[BOLLON D'OR 2004] เหตุผลที่ "เชฟเชนโก้" ชนะ "เดโก้" & อองรี ได้ที่ 4

รางวัลปีนี้บรรดาอินฟลูเอนเซอร์ สายฟุตบอล ก็ชอบทำหัวข้อ "อองรี" ควรได้ "บัลลงดอร์" อีกแล้ว
แต่ไม่รู้สึกตัวกันหรือว่า "อองรี" ได้ที่ 4 มันก็มีเหตุผลอยู่ ซึ่งก็เหมือนเดิม แผ่วปลายช่วงสำคัญ แถมกับทีมชาติผลงานไม่ดีอีก

ส่วน "เดโก้" ก็เจอฟอร์มสุดยอดของ "ทีมชาติกรีซ" ลดคะแนน ส่วน "เชฟเชนโก้" ก็โชว์ฟอร์มสุดยอดเก็บคะแนนไม่หยุดแซงได้ที่ 1 ไป

บัลลงดอร์ 2004
อันดับที่ 1 อังเดร เชฟเชนโก้ นักข่าวลงคะแนน 40 คน จาก 52 คน ถูกเลือกอันดับ 1 มี 27 คน อันดับ 2 มี 5 คน
เอซี มิลาน ฤดูกาล 2003/04 ฟิลิปโป้ อินซากี้ เจ็บหนัก "เชฟเชนโก้" เลยต้องเล่นหน้าตัวเดี่ยวบ้าง เล่นคู่กับ "ยอน ดาห์ล โทมัสสัน" บ้าง
เข้าปี 2004 มาก็เริ่มด้วยการเหมา 2 ประตู ในนัดที่ 15 ชนะจ่าฝูงอย่าง "โรม่า" จนขึ้นมายู่อันดับ 1 คู่กัน
มาถึงนัดที่ 32 มิลาน เปิดบ้านรับโรม่า "เชฟเชนโก้" ก็โหม่งประตูชัยให้ทีมเป็นแชมป์เซเรีย อาร์ 2003/04
10 นัดสุดท้ายของฤดูกาล "เชฟเชนโก้" ยิงได้ 7 นัด 7 ประตู

สถิติเซเรีย อาร์ 2003/2004 ลงเล่น 32 นัด ทำไป 24 ประตู

ซูเปอร์ โคปา อิตาเลีย ยิง 3 ประตูใส่ "ลาซิโอ" ด้วยเท้าซ้าย, เท้าขวา และลูกโหม่ง คว้าแชมป์มาได้

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2003/04 รอบ 16 ทีม กับ 8 ทีมก็ยิงได้ทั้งสองรอบรวม 3 ประตู
แต่แพ้ "ลา คอรุนญ่า" 0-4 ในเกมที่ ทั้งที่เกมแรกชนะ 4-1 จึงตกรอบไป

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2004/05 รอบแบ่งกลุ่มรอบแรก เกมที่ 2 ยิง 1 จ่าย 1 ให้ทีมชนะเชลติก 3-1
เกม 3 กับ 4 ก็ยิง "บาร์เซโลน่า" ทีมสุดร้อนแรงทั้งเหย้าเยือน ชนะที่อิตาลี 1-0 แพ้ที่สเปน 1-2 เอซี มิลาน จบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม เอฟ

ทีมชาติยูเครน บอลโลก 2006 รอบคัดเลือก เกมที่ 3 ยิงพรีคิกระยะไกลใส่ "กรีซ" แชมป์ยูโร 2004 ที่รอบน็อกเอาต์ 3 นัดไม่เสียประตู จบเกมเสมอ 1-1
เกมที่ 4 ยิง 1 ประตูชนะจอร์เจีย 2-0 และเกมที่ 5 ยิงสองประตูชนะตุรกี 3-0
จบปี 2004 ยูเครน มีโอกาสไปบอลโลกครั้งแรกสูงจากการมี 11 แต้มจาก 5 นัด ชนะ 3 เสมอ 2

ด้วยผลงานการทำประตูตัดสินแชมป์ และการที่กำลังจะพายูเครนไปบอลโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ส่งผลให้ "เชฟเชนโก้" ได้บัลลงดอร์ไป     

อันดับที่ 2 เดโก้ นักข่าวลงคะแนน 38 คน จาก 52 คน ถูกเลือกอันดับ 1 มี 10 คน อันดับ 2 มี 13 คน
จอมทัพที่พา "เอฟซี ปอร์โต้" ได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก กับแชมป์ลีกโปรตุเกส ในฤดูกาล 2003/04
ทำสถิติแอสซิสต์ถึง 28 ครั้งกับ "เอฟซี ปอร์โต้" ในลีก 17 ครั้ง, บอลถ้วยโปรตุเกส 2 ครั้ง และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 9 ครั้ง
แต่ตัว "เดโก้" มีจำนวนประตูแค่ 4
เดโก้ เลยถูกจับตามองอย่างมากในยูโร 2004 ที่จัดใน "โปรตุเกส" ทีมชาติของตัวเดโก้เอง

แต่พอถึงยูโร 2004 ถึงแม้ "เดโก้" จะแย่งตำแหน่งกองกลางตัวรุกจาก "รุย คอสต้า" ได้ แต่คนที่โดดเด่นไม่ใช่เขา
มานิเช่ เพื่อนร่วมทีม "เอฟซี ปอร์โต้" วิ่งขึ้นวิ่งลงไม่มีหมด สอดขึ้นไปทำประตูในเกมชนะรัสเซีย กับเกมรอบรองที่เจอ "ฮอลแลนด์"
หลุยส์ ฟิโก้ ปีกตัวทำเกม ในวัย 31 ปี ก็ยังคงปั้นเกมบุกให้โปรตุเกสอย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย
แถมมี "คริสเตียนโน่ โรนัลโด้" มาแจ้งเกิดในรายการนี้อีก ด้วยความเร็ว, การเลี้ยงบอล แถมสอดขึ้นไปโหม่งได้ถึง 2 ประตู  
จบยูโร 2004 โปรตุเกส แพ้ กรีซในนัดชิง 0-1 มานิเช่, หลุยส์ ฟิโก้, คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ และคาร์วัลโญ่ ต่างติดทีมยอดเยี่ยม ส่วน "เดโก้" ไม่ติด

ฤดูกาล 2004/05 "เดโก้" ย้ายไป "บาร์เซโลน่า" ที่มี  "โรนัลดินโญ่" ผู้มีลีลาการเล่นที่"มหัศจรรย์" และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
เนื่องจากเพื่อนร่วมทีมทั้งในสโมสร และทีมชาติต่างเป็นนักเตะโดดเด่นดึงดูดผู้คน เมื่อถึงวันลงคะแนน"เดโก้" จึงถูกนักข่าวลืมเลื่อนไปบางส่วน

สรุป เดโก้ เก่งและมีประสิทธิภาพ แต่ขาดโมเมนต์พาทีมคว้าชัยชนะ แถมทีมชาติก็แพ้ "กรีซ" ในบ้านตัวเองอีกถึง 2 นัด จึงจบอันดับที่ 2

อันดับที่ 3 โรนัลดินโญ่ นักข่าวลงคะแนน 40 คน จาก 52 คน ถูกเลือกอันดับ 1 มี 9 คน อันดับ 2 มี 13 คน
ย้ายมาเล่นที่ "บาร์เซโลน่า" ฤดูกาลแรกก็โชว์ลีลาจนทุกคนประทับใจ สถิติทุกรายการ ลงเล่น 45 เกม มี 22 ประตู 10 แอสซิสต์
พอฤดูกาล 2004/05 ได้ "แฟรงค์ ไรจ์การ์ด" มาคุม "โรนัลดินโญ่" กับ "บาร์เซโลน่า" เป้นสโมสรที่ใครๆก็พูดถึงการเล่นที่สวยงาม และมีประสิทธิภาพ
ถึงเวลาลงคะแนน  "โรนัลดินโญ่"  ที่ยังไม่มีแชมป์ แต่ก็ซื้อใจนักข่าวได้มากแล้ว

อันดับที่ 4 เธียร์รี่ อองรี นักข่าวลงคะแนน 28 คน จาก 52 คน ถูกเลือกอันดับ 1 มี 3 คน อันดับ 2 มี 6 คน
ช่วง 13 นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2003/04 อองรี ทำประตูได้แค่ 4 นัด  แต่ไม่มีผลกับในลีกเพราะคว้าแชมป์สบายๆหลังลงเล่นไป 34 นัด
แต่ที่เป็นปัญหา คือ 3 เกมนี้ ที่ "อองรี" เล่นแล้วไม่มีประตูจนที่ตกรอบ 2 รายการภายใน 4 วัน
24 มีนาคม 2004 เกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแปดทีมนัดแรก เสมอ เชลซี (เยือน) 1-1
03 เมษายน 2004 เอฟ.เอ.คัพ รอบรองชนะเลิศ แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (สนามกลาง) 0-1 ลงสำรองนาที 57
06 เมษายน 2004 เกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแปดทีมนัดสอง แพ้ เชลซี (เหย้า) 1-2
จบฤดูกาล 2003/04 อาร์เซน่อน เลยได้พรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่ายเพียงรายการเดียว

ปัญหาใหญ่ของ "อองรี" ในปี 2004 คือ การแข่งขันบอลโลก 2006 รอบคัดเลือกที่ ซีดาน, ตูราม และมาเกเลเล่ ได้ประกาศเลิกเล่นทีมชาติไป
การเสมอ "อิสราเอล" กับ "ไอร์แลนด์" 0-0 ทั้งสองเกมในรอบคัดเลือกบอลโลก 2006 ที่เล่นปลายปี 2004 จนทีมชาติฝรั่งเศสอยู่ในวิกฤต
จนสุดท้ายต้องตาม ซีดาน, ตูราม และมาเกเลเล่  มากอบกู้วิกฤตในปี 2005
ด้วยผลงานทีมชาติที่น่าผิดหวัง "อองรี" จึงได้อันดับ 4 ไป

อันดับที่ 5 ธีโอดอรอส ซาโกราคิส นักข่าวลงคะแนน 17 คน จาก 52 คน ถูกเลือกอันดับ 1 มี 3 คน อันดับ 2 มี 2 คน
กองกลางกัปตันทีมชาติกรีซ ชุดแชมป์ยูโร 2004 พร้อมตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยม เป็นคนคอยคุมจังหวะในแดนกลาง

อันดับ 6 อาเดรียนโน่ นักข่าวลงคะแนน 12 คน จาก 52 คน ถูกเลือกอันดับ 2 มี 3 คน อันดับ 3 มี 2 คน
อาเดรียนโน่ แชมป์โคปา อเมริกา 2004, ดาวซัลโว 7 ประตู และผู้เล่นยอดเยี่ยม
เขาเป็นกองหน้าที่ยิงคม, ยิงหนัก, มีความเร็ว และร่างกายแข็งแกร่ง แต่หมดอนาคตเพราะพ่อเสียไป จนทำตัวเหลวไหล กลับมาเป็นยอดนักเตะไม่ได้

อังเดร เชฟเชนโก้ ได้เพราะเล่นดีสมความคาดหวังในระดับสโมสร และเกินความคาดหวังในทีมชาติ แถมมีจังหวะยิงตัดสินแชมป์อีกต่างหาก

บัลลงดอร์ 1999 : https://pantip.com/topic/43714757
บัลลงดอร์ 2000 : https://pantip.com/topic/43718031
บัลลงดอร์ 2001 : https://pantip.com/topic/43224145
บัลลงดอร์ 2002 : https://pantip.com/topic/43751116
บัลลงดอร์ 2003 : https://pantip.com/topic/43752562


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่