สวัสดีค่ะนี่เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกของเราเลยนะ เพราะได้อ่านหลายๆกระทู้ที่มาแชร์ประสบการณ์ความรักทั้งดี และไม่ดีกันมาเยอะวันนี้เลยอยากจะมาขอแชร์ประสบการณ์จริงของตัวเองบ้างเผื่อตอนนี้ใครที่กำลังเจอพิษของความรักเข้าให้จะได้มีกำลังใจ เอาล่ะ! เริ่มเลยนะค่ะ ^^
ขอย้อนไปเมื่อเดือนกันยายน ปี 54
เราได้ทำความรู้จักกับแฟนครั้งแรกในเฟสบุ๊ค คือต้องบอกก่อนว่าแฟนเราคนนี้เป็นเพื่อนกับแฟนเก่าเราอีกที (ไม่ งง เนาะ) และพอเราเลิกกับแฟนเก่าคนนั้น แฟนเราก็เข้ามาสวมรอยทับทันทีตั้งแต่วันที่เราเลิกกับแฟนเก่าเลยค่ะมันเหมือนเวรกรรมส่งให้มาเจอกันจริงๆ 555 พอแฟนเก่าบอกเลิกปุ๊ป เค้าก็ทักเฟสมาปั๊ปเลย คือช่วงนั้นเฮิทมากเพราะโดนแฟนเก่านอกใจเอาผู้หญิงอื่นมานอนบ้าน เราก็เสียใจมากและเค้าก็ทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมากเข้ามาได้ทันเวลาพอดี เค้าเข้ามาคุย โทรมาหา โทรคุยเป็นเพื่อน เฝ้าเรานอน ทั้งวัน และทุกวัน เพื่อไม่ให้เราเศร้า และไม่อยากให้เราอยู่คนเดียว เวลาเราร้องไห้เค้าก็จะปลอบคือเอาง่ายๆ ดูดี มากอ่ะ และเข้าใจใช่ป่ะค่ะว่าคนกำลังเศร้าและอ่อนแอพอเวลามีคนมาทำดีด้วยก็จะหลงไหลไปกับการกระทำเหล่านั้น ซึ่งเราไม่คิดมาก่อนเลยค่ะว่าที่เค้าทำทั้งหมดนั้นเพื่อแก้แค้นแฟนเก่าเรา!!!! T.T
เราก็ไม่รู้ค่ะคุยกันได้ประมาณ 4 วัน เราก็ตกลงคบกัน ด้วยความสัจจริงว่าอีกใจนึงเราก็ต้องการเย้ยแฟนเก่าเราด้วยแหละ "เหอะ ชั้นไม่ง้อนะย่ะ เลิกก็เลิกไปชั้นหาใหม่ได้อยู่เร็วและที่สำคัณเป็นเพื่อนเธอด้วย" ตอนนั้นในความคิดเราเป็นแบบนี้ค่ะเราคิดเองเออเองว่ามันก็ต้องมีจี๊ดกันบ้างแหละแหม! เลิกกับเธอและมาคบกับเพื่อนเธอต่อที่สำคัณไม่ถูกกันด้วย คือยอมรับค่ะว่าตอนนั้นโง่มาก T^T
พอเราตกลงคบกันได้อีก 1 อาทิตย์ถัดมาเราก็นัดเจอกันครั้งแรกค่ะ เพราะช่วงที่โทรคุยกันบ่อยๆนั้นเค้าอยู่ที่ จ.พิษณุโลก เราเลยนัดเค้าให้เข้ามา กทม. เราก็นัดเจอกัน ไปกินข้าวกัน คือเค้าเป็นคนที่คุยเก่งและกะล่อนมาก เจ้าชู้สุดๆ แต่ตอนนั้นเรากลับมองมันว่ามีเสน่ห์ซะงั้น = =' พอหลังจากกินข้าวเสร็จมันก็ประมาณ 3 ทุ่ม เค้าก้อบอกเราว่า รถเมล์ที่จะกลับบ้านแม่เค้าที่ปทุมธานีหมดแล้วขอนอนบ้าเราได้ไหม เราก็ เงียบไปแปปนึง ในใจก็คิดว่าเค้าคงไม่กล้าทำอะไรเราหรอกเพราะที่บ้านอยู่กันหลายคนอยู่แต่ครอบครัวเราจะอยู่แบบห้องใครห้องมันไม่ค่อยสุงสิงกันเลยมีทางที่จะแอบพาเข้าบ้านได้อยู่ เราก็บอกไปว่าโอเครงั้นเอาแบบนั้นก็ได้ และเราก็พาเค้าเข้าบ้าน พอถึงบ้านมันไม่ใช่อย่างงั้นซิค่ะสิ่งที่เราไม่ได้เตรียมใจไว้มันก็เกิด เค้ามีอะไรกับเราเลยค่ะ คือมันไวมาก และหลังจากนั้นเราก็คิดนะว่าจะฟันแล้วทิ้งป่ะว่ะ ก็กังวลอยู่เพราะไม่รู้ว่าเค้าคิดยังไงกันแน่ แต่เค้าก็บอกนะค่ะว่าไม่ทิ้งหรอก อย่าคิดมากที่ ทำแบบนี้เพราะกลัวเราจะเปลี่ยนใจกลัวเรากลับไปหาแฟนเก่า!! เห้อ! เราก็ดันเชื่อค่ะ และพอมีอะไรกันเรากลับยิ่งหลงเค้ามากกว่าเดิม ช่วงนั้นเรา บีบี ฮิตมาก คือเรามีโทรศัพท์สองเครื่องคือ บีบี กับโนเกียธรรมดาๆ เครื่องนึง เค้าก็บอกว่าเค้าไม่มีโทรศัพท์ใช้เลย เราก็อ่ะงั้นเราโนเกียไว้ใช้นะจะได้มีโทรคุยกัน เค้าก็ชอบเอา บีบี เราไปแอดพินเพื่อนๆเค้าเพื่อคุย เราก็ไม่ได้สนใจค่ะ อยากทำไรทำเลย ยอมทุกอย่าง และจากวันนั้นมาเค้าก็ยังคงอยู่บ้านเราค่ะ โดยแม่ก็รับรุ้ตั้งแต่เช้าของอีกวันว่าเราพาแฟนเข้าบ้านและแม่ก็ไม่ชอบเอามากๆ พยายามบอกให้เราบอกให้แฟนกลับบ้านได้แล้ว ทะเลาะกับแม่อยู่ตลอดๆเพราะเรื่องแฟนเรา คือตอนนั้นเราหลงแฟนเรามากหลงหัวปักหัวปรำ คือรู้ทั้งรุ้ว่าเขามาเกาะเรากิน เพราะเงินติดตัวมีแค่ค่ารถตอนมาเจอกับเราเอง ตลอดเวลาที่อยู่เราเป็นฝ่ายเลี้ยงเค้าตลอด แต่ก็ยังยอมให้แม่ว่า ยอมทะเลาะกับคนในครอบครัวเพราะไม่อยากห่างจากแฟน และช่วงนั้นต้องฝึกงานตอนจบ ม.6 ด้วยอีกคือ ทรหดมาก เราทำงาน จ-ส ช่วงเช้าแฟนจะนอนรออยู่ที่บ้านและพอใกล้ๆเลิกงานเค้าก็จะมารับเราด้วยเงินที่เราทิ้งไว้ให้นั่นแหละ! เหอะ! คิดๆแล้วก็นะ "ทำไมต้องยอม"
เรื่องก็ดำเนินมาเรื่อยๆจนถึงวันที่เค้ากลับไปอยู่บ้านเค้าเพราะทนเห็นเรากับแม่ทะเลาะกันไม่ได้แล้วคือทะเลาะกันทุกวันและแรงขึ้นๆด้วย เราก็อิดออดค่ะ ไม่อยากให้ไปแต่ก็ต้องยอม พอไปแล้วเค้าก็เริ่มทำตัวแปลกๆจากปกติโทรคุยทั้งวัน ขนาดตอนเราทำงานยังคาสายไว้เลย ก็เริ่มโทรไปแล้วไม่รับ ไม่คุยคาสายให้เหตุผลว่าคุยมากปวดหัว โทรไปนานๆก็ไม่รับจนเราสงสัยเลยรองเอาเครื่องเพื่อนที่ทำงานโทรไปเพราะ บีบี มันไม่ขึ้นรอสาย ปรากฏว่ามันขึ้น "รอสาย" ค่ะ เราก็เครียดเลย พอเค้ารับสายเค้าก็ตกใจที่เป็นเรา และก็บอกว่าคุยกลับแม่อยู่ แค่นี้นะ เราก็บอกเลยว่าประชุมสายเดี๋ยวนี้! เค้าก็รีบกดวางสายไปและรีบโทรเข้าเครื่องเราทันทีก็เถียงกันได้สักพักเค้าก็แถไป ทำตลกให้เราขำ และมันก็ได้ผลค่ะ! แต่จากวันนั้นมาเราก็เริ่มไม่ไว้ใจเค้าและรีบให้เค้ามาหาทันที มาอยู่ที่บ้านอีกเหมือนเดิม และก็ทะเลาะกับแม่อีกเหมือนเดิม T^T ช่วงนั้นทุกคนในบ้านบอกว่าเราเริ่มเกเรติดแฟนพี่สาวก็เริ่มตึงๆใส่เราก็เครียดเรื่องที่บ้านด้วย เรื่องแฟนด้วย ตอนนั้นทุกข์มากๆ แต่แฟนหรอค่ะ ไม่คิดอะไรเลย วันๆนอนเล่นบีบี ทองไม่รุ้ร้อนอ่ะไรทั้งนั้น เราก็เริ่มหนักใจแล้วว่า "เห้ยเลิกดีป่ะว่ะ เลิกเหอะไม่มีอะไรดีเลย" แต่อีกใจนึงก็เหมือนจะขาดเค้าไม่ได้จริงๆ ความสับสนมันตีกันไปมาแบบนี้อยู่ทุกวัน จนกระทั้ง วันนึงเราทำงานอยู่ ก็มีคนทัก บีบี มาก เราก็เห็นแล้วว่าคนที่ทักมาอยู่ในกรุ๊ปเพื่อนแฟนเรา คือปกติเวลาเราทำงานเราจะตั้งตัสว่าตอนนี้บีบีอยู่ที่เราซึ่งเพื่อนๆแฟนก็ไม่เคยทักมาเลย ก็ว่าจะไม่สนใจแล้วแต่มันไปสะดุดอยู่ตรงข้อความนี่ซิ
ข้อความในบีบี
เธอคนนั้น: นี่ตกลงแล้วเค้าเป็นอะไรในสายตาตัวเอง....
เราตกใจมาก วินาทีนั้น อึ้ง! แต่ก็ตั้งสติและเลยเนียนๆตอบไปว่า
เรา:ตัวเองอยากเป็นอะไรก็เป็นได้ทั้งนั้น แล้วเค้าหล่ะสำหรับเธอเป็นอะไร
เธอคนนั้น:.....อยากให้เป็นอะไรเค้าก็เป็นได้ทั้งนั้นแหละ เค้าจะรอ
คือตอนนั้นทั้งสั่น ทั้งอึ้ง ทั้งเสียใจ คือมันใช้ บีบี เราคุยกับคนอื่นมาโดยตลอดเลยหรอเนี่ย และประโยคนี้เราจำได้ขึ้นใจเลยและพอเลื่อนขึ้นไปดูประวัติการสนทนาก็ยิ่งช้ำค่ะ มีทั้งส่งว๊อยหากัน ข้อความบอกรักกัน และเราแบบ น้ำตาไหลพรากและรีบโทรหาแฟนเลย แฟนก็รีบมาหาที่ทำงานมาคุยมาเครียกันและมันก็เป็นอย่างที่ทุกคนคิด เค้าก็ขอโทษ และบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ใช่ค่ะเราก็เชื่อและให้อภัย! เค้ายังบอกอีกว่า ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาเองและเค้าก็บอกแล้วว่านี่ บีบี เรา แต่ผู้หญิงคนนั้นรับได้ทุกอย่าง เค้าก็บอกว่าเค้าขอโอกาสนะ จะไม่มีเรื่องแบบนี้อีก เราก็บอกเค้าไปเลยว่า โอเคไม่เลิกแต่ต่อไปนี้ไม่มีความเชื่อใจแล้วนะเพราะนี่ขนาด บีบี ชั้นเธอยังสามารถ ทำได้ถึงขนาดนี้ เธอเก่งมาก! ขนาดอยู่กับชั้นตลอด เธอยังทำได้ เทพจริงๆ เค้าก็บอกว่าโอเคงั้นวันนี้เลิกงานแล้วเค้าจะพาไปไหว้แม่เค้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าเค้าจริงจังกับเราจริงๆ เราก็โอเคไปก็ไป จากนั้นแฟนก็กลับไปเก็บเสื้อผ้าให้และไปรอเราอยู่ที่ท่าน้ำนนท์ พอเลิกงานเราก็ไปเจอเค้าที่นั้นและนั่งรถต่อไปหาแม่เค้าที่ปทุมฯ
พอไปถึงที่บ้านเค้าเราก็ถึงมารุ้ว่าบ้านเค้าอาศัยอยู่ใกล้กับญาติพ่อเลี้ยงคือแถวนั้นมีแต่ญาติพ่อเลี้ยงและเป็นธรรมดาที่ลูกเลี้ยงอย่างเค้าจะโดนเกลียดเค้าก็บอกว่าเราว่า รับได้ไหมที่บ้านเค้ากันดาน คือค่อนข้างกันดานนะจริงๆ เป็นสะพานปูนรอบๆเป็นคลองผ่านได้แค่จักรยานกับมอเตอร์ไซค์ต้องเดินเข้าไปไกลกว่าจะถึงบ้าน เราก็รับได้โอเคไม่มีปัญหา เราก็ไหว้แม่เค้า และทุกๆคนในบ้านเค้า เราไปบ้านเค้าโดยโกหกแม่ว่าไปนอนบ้านเพื่อนสนิท เพราะถ้าแม่รุ้คงไม่มีทางให้ไปแน่ และมันเป็นความซวยของเราที่วันที่สองเราดันตกน้ำ ทำให้บีบี พังไปโดยปริยาย เราเลยต้องยึดโนเกียที่เราเคยให้เค้าไว้ใช้มาใช้ก่อนเพราะแม่ชอบโทรมาเช็คเราบ่อยๆ เราเลยต้องกลับบ้านรีบเอาบีบี มาซ่อม และเค้ากับเราก็ไม่มีโทรศัพท์คุยกัน ความกังวลเพิ่มพูนมากเท่าตัวพอไม่มีโทรศัพท์เค้าก็จะนอกลู่นอกทางได้โดยที่เราไม่สามารถเช็คอะไรได้เลย เหมือนคนหูหนวกตาบอดเข้าไปอีก เค้าก็บอกเราว่าเค้าจะเอาโทรศัพท์แม่โทรมาหาแต่ได้แค่ตอนเย็นเพราะแม่เค้าต้องไปทำงาน บอกให้เราเชื่อใจ เราก็พยายามข่มใจไม่คิดมาก เค้าก็นั่งรถมาส่งที่บ้านและกลับบ้านเค้าไป เชื่อไหมค่ะ เซ็นส์ผู้หญิงแม่นมาก พอเค้ากลับบ้านไปเรากังวลมาก กลัวเค้าจะพาใครมานอนเหมือนแฟนเก่าเรากลัวไปหมด ตอนนั้นเครียดจนไม่เป็นอันทำอะไร งานก็ทำไม่ได้มีปัญหา หัวหน้าด่าเช้าเย็น แต่ใจเราไม่จดจ่อกับอะไรทั้งนั้น มันเอาแต่คิดว่าเค้าจะต้องพาใครมานอนที่บ้านแน่ๆ(อย่าด่าเรานะตอนนั้นเราบ้าจริงเรายอมรับ)
และมันก็เป็นอย่างที่เราคิดค่ะเพราะหลังจากที่เรากลับมาอยู่บ้านเค้าหายไปเลยค่ะ หายไปเฉยๆ เราได้คุยกับเค้าครั้งสุดท้ายคือตอนที่เค้าถึงบ้านและใช้เบอร์แม่เค้าโทรมาบอกว่าถึงบ้าน หลังจากนั้นมาคือหายไปเลย เรามารู้ตอนวันที่สองที่เค้าไม่โทรหา คือมันมืดแล้วเราก็แปลกใจว่าทำไมยังไม่ใช้เบอร์แม่โทรมาอีก เราก็เลยโทรกลับไปที่เบอร์แม่เค้า และเราก็ต้องใจหายอีกครั้ง แมื่อแม่เค้าบอกเราว่า "มันออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วแม่ไม่รุ้จะติดต่อมันยังไงดีเหมือนกันแม่คิดว่ามันอยู่กับเรานะเนี่ย" เราอึ้งค่ะ รีบตัดบทกับแม่และวางสายไป ในใจก็คิดว่า เค้าหายไปไหน ไปกับใคร ไปได้ยังไงทั้งที่มีตังแค่ 100 เดียวที่แม่ให้ไว้ และพอเย็นวันถัดมาเราก็โทรเช็คกับแม่อีก ก็ได้คำตอบเหมือนเดิมคือ ยังไม่กลับมา เราก็ใจเสียลงไปทุกวันๆ จนทนไม่ไหว วันที่ 4 ที่ไม่มีการติดต่ออะไรจากเค้าเลย เราก็เลยตัดสินใจลางานครึ่งวัน ไปตามหาเค้าที่บ้าน เราก็เสี่ยงนั่งรถเมล์ไปปทุมฯ คนเดียวเลยค่ะคือตอนนั้นแม่ยังไม่ปล่อยไปเที่ยวไหนเลย เลยขึ้นรถเมล์ยังไม่ชำนาญอะไรเลยและไปบ้านเค้าก็แค่ครั้งเดียวเอง เราเลยโทรคุยกับแม่เค้าว่าลงป้ายไหน ต่อรถอะไร แม่ก็น่ารักมากบอกเราทุกอย่าง พอไปถึงก็ไปเจอน้องสาวเค้าอยู่ น้องสาวเค้าค่อนข้างจะชอบเราก็เลยสนิทกัน เราก็สืบเสาะหาจากน้องๆแถวบ้านได้ความว่า "แฟนเราแต่งตัวออกไปประมาณ 9 โมงเช้าก่อนออกไปใช้โทรศัพท์น้องโทรหาใครคนนึงว่าจะถ้าถึงแล้วออกมารับด้วยจะใช้เบอร์ตู้โทรไปหาอีกที" เราได้ยินแบบนั้นหัวใจสลายเลยค่ะ คิดไว้แล้วว่าคงไม่ใช่เพื่อนแน่ๆ T_T และก็เลยถามเบอร์ที่เค้าใช้โทร แต่ปรากฏว่ามันหายไปแล้วน้องจำได้แค่ว่าขึ้นต้นด้วย 084 เราก็เลยใช้มือถือโนเกียของเราเปิดไล่โทรหาทีละเบอร์เลยค่ะ! เพราะในเครื่องโนเกียเค้าเมมเบอร์เพื่อนเค้าไว้อยู่ และลางสังหรณ์ของเราก็บอกให้โทรหาคนชื่อ"แก้ว" ก่อนเลย และเบอของนางก็ขึ้น ต้นด้วย 084 ค่ะ!!!
ไว้มาต่อใหม่นะค่ะ พาท 2 เข้มข้นมาก แล้วคุณผู้อ่านจะบอกได้คำเดียวว่า "

โง่มาก!" TT^TT
อุทาหรณ์...ความอยากไม่เข้าใครออกใคร !
ขอย้อนไปเมื่อเดือนกันยายน ปี 54
เราได้ทำความรู้จักกับแฟนครั้งแรกในเฟสบุ๊ค คือต้องบอกก่อนว่าแฟนเราคนนี้เป็นเพื่อนกับแฟนเก่าเราอีกที (ไม่ งง เนาะ) และพอเราเลิกกับแฟนเก่าคนนั้น แฟนเราก็เข้ามาสวมรอยทับทันทีตั้งแต่วันที่เราเลิกกับแฟนเก่าเลยค่ะมันเหมือนเวรกรรมส่งให้มาเจอกันจริงๆ 555 พอแฟนเก่าบอกเลิกปุ๊ป เค้าก็ทักเฟสมาปั๊ปเลย คือช่วงนั้นเฮิทมากเพราะโดนแฟนเก่านอกใจเอาผู้หญิงอื่นมานอนบ้าน เราก็เสียใจมากและเค้าก็ทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมากเข้ามาได้ทันเวลาพอดี เค้าเข้ามาคุย โทรมาหา โทรคุยเป็นเพื่อน เฝ้าเรานอน ทั้งวัน และทุกวัน เพื่อไม่ให้เราเศร้า และไม่อยากให้เราอยู่คนเดียว เวลาเราร้องไห้เค้าก็จะปลอบคือเอาง่ายๆ ดูดี มากอ่ะ และเข้าใจใช่ป่ะค่ะว่าคนกำลังเศร้าและอ่อนแอพอเวลามีคนมาทำดีด้วยก็จะหลงไหลไปกับการกระทำเหล่านั้น ซึ่งเราไม่คิดมาก่อนเลยค่ะว่าที่เค้าทำทั้งหมดนั้นเพื่อแก้แค้นแฟนเก่าเรา!!!! T.T
เราก็ไม่รู้ค่ะคุยกันได้ประมาณ 4 วัน เราก็ตกลงคบกัน ด้วยความสัจจริงว่าอีกใจนึงเราก็ต้องการเย้ยแฟนเก่าเราด้วยแหละ "เหอะ ชั้นไม่ง้อนะย่ะ เลิกก็เลิกไปชั้นหาใหม่ได้อยู่เร็วและที่สำคัณเป็นเพื่อนเธอด้วย" ตอนนั้นในความคิดเราเป็นแบบนี้ค่ะเราคิดเองเออเองว่ามันก็ต้องมีจี๊ดกันบ้างแหละแหม! เลิกกับเธอและมาคบกับเพื่อนเธอต่อที่สำคัณไม่ถูกกันด้วย คือยอมรับค่ะว่าตอนนั้นโง่มาก T^T
พอเราตกลงคบกันได้อีก 1 อาทิตย์ถัดมาเราก็นัดเจอกันครั้งแรกค่ะ เพราะช่วงที่โทรคุยกันบ่อยๆนั้นเค้าอยู่ที่ จ.พิษณุโลก เราเลยนัดเค้าให้เข้ามา กทม. เราก็นัดเจอกัน ไปกินข้าวกัน คือเค้าเป็นคนที่คุยเก่งและกะล่อนมาก เจ้าชู้สุดๆ แต่ตอนนั้นเรากลับมองมันว่ามีเสน่ห์ซะงั้น = =' พอหลังจากกินข้าวเสร็จมันก็ประมาณ 3 ทุ่ม เค้าก้อบอกเราว่า รถเมล์ที่จะกลับบ้านแม่เค้าที่ปทุมธานีหมดแล้วขอนอนบ้าเราได้ไหม เราก็ เงียบไปแปปนึง ในใจก็คิดว่าเค้าคงไม่กล้าทำอะไรเราหรอกเพราะที่บ้านอยู่กันหลายคนอยู่แต่ครอบครัวเราจะอยู่แบบห้องใครห้องมันไม่ค่อยสุงสิงกันเลยมีทางที่จะแอบพาเข้าบ้านได้อยู่ เราก็บอกไปว่าโอเครงั้นเอาแบบนั้นก็ได้ และเราก็พาเค้าเข้าบ้าน พอถึงบ้านมันไม่ใช่อย่างงั้นซิค่ะสิ่งที่เราไม่ได้เตรียมใจไว้มันก็เกิด เค้ามีอะไรกับเราเลยค่ะ คือมันไวมาก และหลังจากนั้นเราก็คิดนะว่าจะฟันแล้วทิ้งป่ะว่ะ ก็กังวลอยู่เพราะไม่รู้ว่าเค้าคิดยังไงกันแน่ แต่เค้าก็บอกนะค่ะว่าไม่ทิ้งหรอก อย่าคิดมากที่ ทำแบบนี้เพราะกลัวเราจะเปลี่ยนใจกลัวเรากลับไปหาแฟนเก่า!! เห้อ! เราก็ดันเชื่อค่ะ และพอมีอะไรกันเรากลับยิ่งหลงเค้ามากกว่าเดิม ช่วงนั้นเรา บีบี ฮิตมาก คือเรามีโทรศัพท์สองเครื่องคือ บีบี กับโนเกียธรรมดาๆ เครื่องนึง เค้าก็บอกว่าเค้าไม่มีโทรศัพท์ใช้เลย เราก็อ่ะงั้นเราโนเกียไว้ใช้นะจะได้มีโทรคุยกัน เค้าก็ชอบเอา บีบี เราไปแอดพินเพื่อนๆเค้าเพื่อคุย เราก็ไม่ได้สนใจค่ะ อยากทำไรทำเลย ยอมทุกอย่าง และจากวันนั้นมาเค้าก็ยังคงอยู่บ้านเราค่ะ โดยแม่ก็รับรุ้ตั้งแต่เช้าของอีกวันว่าเราพาแฟนเข้าบ้านและแม่ก็ไม่ชอบเอามากๆ พยายามบอกให้เราบอกให้แฟนกลับบ้านได้แล้ว ทะเลาะกับแม่อยู่ตลอดๆเพราะเรื่องแฟนเรา คือตอนนั้นเราหลงแฟนเรามากหลงหัวปักหัวปรำ คือรู้ทั้งรุ้ว่าเขามาเกาะเรากิน เพราะเงินติดตัวมีแค่ค่ารถตอนมาเจอกับเราเอง ตลอดเวลาที่อยู่เราเป็นฝ่ายเลี้ยงเค้าตลอด แต่ก็ยังยอมให้แม่ว่า ยอมทะเลาะกับคนในครอบครัวเพราะไม่อยากห่างจากแฟน และช่วงนั้นต้องฝึกงานตอนจบ ม.6 ด้วยอีกคือ ทรหดมาก เราทำงาน จ-ส ช่วงเช้าแฟนจะนอนรออยู่ที่บ้านและพอใกล้ๆเลิกงานเค้าก็จะมารับเราด้วยเงินที่เราทิ้งไว้ให้นั่นแหละ! เหอะ! คิดๆแล้วก็นะ "ทำไมต้องยอม"
เรื่องก็ดำเนินมาเรื่อยๆจนถึงวันที่เค้ากลับไปอยู่บ้านเค้าเพราะทนเห็นเรากับแม่ทะเลาะกันไม่ได้แล้วคือทะเลาะกันทุกวันและแรงขึ้นๆด้วย เราก็อิดออดค่ะ ไม่อยากให้ไปแต่ก็ต้องยอม พอไปแล้วเค้าก็เริ่มทำตัวแปลกๆจากปกติโทรคุยทั้งวัน ขนาดตอนเราทำงานยังคาสายไว้เลย ก็เริ่มโทรไปแล้วไม่รับ ไม่คุยคาสายให้เหตุผลว่าคุยมากปวดหัว โทรไปนานๆก็ไม่รับจนเราสงสัยเลยรองเอาเครื่องเพื่อนที่ทำงานโทรไปเพราะ บีบี มันไม่ขึ้นรอสาย ปรากฏว่ามันขึ้น "รอสาย" ค่ะ เราก็เครียดเลย พอเค้ารับสายเค้าก็ตกใจที่เป็นเรา และก็บอกว่าคุยกลับแม่อยู่ แค่นี้นะ เราก็บอกเลยว่าประชุมสายเดี๋ยวนี้! เค้าก็รีบกดวางสายไปและรีบโทรเข้าเครื่องเราทันทีก็เถียงกันได้สักพักเค้าก็แถไป ทำตลกให้เราขำ และมันก็ได้ผลค่ะ! แต่จากวันนั้นมาเราก็เริ่มไม่ไว้ใจเค้าและรีบให้เค้ามาหาทันที มาอยู่ที่บ้านอีกเหมือนเดิม และก็ทะเลาะกับแม่อีกเหมือนเดิม T^T ช่วงนั้นทุกคนในบ้านบอกว่าเราเริ่มเกเรติดแฟนพี่สาวก็เริ่มตึงๆใส่เราก็เครียดเรื่องที่บ้านด้วย เรื่องแฟนด้วย ตอนนั้นทุกข์มากๆ แต่แฟนหรอค่ะ ไม่คิดอะไรเลย วันๆนอนเล่นบีบี ทองไม่รุ้ร้อนอ่ะไรทั้งนั้น เราก็เริ่มหนักใจแล้วว่า "เห้ยเลิกดีป่ะว่ะ เลิกเหอะไม่มีอะไรดีเลย" แต่อีกใจนึงก็เหมือนจะขาดเค้าไม่ได้จริงๆ ความสับสนมันตีกันไปมาแบบนี้อยู่ทุกวัน จนกระทั้ง วันนึงเราทำงานอยู่ ก็มีคนทัก บีบี มาก เราก็เห็นแล้วว่าคนที่ทักมาอยู่ในกรุ๊ปเพื่อนแฟนเรา คือปกติเวลาเราทำงานเราจะตั้งตัสว่าตอนนี้บีบีอยู่ที่เราซึ่งเพื่อนๆแฟนก็ไม่เคยทักมาเลย ก็ว่าจะไม่สนใจแล้วแต่มันไปสะดุดอยู่ตรงข้อความนี่ซิ
ข้อความในบีบี
เธอคนนั้น: นี่ตกลงแล้วเค้าเป็นอะไรในสายตาตัวเอง....
เราตกใจมาก วินาทีนั้น อึ้ง! แต่ก็ตั้งสติและเลยเนียนๆตอบไปว่า
เรา:ตัวเองอยากเป็นอะไรก็เป็นได้ทั้งนั้น แล้วเค้าหล่ะสำหรับเธอเป็นอะไร
เธอคนนั้น:.....อยากให้เป็นอะไรเค้าก็เป็นได้ทั้งนั้นแหละ เค้าจะรอ
คือตอนนั้นทั้งสั่น ทั้งอึ้ง ทั้งเสียใจ คือมันใช้ บีบี เราคุยกับคนอื่นมาโดยตลอดเลยหรอเนี่ย และประโยคนี้เราจำได้ขึ้นใจเลยและพอเลื่อนขึ้นไปดูประวัติการสนทนาก็ยิ่งช้ำค่ะ มีทั้งส่งว๊อยหากัน ข้อความบอกรักกัน และเราแบบ น้ำตาไหลพรากและรีบโทรหาแฟนเลย แฟนก็รีบมาหาที่ทำงานมาคุยมาเครียกันและมันก็เป็นอย่างที่ทุกคนคิด เค้าก็ขอโทษ และบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ใช่ค่ะเราก็เชื่อและให้อภัย! เค้ายังบอกอีกว่า ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาเองและเค้าก็บอกแล้วว่านี่ บีบี เรา แต่ผู้หญิงคนนั้นรับได้ทุกอย่าง เค้าก็บอกว่าเค้าขอโอกาสนะ จะไม่มีเรื่องแบบนี้อีก เราก็บอกเค้าไปเลยว่า โอเคไม่เลิกแต่ต่อไปนี้ไม่มีความเชื่อใจแล้วนะเพราะนี่ขนาด บีบี ชั้นเธอยังสามารถ ทำได้ถึงขนาดนี้ เธอเก่งมาก! ขนาดอยู่กับชั้นตลอด เธอยังทำได้ เทพจริงๆ เค้าก็บอกว่าโอเคงั้นวันนี้เลิกงานแล้วเค้าจะพาไปไหว้แม่เค้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าเค้าจริงจังกับเราจริงๆ เราก็โอเคไปก็ไป จากนั้นแฟนก็กลับไปเก็บเสื้อผ้าให้และไปรอเราอยู่ที่ท่าน้ำนนท์ พอเลิกงานเราก็ไปเจอเค้าที่นั้นและนั่งรถต่อไปหาแม่เค้าที่ปทุมฯ
พอไปถึงที่บ้านเค้าเราก็ถึงมารุ้ว่าบ้านเค้าอาศัยอยู่ใกล้กับญาติพ่อเลี้ยงคือแถวนั้นมีแต่ญาติพ่อเลี้ยงและเป็นธรรมดาที่ลูกเลี้ยงอย่างเค้าจะโดนเกลียดเค้าก็บอกว่าเราว่า รับได้ไหมที่บ้านเค้ากันดาน คือค่อนข้างกันดานนะจริงๆ เป็นสะพานปูนรอบๆเป็นคลองผ่านได้แค่จักรยานกับมอเตอร์ไซค์ต้องเดินเข้าไปไกลกว่าจะถึงบ้าน เราก็รับได้โอเคไม่มีปัญหา เราก็ไหว้แม่เค้า และทุกๆคนในบ้านเค้า เราไปบ้านเค้าโดยโกหกแม่ว่าไปนอนบ้านเพื่อนสนิท เพราะถ้าแม่รุ้คงไม่มีทางให้ไปแน่ และมันเป็นความซวยของเราที่วันที่สองเราดันตกน้ำ ทำให้บีบี พังไปโดยปริยาย เราเลยต้องยึดโนเกียที่เราเคยให้เค้าไว้ใช้มาใช้ก่อนเพราะแม่ชอบโทรมาเช็คเราบ่อยๆ เราเลยต้องกลับบ้านรีบเอาบีบี มาซ่อม และเค้ากับเราก็ไม่มีโทรศัพท์คุยกัน ความกังวลเพิ่มพูนมากเท่าตัวพอไม่มีโทรศัพท์เค้าก็จะนอกลู่นอกทางได้โดยที่เราไม่สามารถเช็คอะไรได้เลย เหมือนคนหูหนวกตาบอดเข้าไปอีก เค้าก็บอกเราว่าเค้าจะเอาโทรศัพท์แม่โทรมาหาแต่ได้แค่ตอนเย็นเพราะแม่เค้าต้องไปทำงาน บอกให้เราเชื่อใจ เราก็พยายามข่มใจไม่คิดมาก เค้าก็นั่งรถมาส่งที่บ้านและกลับบ้านเค้าไป เชื่อไหมค่ะ เซ็นส์ผู้หญิงแม่นมาก พอเค้ากลับบ้านไปเรากังวลมาก กลัวเค้าจะพาใครมานอนเหมือนแฟนเก่าเรากลัวไปหมด ตอนนั้นเครียดจนไม่เป็นอันทำอะไร งานก็ทำไม่ได้มีปัญหา หัวหน้าด่าเช้าเย็น แต่ใจเราไม่จดจ่อกับอะไรทั้งนั้น มันเอาแต่คิดว่าเค้าจะต้องพาใครมานอนที่บ้านแน่ๆ(อย่าด่าเรานะตอนนั้นเราบ้าจริงเรายอมรับ)
และมันก็เป็นอย่างที่เราคิดค่ะเพราะหลังจากที่เรากลับมาอยู่บ้านเค้าหายไปเลยค่ะ หายไปเฉยๆ เราได้คุยกับเค้าครั้งสุดท้ายคือตอนที่เค้าถึงบ้านและใช้เบอร์แม่เค้าโทรมาบอกว่าถึงบ้าน หลังจากนั้นมาคือหายไปเลย เรามารู้ตอนวันที่สองที่เค้าไม่โทรหา คือมันมืดแล้วเราก็แปลกใจว่าทำไมยังไม่ใช้เบอร์แม่โทรมาอีก เราก็เลยโทรกลับไปที่เบอร์แม่เค้า และเราก็ต้องใจหายอีกครั้ง แมื่อแม่เค้าบอกเราว่า "มันออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วแม่ไม่รุ้จะติดต่อมันยังไงดีเหมือนกันแม่คิดว่ามันอยู่กับเรานะเนี่ย" เราอึ้งค่ะ รีบตัดบทกับแม่และวางสายไป ในใจก็คิดว่า เค้าหายไปไหน ไปกับใคร ไปได้ยังไงทั้งที่มีตังแค่ 100 เดียวที่แม่ให้ไว้ และพอเย็นวันถัดมาเราก็โทรเช็คกับแม่อีก ก็ได้คำตอบเหมือนเดิมคือ ยังไม่กลับมา เราก็ใจเสียลงไปทุกวันๆ จนทนไม่ไหว วันที่ 4 ที่ไม่มีการติดต่ออะไรจากเค้าเลย เราก็เลยตัดสินใจลางานครึ่งวัน ไปตามหาเค้าที่บ้าน เราก็เสี่ยงนั่งรถเมล์ไปปทุมฯ คนเดียวเลยค่ะคือตอนนั้นแม่ยังไม่ปล่อยไปเที่ยวไหนเลย เลยขึ้นรถเมล์ยังไม่ชำนาญอะไรเลยและไปบ้านเค้าก็แค่ครั้งเดียวเอง เราเลยโทรคุยกับแม่เค้าว่าลงป้ายไหน ต่อรถอะไร แม่ก็น่ารักมากบอกเราทุกอย่าง พอไปถึงก็ไปเจอน้องสาวเค้าอยู่ น้องสาวเค้าค่อนข้างจะชอบเราก็เลยสนิทกัน เราก็สืบเสาะหาจากน้องๆแถวบ้านได้ความว่า "แฟนเราแต่งตัวออกไปประมาณ 9 โมงเช้าก่อนออกไปใช้โทรศัพท์น้องโทรหาใครคนนึงว่าจะถ้าถึงแล้วออกมารับด้วยจะใช้เบอร์ตู้โทรไปหาอีกที" เราได้ยินแบบนั้นหัวใจสลายเลยค่ะ คิดไว้แล้วว่าคงไม่ใช่เพื่อนแน่ๆ T_T และก็เลยถามเบอร์ที่เค้าใช้โทร แต่ปรากฏว่ามันหายไปแล้วน้องจำได้แค่ว่าขึ้นต้นด้วย 084 เราก็เลยใช้มือถือโนเกียของเราเปิดไล่โทรหาทีละเบอร์เลยค่ะ! เพราะในเครื่องโนเกียเค้าเมมเบอร์เพื่อนเค้าไว้อยู่ และลางสังหรณ์ของเราก็บอกให้โทรหาคนชื่อ"แก้ว" ก่อนเลย และเบอของนางก็ขึ้น ต้นด้วย 084 ค่ะ!!!
ไว้มาต่อใหม่นะค่ะ พาท 2 เข้มข้นมาก แล้วคุณผู้อ่านจะบอกได้คำเดียวว่า "