[CR] ชิม 6 ร้านอาหารอร่อยใน 1 วัน @ ท่าพระอาทิตย์

ท่าพระอาทิตย์ นอกจากจะสวยงามด้วยบรรยากาศกลิ่นอายของความเป็นกรุงเก่า ไม่ว่าจะสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนไปจนถึงวิธีชีวิตของคนในละแวกนั้น ท่าพระอาทิตย์ก็ไม่ใช่จะมีดีแค่ความคลาสสิคอย่างเดียว ร้านอาหารระแวกนี้ก็เด็ดไม่แพ้กันครับ วันนี้ผมขอพาเพื่อนๆ ไปชิม 6 ร้านอร่อยทั้งคาวและหวานที่ไม่ควรพลาดหากไปแถวนั้น โดยทั้ง 6 ร้านอาหาร ที่จะนำแนะวันนี้  จริงๆแล้วผมไปทานมาทั้งหมดภายในวันเดียว หากใครอยากจะเลียนแบบ แนะนำให้พกเพื่อนไปช่วยชิมช่วยทานด้วยสัก 2-3 คน ไม่งั้นอาจจะจุกได้ตั้งแต่ 3 ร้านแรก!

ผมนั่งเรือจากสะพานตากสินไปลงท่าพระอาทิตย์ จ่ายค่าเรือโดยสาร 15 บาท สะดวกและถูกดี ตอนแรกนั้นตั้งใจจะไปเริ่มที่ร้านก๋วยจั๊บญวน ท่าพระอาทิตย์  พอเดินไปถึงปรากฏว่าร้านปิดซะงั้น เลยแวะหยุดร้านแรก ที่ ร้าน "Saffron" ร้านเบเกอรี่เล็กๆ รับรองว่าต้องถูกใจสาวๆ เป็นแน่ ด้วยการตกแต่งที่น่ารักและอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านตัวเอง ร้านเปิดมานานกว่า 16 แล้ว เมนูทั้งหมดคิดเองโดยเจ้าของร้านครับ แนะว่าให้เริ่มจากอาหารคาวก่อนถึงแม้ขนมหวานจะเย้าย้วนเพียงใด วันนี้ผมและเพื่อนสั่งมาสองอย่างคือ "ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ" ซึ่งเป็นจานแนะนำจากชาวเน็ท รสชาติกล่มกล่อม ถึงรสน้ำพริก กุ้งตัวโต ผักเคียงครบครับ และ "ยำปลาสลิต" เปรี้ยว เผ็ด กรุบกรอบ  ทานเล่น ระหว่างบทสนทนากับเพื่อนๆ เพลินเลยครับ แล้วมาตบท้ายด้วยของหวาน ใครชอบเค้กรับรองว่าฟิน เพราะที่นี้มีเค้กให้เลือกกว่า 20 ชนิด ขอแนะนำ บานอฟฟี่ และ บราวนีช๊อค ครับ







เดินตรงขึ้นมาด้านป้อมป้อมพระสุเมรุก็จะเจอกับอีกหนึ่งร้านเก่าแก่ เปิดมายาวนานกว่า 40 ปี นั้นก็คือร้าน "โรตีมะตะบะ ท่าพระอาทิตย์"  ขอเตือนไว้ก่อนว่าหากไปวันหยุดเสาร์อาทิตย์คนจะแน่นมากและอาจต้องต่อคิวรอหน้านาน ร้านมีสองชั้น ชั้นบนจะมีแอร์นั่งสบายกว่า  มีเมนูให้เลือกมากมายทั้งคาวและหวาน  จะมานั่งชิ่วๆ กินเบาๆ หรือจัดหนักที่นี้ก็เอาอยู่ครับ ใครชอบเมนูมะตะบะ รับรองไม่ผิดหวังเพราะมีหลากหลายชนิดโรตีและแกงให้เลือก วันนี้ผมและเพื่อนจัดไป 3 เมนู คือ 1. แกงเขียวหวานกับข้าวเหลือง รสชาติแกงเขียงหวานเมื่อเจอกับกลิ่นของขมิ้นและความมันของข้าว ทาพร้อมกับไก่ชิ้นนิ่มๆ ร่วมกันเป็นความหอมอร่อยที่ลงตัว 2. โรตีไก่ทันดูรี จานค่อนข้างผิดหวังเพราะไก่แห้งมากพอทานกับโรตี เลยไม่ค่อยเข้ากัน เศร้า 3. โรตีนเนยชีส หวานมันอร่อยครับ หากสังเกตในรูปแต่ละจานปริมาณไม่ได้มาก สำหรับใครที่หิวจัดอาจต้องสั่งหลายจานหน่อย







ไปร้านที่ 3 กันต่อครับ เดินเลยจากร้านโรตีมะตะบะ นิดเดียว ก็จะเจอกับโรงน้ำชาเล็กที่ซ่อนตัวอยู่เงียบๆ ชื่อว่า "โรงน้ําชามิตรามิตร" (ชื่อร้าน มิตร+อมิตร = มิตรามิตร แปลว่าทั้งที่เป็นมิตร และที่ยังมิใช่มิตร  อยากให้มาเป็นมิตรกัน ณ ที่แห่งนี้) ร้านนี้เพิ่งได้ไม่กี่เดือน โดยจากความตั้งใจของคนรุ่นใหม่ที่อยากให้เมืองไทยมีโรงน้ำชา (เหมือนในฮ่องกง ไต้หวัน) เป็นสถานที่ ที่เปิดโอกาสให้คนที่รู้จักและไม่รู้จักกันมาพูดคุยเสวนา แลกเปลี่ยนเรื่องราวกันได้ ร้านตกแต่งอย่างสวยงามน่านั่ง มีโต๊ะประมาณ 6 โต๊ะ หากในช่วงเสาร์อาทิตย์คนอาจจะแน่นนิดหนึ่งครับ ที่นี้มีน้ำชาให้เลือกหลาหลายชนิด (เยอะมากๆ) โดยเป็นชาจีนทั้งหมด เพราะเจ้าของร้านเล่าว่า ชาจีน มีเอกลักษณ์เฉพาะ มีความละมุนละไมทั้งกลิ่นและรสที่หอมหวน เหมาะต่อการนั่งจิบไปเรื่อยๆ หากไม่รู้ว่าจะเลือกชาไหนดีก็สามารถถามเจ้าของร้านได้ครับ พี่แกน่ารักอัธยาศัยดีมาก ชาหนึ่งกาสำหรับ 2 ท่านมาพร้อมกับถาดขนมไทยเป็นเครื่องเคียง ส่วนมากเป็นขนมที่หาทานได้ในละแวกบางลำพูเช่นขนมเปี๊ยะ ขนมดอกลำดวน ลูกชุบและทองหยอด // ราคา มีตั้งแต่ 100 - 600 ต่อชาหนึ่งกา ขึ้นอยู่ชนิดและคุณภาพของชา โดยสามารถเติมน้ำร้อนได้เรื่อยๆ เน้อ







ร้านที่ 4 เดินไปต่อไปอีกหน่อยบนเส้น ถ. พระอาทิตย์ก็จะเจอกับอีกหนึ่งร้านเก่าแก่อายุกว่า 30 ปี บรรยากาศภายในร้านสุดแสนคลาสสิก โดยเฉพาะโต๊ะไม้สีดำเงา นั้นก็คือ "เย็นตาโฟ พัวกี่"  ชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วว่าเย็นตาโฟต้องอร่อย เย็นตาโฟที่นี้ มีดีที่น้ำซุปหอมหวาน ครบเครื่องด้วย เลือดหมู ปลาหมึก ลูกชิ้นปลา(เด้งดึงมาก) ลูกชิ้นกุ้ง ผักบุ้งสด เต้าหู้ ส่วนซอสเขาก็ทำเองนะครับ ส่วนอีกชามหนึ่งที่สั่งคือ ก๋วยเตี๋ยวต้มตำทะเลเส้นเล็ก ชามโตมาก ปลาหมึกและกุ้งนี้จัดเต็มไม่งกเลย เสียอย่างเดียวคือกินก๋วยเตี๋ยวต้มตำ ณ ร้านจีน หรือสู้ก๋วยเตี๋ยวร้านไทยแท้ คืออาจจะจืดไปน้อย แต่โดยร่วมก็ให้ผ่านครับ // ราคาชามละ 40 - 50 บาท





ทานของคาวมาเยอะแล้วเบรคด้วยของหวานสักหน่อยดีกว่า ที่ "ร้านขนมเบื้องแม่ประภา (บางลำภู)" ตั้งอยู่ตรงห้างเก่าเป็นห้องแถวเล็กๆ โดยสามารถเดินบนทางเท้าต่อมาเรื่อยๆ จากร้านเย็นตาโฟ พัวกี่ครับ เป็นขนมเบื้องชาววังสูตรโบราณ อร่อยมันไส้ทะลักคำโต เต็มปากเต็มคำ มีสองไส้คือ ไส้หวาน ใส่ฝอยทอง มะพร้าวเคี่ยวหวาน แต่ที่นี้ไม่ใส่ครีมนะ! (สีเหลือง) และ ไส้เค็ม ใส่กุ้งสับผัดกับมะพร้าวและต้นหอม (สีแดง) เคี้ยวกรุบกรอบอร่อย ขายราคาชิ้นละ 12 บาท ทำสดใหม่ตลอดทั้งวัน





เชื่อว่าหากใครหลายคนเดินทางตามรอยแทงนี้และแวะมันทุกร้านตามที่แนะนำ ณ ตอนนี้คงไม่มีแรงกายแรงใจจะกินอะไรได้ต่อได้แล้วด้วยความอิ่มเกินพิกัด เราเลยขอแนะนำอีกหนึ่งร้านเล็กๆ ซึ่งเดินเลยร้านขนมเบื้องมานิดเดียว แต่ร้านนี้ไม่ต้องห่วงนะครับสามารถซื้อไปกลับที่บ้านได้!! นั้นก็คือ "ข้าวตังแม่ชิด"  เปิดมายาวนานกว่า 70 ปี  ตั้งแต่สมัยแม่ชิดขายเองมาจนถึงรุ่นหลานที่เข้ามาขายต่อ เมนูเด็ดที่ควรซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านคือ ข้าวตังเมี่ยงลาว ข้าวตังหน้าตัง และข้าวตังหน้าตั้งน้ำพริกเผา ระยะเวลายาวนานขนาดนี้คงไม่ต้องบรรยายเยอะว่าอร่อยขนาดไหน!

ผมแนะนำว่าอย่าเพิ่งรีบกลับบ้านนอนนะครับ เดินย่อยสักหน่อยก่อนกลับบ้านน่าจะดีกว่า ไปเดินเล่น นั่งชิ่ว ดูพระอาทิตย์ตกที่สวนสันติชัยปราการแล้วค่อยกลับบ้าน ก็น่าจะเป็นการจบหนึ่งวันแสนอร่อยโดยสมบูรณ์แบบครับ!





____________________________________________________________________

ฝากประชาสัมพันธ์ชุมชนออนไลน์ของนักเดินทางแห่งใหม่
http://blog.reviewthailand.net/ บล๊อคสำหรับนักเดินทางโดยเฉพาะ
เข้ามาอ่าน แชร์ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางก็ได้นะครับ

https://www.facebook.com/thailandtravelclub
ชื่อสินค้า:   โรตีมะตะบะ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่