เรื่องย่อ : Jerry, ชายหนุ่มผู้มีอาการป่วยทางจิตที่มักจะได้ยินเสียงจากสัตว์เลี้ยงทั้งสองตัว ได้พลั้งมือแทงคู่เดทของเขาตาย และได้หลวมตัวไปในการอำพรางคดีฆาตกรรม ... ที่เหลือย่อไม่ถูกแล้ว
ก่อนอื่นต้องขอกรีดร้องให้กับความป่วยของหนังมากไม่คิดว่าจะได้ดูอะไรที่ chaotic ขนาดนี้ ขนาดเตรียมใจแล้วมาจากการดูตัวอย่างหนังแล้วก็ยังตั้งหลักไม่ทัน และต้องชื่นชม Ryan Reynold ที่รับบทบาท Jerry, ไอ้หนุ่มฝ่ายผลิตโรงงานอ่างน้ำในเมืองเล็กๆ กับอาการป่วยทางจิต-หลอนประสาทที่พ่วงมาพร้อมปมในอดีตได้อย่างหมดจด ทั้งสีหน้าและแววตาที่ดูเยิ้มๆลื่อนลอย และกับตัวละครที่มีความคิดสับสนใจตัวเองอย่าง Jerry, หนังก็เลือกใช้ตัวแทนของความคิดฝั่งดี-ฝั่งร้ายมาในรูปแบบของ Bosco หมาจอมซื่อและแมวกวนประสาทอย่าง Mr. Whiskers มาเป็นสีสันในเรื่อง ซึ่งหนังก็จะสอดแทรกมุกตลกในแง่มุมของการเลี้ยงสัตว์เหล่านี้เข้ามาเป็นระยะๆ
ในด้านนางเอก(?)อย่าง Lisa (Anna Kendrick)ในเรื่องนี้ต้องบอกว่านางน่ารักมากกกกกกกก กอไก่ร้อยตัวเลยแหละ เรียกได้ว่าเป็นบทบาทที่แมชกับนางที่สุดเท่าที่เคยดูมา เรียกได้ว่าสลัดบทบาทเด็กกะโปโลไฮเปอร์จากเรื่อง Pitch Perfect ไปเลย, บุคลิกที่เข้าอกเข้าใจคนอื่นผสมผสานกับการวางตัวสบายๆจึงแลดูเหมาะเหม็งในการเติมเต็มตัวละครที่เปล่าเปลี่ยวอย่างเจอรี่ได้สนิท ถึงแม้ตัวหนังเองจะไม่ได้ให้น้ำหนักกับส่วนของนางเอกมากนัก แต่นางก็ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยคุมอารมณ์หนังให้คงเส้นคงวาได้อย่างดี
สิ่งที่พีคมากในเรื่องนี้คือโดยปกติของหนังในทำนองที่มีนางฟ้าฝ่ายดี-นางฟ้าฝ่ายร้ายในหัวนั้น มักจะเล่นกับประเด็น Dilemma ของตัวละครว่าจะสามารถสู้กับความชั่วร้ายในจิตใจได้หรือไม่ ... 'ซึ่งหนังเรื่องนี้มันไม่มีอะไรทำนองนั้นเลย', สิ่งที่คุณจะได้สัมผัสคือความเหวอของการกระทำของตัวเอกในลักษณะที่คาดเดาได้ยากและท้าทายสามัญสำนึกของคนดูแบบสุดๆ รวมไปถึงการส่ง-รับอารมณ์ของตัวละครที่ละเอียดและสมจริงสมจังจนทำให้เราอินได้ไม่ยาก ในขณะเดียวกันหนังก็ยังคงคอนเซปต์ในลักษณะของ 'หนังตลกร้าย' ไว้ได้อย่างคงเส้นคงวาและไม่ค่อยได้เราให้เห็นฉากแหวะๆของการฆาตกรรมเสียเท่าไหร่ (ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้) ซึ่งนับเป็นเรื่องดีที่ยังทำให้มันไม่หลุดไปเป็นหนังสยองขวัญเกรด B ไปเสียก่อน
เสน่ห์ในการวางฉากและเล่นสีบนภาพก็ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบ เช่นการเดินเรื่องโดยใช้สีสันที่แสบสันต์อย่างสีชมพูแป๋นที่ให้ความรู้สึก exotic มากๆ, ซึ่งในประเด็นนี้ผู้เขียนไม่แน่ใจว่ามันเป็น gimmick ของหนังที่จะสื่อถึงพระเอกในเวลาที่ไม่ได้กินยาและอาการกำเริบเต็มที่รึเปล่า (เพราะในบางฉากจะแอบสังเกตเห็นยูนิฟอร์มของพนักงานโรงงานคือสีเหลืองแทน) และการที่หนัง'เก็บงำ' ภาพบ้านที่แท้จริงของพระเอกไว้ โดยไม่ปล่อยออกมาพร่ำเพรื่อ ได้ให้ความรู้สึกกดดันได้สมน้ำหนักของหนังไปอีกแบบ.
"The Voices ถือเป็นหนังที่นำเสนอแง่มุมชีวิตของบุคคลที่ป่วยอาการทางจิตได้สมจริงสมจังน่าสนใจ ,บทสนทนาตลกร้ายที่เสียดสี-ดันได้อย่างถูกจังหวะจะโคน และการเดินเรื่องที่ตื่นเต้นคาดเดายากอย่างมีชั้นเชิงประกอบกับทีมนักแสดงที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี และเหนือสิ่งอื่นใดคือการควบคุมโทนหนังให้ชัดเจนหนักแน่นตลอดเรื่อง ทั้งทีเล่น-ทีจริงไม่บกพร่อง จึงถือว่าเป็นหนังประหลาดๆที่น้อยครั้งจะได้พบบนโรงที่น้อยคนจะรู้จัก ควรไปจัดซักที."
คะแนนความเห็นส่วนตัว : 11/10
นายต้องจัดการกับศพนะ by Kanok Jayz Hunhaboon
ตัวอย่างหนัง :
https://www.youtube.com/watch?v=RCqUj-I7lFY
ติดตามรีวิวย้อนหลังได้ที่ :
https://www.facebook.com/jayz.hunhaboon/media_set?set=a.560682527308058.1073741825.100000989470695&type=1
Movie Review : The Voices - เสียงนี้ พี่ขอหั่น
ก่อนอื่นต้องขอกรีดร้องให้กับความป่วยของหนังมากไม่คิดว่าจะได้ดูอะไรที่ chaotic ขนาดนี้ ขนาดเตรียมใจแล้วมาจากการดูตัวอย่างหนังแล้วก็ยังตั้งหลักไม่ทัน และต้องชื่นชม Ryan Reynold ที่รับบทบาท Jerry, ไอ้หนุ่มฝ่ายผลิตโรงงานอ่างน้ำในเมืองเล็กๆ กับอาการป่วยทางจิต-หลอนประสาทที่พ่วงมาพร้อมปมในอดีตได้อย่างหมดจด ทั้งสีหน้าและแววตาที่ดูเยิ้มๆลื่อนลอย และกับตัวละครที่มีความคิดสับสนใจตัวเองอย่าง Jerry, หนังก็เลือกใช้ตัวแทนของความคิดฝั่งดี-ฝั่งร้ายมาในรูปแบบของ Bosco หมาจอมซื่อและแมวกวนประสาทอย่าง Mr. Whiskers มาเป็นสีสันในเรื่อง ซึ่งหนังก็จะสอดแทรกมุกตลกในแง่มุมของการเลี้ยงสัตว์เหล่านี้เข้ามาเป็นระยะๆ
ในด้านนางเอก(?)อย่าง Lisa (Anna Kendrick)ในเรื่องนี้ต้องบอกว่านางน่ารักมากกกกกกกก กอไก่ร้อยตัวเลยแหละ เรียกได้ว่าเป็นบทบาทที่แมชกับนางที่สุดเท่าที่เคยดูมา เรียกได้ว่าสลัดบทบาทเด็กกะโปโลไฮเปอร์จากเรื่อง Pitch Perfect ไปเลย, บุคลิกที่เข้าอกเข้าใจคนอื่นผสมผสานกับการวางตัวสบายๆจึงแลดูเหมาะเหม็งในการเติมเต็มตัวละครที่เปล่าเปลี่ยวอย่างเจอรี่ได้สนิท ถึงแม้ตัวหนังเองจะไม่ได้ให้น้ำหนักกับส่วนของนางเอกมากนัก แต่นางก็ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยคุมอารมณ์หนังให้คงเส้นคงวาได้อย่างดี
สิ่งที่พีคมากในเรื่องนี้คือโดยปกติของหนังในทำนองที่มีนางฟ้าฝ่ายดี-นางฟ้าฝ่ายร้ายในหัวนั้น มักจะเล่นกับประเด็น Dilemma ของตัวละครว่าจะสามารถสู้กับความชั่วร้ายในจิตใจได้หรือไม่ ... 'ซึ่งหนังเรื่องนี้มันไม่มีอะไรทำนองนั้นเลย', สิ่งที่คุณจะได้สัมผัสคือความเหวอของการกระทำของตัวเอกในลักษณะที่คาดเดาได้ยากและท้าทายสามัญสำนึกของคนดูแบบสุดๆ รวมไปถึงการส่ง-รับอารมณ์ของตัวละครที่ละเอียดและสมจริงสมจังจนทำให้เราอินได้ไม่ยาก ในขณะเดียวกันหนังก็ยังคงคอนเซปต์ในลักษณะของ 'หนังตลกร้าย' ไว้ได้อย่างคงเส้นคงวาและไม่ค่อยได้เราให้เห็นฉากแหวะๆของการฆาตกรรมเสียเท่าไหร่ (ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้) ซึ่งนับเป็นเรื่องดีที่ยังทำให้มันไม่หลุดไปเป็นหนังสยองขวัญเกรด B ไปเสียก่อน
เสน่ห์ในการวางฉากและเล่นสีบนภาพก็ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบ เช่นการเดินเรื่องโดยใช้สีสันที่แสบสันต์อย่างสีชมพูแป๋นที่ให้ความรู้สึก exotic มากๆ, ซึ่งในประเด็นนี้ผู้เขียนไม่แน่ใจว่ามันเป็น gimmick ของหนังที่จะสื่อถึงพระเอกในเวลาที่ไม่ได้กินยาและอาการกำเริบเต็มที่รึเปล่า (เพราะในบางฉากจะแอบสังเกตเห็นยูนิฟอร์มของพนักงานโรงงานคือสีเหลืองแทน) และการที่หนัง'เก็บงำ' ภาพบ้านที่แท้จริงของพระเอกไว้ โดยไม่ปล่อยออกมาพร่ำเพรื่อ ได้ให้ความรู้สึกกดดันได้สมน้ำหนักของหนังไปอีกแบบ.
"The Voices ถือเป็นหนังที่นำเสนอแง่มุมชีวิตของบุคคลที่ป่วยอาการทางจิตได้สมจริงสมจังน่าสนใจ ,บทสนทนาตลกร้ายที่เสียดสี-ดันได้อย่างถูกจังหวะจะโคน และการเดินเรื่องที่ตื่นเต้นคาดเดายากอย่างมีชั้นเชิงประกอบกับทีมนักแสดงที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี และเหนือสิ่งอื่นใดคือการควบคุมโทนหนังให้ชัดเจนหนักแน่นตลอดเรื่อง ทั้งทีเล่น-ทีจริงไม่บกพร่อง จึงถือว่าเป็นหนังประหลาดๆที่น้อยครั้งจะได้พบบนโรงที่น้อยคนจะรู้จัก ควรไปจัดซักที."
คะแนนความเห็นส่วนตัว : 11/10
นายต้องจัดการกับศพนะ by Kanok Jayz Hunhaboon
ตัวอย่างหนัง : https://www.youtube.com/watch?v=RCqUj-I7lFY
ติดตามรีวิวย้อนหลังได้ที่ : https://www.facebook.com/jayz.hunhaboon/media_set?set=a.560682527308058.1073741825.100000989470695&type=1