คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ปรากฏการณ์นี้ เราเรียกว่า " Inner voice " ครับ
Inner Voice คือ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเราอ่านหนังสือ หรือ คิดในใจ หรือ สงสัยสิ่งใด ๆ
สมองส่วนความจำ (Hippocampus) จะทำงานโดยดึงเอาความทรงจำนั้นมา และกระทำการ playback
ทำให้เรารับรู้เหมือนได้ยิน "เสียง" นั้น แต่เราจะรู้ตัวดีว่าไม่ได้ยินอะไรจากหูของเรา
มันเป็นเพียงแค่ playback เป็นความคิด (เสียง) ในสมองเท่านั้นครับ
Inner voice นี้ จะเริ่มปรากฏขึ้นพร้อมกับการอ่านได้ เขียนได้ของมนุษย์ คือเราจะมี inner voice ตั้งแต่เด็กเลยแหละ
แต่เราอาจไม่รู้เรื่องว่ามันคือสิ่งนี้ครับ ปัจจุบันได้มีการศึกษา inner voice ว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับโรค Dyslexia
หรือ โรคความบกพร่องในการอ่านหนังสือ ซึ่งในการวิจัยพบว่าเด็กที่ไม่มี inner voice จะมีความเสี่ยงที่จะเป็น Dyslexia
และที่น่าแปลกคือ inner voice นี้ ส่วนมากไม่ใช่เสียงตนเอง
จากการวิจัยจากเหล่าอาสาสมัครพบว่า Inner voice จะเป็นเสียงทุ้ม ๆ ต่ำ ๆ นุ่มนวลกว่าเสียงเรา
หรือบางคน inner voice ภาคภาษาต่างประเทศก็อาจเป็นเสียงที่เราคุ้นเคย เช่น ตัวผมเนี่ยครับ
เวลาอ่านภาษาอังกฤษ จะมี inner voice เป็น Morgan Freeman
ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้จะเกิดโดยมีพื้นฐานมาจากประสพการณ์ชีวิตของตนเองครับ
ส่วนการคิด หรือครุ่นคิด เช่น หิวจัง , รถติดจังไปทางใหนดีเนี่ย , wow...คนนี้น่ารักจังเลย ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ ก็จะเกิด Inner voice ด้วยเช่นกัน แต่ไม่ชัดเจนเท่าการอ่านหนังสือ หรือ ครุ่นคิดข้อสงสัยครับ
เสียงความคิดของแต่ละคนจะมีระดับไม่เท่ากัน แล้วแต่กระบวนการคิด และจินตนาการของแต่ละคนครับ
Inner Voice คือ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเราอ่านหนังสือ หรือ คิดในใจ หรือ สงสัยสิ่งใด ๆ
สมองส่วนความจำ (Hippocampus) จะทำงานโดยดึงเอาความทรงจำนั้นมา และกระทำการ playback
ทำให้เรารับรู้เหมือนได้ยิน "เสียง" นั้น แต่เราจะรู้ตัวดีว่าไม่ได้ยินอะไรจากหูของเรา
มันเป็นเพียงแค่ playback เป็นความคิด (เสียง) ในสมองเท่านั้นครับ
Inner voice นี้ จะเริ่มปรากฏขึ้นพร้อมกับการอ่านได้ เขียนได้ของมนุษย์ คือเราจะมี inner voice ตั้งแต่เด็กเลยแหละ
แต่เราอาจไม่รู้เรื่องว่ามันคือสิ่งนี้ครับ ปัจจุบันได้มีการศึกษา inner voice ว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับโรค Dyslexia
หรือ โรคความบกพร่องในการอ่านหนังสือ ซึ่งในการวิจัยพบว่าเด็กที่ไม่มี inner voice จะมีความเสี่ยงที่จะเป็น Dyslexia
และที่น่าแปลกคือ inner voice นี้ ส่วนมากไม่ใช่เสียงตนเอง
จากการวิจัยจากเหล่าอาสาสมัครพบว่า Inner voice จะเป็นเสียงทุ้ม ๆ ต่ำ ๆ นุ่มนวลกว่าเสียงเรา
หรือบางคน inner voice ภาคภาษาต่างประเทศก็อาจเป็นเสียงที่เราคุ้นเคย เช่น ตัวผมเนี่ยครับ
เวลาอ่านภาษาอังกฤษ จะมี inner voice เป็น Morgan Freeman
ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้จะเกิดโดยมีพื้นฐานมาจากประสพการณ์ชีวิตของตนเองครับ
ส่วนการคิด หรือครุ่นคิด เช่น หิวจัง , รถติดจังไปทางใหนดีเนี่ย , wow...คนนี้น่ารักจังเลย ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ ก็จะเกิด Inner voice ด้วยเช่นกัน แต่ไม่ชัดเจนเท่าการอ่านหนังสือ หรือ ครุ่นคิดข้อสงสัยครับ
เสียงความคิดของแต่ละคนจะมีระดับไม่เท่ากัน แล้วแต่กระบวนการคิด และจินตนาการของแต่ละคนครับ
แสดงความคิดเห็น
เสียงคิดในสมองของเรา เป็นยังไงครับ
แล้วเสียงๆนั้นที่ได้ยิน เรารู้เรื่องได้ยัง ทำไมผม(คนไทย)ถึงได้ยิน(รับรู้)ด้วยภาษาไทย
ถ้าเป็นคนต่างชาติ เขาจะได้ยินแบบเราไหม(หมายถึงได้ยินเป็นภาษาของเขานะครับ)
แล้วถ้าเราพูดได้หลายภาษา เราจะได้ยินความคิดเราเป็นภาษาอะไร หรือ เลือกได้ ว่าจะเป็นภาษาไหน
แล้วกรณีในอนาคตที่แบบว่าเราเข้าไปอยู่ในโลกจำลองได้(อยาคตอาจจะทำได้ก็ได้ คิดเผื่อไว้)
อย่างที่อ่านในนิยายต่างๆ ที่สามารถแปลงความคิดให้อยู่ในรูปภาษาอื่นที่คนอื่นรับรู้ได้
แสดงว่า ความคิดเป็นอะไรที่พื้นฐานเท่ากัน แต่เราแปลได้แค่ภาษาที่ถนัดงั้นหรอครับ
ถ้าแบบนั้น เราก็แปลคลื่นความคิดแล้วส่งไปที่อีกคนได้เลยสิ เพราะมันพื้นฐานเหมือนกัน
แต่คนรับจะแปลให้อยู่ในรูปที่ตัวเองเข้าใจอยู่แล้ว แล้วในกรณีจะแปลเป็นภาษาอื่นละ เพื่อใช้ฝึกการฟังภาษาอื่นอะไรแบบนี้
ปล.ผมพึ่งเคยตั้งกระทู้ครั้งแรก อาจแท็กผิดไปบ้าง ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ