จากนโยบาย ทางการเมือง(ย้ำนะครับว่าทางการเมือง) ที่ผลักดันนโยบาย 300 บาท ที่เท่ากันทั่วประเทศ ผลที่ได้และผลเสีย
ในทางการเมือง : พรรคที่ประกาศนโยบาย ได้คะแนนเสียงจากคนในต่างจังหวัดและพี่น้องแรงงาน
ในทางเศรฐกิจ : โรงงานอุตสาหกรรมย้ายฐานการผลิต เอาง่ายแค่รองเท้า ปรกติ พวก K swiss lacoste จะมีฐานการผลิตในไทย และโรงงาานอื่นๆ ย้ายไปเวียดนาม และประเทศเพื่อนบ้านหมด และที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ภาค SME ที่เป็นอุตสาหกรรมขนาดย่อมที่พึงพาแรงงานเป็นหลัก ไม่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ ได้รับผลกระทบไปเต็ม
เคยมีคนออกมาเตือนหลายรอบแล้วก่อนประกาศนโยบายนี้ว่าเป็นโครงการประชานิยม ที่อาจส่งผลเสียตามมา แต่หลายคนมองจากสายโซ่ของวงจร จากล่างขึ้นบน แรงงาน->ผู้ประกอบการ->ระบบเศรษฐกิจ นโยบายนี้คนที่ได้ประโยชน์ใช่ คือแรงงานที่ได้เงินมากขึ้นในการดำรงชีพ ก็ตามทฤษฏีสองสูงที่ มีเจ้าสัวคนหนึ่งแนะนำไว้ และรัฐบาลก็นำมาทำรวมทั้งนโยบายจำนำข้าว แต่หารู้ไม่เงินในระบบที่เพิ่มมาก็ไปเข้า ระบบของคนท่แนะนำนั่นแหละ (ให้เพิ่มเงินแก่แรงงาน แรงงานจะได้มีเงินไปใช้จ่ายของในเครือ โอเคไม่ว่ากันตรงนี้)
แต่เมื่อแรงงานได้ประโยชน์ คนแนะนำทฤษฏีได้ประโยชน์ แต่ผู้ประกอบการ ?
ถ้ามองอีกแบบที่เริ่มจก ระบบเศรษกิจ -> จำนวนผู้ประกอบการ -> แรงงาน นั้นหมายความว่าถ้ามีผู้ประกอบการจำนวนมากเท่าไหร่ อัตตราการจ้างงานและกำลังการจ้างงานก็มาขึ้นตามจำนวนผู้ประกอบการ และแรงงานที่มีฝีมือก็จะเป็นที่ต้องการย่อมขาดแคลน ตามจำนวนงานที่มาก
แต่ตอนนี้กลับมองจากแรงงานเป็ฯหลักว่าต้องได้เงินจำนวนมากๆ ทำให้เกิดการทะลักของแรงงานต่างด้าว เข้ามาแย่งงานคนไทยที่มีฝีมือ ไปอยู่โรงงานต่างๆ ยอมรับเงินที่ได้ต่ำกว่าค่าจ้างกำหนดเพดานขั้นต่ำ เพื่อให้ได้งานทำ เพราะอัตราค่าตอบแทนบ้านเขากับบ้านเราต่างกัน เช่นเดียวกับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น เพราะประเทศอื่นค่าจ้างแรงงานต่ำกว่า ทำให้เขาทำกำไรได้มากกว่า โรงงานส่วนใหญ่เป็นบริษัทในตลาดหุ้น เขาต้องทำกำไรให้ผู้ถือหุ้น
ดังนั้นการปรับเรื่องค่าจ้างตามแต่ละจังหวัดตามที่รัฐบาลปัจจุบันจะทำ ผมเห็นด้วย เพื่อให้ผู้ประกอบการแต่ละจะหวัดมีความสามาารถในการแข่งขัน มีผู้ประกอบการที่อยู่รอดมากเท่าไหร่ มีรายใหม่มากเท่าไหร่ ก็ย่อมมีอัตราการจ้างงานที่มากขึ้น และถ้าคนทำงานมมีฝีมือ มันไม่ได้หยุดที่ 300 อาจมากกว่านั้นตามความต้องการของตลาด แต่รัฐบาลต้องหามาตรการปกป้องและป้องกัน การแย่งงานจากชาวต่างชาติ เช่นประเทศเพื่อนบ้านที่มีอัตราค่าจ้างต่ำ แต่มาพัฒนาฝีมือที่นี่และ แย่งงานคนที่มีฝี เพราะเขาเหล่านั้นไม่เกี่ยงค่าจ้าง เนื่องจากภาวะหรือสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตต่างกัน ยิ่งจะเข้า AEC ปัญหาจะยิ่งตามมา เพราะความแตกต่างของแต่ละประเทศ ความพร้อมในด้านต่างๆ รัฐบาลควรต้องมีการกำหนดหมวดหมู่งานว่าอะไรให้คนไทยทำห้ามคนอื่นมาแย่งงานทำ
ดังนั้นนโยบายประชานิยม จะให้ผลดีกับแรงงาน ใช่ แต่มีผลประทบกับเศรฐกิจ ทียอมขึนมา จากเดิม 40 เปอร์ทั่วประเทศ บางจังหวัดขึ้นมาเป็น 50 % ก็เพราะเพียงแค่ต้องการคะแนนเสียง
สุดท้ายได้คะแนนมา ก็ไปหมกมุ่นอยู่กับการช่วยคนบางคน ขณะที่ประเทศเริ่มสูญเสียการเป็นฐานการผลิต แรงงานต่างด้าวทะลัก ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ สุดท้ายก็ต้องกลับมาปรับเป็นแบบเดิม เพราะมันได้ไม่คุ้มเสีย(สำหรับภาพรวม) และสำคัญสุด
รัฐบาลนี้มาทำอะไรไม่ต้องคิดอะไรมากเรื่องคะแนนนิยมของพรรค เพราะพวกเขาไม่ใช่พรรคการเมือง จะทำอะไร ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเสียคะแนนเหมือนพรรคทั่วไป
ผลของประชานิยม ได้คะแนนเสียงมา แล้วก็ทำไม่เหมือนตอนที่พูดไว้ หลอกเอาเสียงประชาชนมาช่วยทักกี้ และเงินทักกี้แถมเหลียบศพข้ามไปเพื่อให้ได้ออกพรบนิรโทษ ตบหน้าสาวกหลายครั้ง โดยการโกหกหลอกลวง แต่คนห้องนี้มันเหนียวแน่นจริงๆ คริคริ
ใจไม่แข็งอย่าเปิด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อื่มไม่ได้หาทางช่วยเลย เหอ
ค่าแรง 300 ทฤษฏี 2 สูง และนโยบายประชานิยม By Identity Idea
ในทางการเมือง : พรรคที่ประกาศนโยบาย ได้คะแนนเสียงจากคนในต่างจังหวัดและพี่น้องแรงงาน
ในทางเศรฐกิจ : โรงงานอุตสาหกรรมย้ายฐานการผลิต เอาง่ายแค่รองเท้า ปรกติ พวก K swiss lacoste จะมีฐานการผลิตในไทย และโรงงาานอื่นๆ ย้ายไปเวียดนาม และประเทศเพื่อนบ้านหมด และที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ภาค SME ที่เป็นอุตสาหกรรมขนาดย่อมที่พึงพาแรงงานเป็นหลัก ไม่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ ได้รับผลกระทบไปเต็ม
เคยมีคนออกมาเตือนหลายรอบแล้วก่อนประกาศนโยบายนี้ว่าเป็นโครงการประชานิยม ที่อาจส่งผลเสียตามมา แต่หลายคนมองจากสายโซ่ของวงจร จากล่างขึ้นบน แรงงาน->ผู้ประกอบการ->ระบบเศรษฐกิจ นโยบายนี้คนที่ได้ประโยชน์ใช่ คือแรงงานที่ได้เงินมากขึ้นในการดำรงชีพ ก็ตามทฤษฏีสองสูงที่ มีเจ้าสัวคนหนึ่งแนะนำไว้ และรัฐบาลก็นำมาทำรวมทั้งนโยบายจำนำข้าว แต่หารู้ไม่เงินในระบบที่เพิ่มมาก็ไปเข้า ระบบของคนท่แนะนำนั่นแหละ (ให้เพิ่มเงินแก่แรงงาน แรงงานจะได้มีเงินไปใช้จ่ายของในเครือ โอเคไม่ว่ากันตรงนี้)
แต่เมื่อแรงงานได้ประโยชน์ คนแนะนำทฤษฏีได้ประโยชน์ แต่ผู้ประกอบการ ?
ถ้ามองอีกแบบที่เริ่มจก ระบบเศรษกิจ -> จำนวนผู้ประกอบการ -> แรงงาน นั้นหมายความว่าถ้ามีผู้ประกอบการจำนวนมากเท่าไหร่ อัตตราการจ้างงานและกำลังการจ้างงานก็มาขึ้นตามจำนวนผู้ประกอบการ และแรงงานที่มีฝีมือก็จะเป็นที่ต้องการย่อมขาดแคลน ตามจำนวนงานที่มาก
แต่ตอนนี้กลับมองจากแรงงานเป็ฯหลักว่าต้องได้เงินจำนวนมากๆ ทำให้เกิดการทะลักของแรงงานต่างด้าว เข้ามาแย่งงานคนไทยที่มีฝีมือ ไปอยู่โรงงานต่างๆ ยอมรับเงินที่ได้ต่ำกว่าค่าจ้างกำหนดเพดานขั้นต่ำ เพื่อให้ได้งานทำ เพราะอัตราค่าตอบแทนบ้านเขากับบ้านเราต่างกัน เช่นเดียวกับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น เพราะประเทศอื่นค่าจ้างแรงงานต่ำกว่า ทำให้เขาทำกำไรได้มากกว่า โรงงานส่วนใหญ่เป็นบริษัทในตลาดหุ้น เขาต้องทำกำไรให้ผู้ถือหุ้น
ดังนั้นการปรับเรื่องค่าจ้างตามแต่ละจังหวัดตามที่รัฐบาลปัจจุบันจะทำ ผมเห็นด้วย เพื่อให้ผู้ประกอบการแต่ละจะหวัดมีความสามาารถในการแข่งขัน มีผู้ประกอบการที่อยู่รอดมากเท่าไหร่ มีรายใหม่มากเท่าไหร่ ก็ย่อมมีอัตราการจ้างงานที่มากขึ้น และถ้าคนทำงานมมีฝีมือ มันไม่ได้หยุดที่ 300 อาจมากกว่านั้นตามความต้องการของตลาด แต่รัฐบาลต้องหามาตรการปกป้องและป้องกัน การแย่งงานจากชาวต่างชาติ เช่นประเทศเพื่อนบ้านที่มีอัตราค่าจ้างต่ำ แต่มาพัฒนาฝีมือที่นี่และ แย่งงานคนที่มีฝี เพราะเขาเหล่านั้นไม่เกี่ยงค่าจ้าง เนื่องจากภาวะหรือสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตต่างกัน ยิ่งจะเข้า AEC ปัญหาจะยิ่งตามมา เพราะความแตกต่างของแต่ละประเทศ ความพร้อมในด้านต่างๆ รัฐบาลควรต้องมีการกำหนดหมวดหมู่งานว่าอะไรให้คนไทยทำห้ามคนอื่นมาแย่งงานทำ
ดังนั้นนโยบายประชานิยม จะให้ผลดีกับแรงงาน ใช่ แต่มีผลประทบกับเศรฐกิจ ทียอมขึนมา จากเดิม 40 เปอร์ทั่วประเทศ บางจังหวัดขึ้นมาเป็น 50 % ก็เพราะเพียงแค่ต้องการคะแนนเสียง สุดท้ายได้คะแนนมา ก็ไปหมกมุ่นอยู่กับการช่วยคนบางคน ขณะที่ประเทศเริ่มสูญเสียการเป็นฐานการผลิต แรงงานต่างด้าวทะลัก ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ สุดท้ายก็ต้องกลับมาปรับเป็นแบบเดิม เพราะมันได้ไม่คุ้มเสีย(สำหรับภาพรวม) และสำคัญสุด รัฐบาลนี้มาทำอะไรไม่ต้องคิดอะไรมากเรื่องคะแนนนิยมของพรรค เพราะพวกเขาไม่ใช่พรรคการเมือง จะทำอะไร ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเสียคะแนนเหมือนพรรคทั่วไป
ผลของประชานิยม ได้คะแนนเสียงมา แล้วก็ทำไม่เหมือนตอนที่พูดไว้ หลอกเอาเสียงประชาชนมาช่วยทักกี้ และเงินทักกี้แถมเหลียบศพข้ามไปเพื่อให้ได้ออกพรบนิรโทษ ตบหน้าสาวกหลายครั้ง โดยการโกหกหลอกลวง แต่คนห้องนี้มันเหนียวแน่นจริงๆ คริคริ
ใจไม่แข็งอย่าเปิด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้