[BALLON D'OR 2003] เหตุผลที่ "เนดเวด" ชนะ "อองรี" ขาดลอย

อินฟลูเอนเซอร์ สายฟุตบอลคนไหน ทำหัวข้อ "อองรี ควรได้บัลลงดอร์" นี้แสดงว่าเชื่อถือไม่ได้ ขาดการหาข้อมูล ไร้คุณภาพ
ถ้าจะทำเรื่อง "บัลลงดอร์" ต้องดูว่าแต่ละเดือนในปีนั้นๆเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ใช่ดูตัวเลขสรุปจบฤดูกาลแล้วมาชี้ว่าใครควรได้

อองรี มีปัญหาเรื่องแผ่วปลายมาตลอด เลยไม่ดีพอที่จะได้บัลลงดอร์ ถ้าตรวจสอบสถิติช่วงปลายฤดูกาลก็จะรู้ได้ แต่ไม่ตรวจกัน

ช่วงปลายฤดูกาลที่การลุ้นแชมป์เข้มข้น ถ้านักเตะคนไหนเล่นได้ดี แสดงวาเขาคนนั้นรับแรงกดดันได้อย่างยอดเยี่ยม

บัลลงดอร์ 2003
อันดับที่ 1 พาเวล เนดเวด นักข่าวลงคะแนน 45 คน จาก 52 คน ถูกเลือกอันดับ 1 มี 27 คน อันดับ 2 มี 9 คน
เนดเวด เป็นนักเตะที่ครบครื่องทั้งเลี้ยงบอล, จ่ายบอล, ยิงไกล วิ่งขี้นวิ่งลงไม่มีหมด และเข้าใจแผนการเล่นเป็นอย่างดี

เนดเวด ต้องมาแบกทีมเพราะ "เดล ปิเอโร่" กับ "ดาวิด เทรเซเก้ต์" สลับกันเจ็บ จนต้องใช้ "มาร์โก ดิวาโย่" กับ "ซาลาเยต้า" หลายครั้ง
เขาพาทีมคว้าแชมป์เซเรีย อาร์ ฤดูกาล 2002/03 ทำไป 9 ประตู กับ 9 แอสซิสต์ พร้อมกับตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยม

ส่วนในยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก หลังจากผ่านรอบแบ่งกลุ่มรอบสองอย่างหวุดหวิด ด้วยการมี 7 คะแนนเท่ากับ "ลา คอรุณญ่า" และ "บาเซิ่ล"
รอบ 8 ทีม เนดเวด ยิง 1 จ่าย 1 พาทีมชนะบาร์เซโลน่า
รอบรองชนะเลิศก็ยิงประตูชนะ รีล มาดริด 3-1 เป็นประตูที่พาทีมเข้าชิง ก่อนโดนใบเหลืองที่ทำให้ถูกแบนในนัดชิง

กับทีมชาติเช็ก ก็พาทีมเป็นแชมป์กลุ่มแซงหน้า "ฮอลแลนด์" ด้วยผลงาน ชนะ 7 เสมอ 1 ผ่านไปเล่นยูโร 2004

ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมกับสโมสร และทีมชาติ การแบกทีมที่ขาดกองหน้าชั้นยอดไป และการทำผลงานได้ในเวลาที่ทีมต้องการ
ทั้งหมดคือเหตุผลที่ "เนดเวด" ได้ บัลลงดอร์ 2003 โดยมีคะแนนถึง 190 คะแนน

อันดับ 2 เธียร์รี่ อองรี นักข่าวลงคะแนน 37 คน จาก 52 คน ถูกเลือกอันดับ 1 มี 8 คน อันดับ 2 มี 9 คน
อองรี มีสถิติส่วนตัวที่ดีมากก็จริง แต่ก็แผ่วปลายช่วงท้ายฤดูกาล 2002/03 อีกแล้ว
ช่วง 23 นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2002/03 อองรี ทำประตูได้แค่ 8 นัดเท่านั้น

พรีเมียร์ลีกตั้งแต่ 29 ม.ค.2003 ลงเล่น 14 นัด ทำประตูได้ 6 นัด ส่วน "รุด ฟาน นิสเตอรอย" ทำประตูได้ 11 นัด
เป็นสาเหตุที่ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 2002/03 ไปครอง
ส่วนสถิติ 20 แอสซิสต์ จำนวน 5 แอสซิสต์ในนั้น มาจาก 2 เกมสุดท้ายที่ไม่มีผลอะไรแล้ว

ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ลงเล่น 4 นัด ทำประตูได้ 1 นัด ทีมเสมอ 3 แพ้ 1 ตกรอบแบ่งกลุ่มรอบที่ 2

เอฟเอคัพ ลงเล่น 5 นัด โดยเป็นสำรอง 3 นัด ทำประตูได้  1 นัด ในเกมเสมอ เชลซี 2-2 ต้องไปเตะใหม่ เกมนี้ "อองรี" ตัวจริง
เวนเกอร์ จะส่ง "อองรี" มาเป็นสำรองเพื่อขู่กองหลังคู่ต่อสู้ หลังจาก "อาร์เซ่น่อล" ขึ้นนำไปแล้ว
อาร์เซ่น่อล ได้แชมป์ก็จริง แต่ "อองรี" ก็ทำประตูตัดสินให้ทีมผ่านเข้ารอบไม่ได้เลย นัดชิงเป็นตัวจริงก็ยิงไม่ได้

กับทีมชาติฝรั่งเศส ถึงแม้ "อองรี" จะไปได้ "แชมป์คอนเฟเดอเรชันส์ คัพ 2003" โดยเป็นทั้งดาวซัลโว และนักเตะยอดเยี่ยม
แต่มันเป็นรายการส่วนเกินที่ไม่มีใครให้ค่า แถม"มาร์ค วิเวียน โฟเอ้" เสียชีวิต ฟีฟ่าต้องกลับไปจัดปีก่อนบอลโลกเหมือนเดิม
รอบคัดเลือกยูโร 2004 ก็เข้ารอบสุดท้ายชนะ 8 นัดรวดตามการคาดหมาย เพราะใช้ชุดใหญ่จัดเต็ม ทีมร่วมกลุ่มสู้ไม่ได้เลย

เปิดฤดูกาล 2003/04 มา "อองรี" ก็ยิง 8 นัด จาก 11 นัดในพรีเมียร์ลีก เริ่มต้นอย่างร้อนแรงเช่นเคย

ด้วยการที่ "อองรี" ไม่มีผลงานช่วงท้ายฤดูกาล ก็เลยจบที่ 2 จากสถิติการทำประตู และจ่ายที่สูงมาก
ฤดูกาล 2002/03 อองรี ทำสถิติลงเล่น 68 นัด ยิง 42 ประตู แอสซิสต์ 26 ครั้ง (เอามาจาก wikipedia ของฝรั่งเศส)

อันดับที่ 3 เปาโล มัลดินี่ นักข่าวลงคะแนน 38 คน จาก 52 คน ถูกเลือกอันดับ 1 มี 7 คน อันดับ 2 มี 13 คน
ได้จากผลงานพา เอซี มิลาน คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก 2002/03 ด้วยเกมรับที่เสียประตูยาก
แข่งรอบทางการ 17 นัด "มัลดินี่" ลงเล่นทุกนัด ไม่เสียประตู 8 นัด, เสีย 1 ประตู 5 นัด, เสีย 2 ประตู 3 นัด และเสีย 3 ประตู 1 นัด

อันดับที่ 4 อังเดร เชฟเชนโก้ นักข่าวลงคะแนน 21 คน จาก 52 คน ถูกเลือกอันดับ 1 มี 3 คน อันดับ 2 มี 8 คน
ที่จริงฤดูกาล 2002/03 มีอาการบาดเจ็บรบกวน ผลงานไม่ดีเลย แต่ทำประตูรอบ 8 ทีม กับรอบรองชนะเลิศ
ยิงจุดโทษปิดท้ายคนที่ 5 ให้ทีมได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก 2002/03
พอเปิดฤดูกาล 2003/04 ก็ยิงประตูชัยยูฟ่า ซูปอร์คัพกับ ปอร์โต้ หลังจากนั้นก็ยิงในลีกสม่ำเสมอ เลยมาอยู่ตรงนี้

อันดับที่ 5 ซีเนดีน ซีดาน นักข่าวลงคะแนน 26 คน จาก 52 คน ถูกเลือกอันดับ 1 มี 4 คน อันดับ 2 มี 1 คน
ผลงานพารีล มาดริด คว้าแชมป์ลาลีกา 2002/03 ส่วนทีมชาติฝรั่งเศสก็พาเข้ารอบสุดท้ายยูโร 2004 อย่างสบายๆ

อันดับที่ 6 รุด ฟาน นิสเตอรอย นักข่าวลงคะแนน 24 คน จาก 52 คน ถูกเลือกอันดับ 1 มี 1 คน อันดับ 2 มี 4 คน
ผลงานฤดูกาล 2002/03 ดีมาก ยิงช่วงท้ายฤดูกาลจน "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก
ในยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก 2002/03 ก็พาทีมไปถึงรอบ 8 แถมยังทำไปอีก 12 ประตู
แต่รอบคัดเลือก "ยูโร 2004"  ดันจบที่ 2 ของกลุ่ม ไปเพลย์ออฟ กับ "สก็อตแลนด์" แพ้เกมแรก 0-1 ก่อนกลับมาชนะในบ้าน 6-0
ฟาน นิสเตอรอย ยิงไป 3 ประตู แต่ก็สายไปแล้ว ถูกตัดสินว่าผลงานทีมชาติน่าผิดหวังจนมาอยู่อันดับ 6

ต่อให้สถิติดีแค่ไหน ถ้าไม่ทุกที่ทุกเวลาก็ยากที่จะได้

บัลลงดอร์ 1999 : https://pantip.com/topic/43714757
บัลลงดอร์ 2000 : https://pantip.com/topic/43718031
บัลลงดอร์ 2001 : https://pantip.com/topic/43224145
บัลลงดอร์ 2002 : https://pantip.com/topic/43751116

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่