สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้ มม. (มอมอ) จะพาเที่ยวหาดแสงเทียน (แสงเทียน บีช รีสอร์ท) เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง 2 วัน 1 คืน กันค่ะ 10-11 มิ.ย. 58 (ช่วงแรกไม่ค่อยมีรูปนะคะ เพราะไม่ได้ถ่ายมา)
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจากเพื่อนร่วมทริปทุกคน เอ็ม ปาล์ม ไข่มุก ซาณิ ใบฝ้าย โบว์ บิวตี้
ป.ล. รีวิวนี้เป็นการรีวิวครั้งแรก หากมีข้อผิดพลาดประการใด โปรดชี้แนะและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
เริ่มต้นกันที่การเดินทาง นัดเจอกับเพื่อนที่บ้านเพ มม.ออกเดินทางจากจังหวัดตราด เวลา 7.00 น. ด้วย BH รถตู้ด่วนระยอง-ตราด (200 บาท)
คิวรถอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลตราด โดยจะจอดส่งที่สังกะสี (เป็นชื่อสถานที่นะคะ ไม่ใช่สังกะสีมุงหลังคา ฮ่าๆๆ)
ตรงนั้นจะมีศาลาอยู่ค่ะ แล้วเราก็นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง(30 บาท)ไปที่ท่าเรือเทศบาลบ้านเพ
ลุงที่ขับวินบอกว่าท่าเรือเทศบาลบ้านเพนี้คนในพื้นที่นิยมขึ้นกัน
(สำหรับใครที่เดินทางจากกรุงเทพฯ จะมีคิวรถตู้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-บ้านเพ หลายคิวมากลองเลือกดูนะคะ รถตู้จะส่งถึงท่าเรือเลยค่ะ)
มาถึงท่าเรือเทศบาลบ้านเพเวลาประมาณ 9.30 น.เจอกับเพื่อนอีกสองคนที่มาจากสัตหีบ ก็เลยไปหาอะไรกินรองท้อง
ระหว่างรอเพื่อนที่มาจากกรุงเทพ(ขับรถยนต์มาเอง) แต่ปรากฏว่าเพื่อนไปลงที่ท่าเรือศรีบ้านเพ ซึ่งไกลจากที่เราอยู่จึงต้องแยกกันขึ้นเรือคนละท่า เจอกันอีกทีที่หน้าด่าน บนเกาะเสม็ดเลยค่ะ (ฮู่ว แล้วจะได้เจอกันเมื่อไรเนี่ย)
พวกเราสามสาวเมืองตะวันออก (ตราด สัตหีบ) เลือกที่จะขึ้นเรือที่ท่าเรือนวลทิพย์ค่ะ เพราะว่าใกล้ร้านที่เราอยู่มากที่สุด (ขี้เกียจเดินกลับไปที่ท่าเดิม อากาศร้อนมากค่ะ) โชคดีที่เราทันรอบเรือที่กำลังจะออกพอดีเลยสบายไป ตั๋วเป็นแบบไปกลับค่ะ (100 บาท)
รูปบริเวณทางเดินไปขึ้นเรือของท่าเรือศรีบ้านเพค่ะ
พอไปถึงที่หน้าด่านเวลาประมาณ 11.05 น. (เดินทางประมาณ 40 นาที) ปรากฏว่าเพื่อนได้รอบเรือ 11.10 น. พระเจ้า! อะไรจะอุปสรรคเยอะปานนี้ เราก็เลยเดินไปหาอะไรกินกันก่อนสามคน แล้วในที่สุดตอนกินข้าวเสร็จเพื่อนก็มาถึงพอดี (เย้ ได้เจอกันสักที)
ตอนที่เราขึ้นท่าเรือจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมผู้โดยสารผ่านท่าเทียบเรือ 20 บาทค่ะ
จากนั้นเราก็นั่งรถสองแถวสีเขียว(40 บาท) ไปลงที่แสงเทียน บีช รีสอร์ท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีค่ะ เข้าไปในเกาะลึกพอสมควร ทางเข้ารีสอร์ทแอบกันดารเล็กน้อย ชันและลึกพอสมควร แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อทะเลสวยๆ เรายอม
ก่อนที่เราจะเข้าไปในบริเวณเกาะ ก็จะต้องเสียค่าเข้าอุทยาน 40 บาทค่ะ
ถึงที่พักแล้วค่ะ ตอนแรกได้โทรจองที่พักกับที่นี่ไว้เป็นห้องรวม 8 คน 5300 บาท รวมอาหารเช้า
แต่ทางรีสอร์ทใจดีมาก บอกว่าให้มาดูห้องที่รีสอร์ทเองเลยก็ได้ เพราะเป็นวันธรรมดา (นี่ละค่ะข้อดีของวันธรรมดา)
แล้วเราก็เลือกห้อง 4 คน 2 ห้องใกล้ๆกัน ในราคาเดิม ห้องนึงเตียงคู่ 2 เตียง
มีทีวี ตู้เย็น น้ำเปล่าคนละขวด ผ้าเช็ดตัว ห้องน้ำสะอาด
เห็นวิวทะเลชัดเจนสวยมาก (แต่ขึ้นบันไดเหนื่อยมากเพราะอยู่สูง เห็นวิวทะเลชัดค่ะ)
บริเวณด้านล่างก่อนจะขึ้นไปห้องพัก
เย้ เดินถึงแล้ว
ถ่ายจากในห้องพัก
วิวถ่ายจากหน้าห้องค่ะ
หลังจากเอาของไปไว้ที่ห้องพักเราก็เดินสำรวจกันค่ะ หาดแสงเทียนนี้เป็นหาดที่เงียบสงบมาก(ดูเงียบเหงานิดๆเพราะเป็นวันธรรมดา)
เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ค่อยมีร้านค้าอื่นๆเท่าไร แต่ทางรีสอร์ทก็มีมินิมาร์ท ร้านอาหารของรีสอร์ท
มีตู้atm ด้วย บริการครบวงจรกันเลยทีเดียว
ทะเลที่หาดนี้น้ำใสพอสมควร หาดทรายขาวสะอาดตามาก
เป็นหาดที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากจริงๆ
เจ้าหมาน้อย
หมาทะเลค่ะ ฮ่าๆๆ
หลังจากที่ถ่ายรูปและเล่นน้ำกันพอสมควรแล้ว เรือที่จะพาเราไปดำน้ำก็มารับที่หน้ารีสอร์ทพอดี
เราได้จองทริปดำน้ำ sunset (400 บาท) ดำน้ำดูปะการัง 1 ที่ ดูพระอาทิตย์ตกที่อ่าวพร้าว นั่งสปีทโบ๊ทชมรอบเกาะ มีผลไม้ให้ด้วย
16.00-18.30 น. (จองกับทางรีสอร์ทในวันนั้นเลย)
เรือสปีทโบ๊ทที่มารับเราค่ะ
บริเวณที่เรามาดำน้ำกันค่ะ ปะการังสวยพอใช้ได้
เกาะกันไปค่ะ เพราะว่ายน้ำไม่ค่อยเป็น ส่วนเราอยู่บนเรือค่ะ ไม่ไหวว่ายไม่ไป ฮ่าๆๆ
มีผลไม้ให้กินด้วยค่ะ แตงโมกับสับปะรด สับปะรดเปรี้ยวไปหน่อย แตงโมหวานดีค่ะ
หลังจากดำน้ำกันเสร็จแล้วก็ไปที่อ้าวพร้าวเพื่อชมพระอาทิตย์ตก
ที่อ่าวพร้าวหาดทรายขาว ละเอียด สวยงาม และน้ำใสมาก!!!
ทำเอาเราตั้งใจไว้เลยว่าคราวหน้าต้องมาพักที่นี่ให้ได้
ดอกไม้บนอ่าวพร้าว
ภาพสวยๆบริเวณอ่าวพร้าว
กลับมาจากดำน้ำก็ประมาณทุ่มนึง อาบน้ำเรียบร้อยก็ลงไปกินข้าวที่ร้านอาหารของรีสอร์ท
ครัวปิดประมาณสามทุ่ม ลงไปเกือบไม่ทันครัวปิด ฮ่าๆๆๆ
อาหารที่เราสั่งมี หมึกทอดกระเทียม ปลาอินทรีทอดน้ำปลา ไก่ผัดเม็ดมะม่วง โป๊ะแตก
แต่เสียดายที่ไม่มีรูปเพราะด้วยความหิวทำให้เรากินอย่างรวดเร็วจนลืมนึกถึงการถ่ายรูปไปเลยค่ะ
อาหารที่ร้านอร่อยมาก ราคาพอสมควรกับอาหาร มื้อนั้น 8 คนตกคนละ 142 บาทแบบอิ่มทุกคนค่ะ
หลังจากที่กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนค่ะ
ตอนเช้าตื่นมา 5.30 น. เพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น บรรยากาศยามเช้าดีมาก
แต่ปรากฎว่าท้องฟ้ามีเมฆเลยอดดูค่า เสียดาย ว่าแล้วก็กลับไปนอนต่อ
ตื่นมาอีกที 8.00 น. อาบน้ำลงไปกินข้าวเช้าที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้
มีให้เลือกสองอย่าง คือข้าวต้ม ขนมปังสองแผ่น โอวันติน/กาแฟ
หรือ แฮม ไส้กรอก ไข่ดาว ขนมปังสองแผ่น โดยพวกเราเลือกข้าวต้มค่ะ
ข้ามต้มทะเลยามเช้ากับบรรยากาศของทะเลเข้ากันมาก มีความสุขสุดๆเลยละค่ะ
เมื่อกินเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไปเก็บของเตรียมเช็คเอ้าท์ออกก่อน 12.00
ถ่ายรูปนิดหน่อยส่งท้ายแล้วก็โทรเรียกรถสองแถวให้มารับ(ตอนมาคนขับให้เบอร์โทรไว้)
ค่ารถกลับก็เหมือนเดิมค่ะ 40 บาท
ตอนขากลับก็แยกกันกับเพื่อนเหมือนเดิมค่ะเพราะมาคนละท่าเรือ บอกลากันที่หน้าด่าน แล้วก็แยกย้ายกันค่ะ
บ๊ายบายเสม็ด
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้ของ มม. ต่อไปจะเป็นที่ไหน รีวิวเรื่องอะไรโปรดติดตามชมค่ะ
แก้ไข ใส่รูปเพิ่ม แก้คำผิดค่ะ
[CR] [CR] มม.พาเที่ยวหาดแสงเทียน ดำน้ำ ดูพระอาทิตย์ตกดินอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด วันธรรมดาก็เที่ยวได้ สบายมาก!!!!
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจากเพื่อนร่วมทริปทุกคน เอ็ม ปาล์ม ไข่มุก ซาณิ ใบฝ้าย โบว์ บิวตี้
ป.ล. รีวิวนี้เป็นการรีวิวครั้งแรก หากมีข้อผิดพลาดประการใด โปรดชี้แนะและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
เริ่มต้นกันที่การเดินทาง นัดเจอกับเพื่อนที่บ้านเพ มม.ออกเดินทางจากจังหวัดตราด เวลา 7.00 น. ด้วย BH รถตู้ด่วนระยอง-ตราด (200 บาท)
คิวรถอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลตราด โดยจะจอดส่งที่สังกะสี (เป็นชื่อสถานที่นะคะ ไม่ใช่สังกะสีมุงหลังคา ฮ่าๆๆ)
ตรงนั้นจะมีศาลาอยู่ค่ะ แล้วเราก็นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง(30 บาท)ไปที่ท่าเรือเทศบาลบ้านเพ
ลุงที่ขับวินบอกว่าท่าเรือเทศบาลบ้านเพนี้คนในพื้นที่นิยมขึ้นกัน
(สำหรับใครที่เดินทางจากกรุงเทพฯ จะมีคิวรถตู้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-บ้านเพ หลายคิวมากลองเลือกดูนะคะ รถตู้จะส่งถึงท่าเรือเลยค่ะ)
มาถึงท่าเรือเทศบาลบ้านเพเวลาประมาณ 9.30 น.เจอกับเพื่อนอีกสองคนที่มาจากสัตหีบ ก็เลยไปหาอะไรกินรองท้อง
ระหว่างรอเพื่อนที่มาจากกรุงเทพ(ขับรถยนต์มาเอง) แต่ปรากฏว่าเพื่อนไปลงที่ท่าเรือศรีบ้านเพ ซึ่งไกลจากที่เราอยู่จึงต้องแยกกันขึ้นเรือคนละท่า เจอกันอีกทีที่หน้าด่าน บนเกาะเสม็ดเลยค่ะ (ฮู่ว แล้วจะได้เจอกันเมื่อไรเนี่ย)
พวกเราสามสาวเมืองตะวันออก (ตราด สัตหีบ) เลือกที่จะขึ้นเรือที่ท่าเรือนวลทิพย์ค่ะ เพราะว่าใกล้ร้านที่เราอยู่มากที่สุด (ขี้เกียจเดินกลับไปที่ท่าเดิม อากาศร้อนมากค่ะ) โชคดีที่เราทันรอบเรือที่กำลังจะออกพอดีเลยสบายไป ตั๋วเป็นแบบไปกลับค่ะ (100 บาท)
รูปบริเวณทางเดินไปขึ้นเรือของท่าเรือศรีบ้านเพค่ะ
พอไปถึงที่หน้าด่านเวลาประมาณ 11.05 น. (เดินทางประมาณ 40 นาที) ปรากฏว่าเพื่อนได้รอบเรือ 11.10 น. พระเจ้า! อะไรจะอุปสรรคเยอะปานนี้ เราก็เลยเดินไปหาอะไรกินกันก่อนสามคน แล้วในที่สุดตอนกินข้าวเสร็จเพื่อนก็มาถึงพอดี (เย้ ได้เจอกันสักที)
ตอนที่เราขึ้นท่าเรือจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมผู้โดยสารผ่านท่าเทียบเรือ 20 บาทค่ะ
จากนั้นเราก็นั่งรถสองแถวสีเขียว(40 บาท) ไปลงที่แสงเทียน บีช รีสอร์ท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีค่ะ เข้าไปในเกาะลึกพอสมควร ทางเข้ารีสอร์ทแอบกันดารเล็กน้อย ชันและลึกพอสมควร แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อทะเลสวยๆ เรายอม
ก่อนที่เราจะเข้าไปในบริเวณเกาะ ก็จะต้องเสียค่าเข้าอุทยาน 40 บาทค่ะ
ถึงที่พักแล้วค่ะ ตอนแรกได้โทรจองที่พักกับที่นี่ไว้เป็นห้องรวม 8 คน 5300 บาท รวมอาหารเช้า
แต่ทางรีสอร์ทใจดีมาก บอกว่าให้มาดูห้องที่รีสอร์ทเองเลยก็ได้ เพราะเป็นวันธรรมดา (นี่ละค่ะข้อดีของวันธรรมดา)
แล้วเราก็เลือกห้อง 4 คน 2 ห้องใกล้ๆกัน ในราคาเดิม ห้องนึงเตียงคู่ 2 เตียง
มีทีวี ตู้เย็น น้ำเปล่าคนละขวด ผ้าเช็ดตัว ห้องน้ำสะอาด
เห็นวิวทะเลชัดเจนสวยมาก (แต่ขึ้นบันไดเหนื่อยมากเพราะอยู่สูง เห็นวิวทะเลชัดค่ะ)
บริเวณด้านล่างก่อนจะขึ้นไปห้องพัก
เย้ เดินถึงแล้ว
ถ่ายจากในห้องพัก
วิวถ่ายจากหน้าห้องค่ะ
หลังจากเอาของไปไว้ที่ห้องพักเราก็เดินสำรวจกันค่ะ หาดแสงเทียนนี้เป็นหาดที่เงียบสงบมาก(ดูเงียบเหงานิดๆเพราะเป็นวันธรรมดา)
เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ค่อยมีร้านค้าอื่นๆเท่าไร แต่ทางรีสอร์ทก็มีมินิมาร์ท ร้านอาหารของรีสอร์ท
มีตู้atm ด้วย บริการครบวงจรกันเลยทีเดียว
ทะเลที่หาดนี้น้ำใสพอสมควร หาดทรายขาวสะอาดตามาก
เป็นหาดที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากจริงๆ
เจ้าหมาน้อย
หมาทะเลค่ะ ฮ่าๆๆ
หลังจากที่ถ่ายรูปและเล่นน้ำกันพอสมควรแล้ว เรือที่จะพาเราไปดำน้ำก็มารับที่หน้ารีสอร์ทพอดี
เราได้จองทริปดำน้ำ sunset (400 บาท) ดำน้ำดูปะการัง 1 ที่ ดูพระอาทิตย์ตกที่อ่าวพร้าว นั่งสปีทโบ๊ทชมรอบเกาะ มีผลไม้ให้ด้วย
16.00-18.30 น. (จองกับทางรีสอร์ทในวันนั้นเลย)
เรือสปีทโบ๊ทที่มารับเราค่ะ
บริเวณที่เรามาดำน้ำกันค่ะ ปะการังสวยพอใช้ได้
เกาะกันไปค่ะ เพราะว่ายน้ำไม่ค่อยเป็น ส่วนเราอยู่บนเรือค่ะ ไม่ไหวว่ายไม่ไป ฮ่าๆๆ
มีผลไม้ให้กินด้วยค่ะ แตงโมกับสับปะรด สับปะรดเปรี้ยวไปหน่อย แตงโมหวานดีค่ะ
หลังจากดำน้ำกันเสร็จแล้วก็ไปที่อ้าวพร้าวเพื่อชมพระอาทิตย์ตก
ที่อ่าวพร้าวหาดทรายขาว ละเอียด สวยงาม และน้ำใสมาก!!!
ทำเอาเราตั้งใจไว้เลยว่าคราวหน้าต้องมาพักที่นี่ให้ได้
ดอกไม้บนอ่าวพร้าว
ภาพสวยๆบริเวณอ่าวพร้าว
กลับมาจากดำน้ำก็ประมาณทุ่มนึง อาบน้ำเรียบร้อยก็ลงไปกินข้าวที่ร้านอาหารของรีสอร์ท
ครัวปิดประมาณสามทุ่ม ลงไปเกือบไม่ทันครัวปิด ฮ่าๆๆๆ
อาหารที่เราสั่งมี หมึกทอดกระเทียม ปลาอินทรีทอดน้ำปลา ไก่ผัดเม็ดมะม่วง โป๊ะแตก
แต่เสียดายที่ไม่มีรูปเพราะด้วยความหิวทำให้เรากินอย่างรวดเร็วจนลืมนึกถึงการถ่ายรูปไปเลยค่ะ
อาหารที่ร้านอร่อยมาก ราคาพอสมควรกับอาหาร มื้อนั้น 8 คนตกคนละ 142 บาทแบบอิ่มทุกคนค่ะ
หลังจากที่กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนค่ะ
ตอนเช้าตื่นมา 5.30 น. เพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น บรรยากาศยามเช้าดีมาก
แต่ปรากฎว่าท้องฟ้ามีเมฆเลยอดดูค่า เสียดาย ว่าแล้วก็กลับไปนอนต่อ
ตื่นมาอีกที 8.00 น. อาบน้ำลงไปกินข้าวเช้าที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้
มีให้เลือกสองอย่าง คือข้าวต้ม ขนมปังสองแผ่น โอวันติน/กาแฟ
หรือ แฮม ไส้กรอก ไข่ดาว ขนมปังสองแผ่น โดยพวกเราเลือกข้าวต้มค่ะ
ข้ามต้มทะเลยามเช้ากับบรรยากาศของทะเลเข้ากันมาก มีความสุขสุดๆเลยละค่ะ
เมื่อกินเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไปเก็บของเตรียมเช็คเอ้าท์ออกก่อน 12.00
ถ่ายรูปนิดหน่อยส่งท้ายแล้วก็โทรเรียกรถสองแถวให้มารับ(ตอนมาคนขับให้เบอร์โทรไว้)
ค่ารถกลับก็เหมือนเดิมค่ะ 40 บาท
ตอนขากลับก็แยกกันกับเพื่อนเหมือนเดิมค่ะเพราะมาคนละท่าเรือ บอกลากันที่หน้าด่าน แล้วก็แยกย้ายกันค่ะ
บ๊ายบายเสม็ด
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้ของ มม. ต่อไปจะเป็นที่ไหน รีวิวเรื่องอะไรโปรดติดตามชมค่ะ
แก้ไข ใส่รูปเพิ่ม แก้คำผิดค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น