สวัสดีครับ กลับมาพบกับการรีวิวอาหารจากผมนาย “ภรรยาหา สามีใช้” อีกแล้วนะครับ วันนี้ผมจะพาทุกท่านไปที่ “The Rain Tree Café” ซึ่งเป็นห้องอาหารนานาชาติของโรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถ.วิทยุครับ
สำหรับจุดเริ่มต้นของการรีวิวครั้งนี้ของผม เริ่มมาจากเพื่อนที่น่ารักของผมคนนึงได้ให้ Voucher สำหรับทานอาหารกลางวันของห้องอาหารแห่งนี้มาครับ โดย voucher นี้สามารถใช้ได้สำหรับการทาน 2 ท่าน แต่ต้องเป็นมื้อกลางวันในวันธรรมดาเท่านั้น หลังจากที่ผมได้รับ voucher ผมก็คิดว่าจะต้องทำการลางานวันไหนดีเพื่อที่จะได้ไปกิน เนื่องจากอีกประมาณ 20 วัน voucher ก็จะหมดอายุแล้ว แต่เหมือนโชคจะเข้าข้าง เพราะวันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชานั้นตรงกับวันจันทร์ ผมจึงได้โทรไปสอบถามที่ห้องอาหารแห่งนี้และพบว่าสามารถใช้ voucher นี้ได้ ผมจึงไม่รอช้ารีบทำการจองโต๊ะไว้ทันที เรียกได้ว่าโชคเข้าข้างสุดๆ เพราะส่วนใหญ่แล้ว voucher พวกนี้มักจะใช้กับวันหยุดนักขัตฤกษ์ไม่ได้ครับ
--------------------------------------------
สำหรับรายละเอียดของการไปทานครั้งนี้ มีดังนี้ครับ
วันที่รับประทาน : วันจันทร์ที่ 1 มิ.ย. 58
ช่วงเวลา : 12.00-14.30 น.
จำนวน : 2 ท่าน
--------------------------------------------
เมื่อถึงวันที่ 1 มิ.ย. ผมกับภรรยาก็เดินทางไปที่โรงแรมและใช้เวลาเดินหาห้องอาหารแห่งนี้ซักพัก เพราะตามที่หาข้อมูลมา ห้องอาหารแห่งนี้จะอยู่ที่ชั้น L แต่หาอย่างไรก็ไม่เจอซักที สุดท้ายจึงได้ถามพนักงานและพบว่าช่วงนี้ทางโรงแรมกำลังรีโนเวทหลายจุด จึงได้ทำการย้ายห้องอาหารไปอยู่ที่ชั้น 3 แทนครับ
เมื่อผมมาถึงที่ชั้น 3 พนักงานก็ทำการสอบถามชื่อและพาไปนั่งที่โต๊ะที่ได้ทำการสำรองไว้ให้ โดยในขณะนั้นเป็นเวลา 11.45 น. เหลือเวลาอีก 15 นาทีจึงจะถึงเวลาเปิดไลน์อาหาร (ช่วงเวลาการเปิดไลน์อาหารคือ 12.00-14.30 น.) ผมจึงได้ทำการนั่งรอและสั่งเครื่องดื่มมาทานก่อนครับ
น้ำส้มแก้วนี้ราคา 160 บาท/แก้วครับ รายการนี้ไม่รวมในบุฟเฟต์นะครับ แยกสั่งมาต่างหาก โดยในบุฟเฟต์จะมีบริการฟรีเฉพาะน้ำเปล่า ชา และกาแฟครับ
[CR] The Rain Tree Café : อาหารดูดี บริกาศดีเลิศ สมชื่อเสียงโรงแรมจริงๆ
สำหรับจุดเริ่มต้นของการรีวิวครั้งนี้ของผม เริ่มมาจากเพื่อนที่น่ารักของผมคนนึงได้ให้ Voucher สำหรับทานอาหารกลางวันของห้องอาหารแห่งนี้มาครับ โดย voucher นี้สามารถใช้ได้สำหรับการทาน 2 ท่าน แต่ต้องเป็นมื้อกลางวันในวันธรรมดาเท่านั้น หลังจากที่ผมได้รับ voucher ผมก็คิดว่าจะต้องทำการลางานวันไหนดีเพื่อที่จะได้ไปกิน เนื่องจากอีกประมาณ 20 วัน voucher ก็จะหมดอายุแล้ว แต่เหมือนโชคจะเข้าข้าง เพราะวันที่ 1 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชานั้นตรงกับวันจันทร์ ผมจึงได้โทรไปสอบถามที่ห้องอาหารแห่งนี้และพบว่าสามารถใช้ voucher นี้ได้ ผมจึงไม่รอช้ารีบทำการจองโต๊ะไว้ทันที เรียกได้ว่าโชคเข้าข้างสุดๆ เพราะส่วนใหญ่แล้ว voucher พวกนี้มักจะใช้กับวันหยุดนักขัตฤกษ์ไม่ได้ครับ
--------------------------------------------
สำหรับรายละเอียดของการไปทานครั้งนี้ มีดังนี้ครับ
วันที่รับประทาน : วันจันทร์ที่ 1 มิ.ย. 58
ช่วงเวลา : 12.00-14.30 น.
จำนวน : 2 ท่าน
--------------------------------------------
เมื่อถึงวันที่ 1 มิ.ย. ผมกับภรรยาก็เดินทางไปที่โรงแรมและใช้เวลาเดินหาห้องอาหารแห่งนี้ซักพัก เพราะตามที่หาข้อมูลมา ห้องอาหารแห่งนี้จะอยู่ที่ชั้น L แต่หาอย่างไรก็ไม่เจอซักที สุดท้ายจึงได้ถามพนักงานและพบว่าช่วงนี้ทางโรงแรมกำลังรีโนเวทหลายจุด จึงได้ทำการย้ายห้องอาหารไปอยู่ที่ชั้น 3 แทนครับ
เมื่อผมมาถึงที่ชั้น 3 พนักงานก็ทำการสอบถามชื่อและพาไปนั่งที่โต๊ะที่ได้ทำการสำรองไว้ให้ โดยในขณะนั้นเป็นเวลา 11.45 น. เหลือเวลาอีก 15 นาทีจึงจะถึงเวลาเปิดไลน์อาหาร (ช่วงเวลาการเปิดไลน์อาหารคือ 12.00-14.30 น.) ผมจึงได้ทำการนั่งรอและสั่งเครื่องดื่มมาทานก่อนครับ
น้ำส้มแก้วนี้ราคา 160 บาท/แก้วครับ รายการนี้ไม่รวมในบุฟเฟต์นะครับ แยกสั่งมาต่างหาก โดยในบุฟเฟต์จะมีบริการฟรีเฉพาะน้ำเปล่า ชา และกาแฟครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น