part 1 : อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
ผมเกิดและโตที่นี่ แม้ตอนนี้ ผมยังใช้ชีวิต และทำงานอยู่กรุงเทพ แต่ก็วางแผน ในอนาคตของตัวเองแล้วว่า จะกลับมาใช้ชีวิตแบบเต็มตัว ณ ที่แห่งนี้ ในเร็ววันนี้
ตัวอำเภอเมืองศรีสัชนาลัย เป็นตัวเมืองเล็กๆ ผู้คนไม่วุ่นวาย มีความเงียบสงบ ในตัวมันเองอยู่
ผู้คนที่นี้ อัธยาศัยดี มีน้ำใจ ชีวิตดำเนินไปอย่างช้าๆ เนิบๆ ตามวิถีของคนต่างจังหวัด ศรีสัชนาลัย จะมีแม่น้ำยมไหลผ่าน ช่วงหน้าหนาว น้ำค่อนข้างแห้ง มีน้อย
เลยตัวอำเภอศรีสัชนาลัยไม่กี่กิโล ก็จะสามารถท่องเที่ยว แหล่งโบราณสถานเก่าแก่ ที่ชื่อว่าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย หรือที่ชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่า แก่งหลวง
ที่นี่ มีศิลปะขอม ผสมกลมกลืนไปกับศิลปะสมัยสุโขทัย
วัดที่มีความโดดเด่น คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือ วัดพระบรมธาตุเมืองเชลียง และเรียกอีกชื่อว่า วัดพระปรางค์ เป็นกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ และเป็นพระอารามหลวงชั้นราชวรวิหาร
ด้านหน้าพระปรางค์ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางมารวิชัย หรือหลวงพ่อโต
ด้านข้างจะมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางลีลา ที่อ่อนช้อยงดงาม
รอบๆบริเวณวัดพระปรางค์มีมุมให้ถ่ายภาพเยอะครับ สำหรับคนที่ชื่นชอบเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมโบราณสถาน
เราทุกคนรู้สึกเหมือนกันไหมครับ ว่ายุคสมัยสุโขทัย ใบหน้าพระพุทธรูป จะดูโอบอิ่ม และมีความสุข
มณฑปพระอัฏฐารศ เดิมน่าจะเป็นมณฑปพระสี่อิริยาบถ หลังคามุงกระเบื้องเครื่องไม้ ต่อมาพระพุทธรูปในอิริยาบถอื่น ๆ สามองค์ได้ ชำรุดคงซ่อมแซมดัดแปลงที่เหลือเป็นพระพุทธรูปยืนอยู่ภายในซุ้ม คูหาองค์เดียว
ที่วัดพระปรางค์ จะมีสะพานไม้ข้ามแม่น้ำยม ที่ขึงด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านใช้สัญจรข้ามไปมา ระหว่างสองฝั่งแม่น้ำ ผมขึ้นไปเดินบนสะพานแล้ว ยังโคลงเคลงไปมา แต่ชาวบ้าน ขี่มอเตอร์ไซค์ ผ่านกันเฉยเลย
นอกจากวันพระปรางค์แล้ว ที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ยังประกอบด้วยวัดและโบราณสถานอีกมากมาย หลายวัด ที่ดังๆก็เช่นวัดช้างล้อม
และยังมี สถานที่อื่นๆ ให้เก็บภาพอีกเพียบ ลองดูสถานที่ตาม link นี้นะครับ
http://www.sawadee.co.th/thai/sukhothai/sisatchanalia-hpark.html
จบ part 1 ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ครับ แต่ศรีสัชนาลัย ยังมี แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย ที่คนทั่วไป ยังไม่รู้ก็เป็นได้
part 2 : ถ้ำธาราวสันต์ ไว้ผมมาต่อคืนนี้นะครับ
ชวนเที่ยว....ศรีสัชนาลัย เมืองที่ผมเกิด
ผมเกิดและโตที่นี่ แม้ตอนนี้ ผมยังใช้ชีวิต และทำงานอยู่กรุงเทพ แต่ก็วางแผน ในอนาคตของตัวเองแล้วว่า จะกลับมาใช้ชีวิตแบบเต็มตัว ณ ที่แห่งนี้ ในเร็ววันนี้
ตัวอำเภอเมืองศรีสัชนาลัย เป็นตัวเมืองเล็กๆ ผู้คนไม่วุ่นวาย มีความเงียบสงบ ในตัวมันเองอยู่
ผู้คนที่นี้ อัธยาศัยดี มีน้ำใจ ชีวิตดำเนินไปอย่างช้าๆ เนิบๆ ตามวิถีของคนต่างจังหวัด ศรีสัชนาลัย จะมีแม่น้ำยมไหลผ่าน ช่วงหน้าหนาว น้ำค่อนข้างแห้ง มีน้อย
เลยตัวอำเภอศรีสัชนาลัยไม่กี่กิโล ก็จะสามารถท่องเที่ยว แหล่งโบราณสถานเก่าแก่ ที่ชื่อว่าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย หรือที่ชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่า แก่งหลวง
ที่นี่ มีศิลปะขอม ผสมกลมกลืนไปกับศิลปะสมัยสุโขทัย
วัดที่มีความโดดเด่น คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือ วัดพระบรมธาตุเมืองเชลียง และเรียกอีกชื่อว่า วัดพระปรางค์ เป็นกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ และเป็นพระอารามหลวงชั้นราชวรวิหาร
ด้านหน้าพระปรางค์ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางมารวิชัย หรือหลวงพ่อโต
ด้านข้างจะมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางลีลา ที่อ่อนช้อยงดงาม
รอบๆบริเวณวัดพระปรางค์มีมุมให้ถ่ายภาพเยอะครับ สำหรับคนที่ชื่นชอบเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมโบราณสถาน
เราทุกคนรู้สึกเหมือนกันไหมครับ ว่ายุคสมัยสุโขทัย ใบหน้าพระพุทธรูป จะดูโอบอิ่ม และมีความสุข
มณฑปพระอัฏฐารศ เดิมน่าจะเป็นมณฑปพระสี่อิริยาบถ หลังคามุงกระเบื้องเครื่องไม้ ต่อมาพระพุทธรูปในอิริยาบถอื่น ๆ สามองค์ได้ ชำรุดคงซ่อมแซมดัดแปลงที่เหลือเป็นพระพุทธรูปยืนอยู่ภายในซุ้ม คูหาองค์เดียว
ที่วัดพระปรางค์ จะมีสะพานไม้ข้ามแม่น้ำยม ที่ขึงด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่ ที่ชาวบ้านใช้สัญจรข้ามไปมา ระหว่างสองฝั่งแม่น้ำ ผมขึ้นไปเดินบนสะพานแล้ว ยังโคลงเคลงไปมา แต่ชาวบ้าน ขี่มอเตอร์ไซค์ ผ่านกันเฉยเลย
นอกจากวันพระปรางค์แล้ว ที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ยังประกอบด้วยวัดและโบราณสถานอีกมากมาย หลายวัด ที่ดังๆก็เช่นวัดช้างล้อม
และยังมี สถานที่อื่นๆ ให้เก็บภาพอีกเพียบ ลองดูสถานที่ตาม link นี้นะครับ
http://www.sawadee.co.th/thai/sukhothai/sisatchanalia-hpark.html
จบ part 1 ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ครับ แต่ศรีสัชนาลัย ยังมี แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย ที่คนทั่วไป ยังไม่รู้ก็เป็นได้
part 2 : ถ้ำธาราวสันต์ ไว้ผมมาต่อคืนนี้นะครับ