"No Other Choice" ยังห่างชั้นจาก "Parasite" มากเลยค่ะ (ไม่สปอยล์)

จขกท. เพิ่งตีตั๋วดูเมื่อวาน  ที่โรงหนัง SF ของห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วานรอบสามทุ่มสิบ  แต่รู้สึกผิดหวังกับตัวหนังมาก  ที่ไม่สนุกอย่างที่คิด  

ตอนแรกก็นึกว่าคงจะตลกร้าย  คมคาย  ขำขื่นแบบ "Parasite" แต่ดูไปดูมารู้สึกว่าหนังเวิ่นเว้อ  ยืดยาด  บางฉากก็ไร้สาระ  และไม่ได้ขับเคลื่อนตัวหนังให้ไปข้างหน้า  

จขกท.เกือบเดินออกจากโรง  ตอนหนังแช่ฉากเหยื่อพระเอกคนแรก  กับคู่รักในป่าใกล้บ้าน  เพราะบทสนทนาไม่น่าดึงดูด  และเล่าเรื่องนานไป  แต่ก็ยังอดทนดูจนจบ  เพราะเสียดายเงิน  และคิดว่าอาจจะสนุกขึ้นในฉากต่อไป  ทว่าสุดท้ายก็ยังว่างเปล่าเหมือนเดิม  

จริง ๆ เสียดายโครงเรื่อง  เพราะน่าสนใจมาก  ค่าที่พระเอกต้องหาทางกำจัดคู่แข่งเพื่อให้ได้ตำแหน่งงาน  แต่การเล่าเรื่องยังดูแหว่งโหว่  และมีความเฉพาะตัวสูง  คือคนดูคงยากที่เข้าใจในสัญญะหรือนัยยะที่ผู้กำกับต้องการสื่อ  การกระทำของตัวละครหลายตัว  ดูขาดเหตุผลรองรับ  ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอาการทางจิต  ตัวเรื่องดูดราม่ากว่าที่คิด  หาฉากตลกไม่ได้เลย  แม้แต่การขำแบบแห้ง ๆ ก็ตาม  หรือจะเรียกว่าตลกฝืดก็ได้ค่ะ  

เสียดายที่ได้พระ-นางระดับแถวหน้าของวงการ  แต่กลับเอามาทำแบบเสียของ  ซึ่งการแสดงของพระเอกก็โดดเด่นมาก  และคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องแล้ว  จนจขกท.ลืมบทบาทฟร้อนท์แมนในซีรีส์ "Squid Game" ของเขาไปเลย  

ขณะที่ซับไตเติ้ลภาษาไทยก็อ่านยาก  น่าจะทำให้ตัวอักษรหนาขึ้น  และแช่คำบนจอให้นานกว่านี้  เพราะบางบทสนทนาก็มาไวไปไวจนอ่านไม่ทัน  ส่วนตัวอักษรภาษาอังกฤษก็ยิ่งเล็กเข้าไปอีก  น่าจะแคร์ลูกค้าไทยหรือชาติอื่นให้มากกว่านี้  เพราะคิดว่าคนเกาหลีในไทยก็ไม่ได้มากมาย  และที่ยอมตีตั๋วเข้ามาชมเรื่องนี้  ก็คงมีแค่หยิบมือเช่นกัน  อยากให้ผู้ผลิตเอาไปปรับปรุงด้วยค่ะ  

ไม่แปลกใจว่าทำไมรอบฉายจึงเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ  ขณะที่โรงหนังภูธรหลายแห่งก็ยังไม่ยอมฉายเรื่องนี้  คงเพราะคิดว่าไม่มีคนดูแน่นอน  แม้แต่รอบของจขกท.ก็ยังมีคนดูแค่คนเดียว

หลังจากดูจบก็ทำให้จขกท.ปลงตก  ว่าการโหมโปรโมทโฆษณาว่าเทียบชั้นกับ "Parasite" ก็แค่กลยุทธหนึ่งในการ "ขายของ" เท่านั้นเอง  

เสียดายเวลา 140 นาทีที่สละให้กับหนังเกาหลีโอเว่อร์เรทเรื่องนี้มากค่ะ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่