นักวิทยาศาสตร์พบเงื่อนงำของวิญญาณที่ไม่สูญสลาย

นักฟิสิกส์ระดับโลกบางคนมั่นใจว่าจิต (spirit) ของเรามีสถานะควอนตัม และว่าทวิภาคระหว่างร่างกายและวิญญาณ (soul) นั้นเป็นความจริงพอๆกับ"ทวิภาคของคลื่น-อนุภาค"ของอนุภาคที่เล็กที่สุด

ดร.เจมส์ จี อดีตผู้ร่วมงานของ German Max-Planck Society ในแฟรงก์เฟิร์ต บอกเล่าเรื่องราวเหลือเชื่อดังต่อไปนี้ “ผมไม่เพียงศึกษาอยู่ในสหรัฐเท่านั้น แต่ยังศึกษาเคมีในลอนดอนสองสามเทอมอีกด้วย เมื่อผมมาที่อังกฤษ หอพักนักศึกษาเต็มอยู่ ผมจึงใส่ชื่อของผมในรายชื่อสำรอง ไม่นานหลังจากนั้น ผมได้รับข่าวดีว่ามีห้องว่างแล้ว จากนั้นผมก็ย้ายเข้าไปอยู่ ผมตื่นขึ้นมาคืนหนึ่ง และในแสงสลัวๆสามารถมองเห็นชายหนุ่มผมดำหยักศก ผมกลัวมากและบอกกับเพื่อนข้างห้องคนดังกล่าวว่าเขาเข้าห้องผิด เขาแค่ร้องไห้ออกมาและมองมาที่ผมด้วยแววตาเศร้าสร้อย

เมื่อผมเปิดไฟ ผีตนนั้นก็หายไป เนื่องจากผมมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ใช่ความฝันแน่ๆ ผมบอกกับครูผู้ดูแลหอพักเกี่ยวกับสิ่งลึกลับที่ผมเจอในเช้าวัดถัดมา ผมบอกรายละเอียดของชายหนุ่มผู้นั้น เธอหน้าซีดทันที เธอมองหาในแฟ้มเอกสารและให้ผมดูรูปถ่าย ผมจำได้ทันทีว่าเป็นชายหนุ่มคนนั้นที่มาหาผมในห้องคืนนั้นนั่นเอง เมื่อผมถามเธอว่าเขาเป็นใคร เธอตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเทาว่าเป็นผู้เช่าคนก่อนหน้า เธอบอกต่อไปว่าห้องของผมว่างลงเพราะว่าเขาฆ่าตัวตายก่อนหน้านี้ไม่นาน" ผู้แต่งคงไม่มีวันบันทึกเรื่องราวนี้ ถ้า”เจมส์” ไม่ได้เป็นบุคคลที่น่าเชื่อถืออย่างมาก

ศาสตราจารย์ ดร.ฮานส์ ปีเตอร์ เดอร์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันฟิสิกส์มักซ์ พลังค์ในมิวนิก เสนอความเห็นว่าทวิภาคของอนุภาคที่เล็กที่สุดไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่โลกของสิ่งทีเล็กกว่าอะตอม แต่มีอยู่ในทุกๆที่ พูดอีกอย่างก็คือ ทวิภาคระหว่างร่างกายกับวิญญาณนั้นเป็นความจริงสำหรับเขาพอๆกับ”ทวิภาคคลื่น-อนุภาค” ของอนุภาคที่เล็กที่สุด ตามมุมมองของเขานั้นรหัสควอนตัมมีอยู่ซึ่งมีผลกับสสารที่มีชีวิตและไร้ชีวิตทั้งหมด โค้ดควอนตัมนี้คาดว่าแผ่ไปทั้งจักรวาล สิ่งที่ตามมาคือเดอร์เชื่อในความมีอยู่หลังจากความตาย เขาอธิบายดังต่อไปนี้ในการให้สัมภาษณ์

“สิ่งที่เราคิดว่าอยู่ที่นี่เดี๋ยวนี้ โลกนี้ จริงๆแล้วเป็นเพียงแค่ในระดับวัตถุที่สามารถรับรู้ได้ สิ่งที่อยู่นอกเหนือจากนี้คือโลกความจริงที่ไร้ที่สิ้นสุดที่ใหญ่ยิ่งกว่า ซึ่งโลกนี้พัฒนาขึ้นมา ดังนั้นชีวิตของเราในภพนี้ถูกห้อมล้อม แวดล้อมไปด้วยสิ่งที่อยู่ในโลกหลังความตายอยู่แล้ว ตอนที่วางแผนทำอะไรสักอย่าง ผมจินตนาการเอาว่าผมกำลังเขียนตัวตนของผมที่อยู่ในโลกนี้บนฮาร์ดดิสก์ชนิดหนึ่ง จับต้องได้ (สมอง) ซึ่งผมจะส่งผ่านข้อมูลนี้ไปยังโลกควอนตัมแห่งจิตวิญญาณด้วย ดังนั้นผมอาจบอกได้ว่าเมื่อผมตาย ผมไม่ได้สูญเสียข้อมูลนี้ จิตสำนึกนี้ ร่างกายตายไปแต่ควอนตัมแห่งจิตวิญญาณยังคงอยู่ ดังนั้นผมจึงเป็นอมตะ”

มีต่อ..
http://www.huffingtonpost.co.uk/rolf-froboese/scientists-find-hints-for-the-immortality-of-the-soul_b_5499969.html
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่