เกริ่นก่อนนะคะว่าเราพึ่งได้ดู teaser เพลงนี้ ก็เลยทำให้นึกถึงหลายๆเรื่องตามภาษาของคนที่ถูกทิ้ง
และทำให้เราคิดได้ว่า การถูกทิ้งมันไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีเสมอไป
เลยอยากจะมานำเสนอเรื่องของตัวเองค่ะ จากคนที่โดนทิ้งให้จมปลักอยู่กับความเศร้า
ความเสียใจ วันนี้….เขาได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแล้วค่ะ
ความรักของเรามันเริ่มขึ้นในเวลาที่ไม่เหมาะสมค่ะ เพราะเขามีแฟนอยู่แล้ว
อันที่จริงเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะแย่งเขามาจากใครหรอกค่ะ แต่สุดท้ายก็แย่งมา
เราก็รู้สึกเสียใจและสงสารแฟนเก่าเขามาก เรารู้ตัวดีค่ะว่าสักวันเขาก็คงทิ้งเราไปหาคนอื่นได้เหมือนกัน
แต่กาลเวลาก็ได้พิสูจน์ ว่าเขาคงไม่ทิ้งเราไปแน่ๆ เขาต้องรักเรามากแน่ๆ
เวลาผ่านไปเป็นเวลานาน ผ่านเหตุการณ์ต่างๆด้วยกันมากมายค่ะ ทำให้เราตายใจ
เลยคิดไปว่าเขาจะไม่มีวันทำร้ายเราแน่นอน
‘ฉันจะไม่ทำให้เธอเสียใจ’
‘ฉันจะไม่ทำให้เธอต้องมีน้ำตา’
‘ฉันจะไม่มีวันทิ้งเธอ’
รู้ทั้งรู้ค่ะ ว่าเขาก็พูดไปงั้นๆเพื่อให้เราเปิดใจ ไม่ได้จริงจังที่จะทำตามคำพูดจริงๆ แต่เรากลับเชื่อ และจดจำคำพูดพวกนั้นจนมาถึงทุกวันนี้
……สุดท้ายแล้ว ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน
ความรักของเรามันจะไม่ได้จบลงด้วยดีค่ะ สุดท้ายกรรมก็ตามสนอง
เขาทิ้งเราไปหาคนใหม่ ตั้งแต่วันนั้น ความรักก็เริ่มสร้างบาดแผลไว้มากมาย
ทำลายความหวังต่างๆ ทำให้เราเจ็บปวด ทำให้เราทรมาน
ทำให้เราไม่มีแรงที่จะก้าวไปข้างหน้าต่อ ในใจก็มีแต่คำถาม
เขาทำแบบนี้กับเราได้ยังไง?
นี่หรอคนที่บอกว่ารักเรา?
นี่หรอคือคนที่เราเคยไว้ใจ?
เราทำอะไรพลาดไปหรือเปล่า?
ประกอบกับภาพความทรงจำดีดีต่างๆที่ผุดขึ้นมาเป็นฉากๆทำให้หยุดน้ำตาไม่ได้สักที
แต่ก็มาถึงจุดจุดหนึ่งค่ะ จุดที่เราคิดได้ จุดที่เราเลิกโทษตัวเองและคนอื่น
จุดที่เราให้โอกาสกับตัวเองอีกครั้ง หลังจากนั้นจนมาถึงวันนี้
ชีวิตก็ดำเนินต่อไปได้เป็นปกติค่ะหรืออาจจะดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
เพราะเราพยายามรักตัวเองให้มากกว่าเดิม ดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของเรามากขึ้นกว่าเดิม
ทำให้ชีวิตของเราตอนนี้ดีมากๆเลย เราย้อนกลับไปคิดอีกที
ถ้าหากเราไม่ถูกทิ้งในวันนั้น เราคงไม่รักตัวเองขึ้นมากขนาดนี้
เราคงไม่มีเวลาใส่ใจคนรอบข้างมากขนาดนี้ ไม่ได้อยู่กับครอบครัวหรือเพื่อนๆมากขนาดนี้
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เรารู้สึกว่าการที่เราถูกทิ้งนั้นทำให้เราเข้มแข็งขึ้น เหมือนมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น
ความคิดเรามีเหตุผลมากขึ้น และอย่างที่รู้ค่ะคนที่เคยโดนแย่งคนรักไป
ก็คงไม่คิดไปแย่งคนรักใครอีก ซึ่งเราก็เป็นค่ะ เพราะเราเข้าใจถึงความรู้สึกนั้นดี
ตอนนี้ดำเนินชีวิตไปอย่างถูกศีลธรรม และไม่เร่งรีบเรื่องความรักค่ะ
พยายามใช้เวลากับสิ่งรอบข้าง อาจจะมีเหงาบ้างแต่ก็อยู่ได้ค่ะ
คิดถึงคนรักเก่าบ้างบางครั้ง คิดถึงเรื่องดีดีระหว่างเรา แต่ก็ไม่อยากได้เขากลับมาหรอกค่ะ
ได้แต่ภาวนาว่าขอให้เราเป็นสุดท้ายที่ถูกเขาทิ้ง ไม่อยากให้ผู้หญิงคนอื่นๆต้องมาเสียใจแบบเรา
……..‘เธอทำถูกแล้ว ที่ทิ้งฉันไว้กลางทาง’
-------------------------------------------------------------------------------
คือเราเลิกคิดถึงเรื่องการโดนทิ้งไปสักพักแล้วค่ะ
จนมาดู teaser เพลง 'ทิ้งไว้กลางทาง' เลยทำให้หวนคิดถึงอดีต
พอคิดได้อย่างนั้น เลยอยากยกตัวอย่างเรื่องราวนี้ มาเป็นกำลังใจให้คนที่ถูกทิ้งคนอื่นๆด้วยค่ะ
สักวันเราจะผ่านมันไปได้ค่ะ ฟ้าหลังฝนมันสดใสอย่างที่ใครๆเขาบอกไว้จริงๆ
ถึงมันจะยาก แต่สักวันมันจะผ่านไป
เป็นอย่างที่เขาพูดกันจริงๆค่ะ ว่าสักวันเราจะยิ้มให้กับอดีตที่ผ่านพ้นไป....
ว่าด้วยเพลง ‘ทิ้งไว้กลางทาง’ ของ POTATO
และทำให้เราคิดได้ว่า การถูกทิ้งมันไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีเสมอไป
เลยอยากจะมานำเสนอเรื่องของตัวเองค่ะ จากคนที่โดนทิ้งให้จมปลักอยู่กับความเศร้า
ความเสียใจ วันนี้….เขาได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแล้วค่ะ
ความรักของเรามันเริ่มขึ้นในเวลาที่ไม่เหมาะสมค่ะ เพราะเขามีแฟนอยู่แล้ว
อันที่จริงเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะแย่งเขามาจากใครหรอกค่ะ แต่สุดท้ายก็แย่งมา
เราก็รู้สึกเสียใจและสงสารแฟนเก่าเขามาก เรารู้ตัวดีค่ะว่าสักวันเขาก็คงทิ้งเราไปหาคนอื่นได้เหมือนกัน
แต่กาลเวลาก็ได้พิสูจน์ ว่าเขาคงไม่ทิ้งเราไปแน่ๆ เขาต้องรักเรามากแน่ๆ
เวลาผ่านไปเป็นเวลานาน ผ่านเหตุการณ์ต่างๆด้วยกันมากมายค่ะ ทำให้เราตายใจ
เลยคิดไปว่าเขาจะไม่มีวันทำร้ายเราแน่นอน
‘ฉันจะไม่ทำให้เธอเสียใจ’
‘ฉันจะไม่ทำให้เธอต้องมีน้ำตา’
‘ฉันจะไม่มีวันทิ้งเธอ’
รู้ทั้งรู้ค่ะ ว่าเขาก็พูดไปงั้นๆเพื่อให้เราเปิดใจ ไม่ได้จริงจังที่จะทำตามคำพูดจริงๆ แต่เรากลับเชื่อ และจดจำคำพูดพวกนั้นจนมาถึงทุกวันนี้
……สุดท้ายแล้ว ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน
ความรักของเรามันจะไม่ได้จบลงด้วยดีค่ะ สุดท้ายกรรมก็ตามสนอง
เขาทิ้งเราไปหาคนใหม่ ตั้งแต่วันนั้น ความรักก็เริ่มสร้างบาดแผลไว้มากมาย
ทำลายความหวังต่างๆ ทำให้เราเจ็บปวด ทำให้เราทรมาน
ทำให้เราไม่มีแรงที่จะก้าวไปข้างหน้าต่อ ในใจก็มีแต่คำถาม
เขาทำแบบนี้กับเราได้ยังไง?
นี่หรอคนที่บอกว่ารักเรา?
นี่หรอคือคนที่เราเคยไว้ใจ?
เราทำอะไรพลาดไปหรือเปล่า?
ประกอบกับภาพความทรงจำดีดีต่างๆที่ผุดขึ้นมาเป็นฉากๆทำให้หยุดน้ำตาไม่ได้สักที
แต่ก็มาถึงจุดจุดหนึ่งค่ะ จุดที่เราคิดได้ จุดที่เราเลิกโทษตัวเองและคนอื่น
จุดที่เราให้โอกาสกับตัวเองอีกครั้ง หลังจากนั้นจนมาถึงวันนี้
ชีวิตก็ดำเนินต่อไปได้เป็นปกติค่ะหรืออาจจะดีขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
เพราะเราพยายามรักตัวเองให้มากกว่าเดิม ดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของเรามากขึ้นกว่าเดิม
ทำให้ชีวิตของเราตอนนี้ดีมากๆเลย เราย้อนกลับไปคิดอีกที
ถ้าหากเราไม่ถูกทิ้งในวันนั้น เราคงไม่รักตัวเองขึ้นมากขนาดนี้
เราคงไม่มีเวลาใส่ใจคนรอบข้างมากขนาดนี้ ไม่ได้อยู่กับครอบครัวหรือเพื่อนๆมากขนาดนี้
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เรารู้สึกว่าการที่เราถูกทิ้งนั้นทำให้เราเข้มแข็งขึ้น เหมือนมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น
ความคิดเรามีเหตุผลมากขึ้น และอย่างที่รู้ค่ะคนที่เคยโดนแย่งคนรักไป
ก็คงไม่คิดไปแย่งคนรักใครอีก ซึ่งเราก็เป็นค่ะ เพราะเราเข้าใจถึงความรู้สึกนั้นดี
ตอนนี้ดำเนินชีวิตไปอย่างถูกศีลธรรม และไม่เร่งรีบเรื่องความรักค่ะ
พยายามใช้เวลากับสิ่งรอบข้าง อาจจะมีเหงาบ้างแต่ก็อยู่ได้ค่ะ
คิดถึงคนรักเก่าบ้างบางครั้ง คิดถึงเรื่องดีดีระหว่างเรา แต่ก็ไม่อยากได้เขากลับมาหรอกค่ะ
ได้แต่ภาวนาว่าขอให้เราเป็นสุดท้ายที่ถูกเขาทิ้ง ไม่อยากให้ผู้หญิงคนอื่นๆต้องมาเสียใจแบบเรา
……..‘เธอทำถูกแล้ว ที่ทิ้งฉันไว้กลางทาง’
-------------------------------------------------------------------------------
คือเราเลิกคิดถึงเรื่องการโดนทิ้งไปสักพักแล้วค่ะ
จนมาดู teaser เพลง 'ทิ้งไว้กลางทาง' เลยทำให้หวนคิดถึงอดีต
พอคิดได้อย่างนั้น เลยอยากยกตัวอย่างเรื่องราวนี้ มาเป็นกำลังใจให้คนที่ถูกทิ้งคนอื่นๆด้วยค่ะ
สักวันเราจะผ่านมันไปได้ค่ะ ฟ้าหลังฝนมันสดใสอย่างที่ใครๆเขาบอกไว้จริงๆ
ถึงมันจะยาก แต่สักวันมันจะผ่านไป
เป็นอย่างที่เขาพูดกันจริงๆค่ะ ว่าสักวันเราจะยิ้มให้กับอดีตที่ผ่านพ้นไป....