สวัสดีค่ะ หัวข้อนี้เกี่ยวกับฟรีวีซาเข้าญี่ปุ่น15วันนะคะ อยากให้กระทู้นี้ดันตัวเองเตือนสติพนักงานผู้รับผิดชอบงานโดยตรง และผู้โดยสารทุกคนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า
เมื่อเช้า วันที่1มิถุนายน น้องเราไปถึงสนามบินดอนเมืองเพื่อเช็คอินเดินทางมาญี่ปุ่น เรารับโทรศัพท์เบอร์โทรมาจากไทย น้องเสียงตกใจมากค่ะ
น้อง: เธอๆ พนักงานบอกว่าตั๋วใช้ไม่ได้นะ มันเกิน15วัน ให้เปลี่ยนตั๋วขากลับเลย
เรา: หมายความว่าไง ใช้ไม่ได้? ช้านเช็คอย่างดี เดินทางวันที่1 แกก็กลับวันที่16 ถูกต้องแล้ว
เสียงน้องเราบอกพนักงานตามที่เราอธิบาย
พนักงาน: ไม่ได้ค่ะ มันเกิน15วัน( อันนี้เราได้ยินชัด)
เรา: แกๆส่งโทรศัพท์ให้ช้านคุยกับเค้า
น้องเราบอกพนักงาน พนักงานบอกว่าไม่สามารถคุยโทรศัพท์ได้ น้องก็มาบอกเรา
น้อง: เธอ เค้าคุยไม่ได้นะ แต่เค้าบอกว่าให้เปลี่ยนตั๋วขากลับใหม่ มันเกิน15วัน
เรา: เปลี่ยนคืออะไร? จ่ายเพิ่ม? ซื้อใหม่?
น้อง: ใช่ คือเราต้องจ่ายเพิ่มตามราคาไง
เรา: โอเค ง้านแกรอ ช้านจะส่งลิงค์ที่การนับวันเดินทางให้ // แล้วเราก็ตัดสาย
หลังจากนั้นเราส่งลิงค์ไปให้น้อง จากเวบประกาศ พร้อมแคปข้อความที่เค้ายกตัวอย่างการนับวันอย่างละเอียดให้ หลังจากน้องเรารับ ก็โทรคุยกับเราอีกครั้ง
น้อง: เธอ เค้าบอกว่าไม่ใช่
เรา: แกไม่ให้เค้าดูที่ส่งไปหรอ
น้อง: ให้ดู นี่เค้ายอมให้เช็คอินแต่บอกว่าไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น
เสียงพนักงานแว่วมา: ถ้าไปถึงแล้วไม่มีโรงแรม บลาๆๆๆๆๆๆๆ
เรา: แกไม่ต้องไปฟัง เค้าทำงานจุดนั้น เรื่องแค่นี้ไม่ละเอียดได้ไง นี่ถ้าแกเชื่อ แกไปซื้อตั๋วใหม่ จ่ายอีกเป็นหมื่น รวยนักรึไง(อันนี้เราด่าน้องเรา) ส่วนพนักงานที่ยืนยันชื่ออะไร ทำไมทำงานเรื่องแบบนี้ยังไม่รู้เรื่อง
น้อง: ก็ทุกคนล่ะที่ยืนยัน
สรุปก็วางสายกันไป ได้เช็คอินแล้ว แต่เราคนฟัง พนักงานภาคพื้นทุกคนยืนยันว่าเกินฟรีวีซา เรานี่กังวลขึ้นมาเลย คือไม่ได้ทำงานดี ต้องมาเช็คทุกอย่างใหม่ อ่านไทยเป็นไทยกันอีกรอบ คือแบบตรูก็ว่าตรูเช็คอย่างรอบคอบ นี่สรุปตรูเข้าใจผิด? แต่จะอ่านกี่ทีก็คือหมือนเดิม
ตัวอย่าง เดินทางถึงญี่ปุ่นวันที่1 ให้นับวันที่ถึงญี่ปุ่น บวกไป15 คือวันหมดฟรีวีซา ซึ่งคือวันที่16
เราอยากบอกพนักงานภาคพื้นแอร์เอเชียว่า
1 หากคุณทำงานอย่างใส่ใจ คุณควรละเอียดกับการนับวันเดินทางของฟรีวีซา คุณควรรู้ดีกับการนับวัน รู้มากและรู้จริง คนเราจะประสบความสำเร็จในการงาน ก็ควรใส่ใจเนื้องานของตน
2 หากผู้โดยสารแย้งข้อมูล และเค้ามีข้อมูลยืนยัน ในกรณีที่คุณไม่แน่ใจ แต่แหล่งข้อมูลของเค้าน่าเชื่อถือ เช่นเวบไซต์สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย คุณก็ควรจะชะงักสักนิด บอกผู้โดยสารรอสักครู่ และไปคุยกับทีมของคุณ
3 หากคุณทราบทีหลังว่าสิ่งที่คุณเข้าใจมันคือการเข้าใจผิด "ขอโทษ" คือคำที่สุภาพและถูกกาลเทศะที่สุด
4 หากคุณตรวจสอบแล้ว พบว่าผู้โดยสารเข้าใจผิด คุณสามารถยืนยันได้ตามสมควร
5 ทุกคำพูดที่เปล่งออกมาจากปากของคุณ มีผลต่อคนฟังเสมอ ขอให้คิดสักนิด การที่คุณบอกว่าให้ซื้อตั๋วใหม่ทั้งๆข้อมูลของคุณผิด หากผู้โดยสารไม่รอบคอบ อาจเสียเงินอีกรอบทันที คิดว่าคงไม่ใช่นโยบายของแอร์เอเชียที่ต้องการหาเงินด้วยวิธีนี้(มั้ง)
6 ทุกคำพูดของคุณ ทำให้คนฟังจิตใจหม่นหมองได้ เพราะเมื่อคุณบอกข้อมูลผิด ตอนนี้ผู้โดยสารคือครอบครัวเราก็คงลุ้นไปเดินทางไปด้วย แทนที่จะได้เบิกบานใจ มาเที่ยวสบายใจได้ ส่วนเราเองก็กังวลเลย ในทริปมีพ่อเรามาด้วย พ่อเราจะรู้สึกยังไง คือทำไมทริปที่เราเตรียมอย่างดี มาเสียเพราะความไม่ใส่ใจของคุณ เรื่องเล็กๆแต่ก็ตระหนักบ้างก็ดีค่ะ
สุดท้ายนี้ คุณผิดนะคะ ไม่มีคำขอโทษ มีแต่กล่าวบลาๆๆๆ นู่นนี่นั่น ง้านช้านเช็คอินให้นะคะแต่ถ้าโดนส่งกลับ บลาๆๆๆๆ อย่าปากหอยปากปูค่ะ ใส่ใจ.. คำนี้จำให้ขึ้นใจ
ป.ล.เราแก้กระทู้เพราะทีแรกเขียนว่า1กรกฎาคมค่ะ ที่ถูกต้องคือ1มิถุนายนค่ะ
พนักงานแอร์เอเชียให้ซื้อตั๋วใหม่ เพราะไม่เข้าใจฟรีวีซา15วัน
เมื่อเช้า วันที่1มิถุนายน น้องเราไปถึงสนามบินดอนเมืองเพื่อเช็คอินเดินทางมาญี่ปุ่น เรารับโทรศัพท์เบอร์โทรมาจากไทย น้องเสียงตกใจมากค่ะ
น้อง: เธอๆ พนักงานบอกว่าตั๋วใช้ไม่ได้นะ มันเกิน15วัน ให้เปลี่ยนตั๋วขากลับเลย
เรา: หมายความว่าไง ใช้ไม่ได้? ช้านเช็คอย่างดี เดินทางวันที่1 แกก็กลับวันที่16 ถูกต้องแล้ว
เสียงน้องเราบอกพนักงานตามที่เราอธิบาย
พนักงาน: ไม่ได้ค่ะ มันเกิน15วัน( อันนี้เราได้ยินชัด)
เรา: แกๆส่งโทรศัพท์ให้ช้านคุยกับเค้า
น้องเราบอกพนักงาน พนักงานบอกว่าไม่สามารถคุยโทรศัพท์ได้ น้องก็มาบอกเรา
น้อง: เธอ เค้าคุยไม่ได้นะ แต่เค้าบอกว่าให้เปลี่ยนตั๋วขากลับใหม่ มันเกิน15วัน
เรา: เปลี่ยนคืออะไร? จ่ายเพิ่ม? ซื้อใหม่?
น้อง: ใช่ คือเราต้องจ่ายเพิ่มตามราคาไง
เรา: โอเค ง้านแกรอ ช้านจะส่งลิงค์ที่การนับวันเดินทางให้ // แล้วเราก็ตัดสาย
หลังจากนั้นเราส่งลิงค์ไปให้น้อง จากเวบประกาศ พร้อมแคปข้อความที่เค้ายกตัวอย่างการนับวันอย่างละเอียดให้ หลังจากน้องเรารับ ก็โทรคุยกับเราอีกครั้ง
น้อง: เธอ เค้าบอกว่าไม่ใช่
เรา: แกไม่ให้เค้าดูที่ส่งไปหรอ
น้อง: ให้ดู นี่เค้ายอมให้เช็คอินแต่บอกว่าไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น
เสียงพนักงานแว่วมา: ถ้าไปถึงแล้วไม่มีโรงแรม บลาๆๆๆๆๆๆๆ
เรา: แกไม่ต้องไปฟัง เค้าทำงานจุดนั้น เรื่องแค่นี้ไม่ละเอียดได้ไง นี่ถ้าแกเชื่อ แกไปซื้อตั๋วใหม่ จ่ายอีกเป็นหมื่น รวยนักรึไง(อันนี้เราด่าน้องเรา) ส่วนพนักงานที่ยืนยันชื่ออะไร ทำไมทำงานเรื่องแบบนี้ยังไม่รู้เรื่อง
น้อง: ก็ทุกคนล่ะที่ยืนยัน
สรุปก็วางสายกันไป ได้เช็คอินแล้ว แต่เราคนฟัง พนักงานภาคพื้นทุกคนยืนยันว่าเกินฟรีวีซา เรานี่กังวลขึ้นมาเลย คือไม่ได้ทำงานดี ต้องมาเช็คทุกอย่างใหม่ อ่านไทยเป็นไทยกันอีกรอบ คือแบบตรูก็ว่าตรูเช็คอย่างรอบคอบ นี่สรุปตรูเข้าใจผิด? แต่จะอ่านกี่ทีก็คือหมือนเดิม
ตัวอย่าง เดินทางถึงญี่ปุ่นวันที่1 ให้นับวันที่ถึงญี่ปุ่น บวกไป15 คือวันหมดฟรีวีซา ซึ่งคือวันที่16
เราอยากบอกพนักงานภาคพื้นแอร์เอเชียว่า
1 หากคุณทำงานอย่างใส่ใจ คุณควรละเอียดกับการนับวันเดินทางของฟรีวีซา คุณควรรู้ดีกับการนับวัน รู้มากและรู้จริง คนเราจะประสบความสำเร็จในการงาน ก็ควรใส่ใจเนื้องานของตน
2 หากผู้โดยสารแย้งข้อมูล และเค้ามีข้อมูลยืนยัน ในกรณีที่คุณไม่แน่ใจ แต่แหล่งข้อมูลของเค้าน่าเชื่อถือ เช่นเวบไซต์สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย คุณก็ควรจะชะงักสักนิด บอกผู้โดยสารรอสักครู่ และไปคุยกับทีมของคุณ
3 หากคุณทราบทีหลังว่าสิ่งที่คุณเข้าใจมันคือการเข้าใจผิด "ขอโทษ" คือคำที่สุภาพและถูกกาลเทศะที่สุด
4 หากคุณตรวจสอบแล้ว พบว่าผู้โดยสารเข้าใจผิด คุณสามารถยืนยันได้ตามสมควร
5 ทุกคำพูดที่เปล่งออกมาจากปากของคุณ มีผลต่อคนฟังเสมอ ขอให้คิดสักนิด การที่คุณบอกว่าให้ซื้อตั๋วใหม่ทั้งๆข้อมูลของคุณผิด หากผู้โดยสารไม่รอบคอบ อาจเสียเงินอีกรอบทันที คิดว่าคงไม่ใช่นโยบายของแอร์เอเชียที่ต้องการหาเงินด้วยวิธีนี้(มั้ง)
6 ทุกคำพูดของคุณ ทำให้คนฟังจิตใจหม่นหมองได้ เพราะเมื่อคุณบอกข้อมูลผิด ตอนนี้ผู้โดยสารคือครอบครัวเราก็คงลุ้นไปเดินทางไปด้วย แทนที่จะได้เบิกบานใจ มาเที่ยวสบายใจได้ ส่วนเราเองก็กังวลเลย ในทริปมีพ่อเรามาด้วย พ่อเราจะรู้สึกยังไง คือทำไมทริปที่เราเตรียมอย่างดี มาเสียเพราะความไม่ใส่ใจของคุณ เรื่องเล็กๆแต่ก็ตระหนักบ้างก็ดีค่ะ
สุดท้ายนี้ คุณผิดนะคะ ไม่มีคำขอโทษ มีแต่กล่าวบลาๆๆๆ นู่นนี่นั่น ง้านช้านเช็คอินให้นะคะแต่ถ้าโดนส่งกลับ บลาๆๆๆๆ อย่าปากหอยปากปูค่ะ ใส่ใจ.. คำนี้จำให้ขึ้นใจ
ป.ล.เราแก้กระทู้เพราะทีแรกเขียนว่า1กรกฎาคมค่ะ ที่ถูกต้องคือ1มิถุนายนค่ะ