โดนรถเชี่ยวขณะเราขับรถอยู่ในเลนวงเวียนพ่อขุน ม.ราม แต่คู่กรณีบอกจอดอยู่เฉยๆนี้สรุปเค้าผิดมั้ยค่ะ

ขออภัยถ้าตั้งกระทู้ผิดกลุ่มหรือตั้งคำถามงงๆ นะคะพอดีต้องการสอบถามจริงๆค่ะ เพิ่งตั้งกระทู้แรกจ้า
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันนี้ 24 พค 58 (วันนี้เลยสดๆร้อนๆ) เวลาประมาณ เที่ยงกว่าๆค่ะ
คือไปเราไปส่งแฟนไปสอบที่ ม.รามคำแหง หัวหมาก
แล้วก็ไปถึงตั้งแต่เช้าประมาณ 7.30 น. จึงได้ที่จอดรถบริเวณในซอง วงเวียนพ่อขุน (ไม่ทราบแน่ชัดว่าคนที่เรียนในมอเขาเรียกว่าอะไรนะคะ)
แต่เมื่อแฟนสอบเสร็จ โอ้โห ปรากฏว่าคนจอดรถค่อนข้างเบียดเสียดมาก รถติดแบบอารมณ์อยู่ในสีลม
เราก็ค่อนข้างงง ว่า ไหง เค้าจอดรถในวงเวียน ขนานไปกับเลนวงเวียนซ้อนสองคันเลยหรือ รถมันก็ติดอะดิ แล้วจะออกจากซองยังไง
เพราะปกติคนที่ขับรถจะต้องทราบดีว่า ถ้าจอดขวางลักษณะถนนที่เป็นทางโค้งนี้ ค่อนข้างย้ายรถลำบาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดึงเบรคมือไว้ก็ตาม
แต่ก็พอเข้าใจสำหรับคนรีบ ว่าวันนี้คนมาสอบค่อนข้างเยอะ ถามแฟนว่าคนสอบที่นี้ทั้งหมดเท่าไหร่ (คำตอบที่ได้คือ กว่า หมื่นค่ะ !!!!)
ใครมาเวลากระชั้นชิด หรือรถติดก็หาที่จอดรถยากละ

เข้าเรื่องนะคะ
ไอ่ที่สงสัยก็หมดไปเนื่องจากเราจอดฝั่งตรงข้างพ่อขุนพอดีค่ะ เลยถอยรถออกมาได้ (เป็นฝั่งที่รถไม่จอดขวางซ้อนคัน) แต่ก็อย่างว่านะคะ รถก็ติดมากๆๆๆๆอยู่ดี เนื่องจากสนามสอบปล่อยคนออกมาพร้อมกัน อีกอย่างรถที่จอดขวางก็ค่อนข้างกีดขวางการจราจร กว่าจะขับออกได้ "ถึงกับต้องใช้คำว่า ปาดเหงื่อเพราะอากาศร้อนมาก"
แต่เมื่อแฟนเราขับรถมาได้ไม่ถึง 500 เมตร ก็เกิดเหตุการณ์ที่พาดคำถามขึ้น
(ขอโทดค่ะ ลืมบอกว่าเราไม่ได้ขับเองเพราะแฟนขับรถใน กทม ชำนาญกว่า และใจเย็นกว่าเรามากๆ)

ปรากฎว่ารถคันที่จอดขนานกับเลนรถในวงเวียนคันแรก (ซ้อนคันที่หนึ่ง ตำแหน่งอยู่ใกล้ถนนในมากที่สุด) ดันขับปาดแซงซ้ายเพื่อเข้ามาในเลนเราแบบกระทันหัน โอ้โห !!! แฟนเราที่ขับรถก็จอดให้เค้าไปก่อนเพราะ ปาดมาซะขนาดนั้น เกือบครึ่งคัน (ที่สำคัญไม่มีหรอกค่ะไฟเลี้ยวขอทาง เหอๆ)
เราก็เริ่มโมโหละนะ ว่า นอกจากจอดรถได้ไม่น่ารัก ขวางทางคนอื่นแล้ว ยังมีพฤติกรรมปาดแซงซ้ายในวงเวียนอีก
โหยยยย เรารีบบอกแฟนเลย อย่าให้ใครปาดอีกนะ (กลัวไปทิ่มตูดเค้าเหมือนกันเน๊อะ)

ยังไม่ทันไรค่ะ มีรถคันที่สอง  รีบเลยค่ะ แหม!!! หันหัวรถมากะพุ่งมาเต็มที่ (แถวบ้านเรียกเสียบต่อกะเนียนเข้าอีกคัน)
ดิฉันก็โมโหเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ สำแดงฤทธิ์ (ปกติเป็นเฉพาะกับแฟนตัวเองนะคะ อิอิ เดี๋ยวจะกลายเป็นนางมารร้าย)
บังคับให้แฟนขับตรงต่อไปตามเลนของเรา แต่  "ห้ามให้ใครปาดอีกนะ" นั่นคือคำพูดของเราที่บอกนะตอนนั้น (ปกติก็มีน้ำใจบนท้องถนนนะคะ แต่เฉพาะกับคนที่ควรมีน้ำใจให้ป่ะ ปาดซ้ายพุ่งหัวรถแทรกคนอื่น กับประเภทไม่เปิดไฟเลี้ยวนี่ ขอบอกว่า ไม่มีทางได้รับน้ำใจที่ว่านั้นจากเราเป็นแน่แท้)

แต่ก็นั่นแหละคะ ครื๊ดดดดดด เสียงที่เราไม่อยากได้ยิน เมื่อส่องกระจกก็คิดว่าเฉียวรถเราเป็นแน่ เราก็เซ็งละ คิดว่าลงไปคุย หรือเคลียร์นี่ เรายาวแน่
(คงขอโวยตามประสา กะลังปรื้ด)

เราก็เลยส่งตัวแทนไปเจรจา (แน่นอนค่ะ แฟนเราที่ว่าใจเย็นกว่าสุดๆๆๆ)

นี่คือบทสนทนาที่แฟนเราบอกว่าไปคุยนะคะ ขอให้ทุกท่านพิจารณาต่อนะคะ ว่า "ควรปฏิบัติกับคนเช่นนี้อย่างไร"

แฟน : โทดนะครับ คุณขับรถชนรถข้างของผม คือผมขับรถมาตามเลนถนนปกติ ทำไมถึงรีบแซงซ้ายขึ้นมาละครับ นี่รถผมก็เป็นรอยเลย
คู่กรณี : (ไม่ยอมลงมาเจรจา ยังคงนั่งอยู่ในรถ พร้อมแสดงสีหน้าเรียบเฉย) พูดว่า "ฉันอยู่เฉยๆยังไม่ได้ขยับอะไรเลย คุณขับมาชนเอง"
แฟน : ก็ตอบไปว่า ผมจะขับรถชนได้ยังไง เพราะรถผมอยู่หน้ารถของคุณอยู่แล้ว แล้วเลนที่ผมขับก็เป็นเลนในวงเวียนปกตินะครับ
คู่กรณี : พูดซ้ำเดิมกะที่พูดตะกี้ (พร้อมท่าทีไม่รู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้น)

เราเห็นถ้า ว่าการคุยจะนาน ก็ตัดสินใจเดินลงมาจากรถ และมาถ่ายรูปแผลที่รถเราและถ่ายป้ายทะเบียนของคู่กรณีไว้

เราบอกเค้ากับแฟนไปว่า : งั้นก็โทรเรียกประกันมาคุยนะคะ  ช่วยหาที่จอดที่ไม่ขวางทางรถคันอื่นด้วย (ตอนแรกก็กะถามเฉยๆเพราะเห็นรถเค้าก็ค่อนข้างอายุมาก ไม่แน่อาจต้องได้ซ่อมเอง แต่เราเห็นว่ารถเราเป็นรอยถูกครูดเห็นชัดอีกทั้งเค้าไม่ยอมลงรถมาคุยค่ะ ขอเถอะ!!!!เรื่องนี้มันต้องยาววววว)

แต่...แต่ๆๆๆ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราเลื่อนรถเพื่อจะไปหาที่จอดคุย รอเรียกประกันนั้น
ให้ตายเถอะค่ะ "คู่กรณี ขับหนีไปเลยจ้าาาาาา" เราไปจอดข้างทาง แต่เค้าดันขับรถออกไปตรงกันข้ามกับที่เราจอดรอเลย (กะชิ่งเหรออมนุษย์ป้า...)
ไม่ได้การละ (ดิฉันสวมบทตำรวจตามจับผู้ร้ายทันที) เปิดประตูรถพร้อมโทรศัพท์ติดตัววิ่งไปตามรถคู่กรณี แฟนเราอึ้งเลยมาคุยอีกที แฟนบอกห้ามไม่ทัน กลัวว่าถ้าคู่กรณีอารมณ์ร้อนเหมือนกัน คงถูกยิงหรือต่อยไปละ 555+ (ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร แค่อยากไปคุยกะเค้า โมโหด้วยอ่ะ)

แต่โชคยังดีและเข้าข้างค่ะ เผอิญรถติด (อย่างที่บอกข้างต้นอะนะ) วิ่งทันคะ ถึงขาจะสั้นก็เหอะ
ไม่รอช้า เราก็ไปยืนข้างฝั่งคนขับเลยค่ะ เคาะประตูรถ ก๊อกๆๆๆๆๆๆ
เมื่อเค้าเปิดประตูมา เราก็เริ่มบทสนทนา
เรา : ขอโทษนะคะ ที่คุณชนรถเราตะกี้ เราขอเบอร์โทรศัพท์ของคุณด้วยค่ะ จะโทรหาประกัน
คู่กรณี : ทำหน้างง (มาได้ไง) และก็ยอมบอกเบอร์มา (เพราะเรายืนขวางประตูรถไง ไปไหนไม่ได้) เอ่อ 08XXXXXXXX
เรา : (ไม่แน่ใจกลัวเค้าบอกเบอร์มามั่วๆก็เลยถามต่อ) ขอชื่อคุณด้วยค่ะ ยังไงจะให้คุยกับประกัน แล้วเราก็กดเบอร์ที่เค้าบอกตะกี้เลย และบอกเค้าว่า
ช่วยรับโทรศัพท์ด้วยค่ะ (เมื่อเห็นคู่กรณีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเห็นเบอร์เราโชว์) เราก็เดินจากมาไม่ได้คุยอะไร (ทิ้งประเด็นไว้แล้วก็จากมา...)

หลังจากเกิเหตุ เราโมโหมาก ทำไมคนเราถึงขับรถไม่น่ารักเลย อีกทั้งยังแสดงกิริยาที่แย่และไม่ดีเอามากๆๆๆๆ ไม่ยอมลงมาคุย ไม่ยอมจอดในที่ที่ควรจอด ไม่ยอมเจรจา แล้วยังขับรถหนีอีกต่างหาก ยังจะมาบอกว่าจอดอยู่เฉยๆเราขับมาชนเอง (อายุก็น่าจะเกินวันกลางคนละนะ) เราโมโหมาก จนแฟนไม่คุยด้วย (กลัวเราเหวี่ยง แฮๆๆ)

แต่ก็นะคะ ร่ายเรื่องมาซะยาวเหยียด

เข้าประเด็นคำถามละกันค่ะว่าเราควรทำยังไงต่อไปดี
1.ถ้าโทรบอกประกัน เราจะเสียประวัติมั้ยค่ะ คู่กรณีมีทะเบียนรถอยู่ต่างจังหวัดด้วย ไม่ยอมคุยด้วย (แม้เราจะมีรูปป้ายทะเบียนรถ เยอร์โทรศัพท์และชื่อคนขับก็เหอะ)
2.ต้องไปลงบันทึกประจำวันหรือเปล่าค่ะ (ตำรวจจะรับแจ้งหรือเปล่ามองเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก)
3.แล้วเราต้องเสียค่าซ่อมเองป่าวค่ะ (เพราะเกิดเรื่องก็ขับรถกลับมาเลย แฟนต้องรีบไปทำงานที่พระรามสองค่ะ)
4.อันนี้สอบถามเป็นความรู้ การที่เค้าบอกว่าจอดอยู่เฉยๆ แต่สตาร์ทรถอยู่ และที่จอดรถที่เค้าจอดอยู่ก็อยู่ในเขตวงเวียน ปกติกฎหมายกำหนดว่าห้ามจอดป่ะคะ หรือไม่ผิด
5.ที่เค้าจงใจขับรถไปเลย แล้วมาบอกทีหลังว่าไม่ได้หนี บอกเบอร์กับชื่อให้เรา (ทั้งที่วิ่งแทบตายไปถาม เชื่อเหอะถ้ารถไม่ติดยังไงก็ตามไม่ทัน)
6.สุดท้ายนะคะ รู้ว่าการโมโหหาเรื่องที่ทำไปไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ เค้าอยากถามว่า เหตุการณ์นี้ มันๆน่าโมโห มั้ย หรือถ้าคำตอบคือไม่ มีวิธีทำใจ ปรับอารมณ์ให้เย็นลงได้ยังไงค่ะ เพราะข้อนี้สำหรับกับชีวิตคู่มาก (แฟนไม่เห็นด้วย กลัวถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เราจะเสี่ยงมีอันตรายค่ะ)

ขอบคุณล่วงหน้าที่เข้ามาอ่านนะคะ และจะขอบคุณมากๆถ้ามีคำตอบให้อีก อิอิ ^_______^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่