้มีนได้เจอได้อยู่กับคนดีๆมีชีวิตที่ดีตลอดไปในอนาคตนะคะ
จาก...
ผู้หญิงที่เคยไปดูไพ่ยิปซีด้วยกัน
ปล. แอนกับมีนเคยบ้าขนาดไปดูไพ่ด้วยกันแล้วหมอดูถามว่ารักผู้ชายคนเดียวกันอยู่หรือเปล่า
ตอนนี้ถ้าหมอดูได้มาอ่านแล้วมีญานทิพย์รู้ว่าเป็นตัวเองช่วยบอกด้วยนะคะว่าไปอยู่ที่ไหนถ้ากลับไทยจะไปดูอีกเพราะแม่นมาก
หมอดูทำนายไว้ว่าสุดท้ายไม่มีใครได้ผู้ชายคนนี้ อย่าทะเลาะกันให้เสียเวลาเปล่า
ใครที่อยู่กับผู้ชายคนนี้นานกว่าคือคนที่มีกรรมมากกว่า
เมื่อไหร่ที่หลุดจากเค้าได้ก็คือหมดกรรม และผลบุญที่ทำมาจะส่งให้คุณไปเจอคนที่ดีดี
และมันก็คงจะจริง...
จบแล้วค่ะขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ พับเสื่อค่ะ!!

ความคิดเห็นที่ 131
ตั้งแต่วันนั้นที่เราคุยกับพี่ต่อเป็นครั้งสุดท้ายก็ดูเหมือนเค้าสองคนก็หายๆไปจากชีวิตเรา
พี่ต่อเข้าออฟฟิซน้อยลงมาก อยุ่ข้างนอกตลอด เข้ามาทีไรก็จะเป็นตอนพักเทียงหรือเย็นๆหลังเลิกงานที่แทบจะไม่ต้องเจอเรา
เรารู้เพราะบางทีเราอยุ่เราเห็นๆบ้าง บางทีก็แอบคิดในใจว่าจบกับเราง่ายจัง เรื่องเยอะมาตั้งนานพอตอนนี้ตัดซะตั้งตัวแทบไม่ทัน
หลังจากวันที่เราคุยกับพี่ต่อครั้งสุดท้ายวันนั้นเรากลับบ้านไปเราก็บอกพ่อแม่เราว่าเราอยากเรียนต่อ ปโท เมืองนอก
พ่อแม่เราก็โอเค เหมือนก่อนหน้านี้ก็ถามๆอยู่ว่าจะไปไหม ตอนนี้เลยเข้าทางพ่อแม่พอดี
ตอนนั้นปลายเดือนสิงหา คือเราทำเรื่องเร็วมาก ส่งเรื่องไปมหาลัย มหาลัยคอนเฟิร์มมาตอน ตค
เราสมัครจ่ายค่าเทอม ต้น พย เราบินออกนอกปท ทันที
ความจริงเปิดเทอม กพ แต่เราลงเรียนภาษาไรๆไปก่อนจะได้ไปอยู่ก่อนเลย ASAP
ระหว่างที่อยู่ที่นี่ก็เหมือนตัดขาดจากทุกอย่างไปเลยค่ะ
เราไม่ได้คุยกับเค้าอีก และเค้าก็ไม่ได้พยายามติดต่อมา
ตอนนั้นเฟซบุคยังไม่ได้ฮิตกันนะ รุ่นนั้นเรายังใช้ Hi5 กันอยู่
(ใช่ค่ะเรื่องนี้ 9 ปีมาแล้วค่ะ แต่ที่มาเขียนลงเพราะไปอ่านของหลายๆคนแล้วนึกถึงเรือ่งตัวเองเลยอยากแชร์บ้างค่ะ)
เราอยู่ที่ ตปท ผ่านไปปีนึงก็มีเพื่อนฝรั่งมาจีบเริ่มมีแฟนคบกันแบบเป็นจริงเป็นจัง
เริ่มเข้าปีที่สองตอนนั้นเฟซบุคที่ไทยเริ่มฮิตใครๆก็สมัคร
ผ่านมาปีที่สามอยู่ดีๆพี่ต่อก็มาแอด
แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ตอนนั้นอะแทบลืมไปแล้วนะ อีกอย่างมีแฟนแล้วทุกอย่างราบรื่นดีเราไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นอีก
(แต่พอเจอใครเล่าเรื่องว่าโดนรุ้ตัวว่าคบซ้อนแนวๆนี้เราจะนึกถึงเรื่องเราทันที)
จะรับหรือไม่รับดี เราก็ส่งข้อความไปก่อน ถามว่าแอดมาทำไม (ยังจะไปถามเค้า แต่ตอนนั้นผ่านมาสามปีแล้วคิดว่าคงไม่มีไรแล้ว)
พี่ต่อตอบว่าก็แอด
ทุกคนที่รุ้จักอะ ไม่อยากรับก็ไม่เป็นไร แต่เลิกกับมีนไปนานแล้วนะไม่ได้มีไรแล้ว
เราก็เลยรับ ตอนนั้นเราบริสุทธิ์ใจแล้วนะ ไม่ได้รับมาสานต่อหรือไร แฟนเราก็มีแล้ว พี่เค้าก้คงเห็น
ส่วนพีเค้าก็มีแฟนแล้วเหมือนกัน แน่นอนไม่ใช่มีน
พี่เค้าก็ทักมาถามสารทุกข์สุขดิบปกติ ไม่ได้หยอดหรือจีบไร
เราก็บอกไปตามปกติว่าเรียนจบแล้วทำงานอยุ่ที่นี่ พอดีหลังเรียนจบโชคดีมีบริษัทรับและสปอนเซอร์ให้อยู่ต่อได้อีกไม่มีกำหนด
พี่เค้าก็ถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน เราเลยบอกว่าก็คงแต่งกับคนนี้แหละ คงอีกไม่นาน
ตอนคบกันได้สองปีเรารับปริญญาพ่อแม่เราบินมาเลยได้เจอแฟนเรา พอปีถัดไปแฟนเราบินกลับไทยไปสู่ขอ
ซึ้งก็คือไม่นานก่อนหน้าพี่ต่อจะแอดเฟซมา
พี่เค้าก็ยินดีด้วย แล้วก็เล่านิดๆว่าเลิกกับมีนแล้ว มันไปกันไม่ได้หรอก
เหมือนกับว่าเค้ารุ้อยุ่แล้วว่ายังไงก็ต้องเลิก สุดท้ายมีนก็เป็นฝ่ายไปเองเหมือนคงสุดจะทน
เราถามว่าหลังจากเราพี่มีกิ๊กไหม พี่ต่อตอบว่า
"จะเหลือหรอ..............."
ฟังคำนี้แล้วชื่นใจจัง
ที่เราหลุดพ้นออกมาไม่ได้ไปคบกับเค้า ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ปีต่อมาเราก็แต่งงาน ส่วนพี่ต่อ ยังไม่ได้แต่ง แต่โพสรูปลูกลงเฟซ
เราก็คิดเออยินดีด้วย แต่พอดูรูปแม่ อ่าว ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นที่เห็นในเฟซก่อนหน้านี้อะ
สรุปคือคงไปทำใครท้องสิท่า
แต่เราก็ไม่ถามไม่ไรอีก จะเป็นลูกเป็นแม่ใครก็ช่างเค้าละ
หลังจากคุยวันนั้นเรากับเค้าก็เหมือนเป็นเพื่อนทางเฟซกัน แค่นั้น ไม่เคยทักกันอีก
เราไม่ได้เข้าไปส่องไรด้วย ความจริงก็ไปส่องเมื่อวานนี้แหละ ตอนที่เขียนเรื่องของเค้าอะ 5555
เค้ามีลูกชายคนนึง โตละ น่าจะ7ขวบได้วัดจากระยะเวลาเรื่องที่เกิด
ผ่านมาตอนนี้ก็เหมือนจะหยุดที่ ผญ คนนี้ละ มีกิ๊กอีกไหมเราไม่รู้ก็ไม่ได้สนใจละ
ส่วนเราหรอ แต่งงานมา 6 ปีละมีลูกชายเหมือนกัลลลลลลลลลลล
แต่ยังไม่คลอดนะ กำลังท้องโตเลยแหละ
ชีวิตเราตอนนี้มีความสุขมากทีเดียว ที่สำคัญแฟนเราก็รักเดียวใจเดียว
พี่ต่อเข้าออฟฟิซน้อยลงมาก อยุ่ข้างนอกตลอด เข้ามาทีไรก็จะเป็นตอนพักเทียงหรือเย็นๆหลังเลิกงานที่แทบจะไม่ต้องเจอเรา
เรารู้เพราะบางทีเราอยุ่เราเห็นๆบ้าง บางทีก็แอบคิดในใจว่าจบกับเราง่ายจัง เรื่องเยอะมาตั้งนานพอตอนนี้ตัดซะตั้งตัวแทบไม่ทัน
หลังจากวันที่เราคุยกับพี่ต่อครั้งสุดท้ายวันนั้นเรากลับบ้านไปเราก็บอกพ่อแม่เราว่าเราอยากเรียนต่อ ปโท เมืองนอก
พ่อแม่เราก็โอเค เหมือนก่อนหน้านี้ก็ถามๆอยู่ว่าจะไปไหม ตอนนี้เลยเข้าทางพ่อแม่พอดี
ตอนนั้นปลายเดือนสิงหา คือเราทำเรื่องเร็วมาก ส่งเรื่องไปมหาลัย มหาลัยคอนเฟิร์มมาตอน ตค
เราสมัครจ่ายค่าเทอม ต้น พย เราบินออกนอกปท ทันที
ความจริงเปิดเทอม กพ แต่เราลงเรียนภาษาไรๆไปก่อนจะได้ไปอยู่ก่อนเลย ASAP
ระหว่างที่อยู่ที่นี่ก็เหมือนตัดขาดจากทุกอย่างไปเลยค่ะ
เราไม่ได้คุยกับเค้าอีก และเค้าก็ไม่ได้พยายามติดต่อมา
ตอนนั้นเฟซบุคยังไม่ได้ฮิตกันนะ รุ่นนั้นเรายังใช้ Hi5 กันอยู่
(ใช่ค่ะเรื่องนี้ 9 ปีมาแล้วค่ะ แต่ที่มาเขียนลงเพราะไปอ่านของหลายๆคนแล้วนึกถึงเรือ่งตัวเองเลยอยากแชร์บ้างค่ะ)
เราอยู่ที่ ตปท ผ่านไปปีนึงก็มีเพื่อนฝรั่งมาจีบเริ่มมีแฟนคบกันแบบเป็นจริงเป็นจัง
เริ่มเข้าปีที่สองตอนนั้นเฟซบุคที่ไทยเริ่มฮิตใครๆก็สมัคร
ผ่านมาปีที่สามอยู่ดีๆพี่ต่อก็มาแอด
แว้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ตอนนั้นอะแทบลืมไปแล้วนะ อีกอย่างมีแฟนแล้วทุกอย่างราบรื่นดีเราไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นอีก
(แต่พอเจอใครเล่าเรื่องว่าโดนรุ้ตัวว่าคบซ้อนแนวๆนี้เราจะนึกถึงเรื่องเราทันที)
จะรับหรือไม่รับดี เราก็ส่งข้อความไปก่อน ถามว่าแอดมาทำไม (ยังจะไปถามเค้า แต่ตอนนั้นผ่านมาสามปีแล้วคิดว่าคงไม่มีไรแล้ว)
พี่ต่อตอบว่าก็แอด

เราก็เลยรับ ตอนนั้นเราบริสุทธิ์ใจแล้วนะ ไม่ได้รับมาสานต่อหรือไร แฟนเราก็มีแล้ว พี่เค้าก้คงเห็น
ส่วนพีเค้าก็มีแฟนแล้วเหมือนกัน แน่นอนไม่ใช่มีน
พี่เค้าก็ทักมาถามสารทุกข์สุขดิบปกติ ไม่ได้หยอดหรือจีบไร
เราก็บอกไปตามปกติว่าเรียนจบแล้วทำงานอยุ่ที่นี่ พอดีหลังเรียนจบโชคดีมีบริษัทรับและสปอนเซอร์ให้อยู่ต่อได้อีกไม่มีกำหนด
พี่เค้าก็ถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน เราเลยบอกว่าก็คงแต่งกับคนนี้แหละ คงอีกไม่นาน
ตอนคบกันได้สองปีเรารับปริญญาพ่อแม่เราบินมาเลยได้เจอแฟนเรา พอปีถัดไปแฟนเราบินกลับไทยไปสู่ขอ
ซึ้งก็คือไม่นานก่อนหน้าพี่ต่อจะแอดเฟซมา
พี่เค้าก็ยินดีด้วย แล้วก็เล่านิดๆว่าเลิกกับมีนแล้ว มันไปกันไม่ได้หรอก
เหมือนกับว่าเค้ารุ้อยุ่แล้วว่ายังไงก็ต้องเลิก สุดท้ายมีนก็เป็นฝ่ายไปเองเหมือนคงสุดจะทน
เราถามว่าหลังจากเราพี่มีกิ๊กไหม พี่ต่อตอบว่า
"จะเหลือหรอ..............."
ฟังคำนี้แล้วชื่นใจจัง
ที่เราหลุดพ้นออกมาไม่ได้ไปคบกับเค้า ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ปีต่อมาเราก็แต่งงาน ส่วนพี่ต่อ ยังไม่ได้แต่ง แต่โพสรูปลูกลงเฟซ
เราก็คิดเออยินดีด้วย แต่พอดูรูปแม่ อ่าว ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นที่เห็นในเฟซก่อนหน้านี้อะ
สรุปคือคงไปทำใครท้องสิท่า
แต่เราก็ไม่ถามไม่ไรอีก จะเป็นลูกเป็นแม่ใครก็ช่างเค้าละ
หลังจากคุยวันนั้นเรากับเค้าก็เหมือนเป็นเพื่อนทางเฟซกัน แค่นั้น ไม่เคยทักกันอีก
เราไม่ได้เข้าไปส่องไรด้วย ความจริงก็ไปส่องเมื่อวานนี้แหละ ตอนที่เขียนเรื่องของเค้าอะ 5555
เค้ามีลูกชายคนนึง โตละ น่าจะ7ขวบได้วัดจากระยะเวลาเรื่องที่เกิด
ผ่านมาตอนนี้ก็เหมือนจะหยุดที่ ผญ คนนี้ละ มีกิ๊กอีกไหมเราไม่รู้ก็ไม่ได้สนใจละ
ส่วนเราหรอ แต่งงานมา 6 ปีละมีลูกชายเหมือนกัลลลลลลลลลลล
แต่ยังไม่คลอดนะ กำลังท้องโตเลยแหละ
ชีวิตเราตอนนี้มีความสุขมากทีเดียว ที่สำคัญแฟนเราก็รักเดียวใจเดียว
ความคิดเห็นที่ 88
รอค่ะ ..เรื่องราวของจขกท.เข้นข้นมาก
เราเองก็เคยมีประสบการณ์คล้ายๆกัน แต่ไม่ยืดเยื้อขนาดนี้ เพราะเราเลือกที่จะหักดิบค่ะ
พอรู้ว่าโดนหลอก คือแฟนตัวจริงเค้าโทรมาหาบอกว่าเค้ามีแฟนแล้วนะ เราก็อึ้งสิคะ อยู่ดีๆกลายเป็นกิ๊กซะงั้น...
แต่ก็ตัดใจเลย เลิกคุย เลิกทุกอย่าง
มันไม่เกี่ยวแล้วว่าเราจะโดนหลอกมั้ย รึเรารักเค้าแค่ไหน เค้ารักเรามากกว่าผู้หญิงอีกคนรึป่าว
เราคิดว่า "ผู้ชายเลวๆมันไม่สมควรจะได้เราเป็นแฟนค่ะ มันไม่สมควรจะได้เลือกด้วยซ้ำ"
เราเป็นผู้หญิงที่ดี และเราสมควรได้อยู่กับผู้ชายดีๆ
เราจะไม่มีทางไปแย่งผู้ชายของคนอื่น (โดยเจตนา) พอรู้แล้วต้องเลิกเลยค่ะ
แล้วก็โชคดีจริงๆที่ทำแบบนั้น ไม่ง้นคงคาราคาซังแบบ จขกท.
ยิ่งตอนหลังมารู้ว่า ไอ่ผู้ชายมันมีเราเป็นกิ๊ก มีแฟน แถมยังมีภรรยาอยู่แล้วอีกคน โอ้โห...
แต่เราเข้าใจความรู้สึกของจขกท. นะคะ ว่ามันยากจริงๆ ก็คนมันรักไปแล้ว ความรู้สึกมันห้ามกันได้ซะที่ไหน
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เราเองก็เคยมีประสบการณ์คล้ายๆกัน แต่ไม่ยืดเยื้อขนาดนี้ เพราะเราเลือกที่จะหักดิบค่ะ
พอรู้ว่าโดนหลอก คือแฟนตัวจริงเค้าโทรมาหาบอกว่าเค้ามีแฟนแล้วนะ เราก็อึ้งสิคะ อยู่ดีๆกลายเป็นกิ๊กซะงั้น...
แต่ก็ตัดใจเลย เลิกคุย เลิกทุกอย่าง
มันไม่เกี่ยวแล้วว่าเราจะโดนหลอกมั้ย รึเรารักเค้าแค่ไหน เค้ารักเรามากกว่าผู้หญิงอีกคนรึป่าว
เราคิดว่า "ผู้ชายเลวๆมันไม่สมควรจะได้เราเป็นแฟนค่ะ มันไม่สมควรจะได้เลือกด้วยซ้ำ"
เราเป็นผู้หญิงที่ดี และเราสมควรได้อยู่กับผู้ชายดีๆ
เราจะไม่มีทางไปแย่งผู้ชายของคนอื่น (โดยเจตนา) พอรู้แล้วต้องเลิกเลยค่ะ
แล้วก็โชคดีจริงๆที่ทำแบบนั้น ไม่ง้นคงคาราคาซังแบบ จขกท.
ยิ่งตอนหลังมารู้ว่า ไอ่ผู้ชายมันมีเราเป็นกิ๊ก มีแฟน แถมยังมีภรรยาอยู่แล้วอีกคน โอ้โห...
แต่เราเข้าใจความรู้สึกของจขกท. นะคะ ว่ามันยากจริงๆ ก็คนมันรักไปแล้ว ความรู้สึกมันห้ามกันได้ซะที่ไหน
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ

แสดงความคิดเห็น
แอบรักกันในที่ทำงาน สุดท้ายมารู้ว่าตัวเองเป็นแฟนของแฟนคนอื่น
ขอรับคำด่าและความคิดเห็นทุกอย่างค่ะเพราะที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นบทเรียนชีวิตที่ดีให้กับตัวเองค่ะ
ขอเกริ่นยาวนะคะ จะได้มีแบคกราวพองามว่ามาคบกันยังไง
สมมติว่าเราชื่อแอนนะคะ แฟนเราชื่อต่อ และผู้หญิงอีกนางชื่อมีนค่ะ
ตอนนั้นเราเพิ่งเรียนจบ ปตรี จาก ม เอกชนแห่งนึงค่ะ สมัครงานที่ บ.นี่เป็นที่แรกบริษัทค่อนข้างใหญ่ไม่ขอเอ่ยชื่อนะคะเดี๋ยวเจ้าตัวรู้
ทำงานมาได้สองสามเดือนก็มี ผจก ต่างแผนกชื่อพี่ต่อมาชวนคุยบ่อยๆ
หน้าตาก็งั้นๆแต่คารมดี รุ้จักพูดรู้จักจีบ ตอนนั้นเราเฉยๆ ไม่สเปคปากดียังไงก็ไม่สน มีแฟนหรือเปล่าเราก็ไม่เคยถาม ไม่ได้แคร์ไร
ตอนบ่ายๆออฟฟิซเรามีสาวยาคูลท์มาขายเค้าก็สั่งไว้ว่าทุกวันให้เอามาส่งให้โต๊ะเราด้วยขวดนึงเค้าจ่ายตังให้
สาวยาคูลไม่ยอมรับตังค์เรา
ทุกวันเราจะเดินเอาตังไปวางบนโต๊ะเค้าหกบาท คืน ไม่รับ ไม่ต้องมาจ่ายให้
(แต่แอบหลงดีใจเล็กๆเหมือนมีคนมาจีบ)
แต่พี่ต่อก็สั่งให้เหมือนเดิมอยุ่สองเดือนจนบางครั้งเราต้องซื้อขนมไปคืนแทนที่จะคืนตัง
ผ่านมาสองเดือนคุณย่าเราเข้ารพ วันเสาร์เราก็ไปเฝ้าเราเครียดมากกลัวท่านจะเสียเพราะท่านแก่แล้วละเราก็สนิทกับย่าเรามาก
พี่ต่ออยู่ๆโทรมาถามทางพอดีอยุ่แถวละแวกบ้านเรา (เคยบอกเค้าว่าบ้านเราอยุ่แถวไหน) แล้วก็ถามว่าเราทำไรอยู่
เราก็บอกไปว่าอยู่กับย่าที่ รพ เส้าใจมากเพราะคุณย่าไม่สบายหนัก
พี่เค้าก็แสดงความเป็นห่วง แล้วก็เริ่มเล่าว่าเค้าสนิทกับยายเค้าเหมือนกันไปเยี่ยมท่านเกือบทุกเสารอาทิตย
ตอนนั้นเรารุ้สึกว่าอบอุ่นจังผุ้ชายคนนี้ หายากนะผุ้ชายสมัยนี้ที่หมั้นไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่
เราก็อธิบายทางที่เค้าจะไปแล้วก็วางสายบอกพี่เค้าว่าขออยุ่กับคุณย่าก่อนนะ
พอตอนเย็นพี่เค้าก้ส่งข้อความมาว่าพี่กำลังกลับบ้าน
"แอนบอกทางเก่งมากนะทำพี่ขับรถหลงอยุ่นานเลยเมื่อตอนกลางวันไม่กลัาโทรรบกวนอีกเห็นอยู่กับย่า"
เราเลยโทรกลับไปขอโทษที่ตัดสายเมื่อตอนกลางวันแต่ตอนนี้คุยได้ละ คราวนี้คุยกันอยุ่สองชั่วโมงเรื่องสัพเพเหระ
เรารุ้สึกว่าพี่ต่อมีความเปนผู้ใหญ่มาก (อันนี้ชอบนะฮะ ผู้หญฺิงหลายคนก็คงชอบเหมือนเรา)
แต่ก็คงต้องอย่างงั้นล่ะอายุห่างกันแปดปีจะไม่ให้รุ้สึกเค้าเปนผู้ใหญ่กว่ายังไง
วันอาทิตยไม่ได้คุยกัน แต่พอกลับไปทำงานวันจันทร์เจอกัน พี่เค้าเลยทักทาย
แล้วก็ถามว่าเย็นนี้ทำไรจะไปเดินดูของให้แม่ (น่ารักจุงดูของให้แม่) ถามว่าแอนว่างไปเดินเป็นเพื่อนไหม
เราเลยถามไปว่า ทำไมไม่ชวนแฟนตัวเอง (หลอกถามเค้าอีก) เค้าตอบว่า "แฟนที่ไหน ใครมีแฟน?"
เราก็บอกไปว่าอ่าวนึกว่ามีแฟน อายุเลขสามต้นๆไม่มีแฟนอีก เค้าตอบว่าหาคนที่ใช่ไม่เจอ ตกลงจะมาเดินด้วยไหม
เราบอกว่าไม่ว่าง เค้าก็ไม่ได้ตื้อไร แต่ตอนนั้นรุ้สึกว่าเอ้ะยังไงกัน จีบฉันใช่ม้ายยยล่าาาาา
วันอังคารเจอกัน ก็คุยปกติ งานเรากับเค้าไม่เกี่ยวข้องกันพอเจอกันเรื่องคุยมันเลยเป็นเรื่องสัพเพเหระตลอดไม่มีเรื่องงาน
เค้าถามว่าไปกินกลางวันที่ไหนเราบอกไม่มีแพลนเค้าเลยชวน เราก็โอเคไปก็ได้
เค้าขอไปกินนอกตึกบอกว่าไม่อยากให้คนในออฟฟิซเห็นเอาไปนินทา เราก็โอเคแอบเห็นด้วย
ออกไปกินกันสองคนคุยกันเรื่องโน้นเรื่องนี้เรายิ่งชอบพี่เค้าไปใหญ่
ทำไมความคิดคำพูดคำจามันดีไปหมดเหมือนคนนี้แหละที่เราตามหามา
พุดตามตรงนี่ไม่ใช่คนแรกๆที่เราคบกัน เราก็ผ่านผุ้ชายและอกหักมาแล้วหลายครั้งเราคิดว่าเราคงไม่หลงอีก
ตอนเย็นพี่ต่ออาสาไปส่งบ้านบอกว่าจะผ่านไปแถวนั้น (เรานีกในใจว่าเนียนนะ แต่ไปค่ะ)
เราไม่ได้ขับรถค่ะปกตินั่งรถไฟฟ้ากลับบ้านตลอด
ระหว่างทางพี่เค้าถามว่าหิวมั้ย เค้าหิวนิดๆ แวะกินไรแถวบ้านเราก่อนมั้ย เราก็หิวนะ ก็ชอบพี่อะ >.<
ไม่หิวก็หิวอะ เลยไปกินข้าวกัน
เสร็จพี่เค้าก็ไปส่งบ้าน กลับไปก็ไปฝันหวานนิดๆหน่อยๆว่ากินทั้งกลางวันทั้งตอนเย็น
แอร้ยยยยยย (กินข้าวนะ อย่าคิดไปไกล)
เรื่องก็มาเกิดกันตรงนี้แหละ เดี๋ยวมาพิมพ์ต่อนะคะ