ดราม่าเรื่องค่าสินสอด

สวัสดีค่ะ พอดีว่าเรากับแฟนวางแผนจะไปเรียนต่อต่างประเทศกัน ซึ่งตกลงกันว่าจะแต่งงานกันก่อน
และผู้ใหญ่ทั้ง2ฝ่ายก็ตกลง
โดยเรากับแฟนคบกันมา4ปีค่ะ แต่ทีนี้มันเกิดปัญหาที่ไม่น่าเกิดคือ เรื่องสินสอดค่ะ
เรื่องที่เราจะเล่ามันจะมีอยู่หลายประเด็นหน่อยนะคะ เดี๋ยวเราจะเล่าเป็นข้อๆ เพื่อไม่ให้เกิดความงงค่ะ

1.ช่วงที่เราคบกับแฟนมาในระยะ4ปี แฟนเข้าออกบ้านเราประจำ พ่อแม่เราก็มองว่าแฟนเราเป็นคนดีคนนึง
ไม่ได้ห้ามเราให้คบ โดยช่วงปีที่3 พ่อของแฟนเราได้พูดเรื่องสินสอดกับแฟนเราว่า พ่อแฟนเรามีสินสอดให้1ล้าน ทอง30บาท
จากนั้นพ่อแฟนก็ให้แฟนเรามาถามเราว่า อยากได้อะไรเพิ่มไหม เราก็บอกกับแฟนเราไปว่า อยากได้เครื่องเพชร
ซึ่งพ่อแฟนเราก็ตกลง และผู้ใหญ่ทางเราก็รับรู้เรื่องสินสอดจำนวนนี้มาโดยตลอด แต่ทางพ่อแม่เราก็ไม่ได้ตบปากรับคำว่าจะโอเคนะคะ
ซึ่งทางพ่อแม่เราเขาจะมีจุดคิดของเขาว่า ทางเราเป็นฝ่ายหญิง เราควรจะได้เรียกบ้าง ไม่ใช่แบบฝ่ายชายยกจำนวนสินสอดมาเท่านี้
จำเป็นจะต้องเอาเท่านี้ อะไรแบบนี้อ่ะคะ พ่อแม่เราเขารู้สึกว่าเขายังไม่ได้พูดเรียกสินสอดอะไรเลยจะแต่งลูกสาวทั้งที
โดยพ่อแม่เราบอกไปทางฝ่ายแฟนว่า ก็ขอบคุนที่ให้เกียรติลูกสาวกับจำนวนเงินนี้ ซึ่งก็เหมือนกับว่าเราก็รับฟังทางเขา
ละทีนี้ทางเขาก็ควรรับฟังทางเราบ้าง ก็คือพ่อแม่เราจะขอเรียกให้มันเกินกว่าที่ทางฝ่ายชายกำหนดมาสักหน่อยคือ1.5ล้าน
แต่ต่อรองกันได้ คุยกันได้ (อันนี้ส่วนตัวเราก็ไม่ค่อยชอบนะคะ เรารุ้สึกเหมือนเราคือสิ่งของในธุรกิจนึง)

2.เมื่อถึงวันที่นัดมาสู่ขอ เถ้าแก่ฝ่ายชายมาพูดขอเรา โดยปกติเท่าที่รู้มาก็จะเป็นคำพูดประมาณว่า
"ฝ่ายชาย/หญิงเขารักกัน เห็นสมควรว่าอยากให้แต่งงานกัน ทางพ่อแม่ฝ่ายหญิงจะเรียกสินสอดเท่าไร" ก็ประมานนี้
แต่เถ้าแก่เขาไม่ได้พูดถามเรื่องสินสอดว่าพ่อแม่เราจะเรียกเท่าไร ซึ่งเขาพูดมาเลยว่ามีให้1ล้าน กับทอง20บาท
ทำให้แม่เราค่อนข้าง งง ว่าจำนวนสินสอดมันไม่ตรงกับที่เคยพูดไว้ แม่เราค่อนข้างโมโหอ่ะค่ะ เค้ารุ้สึกว่าเหมือนไม่ให้เกียรติเค้า
พอแม่เราหันไปถามแฟนเราว่าตกลงมันยังไง แฟนเราก็พูดขึ้นมาว่า พ่อเค้าเมา เลยพูดไปแบบนั้น จุดนี้แม่และพ่อเราโมโหมากค่ะ
แต่ก็ต้องเก็บอาการ พ่อเรามาพูดทีหลังกะเราว่า ถ้าเป็นคนอื่นที่เค้าถือเรื่องแบบนี้เค้าคงโวยวายไปแล้ว มันเหมือนมาดูถูกกันอ่ะค่ะ
เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะมาพูดเล่นๆได้ แล้วเครื่องเพชรที่พ่อแฟนบอกจะให้ วันมาพูดสู่ขอก็ไม่มี
ตอนนั้นแม่เราเลยพูดไปว่า
ทางนี้จะขอเรียกให้เกินกว่าที่ฝ่ายชายเสนอสักนิด คือ1.5 ล้านบาท (สินสอดนี้แม่เราไม่ได้เอาเข้ากระเป๋าค่ะ แม่จะให้เป็นค่าจัดงาน
แล้วเหลือเท่าไหร่ก็คืนเรากับแฟน)ทางเถ้าแก่ฝ่ายชายก็เงียบกริบ ไม่ชวนคุยหรือพูดเจรจาต่อรองอะไรเลย
แม่เราเลยพูดแก้สถานการณ์ว่า
งั้นเชิญทานข้าวกันก่อน พอหลังจากทานข้าวเสร็จ ทุกคนก็กำลังจะมานั่งคุยตกลงเรื่องสินสอดต่อ นาทีนั้นแม่ของ
แฟนเราลุกกลับบ้านทันทีค่ะ กลับแบบพ่อแฟนเราก็งง น้าแฟนเราก็งง เถ้าแก่ก็งง คือแม่แฟนเราแสดงอาการไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
จนพ่อแม่เรารุ้สึกไม่โอเค เหมือนว่าคนกำลังจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน แต่มาเจอแบบนี้ เขาก็รุ้สึกว่า ทำไมไม่เก็บอาการบ้าง
เข้าใจว่าอาจจะไม่พอใจกับสินสอดที่พ่อแม่เราเรียก แต่ก็น่าจะคุยกันให้เห็นน้ำใจกันไรงี้อ่ะค่ะ

สุดท้ายแฟนเราก็บอกเราว่า
บ้านเขามีแค่1ล้านจิงๆ ทอง20บาท ส่วนเครื่องเพชรแม่เขาจะซื้อให้ เราก็โอเคนะคะ เพราะเรากะแฟนรักกันดี
ใจเรากับแฟนมองข้ามเรื่องแต่งงานไปแล้วเพราะอยากจะไปเรียนต่อด้วยกัน แต่ว่าเงินที่แฟนเราจะเอาไปเรียนต่อ
ก็คือเงินสินสอดที่เหลือจากการจัดงานนะคะ ส่วนเงินที่เราจะเอาไปเรียนต่อก็คือเงินแม่เราออกให้เราเองค่ะ

เราจะทำยังไงดีคะ
ตอนนี้เครียดสุดๆ อยากให้พ่อแม่โอเคกับสินสอดที่ฝ่ายชายกำหนดมา แต่อีกใจก็เข้าใจพ่อแม่เราอ่ะค่ะ
เพราะปัญหาตอนนี้ไม่ได้อยุ่แค่สินสอดแล้ว แต่มันคือเรื่องที่แม่แฟนเราแสดงอาการที่ไม่ดีให้พ่อแม่เราเห็นอ่ะค่ะ
ปล.แม่แฟนกับเราไม่ได้มีปัญหากันนะคะ แต่ทุกคนที่บ้านแฟนเรา จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แม่แฟนเราเขานิสัยแบบนี้
คือเอาแต่ใจอ่ะค่ะและก็จะไม่ค่อยแคร์ใคร
ปล.2. เรายินดีรับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ

เราขอโทษนะคะถ้าพิมพ์แล้วอ่านยาก ตาลาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่