ขอคำปรึกษาค่ะ มีปัญหาเหนื่อยใจกับการจัดการให้ซัพพลายเออร์ทำงานให้มาตรฐานที่เราต้องการค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า
เราเป็นบ.รับออกแบบบูธจัดแสดงสินค้า บริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีแผนกช่างเป็นของตัวเอง เราจะจ้างซัพมาทำการก่อสร้างตามแบบของเราอีกต่อหนึ่ง โดยเราจะเป็นคนควบคุมคุณภาพงาน และประสานกับลูกค้าของเรา เราเคยมีซัพที่ดีมากๆ 1 เจ้า ใช้งานกันมาระยะหนึ่ง แต่ด้วยสภาพการแข่งขันที่สูงมากในธุรกิจนี้ เราโดนคู่แข่งตัดราคากันอย่างเอาเป็นเอาตาย และลูกค้าเอง(ส่วนใหญ่)ก็มองที่ราคาถูกที่สุดเท่านั้น(อันนี้อาจเป็นผลงานสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยอื่นๆ ของลูกค้าแต่ละราย) ทำให้ช่วงหลังเราไม่สามารถใช้งานซัพเจ้านี้ได้อีก เพราะราคาที่เค้าเสนอมาให้เรานั้น สูงจนเราไม่สามารถไปขายต่อได้ เราจึงต้องหาเจ้าที่ราคาถูกกว่า..............เราหาจนเจอค่ะ
แต่เมื่อทำงานกันไป เราก็พบว่า นอกจากส่วนต่างของราคาที่ต่างกัน จะแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยที่เราต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไช มอนิเตอร์งานกันอย่างใกล้ชิค ณ เวลาก่อนงาน หน้างาน ที่เราเข้าใจและยินยอมที่จะแลกความเหนื่อยนั้นกับส่วนต่างราคาที่ได้มา เพื่อให้เราสามารถทำงานอยู่ได้แล้ว หลังเสร็จงานยังมีเรื่องของความเสียหายบางอย่างที่ตามมาให้เราแก้ไขอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขนย้ายที่ทำให้เกิดความเสีย ความหายกับของของลูกค้าเรา ที่เมื่อเกิดความเสียหายแล้ว ซัพฯก็ล่าช้าในการรับผิดชอบและแก้ไข เราต้องตามต้องจี้กันครั้งแล้วครั้งเล่า รับปากๆๆแล้าสุดท้ายลืมบ้าง ติดนั่นนี่บ้าง บางครั้งยังพบปัญหาของที่ต้องเก็บคืนลูกค้าสูญหายอีกต่างหาก เวลาหน้างานเค้าจะส่งมาแต่ทีมงาน ตัวหัวหน้าเข้ามาแค่วันแรกวันเดียว แล้วก็หายต๋อม มีปํญหาทีต้องโทรคุยกันทีกว่าจะแก้ไขได้ เล่นเอาเหงื่อตก
ทั้งหมดทั้งปวงนี้ สิ่งที่เราห่วงที่สุด คือชื่อเสียงและความเชื่อถือของบริษัทเรา ที่เราเพียรสร้างมาด้วยความยากลำบาก กว่าจะค่อยๆได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า จนมีงานต่อเนื่องกันมาได้งานแล้วงานเล่า การรักษามาตรฐานคุณภาพงาน และการบริการของเรามันเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด แต่เมื่อเราต้องมาด่างพล้อย เพราะซัพฯ เจ้านี้ เราหนักใจมากเลยค่ะ เวลาหน้าเราพยายามควบคุมงานให้ออกมาดีที่สุด ตรงไหนที่ติดปัญหา เข้าไปช่วยแก้ไขให้ตลอด อยู่หน้างานด้วยตลอด บางครั้งต้องจัดการวิธีการทำงานให้คนงานของเค้า เพื่อให้งานของเราออกมาได้ทันต่อความต้องการของลูกค้า และไม่เกิดความเสียหาย (ก็เวลาเสียหาย...มันก็ชื่อเสียงเรานี่เนอะ เราก็ต้องรักษาให้ดีที่สุด) บางทีอดคิดไม่ได้ว่า มาตรฐานของเรามันสูงเกินไปหรือเปล่า ถึงทำให้ต้องมาเหนื่อยขนาดนี้ ทั้งที่ซัพของเรา เค้าได้เงินจากเราไปก็ไม่ใช่น้อย เวลาเค้าเสนอราคามา เราจะดูว่ามันพอที่เราจะไำปขายต่อได้หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่มันก็ได้ ทำให้เราไม่แทบจะไม่ต่อราคาเค้าเลย เท่าที่ทำงานกันมา ต่อราคาไปแค่ 3 งาน จาก 16 งาน นอกนั้นบอกมาเท่าไหร่ เท่านั้น สงสัยตรงไหมสูงไป เราก็ถาม ตอบมาเคลียร์ก็จบ เซ็นอนุมัติราคากลับไปไม่มีมาต่อจุกจิก จริงๆราคาที่ต่างกับเจ้าเก่าของเรา ถ้าเทียบเป้น%ก็ถูกกว่าประมาณ 20% ทำไมความใส่ใจในงาน หรือมาตรฐานของงานมันถึงน้อยเหลือเกิน และตัวเค้าเอง(เจ้าของบ.ซัพ) ก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรกับการรักษาชื่อเสียงของบ.เค้าเลย เราเองเป็นลูกค้าของเค้าแท้ๆ คอมเพลไรไปก็รับปากส่งๆ เด๋วก็ลืม ต้องตามจิกกัน2-3รอบ มันเป็นเพราะเราเป็นเจ้าของบ.ที่ตื่นตัวเกินไป หรือเค้าเฉื่อยชาเกินไปกันแน่ เราเข้าใจนะว่าเค้าไม่ได้มีเราเป็นลูกค้ารายเดียว เค้ามีลูกค้าอีกมากมาย โดยเฉพาะเป็นลูกค้าที่เค้าทำงานให้ในนามบ.เค้าเอง ไม่ได้เป็นมือปืนรับจ้างแบบที่ทำให้เรา แต่ไม่ว่าจะทำตรงหรือทำผ่านใคร งานเล็กหรืองานใหญ่ มาตรฐานการทำงานทีดีมันควรมีเหมือนๆกันรึป่าว เค้าควรรักษาชื่อเสียงของเค้าเหมือนกันรึป่าว
สำหรับเรายิ่งงานเล็ก กำไรน้อย ยิ่งต้องทำงานและวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด แต่ซัพฯของเราไม่มีแบบนี้เลย งานบางงานเล็กมาก ง่ายมาก กลับทำให้ต้องแก้ไขกัน 2-3ครั้ง เป็นต้นทุนที่งอกมาเพิ่มจากความไม่ใส่ใจ ไม่รู้เท่าไหร่ ?!?!?!?! เรางงจิงๆ เค้าไม่คิดจุดนี้บ้างเหรอคะ (หรือเค้ารวยแล้ว!!!)
เราพยายามหาวิธีจัดการกับซัพฯเจ้านี้ ให้สามารถทำงานด้วยกันต่อไปได้ เพราะบ.เล็กๆของเรายังไม่สามารถมีทีมงานของตัวเองได้ทั้งหมด (จิงๆบ.ซีพอาจจะใหญ่กว่าบ.เราด้วยซ้ำ) เราควรทำยังไงดีคะ เขียนเป็นสัญญาจ้างแบบระบุทุกอย่างเป้นข้อๆไปเลย จะดีไหมคะ (เคยใช้วิธีคุยกันดีๆ เชิญเจ้าของเค้ามาคุย อธิบายเหตุผลและมาตรฐานงานของเราให้เข้าใจแล้ว รับปากแล้ว ก็เหมือนเดิม)
หรือท่านใดมีวิธีจัดการกับซัพฯ แบบประนีประนอม และยังคงให้ผลลัพท์งานที่คงคุณภาพไว้ได้ ในราคาที่เราและเค้าต่างยังหายใจอยู่ได้ ช่วยแนะนำมือใหม่อย่างเราเป็นวิทยาทานหน่อยนะคะ เหนื่อยใจจังเลย -_-!!!!
(ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาอ่านเรื่องของเรานะคะ ยาวไปหน่อย ต้องขอโทษนะคะ)
เมื่อคุณเป็นsmeเล็กๆที่จำเป็นต้องจ้างซัพฯที่ราคาถูกเพื่อให้คุณไปแข่งกับคู่แข่งได้คุณจะจัดการซัพฯของคุณยังไง
เราเป็นบ.รับออกแบบบูธจัดแสดงสินค้า บริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีแผนกช่างเป็นของตัวเอง เราจะจ้างซัพมาทำการก่อสร้างตามแบบของเราอีกต่อหนึ่ง โดยเราจะเป็นคนควบคุมคุณภาพงาน และประสานกับลูกค้าของเรา เราเคยมีซัพที่ดีมากๆ 1 เจ้า ใช้งานกันมาระยะหนึ่ง แต่ด้วยสภาพการแข่งขันที่สูงมากในธุรกิจนี้ เราโดนคู่แข่งตัดราคากันอย่างเอาเป็นเอาตาย และลูกค้าเอง(ส่วนใหญ่)ก็มองที่ราคาถูกที่สุดเท่านั้น(อันนี้อาจเป็นผลงานสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยอื่นๆ ของลูกค้าแต่ละราย) ทำให้ช่วงหลังเราไม่สามารถใช้งานซัพเจ้านี้ได้อีก เพราะราคาที่เค้าเสนอมาให้เรานั้น สูงจนเราไม่สามารถไปขายต่อได้ เราจึงต้องหาเจ้าที่ราคาถูกกว่า..............เราหาจนเจอค่ะ
แต่เมื่อทำงานกันไป เราก็พบว่า นอกจากส่วนต่างของราคาที่ต่างกัน จะแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยที่เราต้องคอยจ้ำจี้จ้ำไช มอนิเตอร์งานกันอย่างใกล้ชิค ณ เวลาก่อนงาน หน้างาน ที่เราเข้าใจและยินยอมที่จะแลกความเหนื่อยนั้นกับส่วนต่างราคาที่ได้มา เพื่อให้เราสามารถทำงานอยู่ได้แล้ว หลังเสร็จงานยังมีเรื่องของความเสียหายบางอย่างที่ตามมาให้เราแก้ไขอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขนย้ายที่ทำให้เกิดความเสีย ความหายกับของของลูกค้าเรา ที่เมื่อเกิดความเสียหายแล้ว ซัพฯก็ล่าช้าในการรับผิดชอบและแก้ไข เราต้องตามต้องจี้กันครั้งแล้วครั้งเล่า รับปากๆๆแล้าสุดท้ายลืมบ้าง ติดนั่นนี่บ้าง บางครั้งยังพบปัญหาของที่ต้องเก็บคืนลูกค้าสูญหายอีกต่างหาก เวลาหน้างานเค้าจะส่งมาแต่ทีมงาน ตัวหัวหน้าเข้ามาแค่วันแรกวันเดียว แล้วก็หายต๋อม มีปํญหาทีต้องโทรคุยกันทีกว่าจะแก้ไขได้ เล่นเอาเหงื่อตก
ทั้งหมดทั้งปวงนี้ สิ่งที่เราห่วงที่สุด คือชื่อเสียงและความเชื่อถือของบริษัทเรา ที่เราเพียรสร้างมาด้วยความยากลำบาก กว่าจะค่อยๆได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า จนมีงานต่อเนื่องกันมาได้งานแล้วงานเล่า การรักษามาตรฐานคุณภาพงาน และการบริการของเรามันเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด แต่เมื่อเราต้องมาด่างพล้อย เพราะซัพฯ เจ้านี้ เราหนักใจมากเลยค่ะ เวลาหน้าเราพยายามควบคุมงานให้ออกมาดีที่สุด ตรงไหนที่ติดปัญหา เข้าไปช่วยแก้ไขให้ตลอด อยู่หน้างานด้วยตลอด บางครั้งต้องจัดการวิธีการทำงานให้คนงานของเค้า เพื่อให้งานของเราออกมาได้ทันต่อความต้องการของลูกค้า และไม่เกิดความเสียหาย (ก็เวลาเสียหาย...มันก็ชื่อเสียงเรานี่เนอะ เราก็ต้องรักษาให้ดีที่สุด) บางทีอดคิดไม่ได้ว่า มาตรฐานของเรามันสูงเกินไปหรือเปล่า ถึงทำให้ต้องมาเหนื่อยขนาดนี้ ทั้งที่ซัพของเรา เค้าได้เงินจากเราไปก็ไม่ใช่น้อย เวลาเค้าเสนอราคามา เราจะดูว่ามันพอที่เราจะไำปขายต่อได้หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่มันก็ได้ ทำให้เราไม่แทบจะไม่ต่อราคาเค้าเลย เท่าที่ทำงานกันมา ต่อราคาไปแค่ 3 งาน จาก 16 งาน นอกนั้นบอกมาเท่าไหร่ เท่านั้น สงสัยตรงไหมสูงไป เราก็ถาม ตอบมาเคลียร์ก็จบ เซ็นอนุมัติราคากลับไปไม่มีมาต่อจุกจิก จริงๆราคาที่ต่างกับเจ้าเก่าของเรา ถ้าเทียบเป้น%ก็ถูกกว่าประมาณ 20% ทำไมความใส่ใจในงาน หรือมาตรฐานของงานมันถึงน้อยเหลือเกิน และตัวเค้าเอง(เจ้าของบ.ซัพ) ก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรกับการรักษาชื่อเสียงของบ.เค้าเลย เราเองเป็นลูกค้าของเค้าแท้ๆ คอมเพลไรไปก็รับปากส่งๆ เด๋วก็ลืม ต้องตามจิกกัน2-3รอบ มันเป็นเพราะเราเป็นเจ้าของบ.ที่ตื่นตัวเกินไป หรือเค้าเฉื่อยชาเกินไปกันแน่ เราเข้าใจนะว่าเค้าไม่ได้มีเราเป็นลูกค้ารายเดียว เค้ามีลูกค้าอีกมากมาย โดยเฉพาะเป็นลูกค้าที่เค้าทำงานให้ในนามบ.เค้าเอง ไม่ได้เป็นมือปืนรับจ้างแบบที่ทำให้เรา แต่ไม่ว่าจะทำตรงหรือทำผ่านใคร งานเล็กหรืองานใหญ่ มาตรฐานการทำงานทีดีมันควรมีเหมือนๆกันรึป่าว เค้าควรรักษาชื่อเสียงของเค้าเหมือนกันรึป่าว
สำหรับเรายิ่งงานเล็ก กำไรน้อย ยิ่งต้องทำงานและวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด แต่ซัพฯของเราไม่มีแบบนี้เลย งานบางงานเล็กมาก ง่ายมาก กลับทำให้ต้องแก้ไขกัน 2-3ครั้ง เป็นต้นทุนที่งอกมาเพิ่มจากความไม่ใส่ใจ ไม่รู้เท่าไหร่ ?!?!?!?! เรางงจิงๆ เค้าไม่คิดจุดนี้บ้างเหรอคะ (หรือเค้ารวยแล้ว!!!)
เราพยายามหาวิธีจัดการกับซัพฯเจ้านี้ ให้สามารถทำงานด้วยกันต่อไปได้ เพราะบ.เล็กๆของเรายังไม่สามารถมีทีมงานของตัวเองได้ทั้งหมด (จิงๆบ.ซีพอาจจะใหญ่กว่าบ.เราด้วยซ้ำ) เราควรทำยังไงดีคะ เขียนเป็นสัญญาจ้างแบบระบุทุกอย่างเป้นข้อๆไปเลย จะดีไหมคะ (เคยใช้วิธีคุยกันดีๆ เชิญเจ้าของเค้ามาคุย อธิบายเหตุผลและมาตรฐานงานของเราให้เข้าใจแล้ว รับปากแล้ว ก็เหมือนเดิม)
หรือท่านใดมีวิธีจัดการกับซัพฯ แบบประนีประนอม และยังคงให้ผลลัพท์งานที่คงคุณภาพไว้ได้ ในราคาที่เราและเค้าต่างยังหายใจอยู่ได้ ช่วยแนะนำมือใหม่อย่างเราเป็นวิทยาทานหน่อยนะคะ เหนื่อยใจจังเลย -_-!!!!
(ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาอ่านเรื่องของเรานะคะ ยาวไปหน่อย ต้องขอโทษนะคะ)