คุณแม่ไม่ยอมให้ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยทำอย่างไรดีคะ

ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ ขอเล่าประวัติคร่าวๆก่อนค่ะ
เราเป็นลูกคนเดียวค่ะ ใกล้ชิดกับคุณแม่มากถึงมากที่สุด แม่รักและห่วงเรามาก จนปัจจุบันอายุยี่สิบนิดๆแล้วยังนอนห้องเดียวกับแม่เลย ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด คนมักจะคิดว่าเป็นลูกแหง่ ติดแม่ ทำให้เพื่อนน้อยมาก และบุคลิกเราก็ดูเรียบร้อย ทำให้เพื่อนไม่ค่อยกล้าคุยด้วย (ความจริงเราเฮฮาค่ะ ออกแนวหน้าชื่นอกตรมค่ะ) ร้องไห้
ตอนนี้เราเรียนปี 1 ค่ะ ในคณะทางสายวิทย์สุขภาพ ซึ่งไม่ใช่แพทย์ ทันตะ เภสัช ความจริงต้องเรียนประมาณปี 3 แล้ว แต่ซิ่วจนต้องเริ่มใหม่หลายครั้ง เราซิ่วหมอรอบกสพท.ไม่ติดค่ะมา2ครั้งแล้ว ด้วยความที่หัวไม่ดี ไม่ใช่เด็กเรียนเก่งตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ที่บ้านค่อนข้างอยากให้ไปเรียนด้านนี้ค่ะ ตัวเราเองก็ชอบอยู่ แต่ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า จนตอนนี้ไม่อยากเรียนแล้ว เม่าเหม่อ ท้อแท้และคิดว่าคงไม่ใช่เราแล้วค่ะ เลยตัดสินใจว่าจะไม่ซิ่วแล้วเรียนสิ่งที่ได้ไปเลยจนจบ ปัญหาคือเราอยากทำงานไปด้วยค่ะ เรามีพี่ที่สนิทคนนึงที่รู้จักชวนไปขายของช่วยเค้าทำธุรกิจเล็กๆน้อยๆค่ะ แต่มีรายได้เข้ามา เราอยากทำมาก เพราะเรารู้สึกว่าเราใช้เงินฟุ่มเฟือย เราไม่อยากกวนที่บ้าน แต่พอบอกแม่ทีไรว่าอยากทำนู่นนี่หาเงินเข้าบ้าน แม่ไม่เคยอนุญาตเลย แม่บอกว่าเวลาก็จะไม่มีอยู่แล้ว เรียนยังไม่ดีเลย จะหาภาระมาใส่ตัวทำไม
คุณแม่ของเราออกจากที่ทำงานมาเลี้ยงเราตั้งแต่ 2-3 ขวบค่ะ เท่ากับคุณแม่ไม่ได้มีงานประจำมาประมาณ 17-18 ปีแล้ว ช่วงแรกคุณแม่มีธุรกิจที่ทำกับญาติเล็กๆ ประมาณ 5 ปีค่ะ เงินที่ได้มาก็คืนทุนและได้กำไรเล็กน้อยค่ะ จากนั้นก็ว่างงานมาโดยตลอด ไม่มีรายได้และไม่ได้ทำงาน เป็นแม่บ้านปกติดูแลครอบครัวและคุณยาย ทุ่มสองทุ่มคุณแม่ก็นอนแล้ว ที่อยู่ทุกวันนี้คือเงินดอกเบี้ยคุณยายค่ะ คุณยายจ้างแม่มาเลี้ยงหนูประมาณหมื่นนึง ส่วนค่าเทอม ค่าเรียนอะไรต่างๆ 90 เปอร์เซ็นเป็นเงินคุณยายทั้งสิ้น ส่วนคุณพ่อเพิ่งมาช่วยจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ครอบครัวมาได้ 4 ปีนี้เองค่ะ คุณพ่อเงินเดือนประมาณ 7 หมื่น แต่ให้ครอบครัวเพียง หมื่นนิดๆ นอกนั้นคุณพ่อเอาไปเลี้ยงผู้หญิงและลูกของนางทั้งหลาย  มีผู้หญิงนอกบ้านตลอดตั้งแต่หนูเกิดตอนนี้คนที่ 4 แล้วค่ะ ความจริงทุกวันนี้คุณพ่อกับคุณแม่แยกกันอยู่นะคะ แต่ยังมีทะเบียนสมรสอยู่ จะหย่ากันหลายครั้งแล้ว แต่คุณแม่ไม่ยอม ปัญหาครอบครัวที่บ้านแย่มากค่ะ เราอดทนและเสียน้ำตามามาก หลายๆคนคิดว่าเราสบายมีความสุข ครอบครัวอบอุ่นแต่ความจริงมันย่ำแย่มากค่ะ มันไม่ใช่อย่างที่เพื่อนมองเห็นเลย พาพันเศร้า
มาถึงเรื่องทำงาน คุณแม่พอมีสมบัติที่ตัวเองหามาบ้างและสมบัติจากคุณยาย ซึ่งถือว่าไม่เยอะเลย (คุณแม่มีลักษณะนิสัยเป็นคนไม่ดิ้นรน พอเพียง ปล่อยวาง คิดว่าเดี๋ยวก็ตายแล้วไม่ต้องรวยหรอก มีแค่ไหนแค่นั้น ) และคิดว่าเราคงเอาตัวรอดได้ถ้ามีเท่านี้ เรากลับไม่ประมาทเพราะเราเป็นลูกคนเดียว ทำอะไรยังไม่ค่อยจะเป็นเลย เพราะคุณแม่ทำให้ตลอด ชีวิตยังอีกยาวไกล คุณแม่ก็อายุเยอะมากแล้วเกือบ 60 แล้วค่ะ ส่วนคุณพ่อนี่ไม่ได้นึกถึงในส่วนนี้เลย ห่างไกลกัน เราเลยอยากรีบเก็บเงิน พยายามหาประสบการณ์ชีวิตที่เราต้องต่อสู้ต่อไปค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง อ้อ เรื่องเรียนของเรามีคนแนะนำให้เรียนแพทย์รังสิต แม่ก็ไม่สนับสนุนค่ะ บอกไม่มีเงินส่ง ไม่อยากกวนคุณยายด้วย มันเป็นเหตุให้เราไม่อยากซิ่วต่อไปแล้ว เพราะเราสอบไม่ติดกสพท.สักที แถมคะแนนห่างจากคะแนนต่ำสุดพอสมควร มันเหมือนไกลเกินฝันเลยค่ะ แต่คุณแม่ก็อยากให้ซิ่วต่อ เราปวดหัวค่ะ เบื่อชีวิตมาก พอคุยเรื่องนี้ทีไรก็ทะเลาะกับแม่ เรากับแม่อีโก้สูงทั้งคู่ มีปัญหาตลอดค่ะ เราก็อยากหาเงินซื้อของที่อยากได้ด้วยตัวเองบ้าง เอาเงินส่งตัวเองเรียนบ้าง หรือเอาไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง (ชีวิตนี้ยังไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศเลยค่ะ) ไม่อยากกวนผู้ใหญ่แล้วค่ะ
ป.ล.ชีวิตเราค่อนข้างเหมือนเด็กพ่อแม่รังแกฉันค่ะ
ขอความคิดเห็นผู้อ่านกันหน่อยนะคะ ว่าเราควรทำอย่างไร
ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่