ไปสัมภาษณ์วีซ่านักเรียน อเมริกามาแล้วค่ะ ไม่ยากอย่างที่คิด ก่อนไปนี่อ่านในพันทิปไป อั๊ยยะ ทำไมคนไม่ผ่านเยอะจัง เงินเค้าก็เยอะนะ
เลยขอมาแชร์ประสบการณ์เผื่อเพื่อนๆแล้วกัน เจอคลิปอันนี้ เรื่องการขอวีซ่านักเรียนระบบใหม่ ละเอียดดีค่ะ ลองชม
https://m.youtube.com/watch?v=by5YbXreffQ
-ต่อแถวหน้าสถานทูต ควรไปก่อนสัก 15 -30นาที แต่วันนี้ ฝนตก วุ่นวายมาก เราเลยไปถึงตรงเวลาพอดีเลย
เจ้าหน้าที่เค้าจะมีรายชื่ออยู่แล้วค่ะ ใคร กี่โมงบ้าง วีซ่าอะไร เค้าก็เช็คชื่อ ยื่นบัตรพลาสติกให้
-พอผ่านประตูเข้าไป ฝากร่มไว้ได้+โทรศัพท์ หูฟังต้องฝากพร้อมบัตรปชช.
แล้วรปภ.เขาจะใช้เครื่องมือ scan ร่างกาย
(กระเป๋าต้องไปฝากอีกที่นึง ตรงหน้าเต้นท์ค่ะ พอดีเราอ่านไปก่อนก็เลยเอาไปแค่
กระเป๋าเล็กๆใบเดียวใส่กระเป๋าสตางค์ กับแฟ้มซิป เลยไม่ต้องฝากแบบเสียเงิน ประหยัดไป)
-พอตรวจผ่าน ก็เข้าไปตรงซุ้ม ไปเอาเลขems แล้วก็จดไว้ เผื่อเราเช็คสถานะ
สำหรับวีซ่านักเรียน ต้องจ่าย sevis fees 200 เหรียญ แล้วก็ค่าวีซ่าชั่วคราว อีกประมาณ5พันกว่าบาทค่ะ
จ่ายก่อนวันสัมภาษณ์ และวันสัมภาษณ์เอาใบconfirmจ่ายเงินไปด้วยนะคะ เค้าขอดู
-เข้าไปในอาคาร ตอนแรกไปช่องคนไทยก่อน เค้าก็ถาม จะไปทำไร, เรียนด้านไหน, จะไปเมืองไหน, ทำไมไปมหาลัยนี้
แนะนำตอบ ฉะฉานนะคะ เพราะพอตอบคำถามอื่นไป สักพัก เค้าก็ถามอีก จะไปทำอะไร 55 อาจจะเผื่อคนหลุด สแกนนิ้วมือ
-ต่อคิว เค้าจะสแกนเอกสารบาร์โค้ดผ่านกระจก แล้วก็ให้เราวางมือสแกนอีก
-ระหว่างรอคิว ฟังได้หมดเลยค่ะ ใครได้ไม่ได้ ใครโดนถามเยอะ
เราเจอมีคุณแม่มากับลูกน่าจะประถม ก็ยังไม่ได้ค่ะ คือเค้าจะส่งลูกชายวัยประถม ไปเรียน 3 ปี อเมริกา เหมือนมีญาติอยู่ที่นู่นแล้ว
แล้วเขาจะตามไปดูแลลูก 3 ปี กงสุลเค้าเลยต้องอธิบายผ่านเจ้าหน้าที่คนไทย ว่าสำหรับคุณแม่ไม่ได้นะ เคสจะPending ไปก่อน
ให้ไปคิดมาดีดีนะว่าจะไปเยี่ยมลูกเป็นครั้งคราวหรืออย่างไร ค่อยมาขอใหม่
ผู้หญิงอีกคน ช่องหนุ่มเอเชีย เท่าที่ฟังคือว่างงานอยู่ จะไปเรียนภาษา ก็โดนขอดูทรานสคริป แล้วถามว่าทำไมเกรดวิชานี้ น้อย ได้ D
ผู้หญิงคนนั้นเค้าเลยตอบว่ามันยาก แต่เราดันโดนเรียกเข้าสัมภาษณ์เลยไม่ได้ฟังต่อว่าสรุปเค้าได้ไหม แต่ดูไม่น่าจะได้
เราได้กงสุลผู้ชาย ทางช่องขวา (ข้างๆกงสุลเอเชียที่น่ารัก กิกิ) ถาม 5 คำถาม
เราเจอถามภาษาอังกฤษหมดนะคะ
1. How are you? > Fineeeee...แล้วก็ตอบ actually a bit sick
2. โอ้ซอรี่ด้วย แล้วจะไปทำอะไร > ไปเรียนโทค่ะ เราจบจากที่ ........... แล้วก็เรียนโทอยู่ที่....... จะจบแล้วค่ะ
3. โอ้ว โทใบที่สองเหรอ You must be rich! >> ตอบไปNo ค่ะ ได้ partial scholarship เค้าก็เปิดเจอหน้า offer พร้อมใบทุน partial scholarship
ให้จากยูพอดี
4. ไปที่ไหน > ตอบยูไป พอดียูเราค่อนข้างโอเค มีชื่อ เป็นยูรัฐ เค้าก็ดูเอกสาร I-20 จากยูเรา
5. แล้วที่เหลือใครจ่าย who will pay for the rest >> คุณแม่ค่ะ(นามสกุลเดียวกัน) ส่งใบรับรองเงินในบัญชีของคุณแม่ไปที่ธนาคารออกให้ ไม่เยอะนะคะ 7 หลักต้นๆ เค้าก็เปิดๆดู จบค่ะ
เค้าบอกโอเค จะได้รับวีซ่าใน 2- 3 วันนะ
จบแล้ว คือไม่ถามถึงพ่อแม่เลย เอกสารที่เตรียมมา ทรานสคริปต์ เกรดของเราไม่ดูเลยยยยย เอิ้กกกกกกกก
สรุปทำใจสบายๆ ตอบตามจริง ถ้าไปเรียนจริงๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เงินครอบคลุม ค่าเรียน กับค่ากินอยู่ก็พอ
้เล่าสู่กันฟัง: ประสบการณ์ขอวีซ่า F-1 ปี2015 อเมริกา
เลยขอมาแชร์ประสบการณ์เผื่อเพื่อนๆแล้วกัน เจอคลิปอันนี้ เรื่องการขอวีซ่านักเรียนระบบใหม่ ละเอียดดีค่ะ ลองชม https://m.youtube.com/watch?v=by5YbXreffQ
-ต่อแถวหน้าสถานทูต ควรไปก่อนสัก 15 -30นาที แต่วันนี้ ฝนตก วุ่นวายมาก เราเลยไปถึงตรงเวลาพอดีเลย
เจ้าหน้าที่เค้าจะมีรายชื่ออยู่แล้วค่ะ ใคร กี่โมงบ้าง วีซ่าอะไร เค้าก็เช็คชื่อ ยื่นบัตรพลาสติกให้
-พอผ่านประตูเข้าไป ฝากร่มไว้ได้+โทรศัพท์ หูฟังต้องฝากพร้อมบัตรปชช.
แล้วรปภ.เขาจะใช้เครื่องมือ scan ร่างกาย
(กระเป๋าต้องไปฝากอีกที่นึง ตรงหน้าเต้นท์ค่ะ พอดีเราอ่านไปก่อนก็เลยเอาไปแค่
กระเป๋าเล็กๆใบเดียวใส่กระเป๋าสตางค์ กับแฟ้มซิป เลยไม่ต้องฝากแบบเสียเงิน ประหยัดไป)
-พอตรวจผ่าน ก็เข้าไปตรงซุ้ม ไปเอาเลขems แล้วก็จดไว้ เผื่อเราเช็คสถานะ
สำหรับวีซ่านักเรียน ต้องจ่าย sevis fees 200 เหรียญ แล้วก็ค่าวีซ่าชั่วคราว อีกประมาณ5พันกว่าบาทค่ะ
จ่ายก่อนวันสัมภาษณ์ และวันสัมภาษณ์เอาใบconfirmจ่ายเงินไปด้วยนะคะ เค้าขอดู
-เข้าไปในอาคาร ตอนแรกไปช่องคนไทยก่อน เค้าก็ถาม จะไปทำไร, เรียนด้านไหน, จะไปเมืองไหน, ทำไมไปมหาลัยนี้
แนะนำตอบ ฉะฉานนะคะ เพราะพอตอบคำถามอื่นไป สักพัก เค้าก็ถามอีก จะไปทำอะไร 55 อาจจะเผื่อคนหลุด สแกนนิ้วมือ
-ต่อคิว เค้าจะสแกนเอกสารบาร์โค้ดผ่านกระจก แล้วก็ให้เราวางมือสแกนอีก
-ระหว่างรอคิว ฟังได้หมดเลยค่ะ ใครได้ไม่ได้ ใครโดนถามเยอะ
เราเจอมีคุณแม่มากับลูกน่าจะประถม ก็ยังไม่ได้ค่ะ คือเค้าจะส่งลูกชายวัยประถม ไปเรียน 3 ปี อเมริกา เหมือนมีญาติอยู่ที่นู่นแล้ว
แล้วเขาจะตามไปดูแลลูก 3 ปี กงสุลเค้าเลยต้องอธิบายผ่านเจ้าหน้าที่คนไทย ว่าสำหรับคุณแม่ไม่ได้นะ เคสจะPending ไปก่อน
ให้ไปคิดมาดีดีนะว่าจะไปเยี่ยมลูกเป็นครั้งคราวหรืออย่างไร ค่อยมาขอใหม่
ผู้หญิงอีกคน ช่องหนุ่มเอเชีย เท่าที่ฟังคือว่างงานอยู่ จะไปเรียนภาษา ก็โดนขอดูทรานสคริป แล้วถามว่าทำไมเกรดวิชานี้ น้อย ได้ D
ผู้หญิงคนนั้นเค้าเลยตอบว่ามันยาก แต่เราดันโดนเรียกเข้าสัมภาษณ์เลยไม่ได้ฟังต่อว่าสรุปเค้าได้ไหม แต่ดูไม่น่าจะได้
เราได้กงสุลผู้ชาย ทางช่องขวา (ข้างๆกงสุลเอเชียที่น่ารัก กิกิ) ถาม 5 คำถาม
เราเจอถามภาษาอังกฤษหมดนะคะ
1. How are you? > Fineeeee...แล้วก็ตอบ actually a bit sick
2. โอ้ซอรี่ด้วย แล้วจะไปทำอะไร > ไปเรียนโทค่ะ เราจบจากที่ ........... แล้วก็เรียนโทอยู่ที่....... จะจบแล้วค่ะ
3. โอ้ว โทใบที่สองเหรอ You must be rich! >> ตอบไปNo ค่ะ ได้ partial scholarship เค้าก็เปิดเจอหน้า offer พร้อมใบทุน partial scholarship
ให้จากยูพอดี
4. ไปที่ไหน > ตอบยูไป พอดียูเราค่อนข้างโอเค มีชื่อ เป็นยูรัฐ เค้าก็ดูเอกสาร I-20 จากยูเรา
5. แล้วที่เหลือใครจ่าย who will pay for the rest >> คุณแม่ค่ะ(นามสกุลเดียวกัน) ส่งใบรับรองเงินในบัญชีของคุณแม่ไปที่ธนาคารออกให้ ไม่เยอะนะคะ 7 หลักต้นๆ เค้าก็เปิดๆดู จบค่ะ
เค้าบอกโอเค จะได้รับวีซ่าใน 2- 3 วันนะ
จบแล้ว คือไม่ถามถึงพ่อแม่เลย เอกสารที่เตรียมมา ทรานสคริปต์ เกรดของเราไม่ดูเลยยยยย เอิ้กกกกกกกก
สรุปทำใจสบายๆ ตอบตามจริง ถ้าไปเรียนจริงๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เงินครอบคลุม ค่าเรียน กับค่ากินอยู่ก็พอ