<< 10 รอมฎอน >> รอมฎอนคืออะไรในอารยธรรมอิสลาม

กระทู้สนทนา


เป็นที่ทราบกันดีว่าเดือนรอมฎอนคือเดือนที่เก้าตามปฏิทินอิสลามซึ่งเป็นเดือนที่มีการบัญญัติให้มุสลิมถือศีลอดตลอดทั้งเดือนและบริจาคทาน (เศาะดะเกาะตุลฟิฏร) นี่คือในแง่บัญญัติของศาสนาอิสลาม ส่วนในแง่อารยธรรมอิสลามมันคือการปฏิรูปสังคมทุก ๆ ปีเพื่อการบรรลุถึงคุณค่าอันสูงสุดของตัวตนแห่งอารยธรรมอิสลาม

..................

อะไรคือคุณค่าอันสูงสุดของตัวตนแห่งอารยธรรมอิสลาม?

คุณค่าอันสูงสุดของตัวตนแห่งอารยธรรมอิสลามนั่นคือการเป็นมนุษย์ที่ยำเกรงหรือการยำเกรงอย่างถ่องแท้ (ตักวา)

...................

การยำเกรง (ตักวา) เป็นคุณค่าสูงสุดทางอารยธรรมอย่างไร?

การยำเกรง (ตักวา) นั้นเป็นคุณค่าสูงสุดก็เพราะว่ามันคือคุณธรรมที่ครอบคลุมคุณธรรมทั้งหมด และไม่เพียงเท่านั้นมันยังเป็นคุณค่าที่คอยผดุงคุณค่าอื่น ๆอันดีงามของมนุษย์ให้คงอยู่และถูกต้อง เพราะความยำเกรงจะทำให้เกิดความซื่อสัตย์ และความซื่อสัตย์จะทำให้คุณค่าอันดีงามอื่นๆของมนุษย์ไม่ถูกทำลายด้วยอารมณ์หรือความต้องการของมนุษย์ นี่คือปรัชญาที่ลึกซึ้ง ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจได้ง่าย ๆ

แต่เดือนรอมฎอนได้ทำให้ปรัชญาแห่งการยำเกรงนี้ถูกนำไปปฏิบัติจริงในบุคคลที่ถือศีลอด กล่าวคือทุกคนที่ถือศีลอดเขาจะต้องงดน้ำอาหารและการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่ถูกกำหนด ในช่วงการถือศีลอดถึงแม้เขาจะอยู่ตัวคนเดียวไม่มีใครเห็น เขาก็ไม่อาจที่จะละเมิดศีลอดของเขาได้ เพราะเขาเชื่อว่าถึงแม้จะไม่มีใครเห็นหรือตรวจสอบได้แต่พระเจ้านั้นอยู่กับเขาตลอด นี่แหละคือจุดสำคัญของปรัชญาการยำเกรง (ตักวา)

ถึงจะไม่มีใครเห็นก็พระเจ้าเห็น เมื่อความสัมพันธ์ของคนกับพระเจ้าในลักษณะนี้แน่นแฟ้น คุณค่าอันดีงามอื่น ๆ ก็จะถูกคุ้มครองด้วยความซื่อสัตย์และซื่อตรง ดังนั้นจะละเมิดทำผิดต่อคุณค่าอันดีงามอื่นๆไม่ได้ การถือศีลอดในเดือนรอมฎอนจึงเป็นการสอนคุณค่าที่สูงสุดด้วยการปฏิบัติจริงที่ทุกคนทุกระดับชั้นและทุกระดับการศึกษาสามารถทำได้ และหากสังคมเข้าใจเจตนารมย์ของการถือศีลอดและปฏิบัติจริง สังคมก็จะได้รับการปฏิรูปทุกๆปีด้วยการสร้างพื้นฐานทางคุณค่าที่เกิดขึ้นจากคนทุกคนในสังคมที่แต่ละคนต่างรู้จักการ “ไม่ละเมิดความถูกต้องถึงแม้จะไม่มีใครเห็น” ในระดับหนึ่ง

และด้วยการที่คนจะไม่ละเมิดความถูกต้องแม้จะไม่มีใครเห็นนี่เอง ความยุติธรรมอันเป็นพื้นฐานหลักของสังคมและประเทศก็จะได้รับการค้ำจุน และเมื่อความซื่อสัตย์เพิ่มขึ้นด้วยจำนวนคนที่ซื่อสัตย์เพิ่มขึ้น สังคมก็จะน่าอยู่มากขึ้น ถึงแม้ทุกสังคมจำเป็นจะต้องมีมาตรการที่เข้มแข็งและรัดกุมในการป้องกันการละเมิดความถูกต้องของคนทุกระดับ แต่ถ้าหากพื้นฐานของทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นหลักไม่มีความซื่อสัตย์(ศิดก์)และไม่มีความยำเกรง(ตักวา) ต่อให้เปลี่ยนคนไปกี่คนและเปลี่ยนระบบไปกี่ระบบ คนก็จะหาลู่ทางและช่องทางที่จะทำตามความต้องการของตัวเองถึงแม้จะละเมิดความถูกต้อง เขาก็จะไม่สนใจอะไร ถ้าหากว่า “ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครจับได้”

..................

ผู้สร้างความรู้ย่อมเป็นผู้รู้ดีที่สุดเสมอ

ที่มา : อิสลามมิค อนาลิส
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่