สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ขอคำปรึกษาค่ะ เข้าเรื่องเลยละกันนะคะ
คือเราและเพื่อนอีกสองคนที่เป็นคนลาว มาจากเวียงจันทร์ ได้ไปเที่ยวอเมริกาจองตั๋วเดินทางทั้งไปและกลับ โดยสายการบิน Etihad
ตั๋วเดินทางของเราขาไป Bkk-Jfk ขากลับเรากลับจาก แอลเอนะคะ Lax- Bkk
ของเพื่อนที่เป็นคนลาวสองคนเขาบินมาจากเวียงจันทร์เพื่อต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิ
ตั๋วของเพื่อนทั้งสอง Vientien(โดยสารการบินไทย)- Bkk- JFK
ขากลับก็ต้องเป็น Lax- Bkk- Vientien
ทีนี้ ประเด็นก็คือ ขากลับของเราทั้งสาม เรื่องเป็นแบบนี้ค่ะ
วันที่ 27 เมษา เราทั้งสาม เช็คอินจากสนามบิน แอลเอที่เค้าเตอร์ Etihad โดยที่เพื่อนทั้งสองนางมีกระเป๋าที่ต้องซื้อน้ำหนักเพิ่ม 7ใบ ตกราคาใบละประมาณ 150 ดอลล่าห์ (ทางสายการบินอนุญาติให้โหลดได้ฟรีคนละสองใบ เบ็ดเสร็จมีกระเป๋าเดินทาง11ใบนะคะ) เพื่อนต้องไปลงปลายทางคือ เวียงจันทร์โดยของทั้งหมดก็ต้องลงเวียงจันทร์ด้วย แต่กราวน์แจ้งว่า ทางEtihad จะส่งะเป๋าถึงได้แค่ สุวรรณภูมิเท่านั้น จากนั้นเราต้องเอากระเป๋าไปทรานส์เฟอร์การบินไทยเพื่อจะไปต่อเวียงจันทร์เอง ซึ่งพวกเรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากและยังไงกระเป๋า ของเพื่อนทั้งหมดไม่ผ่านศุลกากรไทยแน่นอน เพราะต้องลากของทั้งหมด11ใบ เดินออกมาเช็คอินหน้าเค้าเตอร์ เลยได้เจรจากันใหม่ว่า แล้วทำไมขาเดินทางไป คือ Vientien- Bkk- JFK เพื่อนก็มีกระเป๋ามาจากเวียงจันทร์และทางสายการบินก็จัดการทรานเฟอร์กันเรียบร้อย โดยที่ไปลงปลายทางคือ JFK ได้เลย พูดเสร็จ กราวด์ก็งุงิๆ อยู่สักพักนึง จึงตอบพวกเรากลับมาว่าได้!!!!
สรุปขึ้นเครื่องจาก Lax 18 ชั่วโมง มาลงที่ อาบูดาบีเพื่อต่อเครื่องไปกรุงเทพ โดยเครื่องจะออก 21.30 น. วันนั้นคือวันที่ 28 เมษายน
โดยตามตารางบินเราจะต้องถึง อาบูดาบี เวลา 20.30 น. แต่ ณ ตอนนั้น เครื่องบินเราถึง 21.00 น. ที่คิดไว้ว่ามีเวลาวิ่งต่อเครื่อง 1 ชั่วโมง ฉิวเฉียด มันกลับเหลือแค่ ครึ่ง ชั่วโมง เราเลยแจ้งแอร์บนเครื่องว่า ช่วยโทรไปแจ้งไฟล์ทต่อของเราให้หน่อยว่าเราถึงอาบูดาบีแล้ว รอเราหน่อยนะ แอร์บอกว่า ไม่ต้องกังวลหรอก ไม่ได้มีแค่พวกเราที่รอไป ไฟลท์ต่อกรุงเทพ มีอีกหลายคน ยังไงเขาก็รอ ฟังดูแล้วสบายใจ
ทีนี้เหตุการณ์ตอนลงจากเครื่อง กำลังต้องเดินไปผ่านแสกนเข้าสนามบิน ก็มีกราวด์มาเรียกว่า ใครที่ไปต่อกรุงเทพให้ตามมา พวกเราก็เดินมารวมกัน เบ็ดเสร็จ ณ ตอนนั้น มีคุณป้าอีกสองท่าน เดินสมทบมาด้วย รวมกันเป็นคนที่จะต้องต่อไปกรุงเทพ 5 คน เวลา ณ ตอนที่ยืนรวมกันตอนนั้น 21.15 น.
ทีนี้ กราวน์ส่งตั๋วใหม่ ให้พวกเราทั้ง 5 คน เป็น เวลาออกเป็นของอีกวันที่ 29 เมษายนตอน20.30น. พวกเราทุกคนงงว่า ทำไมไม่ให้วิ่งไปขึ้นเครื่อง ทั้งๆที่พอมีเวลา ต่อให้เหลืออีกสิบนาทีก็เถอะ เพราะยังไงก็ตาม ทางฝั่งเครื่องที่เรามาจาก แอลเอก็ทำเราดีเลย์และพวกเราก็อยู่ที่สนามบินแล้วด้วย เท่าที่เข้าใจตอนนั้นคือเราทั้ง5คน คงต้องตกเครื่องและนอนสนามบินไปก่อน
และอีกสักพัก ก็มีกราวน์อีกคนวิ่งมาแล้วส่งตั๋วใหม่อีกสองใบให้คุณป้าทั้งสองแล้วบอกให้รีบวิ่งไปขึ้นเครื่องเดิมตามเวลา แต่ปล่อยให้เรากับเพื่อนรอ... เราถามว่าทำไมไม่ให้เราวิ่งตามไปด้วยล่ะ กราวด์ไม่พูดอะไร ได้แต่บอกให้รอ และอีกสักไม่เกินห้านาทีก็ส่งตั๋วมาให้เราใหม่(เฉพาะเราคนเดียว)แล้วบอกให้เราวิ่งตามป้าสองคนนั้นไปโดยเร็ว เราหันไปมองเพื่อนและทุกคนก็เข้าใจว่าเดี๋ยวคงได้วิ่งตามๆกันไปขึ้นเครื่องแบบงงๆ เพราะมันฉุกละหุกมาก
เราวิ่งมาถึงทางประตูเกต เราจะยืนรอเพื่อน แต่กราวด์บอกให้เข้าไปเลย ไม่ต้องรอแล้ว เพราะมีเราไปได้คนเดียว ณ ตอนนั้น เข้าเครื่องไปแบบ งงๆค่ะ ว่าทำไมเพื่อนเรามาไม่ได้
เดินงงๆ ไปหาที่นั่ง ลากแครี่ออนผ่าน บิสิเนส คลาสไปทางอีโคโนมี่(เพราะจำจากตั๋วเก่าคร่าวๆว่าอยู่50กว่าๆมั้ง) หยิบตั๋วขึ้นมาดูที่นั่ง คือ 10 C เงยหน้ามองที่นั่ง หา 10 C ไม่เจอ ณ ตอนนั้น โซน อิโค่ เลขแรกคือ 15 เดินถอยหลังกลับไปแบบยิ่ง งง หนักเข้าไปใหญ่ คือ เลข 10 C มันอยู่ในโซน บิสิเนส (ตกใจ และยิ่งโค ตะ ระ งง + เนื้อตรูดเต้น ระริก) ในความตกใจเหมือนจะตกเครื่อง ดูน่าหวาดเสียวและโชคร้าย แต่ อิฉันได้ที่นั่ง บิสิเนส ครั้งแรกในชีวิต วางตัวไม่ถูก เดินถอยหลังลากแครี่ออนกลับมาอย่างเนียนๆ ยกกระเป๋าเก็บ แล้วลงมานั่งเก้าอี้บิสิเนส ครั้งแรก หลังจากที่ตลอดชีวิตได้แต่เดินผ่าน และเคยเห็นเด็ก10ขวบนั่งกระดิกขา ตรงที่นั่งบิสิเนสชิวๆ พร้อมทั้งในใจเราเคยอิจฉาและด่ามันว่า เออ พ่อ

รวยพร้อมกับพึมพำ งึมงัมๆว่าสักวันนึงเถอะ จะเก็บตังค์นั่งให้ได้ ....
ระหว่างนั่งก็ทำตัวไม่ถูกคร่า จะกดปรับเบาะให้เอนนอน ก็ค่อยๆเอามือลูบไปข้างๆเบาะเบาๆ ใช้หางตา แอบมอง ลุงฝรั่งที่ข้างๆ หาที่ปรับเบาะนอนแบบเนียนๆ เสมอเหมือนว่านี่ไม่ใช้ครั้งแรกนะ อิอิ ผลันสายตาก็เหลือบไปเห็นป้าทั้งสองที่ยืนด้วยกันที่สนามบิน ได้นั่งโซนบิสิเนสด้วย เลยเดินไปหาและคุยกัน ถึงเรื่องราว เลยสรุปได้ว่า ทางสายการบินน่าจะมีการ Over sale ตั๋ว มั้งคะ เพราะว่า จะเป็นไปได้ไงอ่ะ พวกเราถือตั๋วเครื่องบินที่กำหนดหมายเลขที่นั่งกันมา แล้ว จู่ๆ จะไม่ให้เราได้ขึ้นเครื่อง และจู่ๆก็รีบให้เราตามมาขึ้นเครื่อง แต่ไม่ได้นั่งที่ตัวเอง คงเพราะมีคนถือตั๋วเหมือนพวกเราและได้มาเช็คอินขึ้นเครื่องก่อน พอกราวด์เห็นที่นั่ง บิสิเนสเหลือ เลยรีบจับพวกเรายัดๆเข้ามาด้วย เป็นความโชคดีที่ได้นั่งบิสิเนส และทันเครื่องของพวกเรา แต่มันเป็นความโชคร้ายของเพื่อนทั้งสองที่ยังได้อยู่สนามบินอาบูดาบี และถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างไม่มีเจ้าหน้าที่มาสนใจ ให้นอนอนาถาตรงเก้าอี้สนามบิน 12 ชั่วโมงทั้งๆที่เคยได้ยินมาว่าหากมีการรอเครื่องเกิน 6 ชั่วโมงทางสายการบินต้องมีการมารับไปพักที่ รร. สนามบิน
เรื่องไม่ได้จบแค่นี้ค่ะ 12 ชั่วโมงที่เพื่อนมาถึงกรุงเทพ เป็นเวลา เที่ยงคืน และไม่มีเครื่องต่อไปเวียงจันทร์แล้ว เพราะ ตามตารางคือต้องถึงกรุงเทพพร้อมกันทั้งหมด วันที่ 29 เมษายน 07.10 น. และ ต่อเครื่องการบินไทยไปลงเวียงจันทร์เวลา 11 โมง
สองสาวจึงต้องเดินทางหาที่พักกันเอง และเจ็ดโมงเช้า จึงออกมาสนามบินเพื่อติดต่อ กราวด์ของ Etihad และเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กราวด์ฟัง โดยกราวด์ที่เราเข้าไปติดต่อ คือหัวหน้าและเป็นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ เรื่องต่างๆ ณ เค้าเตอร์นั้น
พวกเราได้เล่าเหตุการณ์อย่างสงบ และขอความเห็นใจ อย่างน้อย ทางสายการบินเขาทำสองคนนี้ตกเครื่องจากอาบูดาบีไม่ว่า แต่มันตกเครื่องต่อไปเวียงจันทร์ด้วย ทางเขาควรจะต้องซับพอร์ต อย่างน้อย หาตั๋วไปเวียงจันทร์ให้ กราวด์ยัยเจ้นี่จึงทำเสมอเหมือนจะดูแลให้ และ ส่งเรื่องให้น้องสตาฟคนหนึ่ง พาพวกเราเดินไปที่เค้าเตอร์ซื้อตั๋วของการบินไทย เท่าที่พวกเราทุกคนเข้าใจคือ ทาง Etihad จะติดต่อการบินไทยเพื่อทำเรื่องออกตั๋วให้เพื่อนเรา ตอนนั้นจาก เจ็ดโมงกว่า ยืนรอ อยู่เคาเตอร์การบินไทยจนถึงแปดโมงกว่า พวกเราเริ่มสงสัยว่าทำไมเรื่องมันนานจัง เลยถามน้องสตาฟที่เดินไปด้วยว่า ตกลงนี่ ชั่วโมงกว่าๆ เรารออะไรกันอยู่ น้องสตาฟตอบว่า รอโทรศัพท์อนุมัติจากพี่หัวหน้าบนออฟฟิศอยู่ พวกเราก็ งง ว่าทำไมอนุมัตินาน เราเลยเดินไปที่เค้าทเตอร์เพื่อจะถามหัวหน้ากราวด์ด้วยตัวเอง สรุป เคาท์เตอร์ปิดไปแล้วจร้า คือที่ยืนรอกันตรงที่ซื้อตั๋วการบินไทย นั่นเป็นการถ่วงเวลา และน้องสตาฟที่มายืนรอด้วยใส่เสื้อของ ลุฟเทนซ่า เราก็ไม่รู้ไงว่าจริงๆน้องเขาทำหน้าที่อะไร แต่เจ้หัวหน้ากราวด์ของ Etihad บอกให้น้องเขาเดินไปกับพวกเราทำเหมือนจะช่วยประสานงานให้
พวกเราเริ่มถามน้องว่า ตกลงให้รออะไร น้องหน้าเสียและน้องพูดว่าน้องทำอะไรไม่ได้ เขาให้มายืนกับพวกเราเฉยๆ รอโทรศัพท์อนุมัติ ณ ตอนนั้น เก้าโมงเกือบสิบโมง เครื่องการบินไทยมีรอบไปเวียงจันทร์คือ 11 โมงรอบเดียว เท่ากับว่าพวกเราต้องซื้อตั๋วเอง ไม่งั้น ได้นอนสนามบิน หรือเสียเวลาอยู่ที่ ไทย อีก1 วัน ซึ่งเพื่อนทั้งสองก็เหนื่อยจากการเดินทาง มามากแล้ว อยากกลับบ้านเต็มทน จึงต้องจ่ายเงินซื้อตั๋วเอง ตั๋วไปเวียงจันทร์การบินไทยตอนนั้น คนละ 5500 บาท และ ที่สำคัญ ต้องจ่ายค่ากExtra กระเป๋า ทั้ง 7 ใบ จากกรุงเทพ-เวียงจันทร์อีกใบละ150 ดอลล่าห์ สรุป เสียค่ากระเป๋าเพิ่มอีกรอบ
หลังจากที่เพื่อนถึงเวียงจันทร์ ทั้งเวลาคลาดเคลื่อน เสียงานด้วยค่ะ เขามีนัดต้องส่งของให้ลูกค้าต่อ และเสียเงินค่าตั๋ว ค่ากระเป๋า ฟรีๆไปอีก 1050 ดอลล่าห์ นี่สามหมื่นกว่าบาทแล้ว เสียความรู้สึกกับสายการบินนี้อีกมากๆ เราก็เสียใจที่เพื่อนต้องเจอกับเหตุการณ์นี้ค่ะ ถ้าเรื่องมาเป็นเรา เราต้องโดนแบบนี้ มีกรี๊ดสนามบินแตกแน่ๆ
เราเลยอาสาทำเรื่อง เล่ารายละเอียดที่เกิดขึ้นกับเพื่อน ไปที่หน้าเฟสบุคของสายการบิน Etihad ค่ะ (และได้มีโอกาสอ่านคอมเม้นท์คนอื่นด้วย มีคนโพสต์คอมเพลนเพียบเลย ทั้งเรื่องตกเครื่อง เรื่องกระเป๋า) ไม่เกิน 5นาทีมีเจ้าหน้าที่ตอบกลับมา ว่าให้แจ้งเรื่องไปที่ อีเมลของสายการบิน และเราก็ได้เมลไปค่ะ แจ้งอย่างละเอียด พร้อมทั้งส่งหลักฐานคือพวกตั๋วเครื่องบินและใบการจองตั๋วทั้งไปและกลับทุกอย่าง และเราเขียนกำชับไว้บรรทัดท้ายสุดของอีเมลว่า หากไม่มีการรับผิดชอบใดๆจากสายการบิน เราจะแชร์โพสต์ของเราในทุกๆเวปไซต์ ที่เกี่ยวกับฟีตแบ็กการบิน ทุกๆโซเชียล ให้มีการรับรู้ในเรื่องที่เพื่อนเราเจอแบบนี้ทุกๆวัน จนกว่าจะมีการรับผิดชอบจากสายการบิน
และเจ้าหน้าที่ตอบอีเมลเรากลับมาประมาณ 3 วันจากที่ส่งเมลไปว่า ขอตรวจสอบข้อมูลก่อน และจะติดต่อกลับมาอีกทีค่ะ
ตอนแรกเรากับเพื่อนอยากไปสายการบิน อิมิเรตค่ะ แต่ทีนี้เอเย่นต์แจ้งว่าวันที่เราอยากบินนั้นไฟลท์เต็ม และมีสายการบินEtihad นี้ว่างพอดี พวกเราเลยคิดว่า การบริการน่าจะดี มั้งคะ คงพอๆกับ อิมิเรต เพราะอยู่ดูไบเหมือนกัน และเคยได้ยินมาว่าดี ก็เลยได้เลือกเดินทางที่นี่
ขอคำปรึกษาค่ะว่าควรทำอะไรอย่างไร ต่อไปดี ไม่ทราบเกี่ยวกับกฏหมายการบินเลยค่ะ เคยอ่านจากพันทิพว่ามีคนตกเครื่องลอนดอน 30 ชั่วโมง ด้วยกฎการบินยุโรปแล้วมันต้องมีการชดใช้ แต่นี่ทางฝั่งอเมริกาแล้ว ไม่ทราบเลยค่ะ หรืออย่างน้อย กระทู้นี้น่าจะได้เป็นประสบการ์ให้เพื่อนๆได้อ่าน ได้รับรู้เกี่ยวกับสายการบินนี้อ่ะค่ะ
*** ขอเพิ่มเติมนะคะ ทางสายการบินได้ ยื่นกระดาษA4 ที่เขียนมีใจความประมาณว่า " ขออภัยที่เกิดการดีเลย์ ล่าช้าของเครื่องทำให้เพื่อนไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ตามกำหนด" เหมือนว่าเป็นกระดาษที่เขียนขึ้นแสดงคำขอโทษ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ค่ะ เพราะเราจองกันมา 3 คน แต่เราได้ขึ้นมาคนเดียวแต่ของเพื่อนทั้งสองไม่ได้มาด้วย
เขียนผิดถูกอย่างไร ขออภัยนะคะ
อยากสอบถามผู้รู้ เพื่อนตกเครื่องและไม่ได้รับการเหลียวแล จากสายการบินอิทิหัดค่ะ ทำไงดีคะ
คือเราและเพื่อนอีกสองคนที่เป็นคนลาว มาจากเวียงจันทร์ ได้ไปเที่ยวอเมริกาจองตั๋วเดินทางทั้งไปและกลับ โดยสายการบิน Etihad
ตั๋วเดินทางของเราขาไป Bkk-Jfk ขากลับเรากลับจาก แอลเอนะคะ Lax- Bkk
ของเพื่อนที่เป็นคนลาวสองคนเขาบินมาจากเวียงจันทร์เพื่อต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิ
ตั๋วของเพื่อนทั้งสอง Vientien(โดยสารการบินไทย)- Bkk- JFK
ขากลับก็ต้องเป็น Lax- Bkk- Vientien
ทีนี้ ประเด็นก็คือ ขากลับของเราทั้งสาม เรื่องเป็นแบบนี้ค่ะ
วันที่ 27 เมษา เราทั้งสาม เช็คอินจากสนามบิน แอลเอที่เค้าเตอร์ Etihad โดยที่เพื่อนทั้งสองนางมีกระเป๋าที่ต้องซื้อน้ำหนักเพิ่ม 7ใบ ตกราคาใบละประมาณ 150 ดอลล่าห์ (ทางสายการบินอนุญาติให้โหลดได้ฟรีคนละสองใบ เบ็ดเสร็จมีกระเป๋าเดินทาง11ใบนะคะ) เพื่อนต้องไปลงปลายทางคือ เวียงจันทร์โดยของทั้งหมดก็ต้องลงเวียงจันทร์ด้วย แต่กราวน์แจ้งว่า ทางEtihad จะส่งะเป๋าถึงได้แค่ สุวรรณภูมิเท่านั้น จากนั้นเราต้องเอากระเป๋าไปทรานส์เฟอร์การบินไทยเพื่อจะไปต่อเวียงจันทร์เอง ซึ่งพวกเรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากและยังไงกระเป๋า ของเพื่อนทั้งหมดไม่ผ่านศุลกากรไทยแน่นอน เพราะต้องลากของทั้งหมด11ใบ เดินออกมาเช็คอินหน้าเค้าเตอร์ เลยได้เจรจากันใหม่ว่า แล้วทำไมขาเดินทางไป คือ Vientien- Bkk- JFK เพื่อนก็มีกระเป๋ามาจากเวียงจันทร์และทางสายการบินก็จัดการทรานเฟอร์กันเรียบร้อย โดยที่ไปลงปลายทางคือ JFK ได้เลย พูดเสร็จ กราวด์ก็งุงิๆ อยู่สักพักนึง จึงตอบพวกเรากลับมาว่าได้!!!!
สรุปขึ้นเครื่องจาก Lax 18 ชั่วโมง มาลงที่ อาบูดาบีเพื่อต่อเครื่องไปกรุงเทพ โดยเครื่องจะออก 21.30 น. วันนั้นคือวันที่ 28 เมษายน
โดยตามตารางบินเราจะต้องถึง อาบูดาบี เวลา 20.30 น. แต่ ณ ตอนนั้น เครื่องบินเราถึง 21.00 น. ที่คิดไว้ว่ามีเวลาวิ่งต่อเครื่อง 1 ชั่วโมง ฉิวเฉียด มันกลับเหลือแค่ ครึ่ง ชั่วโมง เราเลยแจ้งแอร์บนเครื่องว่า ช่วยโทรไปแจ้งไฟล์ทต่อของเราให้หน่อยว่าเราถึงอาบูดาบีแล้ว รอเราหน่อยนะ แอร์บอกว่า ไม่ต้องกังวลหรอก ไม่ได้มีแค่พวกเราที่รอไป ไฟลท์ต่อกรุงเทพ มีอีกหลายคน ยังไงเขาก็รอ ฟังดูแล้วสบายใจ
ทีนี้เหตุการณ์ตอนลงจากเครื่อง กำลังต้องเดินไปผ่านแสกนเข้าสนามบิน ก็มีกราวด์มาเรียกว่า ใครที่ไปต่อกรุงเทพให้ตามมา พวกเราก็เดินมารวมกัน เบ็ดเสร็จ ณ ตอนนั้น มีคุณป้าอีกสองท่าน เดินสมทบมาด้วย รวมกันเป็นคนที่จะต้องต่อไปกรุงเทพ 5 คน เวลา ณ ตอนที่ยืนรวมกันตอนนั้น 21.15 น.
ทีนี้ กราวน์ส่งตั๋วใหม่ ให้พวกเราทั้ง 5 คน เป็น เวลาออกเป็นของอีกวันที่ 29 เมษายนตอน20.30น. พวกเราทุกคนงงว่า ทำไมไม่ให้วิ่งไปขึ้นเครื่อง ทั้งๆที่พอมีเวลา ต่อให้เหลืออีกสิบนาทีก็เถอะ เพราะยังไงก็ตาม ทางฝั่งเครื่องที่เรามาจาก แอลเอก็ทำเราดีเลย์และพวกเราก็อยู่ที่สนามบินแล้วด้วย เท่าที่เข้าใจตอนนั้นคือเราทั้ง5คน คงต้องตกเครื่องและนอนสนามบินไปก่อน
และอีกสักพัก ก็มีกราวน์อีกคนวิ่งมาแล้วส่งตั๋วใหม่อีกสองใบให้คุณป้าทั้งสองแล้วบอกให้รีบวิ่งไปขึ้นเครื่องเดิมตามเวลา แต่ปล่อยให้เรากับเพื่อนรอ... เราถามว่าทำไมไม่ให้เราวิ่งตามไปด้วยล่ะ กราวด์ไม่พูดอะไร ได้แต่บอกให้รอ และอีกสักไม่เกินห้านาทีก็ส่งตั๋วมาให้เราใหม่(เฉพาะเราคนเดียว)แล้วบอกให้เราวิ่งตามป้าสองคนนั้นไปโดยเร็ว เราหันไปมองเพื่อนและทุกคนก็เข้าใจว่าเดี๋ยวคงได้วิ่งตามๆกันไปขึ้นเครื่องแบบงงๆ เพราะมันฉุกละหุกมาก
เราวิ่งมาถึงทางประตูเกต เราจะยืนรอเพื่อน แต่กราวด์บอกให้เข้าไปเลย ไม่ต้องรอแล้ว เพราะมีเราไปได้คนเดียว ณ ตอนนั้น เข้าเครื่องไปแบบ งงๆค่ะ ว่าทำไมเพื่อนเรามาไม่ได้
เดินงงๆ ไปหาที่นั่ง ลากแครี่ออนผ่าน บิสิเนส คลาสไปทางอีโคโนมี่(เพราะจำจากตั๋วเก่าคร่าวๆว่าอยู่50กว่าๆมั้ง) หยิบตั๋วขึ้นมาดูที่นั่ง คือ 10 C เงยหน้ามองที่นั่ง หา 10 C ไม่เจอ ณ ตอนนั้น โซน อิโค่ เลขแรกคือ 15 เดินถอยหลังกลับไปแบบยิ่ง งง หนักเข้าไปใหญ่ คือ เลข 10 C มันอยู่ในโซน บิสิเนส (ตกใจ และยิ่งโค ตะ ระ งง + เนื้อตรูดเต้น ระริก) ในความตกใจเหมือนจะตกเครื่อง ดูน่าหวาดเสียวและโชคร้าย แต่ อิฉันได้ที่นั่ง บิสิเนส ครั้งแรกในชีวิต วางตัวไม่ถูก เดินถอยหลังลากแครี่ออนกลับมาอย่างเนียนๆ ยกกระเป๋าเก็บ แล้วลงมานั่งเก้าอี้บิสิเนส ครั้งแรก หลังจากที่ตลอดชีวิตได้แต่เดินผ่าน และเคยเห็นเด็ก10ขวบนั่งกระดิกขา ตรงที่นั่งบิสิเนสชิวๆ พร้อมทั้งในใจเราเคยอิจฉาและด่ามันว่า เออ พ่อ
ระหว่างนั่งก็ทำตัวไม่ถูกคร่า จะกดปรับเบาะให้เอนนอน ก็ค่อยๆเอามือลูบไปข้างๆเบาะเบาๆ ใช้หางตา แอบมอง ลุงฝรั่งที่ข้างๆ หาที่ปรับเบาะนอนแบบเนียนๆ เสมอเหมือนว่านี่ไม่ใช้ครั้งแรกนะ อิอิ ผลันสายตาก็เหลือบไปเห็นป้าทั้งสองที่ยืนด้วยกันที่สนามบิน ได้นั่งโซนบิสิเนสด้วย เลยเดินไปหาและคุยกัน ถึงเรื่องราว เลยสรุปได้ว่า ทางสายการบินน่าจะมีการ Over sale ตั๋ว มั้งคะ เพราะว่า จะเป็นไปได้ไงอ่ะ พวกเราถือตั๋วเครื่องบินที่กำหนดหมายเลขที่นั่งกันมา แล้ว จู่ๆ จะไม่ให้เราได้ขึ้นเครื่อง และจู่ๆก็รีบให้เราตามมาขึ้นเครื่อง แต่ไม่ได้นั่งที่ตัวเอง คงเพราะมีคนถือตั๋วเหมือนพวกเราและได้มาเช็คอินขึ้นเครื่องก่อน พอกราวด์เห็นที่นั่ง บิสิเนสเหลือ เลยรีบจับพวกเรายัดๆเข้ามาด้วย เป็นความโชคดีที่ได้นั่งบิสิเนส และทันเครื่องของพวกเรา แต่มันเป็นความโชคร้ายของเพื่อนทั้งสองที่ยังได้อยู่สนามบินอาบูดาบี และถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างไม่มีเจ้าหน้าที่มาสนใจ ให้นอนอนาถาตรงเก้าอี้สนามบิน 12 ชั่วโมงทั้งๆที่เคยได้ยินมาว่าหากมีการรอเครื่องเกิน 6 ชั่วโมงทางสายการบินต้องมีการมารับไปพักที่ รร. สนามบิน
เรื่องไม่ได้จบแค่นี้ค่ะ 12 ชั่วโมงที่เพื่อนมาถึงกรุงเทพ เป็นเวลา เที่ยงคืน และไม่มีเครื่องต่อไปเวียงจันทร์แล้ว เพราะ ตามตารางคือต้องถึงกรุงเทพพร้อมกันทั้งหมด วันที่ 29 เมษายน 07.10 น. และ ต่อเครื่องการบินไทยไปลงเวียงจันทร์เวลา 11 โมง
สองสาวจึงต้องเดินทางหาที่พักกันเอง และเจ็ดโมงเช้า จึงออกมาสนามบินเพื่อติดต่อ กราวด์ของ Etihad และเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กราวด์ฟัง โดยกราวด์ที่เราเข้าไปติดต่อ คือหัวหน้าและเป็นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ เรื่องต่างๆ ณ เค้าเตอร์นั้น
พวกเราได้เล่าเหตุการณ์อย่างสงบ และขอความเห็นใจ อย่างน้อย ทางสายการบินเขาทำสองคนนี้ตกเครื่องจากอาบูดาบีไม่ว่า แต่มันตกเครื่องต่อไปเวียงจันทร์ด้วย ทางเขาควรจะต้องซับพอร์ต อย่างน้อย หาตั๋วไปเวียงจันทร์ให้ กราวด์ยัยเจ้นี่จึงทำเสมอเหมือนจะดูแลให้ และ ส่งเรื่องให้น้องสตาฟคนหนึ่ง พาพวกเราเดินไปที่เค้าเตอร์ซื้อตั๋วของการบินไทย เท่าที่พวกเราทุกคนเข้าใจคือ ทาง Etihad จะติดต่อการบินไทยเพื่อทำเรื่องออกตั๋วให้เพื่อนเรา ตอนนั้นจาก เจ็ดโมงกว่า ยืนรอ อยู่เคาเตอร์การบินไทยจนถึงแปดโมงกว่า พวกเราเริ่มสงสัยว่าทำไมเรื่องมันนานจัง เลยถามน้องสตาฟที่เดินไปด้วยว่า ตกลงนี่ ชั่วโมงกว่าๆ เรารออะไรกันอยู่ น้องสตาฟตอบว่า รอโทรศัพท์อนุมัติจากพี่หัวหน้าบนออฟฟิศอยู่ พวกเราก็ งง ว่าทำไมอนุมัตินาน เราเลยเดินไปที่เค้าทเตอร์เพื่อจะถามหัวหน้ากราวด์ด้วยตัวเอง สรุป เคาท์เตอร์ปิดไปแล้วจร้า คือที่ยืนรอกันตรงที่ซื้อตั๋วการบินไทย นั่นเป็นการถ่วงเวลา และน้องสตาฟที่มายืนรอด้วยใส่เสื้อของ ลุฟเทนซ่า เราก็ไม่รู้ไงว่าจริงๆน้องเขาทำหน้าที่อะไร แต่เจ้หัวหน้ากราวด์ของ Etihad บอกให้น้องเขาเดินไปกับพวกเราทำเหมือนจะช่วยประสานงานให้
พวกเราเริ่มถามน้องว่า ตกลงให้รออะไร น้องหน้าเสียและน้องพูดว่าน้องทำอะไรไม่ได้ เขาให้มายืนกับพวกเราเฉยๆ รอโทรศัพท์อนุมัติ ณ ตอนนั้น เก้าโมงเกือบสิบโมง เครื่องการบินไทยมีรอบไปเวียงจันทร์คือ 11 โมงรอบเดียว เท่ากับว่าพวกเราต้องซื้อตั๋วเอง ไม่งั้น ได้นอนสนามบิน หรือเสียเวลาอยู่ที่ ไทย อีก1 วัน ซึ่งเพื่อนทั้งสองก็เหนื่อยจากการเดินทาง มามากแล้ว อยากกลับบ้านเต็มทน จึงต้องจ่ายเงินซื้อตั๋วเอง ตั๋วไปเวียงจันทร์การบินไทยตอนนั้น คนละ 5500 บาท และ ที่สำคัญ ต้องจ่ายค่ากExtra กระเป๋า ทั้ง 7 ใบ จากกรุงเทพ-เวียงจันทร์อีกใบละ150 ดอลล่าห์ สรุป เสียค่ากระเป๋าเพิ่มอีกรอบ
หลังจากที่เพื่อนถึงเวียงจันทร์ ทั้งเวลาคลาดเคลื่อน เสียงานด้วยค่ะ เขามีนัดต้องส่งของให้ลูกค้าต่อ และเสียเงินค่าตั๋ว ค่ากระเป๋า ฟรีๆไปอีก 1050 ดอลล่าห์ นี่สามหมื่นกว่าบาทแล้ว เสียความรู้สึกกับสายการบินนี้อีกมากๆ เราก็เสียใจที่เพื่อนต้องเจอกับเหตุการณ์นี้ค่ะ ถ้าเรื่องมาเป็นเรา เราต้องโดนแบบนี้ มีกรี๊ดสนามบินแตกแน่ๆ
เราเลยอาสาทำเรื่อง เล่ารายละเอียดที่เกิดขึ้นกับเพื่อน ไปที่หน้าเฟสบุคของสายการบิน Etihad ค่ะ (และได้มีโอกาสอ่านคอมเม้นท์คนอื่นด้วย มีคนโพสต์คอมเพลนเพียบเลย ทั้งเรื่องตกเครื่อง เรื่องกระเป๋า) ไม่เกิน 5นาทีมีเจ้าหน้าที่ตอบกลับมา ว่าให้แจ้งเรื่องไปที่ อีเมลของสายการบิน และเราก็ได้เมลไปค่ะ แจ้งอย่างละเอียด พร้อมทั้งส่งหลักฐานคือพวกตั๋วเครื่องบินและใบการจองตั๋วทั้งไปและกลับทุกอย่าง และเราเขียนกำชับไว้บรรทัดท้ายสุดของอีเมลว่า หากไม่มีการรับผิดชอบใดๆจากสายการบิน เราจะแชร์โพสต์ของเราในทุกๆเวปไซต์ ที่เกี่ยวกับฟีตแบ็กการบิน ทุกๆโซเชียล ให้มีการรับรู้ในเรื่องที่เพื่อนเราเจอแบบนี้ทุกๆวัน จนกว่าจะมีการรับผิดชอบจากสายการบิน
และเจ้าหน้าที่ตอบอีเมลเรากลับมาประมาณ 3 วันจากที่ส่งเมลไปว่า ขอตรวจสอบข้อมูลก่อน และจะติดต่อกลับมาอีกทีค่ะ
ตอนแรกเรากับเพื่อนอยากไปสายการบิน อิมิเรตค่ะ แต่ทีนี้เอเย่นต์แจ้งว่าวันที่เราอยากบินนั้นไฟลท์เต็ม และมีสายการบินEtihad นี้ว่างพอดี พวกเราเลยคิดว่า การบริการน่าจะดี มั้งคะ คงพอๆกับ อิมิเรต เพราะอยู่ดูไบเหมือนกัน และเคยได้ยินมาว่าดี ก็เลยได้เลือกเดินทางที่นี่
ขอคำปรึกษาค่ะว่าควรทำอะไรอย่างไร ต่อไปดี ไม่ทราบเกี่ยวกับกฏหมายการบินเลยค่ะ เคยอ่านจากพันทิพว่ามีคนตกเครื่องลอนดอน 30 ชั่วโมง ด้วยกฎการบินยุโรปแล้วมันต้องมีการชดใช้ แต่นี่ทางฝั่งอเมริกาแล้ว ไม่ทราบเลยค่ะ หรืออย่างน้อย กระทู้นี้น่าจะได้เป็นประสบการ์ให้เพื่อนๆได้อ่าน ได้รับรู้เกี่ยวกับสายการบินนี้อ่ะค่ะ
*** ขอเพิ่มเติมนะคะ ทางสายการบินได้ ยื่นกระดาษA4 ที่เขียนมีใจความประมาณว่า " ขออภัยที่เกิดการดีเลย์ ล่าช้าของเครื่องทำให้เพื่อนไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ตามกำหนด" เหมือนว่าเป็นกระดาษที่เขียนขึ้นแสดงคำขอโทษ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ค่ะ เพราะเราจองกันมา 3 คน แต่เราได้ขึ้นมาคนเดียวแต่ของเพื่อนทั้งสองไม่ได้มาด้วย
เขียนผิดถูกอย่างไร ขออภัยนะคะ