เรื่องมีอยู่ว่าเราจะแต่งงานเดือนมกราปีหน้า เลยเริ่มเตรียมตัวหาข้อมูลต่างๆรวมถึงชุดแต่งงาน โดยหลักเกณการหาชุดแต่งงานของเราคือ เราคากลางๆ ถ้ารวมแพ็คเกจถ่ายพรีเวดดิ้งได้จะดี แต่เราไม่ได้ต้องการรูปมากมากมาย อยากได้แค่รูปใส่ชุดแต่งงานเอาไว้หน้างานและพรีเซ็นเทชั่น โดยพื้นฐานแล้วเรากับแฟนจบด้านถ่ายรูปมา เราจะไปเที่ยวและเล่นกล้องมีรูปสวยๆเยอะแล้ว ครั้นจะเอาเพื่อนๆที่เป็นช่างภาพมาถ่ายให้ก็คิดว่า ถ้าต้องมานั่งจ้างชั่งแต่งหน้าและดูแลชุดพรีเวดดิ้ง สู้เอาคนที่เค้าถ่ายประจำอยู่แล้วมาดีกว่า เลยเริ่มดำเนินการหาร้าน เริ่มจากหาร้านดังๆที่สาวๆนิยมไปกัน ดูแล้วชอบชุดไทยร้านนี้ แต่ยังไม่ถูกใจชุดเจ้าสาว เลยค้นหาต่อไป กะจะเอาชุดไทยร้านนี้ละเอาชุดเจ้าสาวร้านอื่น แต่มีน้องแนะนำม่ว่า เอาร้านเดียวจบๆดีกว่าปะ จะได้ไม่ต้องมานั่งฟิตติ้งทีละร้าน ซึ่งก็จริง ก็เลยพยายามหาไปเรื่อยๆ บางร้านโอชุดนี้ไม่โอชุดนี้ก็หลายรูปแบบ บางร้านบริการดี บางร้านไม่สนใจเรา บางร้านเรายังไม่จองก็แอบเคืองๆนิดนึง ลองมาทั้งหมด 5 ร้านละ ก็ยังไม่ลงตัว จนมาร้านนี้ ร้านที่6 อยู่ย่านบางลำภู มาตามลายแทงในเฟสบุ๊ค ดูรูปในเฟส ราคา น่าจะรับไหว เดินเข้าร้านเจอผู้จัดการร้านเป็นผู้หญิง คอสตูมเป็นสาวประเภทสอง ก็ตอนรับดีค่ะ ก็บอกราคาแพคเกจมา ละถามว่าเรารับได้ไหม เราก็รับได้นะราคานี้ แล้วเพื่อนเราก็ถามว่าลองชุดจำกัดกี่ชุดคะ เค้าก็บอกว่าลองได้ค่ะถ้าสนใจ ซึ่งเราก็ดูจากรูปละจิ้มเลยจะลองชุดนี้ ซึ่งชุดนี้ไม่เหมือนร้านอื่นๆที่เจอมาสไตร์เรามาก พอลองก็ใส่พอดี รู้สึกชอบมาก ก็น่าจะเอาร้านนี้นะ คิดในใจ แล้วก็ให้เราลองชุดไทย ชุดไทยก็พอได้ แต่ไม่ถึงกับถูกใจมาก แต่ก็โออยู่ ก็ไม่ได้ลองละ รู้สึกเหมือนเค้าไม่อยากให้ลองเยอะ บวกกับร้านบอกว่า ถ้าจองแพคเกจ สามารถเลือกชุดได้อีก ซึ่งเราก็ถูกใจชุดนี้นะ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เราเลยบอกว่าถ้าจะเอาร้านนี้ลองดูชุดเจ้าบ่าวไหม แต่เหมือนผู้จัดการร้านก็อยากให้จองแพคเกจก่อนละจะหาชุดให้ แพคเกจ 4 ชุดแถมพรีเวดดิ้งให้แต่รูป ถ้าจะเอาไฟล์ซื้อเพิ่มก็ไม่ได้ติดอะไร เพราะเราก็ต้องดารภาพไม่เยอะ แล้วฝนกำลังจะตก บวกกับร้านนี้ไม่มีที่จอดรถ แฟนเราเอารถไปจอดไกล กลัวฝนตกนานเลยจะวิ่งไปเอารถมาจอดหน้าร้านก่อน เลยขอตัววิ่งไปเอารถ ผู้จัดการร้านเลยเรียกแฟนเราว่าจะหนีไปไหน มาทำเอกสารจองก่อน แฟนเราเลยบอกว่าคุยกะเราได้เลย แล้วก็วิ่งไปเอารถ พอมานั่งคุย พี่แกก็จะจับเราเซ็นสัญญาเลยค่ะ เราบอกว่าเซ็นเลยเหรอ ขอคิดก่อนได้ปะ เธอบอกว่าไม่ได้ค่ะ เราก็ตกใจ ทำไมไม่ได้อะ เธอบอกว่า ชอบแล้วก็เอาเลยสิค่ะ ราคาดีขนาดนี้ เราบอกว่า เราโอเค แต่ยังไงก็ขอคุยกะแฟนก่อน เธอก็บอกว่า "อ้าว คุณผู้ชายบอกแล้วไงให้เราจัดการ เค้าอะดูแล้วว่าพี่ผู้ชายยังไงก็ต้องแล้วแต่เรา เราตัดสินใจได้เลย"
เรา: มันก็ต้องคุยกันก่อนป่าวคะ ขอคุยก่อนนะเดี๋ยวกลับมา ชอบร้านนี้นะ แต่ขอเวลานิดนึง
ผู้จัดการร้าน: จองเลย มัดจำ50% ไม่ได้ เอา 20% ก็ได้
เรา: คือเราไม่มีเงินต้องให้แฟนจ่าย
ผู้จัดการร้าน: เค้าจะจ่ายอะไร ดูสิเค้าสนใจคุณหรือป่าว ดูสิยังทิ้งไปเลย ปล่อยคุณอยู่คนเดียวเนี่ย มาไม่เห็นจะเป็นประโยชน์อะไร ไม่เห็นช่วยตัดสินใจ เพื่อนคุณยังมีประโยชน์กว่าเลย เนี่ยจองก่อนเลย ขอ 10% ก็ได้ คุณจ่ายเองเลย แฟนคุณไม่สนใจหรอกเนี่ยหนีไปเลย"
เรา: !!! อ้าวอีนี่ด่าแฟนตูอีก มันใช่มั้ย!!!(คิดในใจ) " เค้าไม่ได้หนีหรอกแค่วิ่งไปเอารถ ยังไงแฟนเราก็ต้องจ่าย แต่ขอไปคุยกันได้ไหม "
ผู้จัดการร้าน: จองเถอะนะ จองก่อน แฟนไม่สนใจก็จองเลย เค้าต้องฟังคุณ
(แฟนเราก็โทรมาตามบอกว่า หิวข้าวจะเป็นลมละ จะเสดยังค่อยกลับมาจอง เราก็บอกว่าจองเลยมะจบๆ แพคเกจก็โอ แฟนเราบอกว่า มันโอก็จิง แต่ยังไงก็ควรกลับไปคิดก่อนปะ จะรีบจองไปไหน เราก็เคๆ จัดการกะผู้จัดการก่อน)
ผู้จัดการ: จองเถอะนะ (น้ำตาเริ่มมา) และด่าแฟนเราต่อ
เรา: ;&&: เกิดอาการงง ขนาดนี้เลยเหรอวะ " เอิ่ม ... คุณคะ ถ้าเราจองอะได้ไหม ตอบว่าได้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องเตรียกะแฟน เพราะการแต่งงานมันต้องพร้อมใจกันสองฝ่ายปะคะ และแฟนเราเป็นคนจ่ายเงิน ยังไงเค้าควรจะเห็นด้วยกับเราในการจองนะ "
.... ผู้จัดการยังดื้อดึงไม่พอใจ ไม่ยอมให้เราไปไหน อีเพื่อนเริ่มชิ่ง พอดีแฟนเราเอารถมาจอดรอหน้าร้าน อีเพื่อนเดินออกมาหาแฟนเราละดึงให้เราออกมาเลยจบๆ ท่าจะคุยไม่รู้เรื่อง เราเลยเริ่มโมโห.....
เรา: เอางี้ขอถามไรนิดนึงนะคะ มีปัญหาอะไรมากไหมคะกับการลองชุด ก่อนลองก็ไม่ได้บอกว่าต้องจองก่อนถึงลอง แค่ถามว่าเรารับได้กะราคาไหม แล้วถ้าคุณบอกว่าลองแล้วต้องจอง เราบอกตรงๆนะเราไม่ลองค่ะ
ผู้จัดการร้าน : คือชุดมันช้ำอะ ปกติไม่ได้ให้ใครลองง่ายๆ
เรา: แต่คุณไม่ได้บอกก่อนลองนะว่าลองละต้องเอา เราไปร้านอื่นก็ลองได้หมด เอางี้ถามจิงๆ ถ้าจะมาจองวันอื่นจะให้เราจองไหม หรือถ้าเราจะมาวันอื่นไม่รับเราแล้ว ถ้าไม่รับเราแล้ว โอเคจบ เราก็ไม่กล้ากลับมาอีก แต่ให้จองวันนี้ บอกได้เลยว่ายัง ขอคิดก่อน
ผู้จัดการร้าน : รับค่ะรับ วันอื่นก็รับ
เรา: ถ้ารับจะกดดันเราทำไม ตอนนี้อะร้านนี้ได้ใจเราไปแล้ว 80% อีกแค่20% แค่รอนิดเดียว ถ้ากดดันเราแบบนี้บอกได้เลย 0% ไม่กล้ากลับมาละ กลัว
ผู้จัดการร้านก็หงอยลง ละ พูดไรไม่ออก
ผู้จัดการร้าน: ก็แค่น้อยใจ อยากให้เอาไปเลย เราให้ใจคุณ 100% คุณให้เรา80%เอง
เรา: ที่นี่80% เราขอเวลาอีกนิดเดียวอะ เร่งแบบนี้ทำไร ร้านอื่นไม่เร่งละกดดันขนาดนี้
ผู้จัดการ : ก็ได้ค่ะ งั้นอย่าลืมกลับมานะคะ อยากให้กลับมา แค่กลัวบางคนมาลองละเอาชุดร้านเราไปเรียนแบบ
เรา: ไม่หรอกค่ะ ชอบชุดร้านนี้ค่ะ แต่ขอคิดโอเคนะคะ
ละเราก็กลับบ้าน และเล่าให้แฟนฟัง แฟนก็บอกว่า จิงๆร้านนี้ชุดโอเคเลยเหมาะกับเรา ราคาก็โอเคนะ แต่ปกติเราจะซื้ออะไรเราก็ต้องคิดเปรียบเทียบไม่ใช่เหรอ แล้วเธอคิดดูนะ เจอดราม่าขนาดนี้แล้ว ถ้าเราวางเงินไปแล้ว จะเจอดราม่าไรอีกไหม จะราบรื้นไหม้วลาถ่ายพรี
เราก็ฉุกคิด เออน่ากลัวนะ ขนาดจะจองยังแทบจะปิดร้านกันเราหนี ตอนเป็นลูกค้าจะดราม่าไหม กลัวจิงๆตอนนี้เลยแอบลังเลเรื่องดราม่าค่ะ เริ่มกลัว แต่ชอบชุดร้านนี้นะ ถามเพื่อนๆเคยเจอเคสนี้ไหมคะ ถ้าเจอจะยังจองไหมคะ แอบกังวล
เจอดราม่า เมื่อเข้าร้านชุดแต่งงานย่านบางลำภู
เรา: มันก็ต้องคุยกันก่อนป่าวคะ ขอคุยก่อนนะเดี๋ยวกลับมา ชอบร้านนี้นะ แต่ขอเวลานิดนึง
ผู้จัดการร้าน: จองเลย มัดจำ50% ไม่ได้ เอา 20% ก็ได้
เรา: คือเราไม่มีเงินต้องให้แฟนจ่าย
ผู้จัดการร้าน: เค้าจะจ่ายอะไร ดูสิเค้าสนใจคุณหรือป่าว ดูสิยังทิ้งไปเลย ปล่อยคุณอยู่คนเดียวเนี่ย มาไม่เห็นจะเป็นประโยชน์อะไร ไม่เห็นช่วยตัดสินใจ เพื่อนคุณยังมีประโยชน์กว่าเลย เนี่ยจองก่อนเลย ขอ 10% ก็ได้ คุณจ่ายเองเลย แฟนคุณไม่สนใจหรอกเนี่ยหนีไปเลย"
เรา: !!! อ้าวอีนี่ด่าแฟนตูอีก มันใช่มั้ย!!!(คิดในใจ) " เค้าไม่ได้หนีหรอกแค่วิ่งไปเอารถ ยังไงแฟนเราก็ต้องจ่าย แต่ขอไปคุยกันได้ไหม "
ผู้จัดการร้าน: จองเถอะนะ จองก่อน แฟนไม่สนใจก็จองเลย เค้าต้องฟังคุณ
(แฟนเราก็โทรมาตามบอกว่า หิวข้าวจะเป็นลมละ จะเสดยังค่อยกลับมาจอง เราก็บอกว่าจองเลยมะจบๆ แพคเกจก็โอ แฟนเราบอกว่า มันโอก็จิง แต่ยังไงก็ควรกลับไปคิดก่อนปะ จะรีบจองไปไหน เราก็เคๆ จัดการกะผู้จัดการก่อน)
ผู้จัดการ: จองเถอะนะ (น้ำตาเริ่มมา) และด่าแฟนเราต่อ
เรา: ;&&: เกิดอาการงง ขนาดนี้เลยเหรอวะ " เอิ่ม ... คุณคะ ถ้าเราจองอะได้ไหม ตอบว่าได้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องเตรียกะแฟน เพราะการแต่งงานมันต้องพร้อมใจกันสองฝ่ายปะคะ และแฟนเราเป็นคนจ่ายเงิน ยังไงเค้าควรจะเห็นด้วยกับเราในการจองนะ "
.... ผู้จัดการยังดื้อดึงไม่พอใจ ไม่ยอมให้เราไปไหน อีเพื่อนเริ่มชิ่ง พอดีแฟนเราเอารถมาจอดรอหน้าร้าน อีเพื่อนเดินออกมาหาแฟนเราละดึงให้เราออกมาเลยจบๆ ท่าจะคุยไม่รู้เรื่อง เราเลยเริ่มโมโห.....
เรา: เอางี้ขอถามไรนิดนึงนะคะ มีปัญหาอะไรมากไหมคะกับการลองชุด ก่อนลองก็ไม่ได้บอกว่าต้องจองก่อนถึงลอง แค่ถามว่าเรารับได้กะราคาไหม แล้วถ้าคุณบอกว่าลองแล้วต้องจอง เราบอกตรงๆนะเราไม่ลองค่ะ
ผู้จัดการร้าน : คือชุดมันช้ำอะ ปกติไม่ได้ให้ใครลองง่ายๆ
เรา: แต่คุณไม่ได้บอกก่อนลองนะว่าลองละต้องเอา เราไปร้านอื่นก็ลองได้หมด เอางี้ถามจิงๆ ถ้าจะมาจองวันอื่นจะให้เราจองไหม หรือถ้าเราจะมาวันอื่นไม่รับเราแล้ว ถ้าไม่รับเราแล้ว โอเคจบ เราก็ไม่กล้ากลับมาอีก แต่ให้จองวันนี้ บอกได้เลยว่ายัง ขอคิดก่อน
ผู้จัดการร้าน : รับค่ะรับ วันอื่นก็รับ
เรา: ถ้ารับจะกดดันเราทำไม ตอนนี้อะร้านนี้ได้ใจเราไปแล้ว 80% อีกแค่20% แค่รอนิดเดียว ถ้ากดดันเราแบบนี้บอกได้เลย 0% ไม่กล้ากลับมาละ กลัว
ผู้จัดการร้านก็หงอยลง ละ พูดไรไม่ออก
ผู้จัดการร้าน: ก็แค่น้อยใจ อยากให้เอาไปเลย เราให้ใจคุณ 100% คุณให้เรา80%เอง
เรา: ที่นี่80% เราขอเวลาอีกนิดเดียวอะ เร่งแบบนี้ทำไร ร้านอื่นไม่เร่งละกดดันขนาดนี้
ผู้จัดการ : ก็ได้ค่ะ งั้นอย่าลืมกลับมานะคะ อยากให้กลับมา แค่กลัวบางคนมาลองละเอาชุดร้านเราไปเรียนแบบ
เรา: ไม่หรอกค่ะ ชอบชุดร้านนี้ค่ะ แต่ขอคิดโอเคนะคะ
ละเราก็กลับบ้าน และเล่าให้แฟนฟัง แฟนก็บอกว่า จิงๆร้านนี้ชุดโอเคเลยเหมาะกับเรา ราคาก็โอเคนะ แต่ปกติเราจะซื้ออะไรเราก็ต้องคิดเปรียบเทียบไม่ใช่เหรอ แล้วเธอคิดดูนะ เจอดราม่าขนาดนี้แล้ว ถ้าเราวางเงินไปแล้ว จะเจอดราม่าไรอีกไหม จะราบรื้นไหม้วลาถ่ายพรี
เราก็ฉุกคิด เออน่ากลัวนะ ขนาดจะจองยังแทบจะปิดร้านกันเราหนี ตอนเป็นลูกค้าจะดราม่าไหม กลัวจิงๆตอนนี้เลยแอบลังเลเรื่องดราม่าค่ะ เริ่มกลัว แต่ชอบชุดร้านนี้นะ ถามเพื่อนๆเคยเจอเคสนี้ไหมคะ ถ้าเจอจะยังจองไหมคะ แอบกังวล