บทสัมภาษณ์โค้ชซิโก้ จาก ELLE MAN

กระทู้สนทนา
พอดีเล่นทวิตฯแล้วเพื่อนคัดจากหนังสือบางส่วนมาให้อ่านกัน เห็นว่าน่าสนใจดีเพราะให้แง่คิดเกี่ยวกับทัศนคติที่ดีในการทำทีมเป็นอย่างมากค่ะ
ขออนุญาตเพื่อนในการคัดลอกข้อความแล้วนะคะ ( @youdunnowho )  เยี่ยม ขอบคุณอีกครั้งข่าาา  มาเริ่มกันเลย!

     ซิโก้พูดถึงแท็คติคว่า : 4-3-3 คือแท็คติคที่สมบูรณ์แบบของผมเลย รุกและรับรวดเร็ว เน้นการต่อบอลบนพื้นสวยงาม ออกบอลให้แม่นและไวเหมือน "บาสเก็ตบอล"   อย่าเก็บบอลไว้กับตัวนาน เพราะนักฟุตบอลไทยตัวเล็ก โดนแรงปะทะนิดเดียวก็ปลิวแล้ว  สิบล้อชนกับเฟอรารี่อย่างไรเฟอรารี่ก็ต้องพัง และเราก็ยังไม่ถึงกับเป็นเฟอรารี่ด้วย เป็นแค่ระกระบะหรือรถเก๋งดีๆคันหนึ่ง

          บทบาทการเป็นโค้ชมาแปดปี : "ผมเป็นโค้ชมือใหม่ ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำทีมใหญ่เลย ชลบุรีเอฟซีคือใหญ่สุดและก็ได้แค่รองแชมป์" ซิโก้เล่าว่านอกนั้นทีมที่ซิโก้ได้ทำ เป็น "ทีมหนีตกชั้น" ทั้งหมด  "มันขึ้นอยู่กับเป้าหมายครับ ทีมเล็กก็มีเป้าหมายของเขา"    ถ้าให้ประเมินตัวเอง (กับงานโค้ชแปดปีที่มาเปรี้ยงช่วงหลัง) ผมคิดว่าไม่เลวนะ เพราะทุกทีมที่เข้าไปทำก็ประสบความสำเร็จตามเป้าทั้งหมด        งานสโมสรเหมือนเป็นการเก็บเกี่ยว เพราะทำทีมชาติมันเป็นอีกแบบเลย ต้องเข้มข้นจริงจังมากขึ้น ทำสโมสรยังแพ้ชนะได้บ้าง แต่ทำทีมชาติแพ้ไม่ได้

           เรื่องการทำงานโค้ช : "โค้ชเป็นงานหนัก ต้องดูทุกอย่างสากกะเบือยันเรือรบ ตั้งแต่การคัดนักเตะ การวางตำแหน่ง การเก็บตัว เสื้อผ้า อาหาร"
การพักผ่อน ฟิตเนส การฟื้นฟูร่างกาย การเดินทาง แช่สระที่ไหน นอนที่ไหน สนามซ้อมเป็นอย่างไร รถบัสดีไหม
ผมเรียนรู้จากหนึ่ง-ประสบการณ์การเป็นนักเตะ
สอง-การอบรมไลเซนส์ ตอนนี้ได้จาก ICSC ก็ได้องค์ความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬามาเสริม
สาม-เรียนรู้จากโค้ชดังๆ อย่างเช่น Pep Guardiola, Jose Mourinho, Sir Alex Ferguson และ Joachim Low สี่คนนี้คือ "อาจารย์" ของผม
      ผมจะดูว่าเขาทำทีมรูปแบบไหน สไตล์อะไร แล้วนำมาปรับใช้กับทีมชาติไทย ทำไมเป๊ปเล่น 4-3-3 มูรินโญ่ เล่น 4-2-3-1 ฯลฯ

ยิ้มยิ้มยิ้มยิ้ม

      ในการบริหารทีม : "ผมเป็นโค้ชสไตล์ให้คำแนะนำ บ่งชี้จุดแข็งจุดอ่อน อะไรควรทำไม่ควรทำ อะไรควรทำก่อนทำหลัง วิเคราะห์ด้วยเหตุด้วยผล
หรือบทบาทหน้าที่ของนักฟุตบอลแต่ละตำแหน่งไม่เหมือนกัน ผู้รักษาประตูมีหน้าที่ป้องกัน ไม่ใช่ขึ้นไปยิงเป็นประตู ต้องทำหน้าที่ตัวเองให้ดี

            ผมจะไม่สั่งไม่เผด็จการ แต่ให้คำแนะนำ เช่นการควบคุมอารมณ์ในสนาม ถ้าคุณโดนใบแดงไล่ออก คุณสบายอยู่คนเดียว แต่ปล่อยให้เพื่อนสิบคนต้องลำบาก
     ปีกมีหน้าที่ส่งบอลให้ศูนย์หน้า ไม่ใช่ยิงประตู แต่เราดู Cristiano Ronaldo มากไปเลยอยากลากเข้าไปยิงเอง ทำงานรองมากกว่างานหลัก
หรือฟุลแบ็คมีหน้าที่ตั้งรับ แต่ทำไมคุณชอบเติมเกมรุก หลุดตำแหน่งของคุณไปแล้วทำให้ทีมเสียประตู คุณอยากรุกต้องรับก่อน ต้องเข้าใจหน้าที่

              การที่เราอยากเป็นซูเปอร์สตาร์กันมากไปนั้น ซิโก้บอกว่า  "ทุกคนเป็นได้ แต่เป็นในแต่ละตำแหน่ง เช่น Cannavaro ไม่ต้องยิงแต่เกมรับเหนียวแน่น"     ทำอย่างไรจึงจะเป็น Best Player อดีตสุดยอดกองกลางอย่าง Bryan Robson บอกว่า เมื่อใดก็ตามที่เขาเติมเกมขึ้นไปยิงแล้วไม่เข้าหรือเสียบอล     สิ่งแรกที่เขาคิดคือต้องวิ่งกลับมายังตำแหน่งตัวเองให้เร็วที่สุด นี่คือสิ่งที่ best player ทำกัน ทำหน้าที่ของตัวเองให้เพอร์เฟ็คท์

                หัวเราะหัวเราะหัวเราะ

            ครั้งแรกที่มาคุมทีม ปัญหาหนักของพี่โก้คือ : "หนึ่ง ทุกคนเล่นตามใจตัวเอง สอง ไม่มีวินัย ชอบเสียฟาวล์ง่ายๆหรือโดนใบแดง ทำให้ทีมมีปัญหา"
ดังนั้น เมื่อซิโก้เข้ามา จึงเน้นวินัยมาก และมีกฎมโหฬารในแคมป์
    "เพราะเรากำลังทำงานให้ประเทศชาติ เวลาแพ้ แพ้ในนามไทยแลนด์ ไม่ใช่ทีมซิโก้"    เวลาแพ้ ไม่ใช่ทีมซิโก้ ไม่ใช่ทีมเมสซี่เจ แพ้ทั้งประเทศ ฉะนั้น ถ้าไม่มีวินัย ทุกอย่างก็จบ เราแบกรับความคาดหวังของแฟนบอลที่นั่งรออยู่

         ผมเคยได้ยินคำด่าเหล่านี้มาตลอดชีวิต "ห่วยแตก หมาไม่- เล่นไม่ได้เรื่อง หมดแรงไม่วิ่ง อยากเล่นก็เล่น อยากเดินก็เดิน ร่างกายไม่พร้อม ติดทีมชาติได้อย่างไร" ไม่ได้ด่าทีมชุดนี้ แต่ด่าชุดเราเอง(ชุดสมัยซิโก้) ตอนเป็นผู้เล่นผมเกิดคำถามตลอดว่าเราจะทำให้ดีกว่าเดิมได้อย่างไร

        ผมมีกฎเหล็กในแคมป์ 4 ข้อ คือ "ห้ามดื่มเหล้า ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามเล่นการพนัน ห้ามหนีเที่ยว" ทุกข้อมีเหตุผลในตัวมันเอง

     ทำไมไม่ให้ดื่มเหล้า เพราะเรี่ยวแรงที่ใช้ในการเล่น 120 นาทีของคุณจะหมดไป ทำไมไม่ให้สูบบุหรี่ เพราะการหายใจใช้พลังเยอะ การหายใจต้องดี

        ห้ามเล่นการพนัน เพราะเวลาเก็บตัวฝึกซ้อมไม่ได้ใช้เวลาเป็นปีเหมือนแต่ก่อน เจอกันแค่สามวัน (ห๊าาา) จะมาสับไพ่หรือนั่บนับแต้มกันอยู่ทำไม
เสียเวลา ผมมีงานต้องทำอีกเยอะแยะ ถ้าจะเล่นกันคุณเขามาทำไม ทุกคนต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า
        ทำไมห้ามหนีเที่ยว เพราะเจอกันไม่กี่วัน ถ้าเกิดอุบัติเหตุ รถชน ใครรับผิดชอบ ผมนี่รับผิดชอบ แล้วพอส่งกลับสโมสร เขาด่าใคร ด่าผม ปล่อยเด็กไปเที่ยวได้ยังไง         แล้วสุดท้ายตกที่ใคร ที่เด็ก ผลงานคุณไม่ดี แฟนบอลก็ด่าคุณ

   ที่ผ่านมามีคนทำผิดไม่เยอะ แค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้า ผมส่งกลับสโมสร "ทันที" แต่ไม่ได้ให้ข่าว เพราะไม่อยากฆ่าน้อง

            ผมก็ให้โอกาสกลับตัว พอถึงเวลาค่อยกลับมาใหม่ (เผด็จการไหม) ไม่ ผมไม่ได้ทำเหมือนค่ายทหาร ผมแค่มีกฎที่ตั้งไว้ จะเชื่อไม่เชื่อก็อีกเรื่อง
ผมไม่มีตักเตือน เคาะห้องนอน เดินตรวจ จ้ำจี้จ้ำไช ผมเนี้ยบในวิธีการ ไม่สั่ง ให้คิดตามเอาเอง ไม่เชื่อก็เตรียมเก็บเสื้อผ้ากลับบ้านได้
เม่าเซย์โน

          มี SEX ในแคมป์ได้ไหม อมยิ้ม13
    


        ผมไม่ได้สอนเรื่องฟุตบอลอย่างเดียว แต่สอนการใช้ชีวิตด้วย ฟุตบอลเล่นได้ไม่เกินสิบปีหรอก คุณมีช่วงเวลาเก็บเงินแค่นี้ คุณควรดูแลร่างกาย  เขาเรียกว่าเอาแข้งตัวเองเลี้ยงชีพ คุณจะใช้ขาใช้แข้งอย่างไร จะมีบ้าน มีรถ มีอนาคตที่ดี เพราะถ้าคุณ "รวย" คุณไม่มาเตะบอลหรอก
      ถ้ารวย คุณไปตีกอล์ฟหรือขับรถฟอร์มูล่าวันแล้ว ครอบครัวคุณยากจนทั้งนั้นแหละ ผมก็ยากจน เพราะฉะนั้น อย่าเสียโอกาส
สุดท้ายแล้ว เรื่องที่ผมน่าจะเป็นแบบอย่างให้กับรุ่นน้องได้ดีที่สุดคือเรื่องระเบียบวินัย ผมพยายามถ่ายทอดให้น้องๆรู้ว่าผมผ่านมาหมดแล้ว

     ผมไม่อยากให้เขาเริ่มจากศูนย์ แต่เริ่มที่ห้าเลย พอเลิกเล่นบอล มีเงิน มีทุกอย่าง มีเกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง ครอบครัวที่อบอุ่น
ก็ผันตัวมาเป็นโค้ชหรือทำหน้าที่อื่นๆในวงการ เราเป็นน้ำดี เราก็อยากให้น้องๆเป็นน้ำดีที่จะอยู่ในวงการฟุตบอลต่อไป

     เราพยายามเปลี่ยนความคิดเขาให้เป็นนักเตะที่ดี โค้ชที่ดี ผู้บริหารที่ดี เป็นสังคมฟุตบอลที่ดี ถ้าได้นักเตะไม่ดีแต่ต้น มันเหมือนต้นไผ่คด ถ้าต้นคดแล้วปลายจะตรงได้อย่างไร ต้นต้องตรง ปลายถึงตรง

            
                       เรื่องความเป็นสตาร์ของนักเตะ ซิโก้บอกว่า : ผมแค่ให้ไอเดียน้องๆ ผมบอกว่าทำได้ ไม่ห้าม แต่อย่าทิ้งสนาม เอาประสบกาณณ์ แต่อย่าตั้งใจไปเป็นนายแบบหรือดารา    เวทีที่คุณถนัดคือฟุตบอล คุณต้องรู้ตัวเองว่ามีชื่อเสียงจากอะไร คนรู้จักคุณเพราะคุณร้องเพลงหรือเปล่า คุณหน้าตาหล่อเหมือนณเดชน์หรือเปล่า
          เขารักคุณเพราะอะไร เพราะคุณเป็นนักฟุตบอล เขารักคุณจากตัวตนในสนาม วงการบันเทิงไม่ใช่เวทีของคุณ ทำได้แต่อย่าให้กระทบกับการเล่น


                 ทำไมงานถึงล้นมือ ไม่ใช่แค่ทีมชาติชุดเดียว แต่วางโครงสร้างทีมทุกชุด ซิโก้บอกว่า : "ต้องยอมรับว่างานผมเยอะเกินขอบเขต ซึ่งผมก็หาโค้ชเก่งๆมาช่วย"   ผมต้องการวางโครงสร้างให้ระบบของฟุตบอลเป็นสไตล์เดียวกัน ต้องเล่นระบบเดียวกันคือ 4-3-3 ตั้งแต่ชุดเยาวชน 12 ปี 16 ปี 18 ปี จนถึงชุดใหญ่

    ผมต้องการให้ "ต่อกันติด" เหมือนระบบของญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ ที่เขาเล่นเหมือนกันทั้งประเทศ

            ตั้งแต่กลับมาจากซูซูกิคัพ ไม่มีวันหยุดเลยสักวัน (ถึง ณ วันที่สัมภาษณ์หนังสือ) ศรัทธาบอลไทยกำลังกลับมา เราจุดกระแสติดแล้ว ต้องเดินหน้าต่อ ที่สำคัญคือประเทศชาติ เหมือนคุณจะไปออกรบ ชาติให้ไปผมต้องไป ไม่มีคำว่าปฏิเสธ คำว่าทีมชาติต้อง "ไม่มีข้อแม้" เวลาพักผ่อนข้างหน้ามีเยอะ

          กับความไม่แน่นอนของฟุตบอล ซิโก้บอกว่า: ฟุตบอลเป็นเกม ไม่ใช่การชิงบ้านชิงเมือง ไม่ใช่สงครามที่แพ้แล้วถูกยึดเป็นเมืองขึ้น เกมต้องสนุก
คุณอยู่ในเกมนี้ คุณจะเครียดทำไม ลูกบอลมีหัวใจไหม ไม่มี แล้วจะให้มันมาควบคุมเราทำไม เราต่างหากต้องควบคุมมัน
    "วางอยู่ในสนามก็คือลูกบอลลูกหนึ่ง แต่ถ้าเราเตะมัน มันถึงจะเริ่มมีชีวิต ฉะนั้นเราควรเอาจิตตัวเองไปไว้ตรงไหน ขึ้นกับเรา กลัวลูกบอลทำไม"


                     ผมอาจเครียดหรือนอนไม่หลับบ้าง นอนคิดว่าแพ้เพราะอะไร ต้องปรับปรุงปลุกใจลูกทีมกลับมายังไงแต่ไม่เคยคิดว่าแพ้ หมดหวัง สิ้นหวังแล้ว ไม่มี     นอกจากฟุตบอลแล้ว ในชีวิตซิโก้ "ครอบครัวคืออันดับหนึ่ง สาเหตุที่ผมเลิกเล่นฟุตบอลเพราะอยากดูแลลูก อยากมีเวลาให้ครอบครัว"
ทุกวันนี้ซิโก้ตื่นเช้าไปส่งลูกตีห้าครึ่ง กลับมาทำงาน บ่ายไปรับลูก ทานข้าวเย็น เข้านอนสามทุ่ม สองทุ่มจะไม่รับโทรศัพท์ ใครโทรมาไม่มีทางได้คุย

                   ซิโก้ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากด้วย : "อย่างอื่นเป็นเรื่องรอง คุณมีบ้านมีรถ ตายไปคุณก็เอาไปไม่ได้ ถ้าอยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้นานๆต้องแข็งแรง" ซิโก้จะให้เวลากับตัวเองวันละหนึ่งชั่วโมง วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือเล่นเวท

                
                   ซิโก้ : ฟุตบอลสอนทุกอย่างผม สอนให้เรารู้จักคน สอนให้เรามองคนออก คนมีน้ำใจ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ล้มแล้วลุกไหม ชนะแล้วเหลิงไหม
บางคนชนะแล้วก็เยาะเย้ย แต่อย่าลืมว่าวันนี้แพ้พรุ่งนี้ก็ชนะได้ ฉะนั้นอากัปกิริยาของคนที่แสดงออกในเกมจะบอกเราว่าเขาเป็นคนอย่างไร

                  ซิโก้ : ฟุตบอลคือชีวิตของผม ผมเลือกฟุตบอลเป็นทางทำมาหากิน ทั้งเล่นอาชีพ เตะรับใช้ชาติ ผมมีเกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง และครอบครัวจากฟุตบอล

                 ซิโก้: ผมไม่ได้ทำอาชีพอื่น มีโอกาสเป็นร้อยตำรวจโทก็ลาออก มีบริษัทก็เป็นเอเจนซี่เกี่ยวกับฟุตบอล ทุกอ่างในชีวิต โต๊ะ ปากกา เคสมือถือก็ฟุตบอล  มันเป็นตัวตนของเรา มีสักกี่คนที่ได้ในทำสิ่งที่เลือก ผมร้สึกโชคดีที่ได้ทำในสิ่งที่รัก


                    ต่อการแข่งขันคัดเลือกไปโอลิมปิค ซิโก้บอกว่า : โอลิมปิค มั่นใจ 80-90% ว่าจะเข้ารอบสอง ซีเกมส์(พูดก่อนแข่ง) 90% ที่เหลือ 10% อย่าประมาท  ฟุตบอลโลกขึ้นอยู่กับว่าจับฉลากเจอกับใคร คนชอบถามผมว่าเมื่อไรบอลไทยจะไปบอลโลก ต้องตอบว่ามีเวลาให้ผมเท่าไร อย่ารีบร้อน ค่อยเป็นค่อยไป
      ซิโก้: "ผมเป็นคนชอบวางแผน ถ้าเตรียมทีมดีก็มั่นใจ ถ้าไม่ดีก็คือไม่มั่นใจ"


          ซิโก้ทิ้งท้ายว่า : ฟุตบอลไม่มีลมหายใจ ไม่มีชีวิต แต่มันให้ลมหายใจกับผม มันสร้างชีวิตผมขึ้นมา มันให้ทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะมีได้ และฟุตบอลยังทำให้ผมมีโอกาสได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินด้วย



ปล.ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่