ควรจะหยุด หรือไปต่อดี
พักหลังๆ เริ่มมีแต่คำว่าเลิกหลุดมาบ่อยเหลือเกิน
เราไม่มีค่าพอจะให้ได้จดจำสิ่งดีๆ ที่เราทำให้หรือไง
เค้ามองแต่สิ่งแวดล้อมเราไม่น่าอยู่
คอยพูดบ่อยๆ เฝ้าคิดสิ่งที่เค้าอยากทำ แต่ไม่ใช่ที่ๆ เราอยู่
ทั้งๆ ที่ ทุกวันนี้ สิ่งแวดล้อมตรงนี้ มันคือสิ่งที่กำลังจะสร้าง
อนาคต สร้างรายได้เพื่อดูแลครอบครัว
แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้คิดเหมือนเรา
หรือเป็นเพราะเราเข้ามาในช่วงที่เค้าแค่ต้องการคนปลอบใจ
พาไปเที่ยว พาไปให้เธอลืมอดีตที่เจ็บปวด
เหมือนเยียวยา พอหายดี จึงอยากผละไป อยากเป็นอิสระ
รวมถึงจากการพักเยียวยา เธอมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น
เธอมีคนชื่นชม เรามันก็แค่ที่พักให้เธอหายเจ็บปวดจากอดีต
สิ่งที่เราได้เคยคิดไว้ ว่าอนาคตเราจะได้อยู่ด้วยกัน
กลายเป็นเรื่องที่ถูกลืมไปแล้วมั้ง
เราไม่หวังอะไรจากคนที่เรารัก เราขอแค่เค้ารับสิ่งแวดล้อมเราได้
เราพร้อมเปลี่ยนตัวเราเอง ถึงได้ไม่หมด แต่ก็ทำได้
เท่าที่ให้อีกฝ่ายสบายใจ ไม่ฝืนใจ เราทำให้ได้หมด
เราไม่ต้องการคนสวย หรือคนน่ารัก
แต่หากเราได้คนเคียงข้าง สวย หรือน่ารัก
ก็ถือว่าเราโชคดี ที่ทำให้ใครๆ ก็ชื่นชมคนข้างกายเรา
เหมือนตอนนี้ แต่อะไรก็ไม่รู้ มาทำให้เราได้ฉุกคิดว่า
ณ เวลานี้ คนๆ นี้คงจะไม่ใช่คนของเรา
มันตรงข้ามกับความรู้สึกครั้งแรก ที่เราได้เอ่ยปากอยากดูแเลเค้า
เราอยากบอกว่า เราไม่ได้เป็นคนรวย มีเงินเลย
เราเป็นเพียงคนธรรมดาๆ ที่มีกิจการเล็กๆ ที่สามารถหาเงิน
ดูแลครอบครัว และคนที่เรารักได้ไปตลอดชีวิต
กับเธอคนนี้ เรารู้ว่าเธอลำบากมาตั้งแต่เด็กๆ
เราได้ฟังเรื่องราว ได้สัมผัสเธอและครอบครัว
ทำให้รู้ว่าเป็นครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นมาก
และเธอก็เป็นคนที่รักครอบครัวมาก
เราเลยรู้สึกรักเธอมากๆ จากตรงนี้
งานบ้านเธอก็เก่ง ไม่มีอะไรขาดตกเลย
เธอเป็นคนยิ้มสวย น่ารัก อยากมองทุกวัน
เราอยากดูแลเธอให้ดีที่สุดไปตลอดชีวิต ทำให้เธอและครอบครัว
มีความสุข ไม่ต้องลำบากอะไรอีก เราจะทำให้ได้ด้วยสองมือของเรา
นั่นคือทั้งหมดที่เราคิดไว้ อยากบอกว่าตอนนี้
ไม่ว่าคนที่เรารักจะสวย ไม่สวย ยังไง เราไม่สนเลย
เราขอแค่ เราทั้งสองจะเข้ากันได้ ไม่มีอุปสรรคในการใช้ชีวิตก็พอแล้ว
แต่มาช่วงหลังๆ นี้ เรามักจะถูกเธออารมณ์เสียใส่บ่อยๆ
เรื่องเล็กน้อย ที่เราไม่คิด ไปๆ มาๆ พอทะเลาะหรือไม่พอใจง่ายไป
เพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยบ่อยมากไป เราก็ต้องเถียง
แต่กลับกลายเป็นว่า ยิ่งทำให้ร้อนรน โกรธเคืองกันไป เราก็รู้สึกไม่ดี
ในใจอยากแค่ให้เธอได้คิดก่อนว่า เรื่องเล็กน้อย บอกหรือแนะก็ได้
อย่าเพิ่งใส่อารมณ์กับเรานักเลย เรายอมเพราะเรารัก
และระลึกถึงครอบครัวเค้าเสมอว่า เราไม่อยากทำให้เค้าเสียใจ
เพราะพ่อแม่เค้าน่ารักมากๆ เรากลัวทำให้พ่อแม่เค้าเป็นห่วง
เพราะต้องมาอยู่ที่ไกลๆ แบบนี้ ถ้าลูกไม่สบายใจ เราก็เข้าใจหัวอกพ่อแม่เค้า และเป็นสิ่งที่แม่เค้าเคยพบเจอมาจากอดีตที่เจ็บปวดของคนรักเก่า
ของเค้า เรายิ่งไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แย่ๆ ขึ้น เราเลยต้อง
ยอมและถอยออกมา ให้เค้าใจเย็นๆ แล้วค่อยคุยกัน
แต่บางครั้งเราเองก็ต้องทน จนถึงกับ น้อยใจ งอน ก็มีบ่อย
เราเองอยากบอกว่า เราเองก็เสียใจนะ ที่โดนโกรธบ่อยๆ
ทั้งๆ ที่ ถ้าเราคุยกันดีๆ มันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นเลย
วันนี้.. ก็ทะเลาะกันอีก เป็นเรื่องใหญ่ของเราเลย
เรื่องลูก แค่คิดกันเฉยๆ ถ้าวันนึงมีลูก จะให้เรียนไหน
คำตอบก็ออกมาเป็นสิ่งที่ไม่พอใจทั้งสองฝ่าย
เพราะอำเภอที่เราอยู่ ห่างไกลกับอำเภอครอบครัวของเธอ
1 พันกว่ากิโล เธออยากให้ลูกเรียนที่บ้านของเธอ
แต่เราอยากให้ลูกได้อยู่ใกล้ชิดพ่อแม่ ซึ่งคือ เราและเธอ ก่อน
ให้เราได้เรียนรู้การเติบโตของลูก ได้นอนกอดลูก จูงมือลูก
เฝ้าดูการเติบโตของลูกไปทุกๆ วัน ตั้งแต่เล็ก
ได้ถามไถ่ ไปงานโรงเรียนกับลูก ได้ไปส่งเค้าเรียน
ไม่อยากให้เค้าต้องไปอยู่กับทางตายายตั้งแต่เล็กๆ
เพราะเรากลัวว่า ความสัมพันธ์ครอบครัวจะห่างไป
เกิดเด็กถามหาพ่อแม่ จะทำยังไง
ไปๆ มาๆ เธอบอกว่า เธอก็จะไปอยู่กับลูกที่นั่นเลย
อ้าว... ตกลงจะทิ้งกันไปหมดเลย
เราเองทำกิจการเล็กๆ ก็ไม่ได้จ้างใคร หวังจะให้ช่วยกัน
ทำมาหากิน หาเงินส่งเสียลูกด้วยกัน
กลับเป็นว่า จะให้เราอยู่ห่างลูกคนเดียว
เราเลยบอกไปอย่างข้างต้น เธอก็ไม่พอใจ
เธอเริ่มตั้งคำถามว่า อำเภอที่ผมอยู่มีไรดีๆ มั่ง
เธอบอกไม่อยากให้ลูกอยู่สังคมแบบนี้
อยากให้อยู่ในเมืองไปเดินห้าง ไปนู่นนี่
เราบอก เราก็ทำได้ แต่ ณ วันนี้ ดูเหมือนเธอ
มองผมว่า ทำไมไ่ด้หรอก จะเอาเวลาไหนไป
ผมก็นิ่ง เงียบ ไปต่อไม่ถูก
ในเมื่อสิ่งที่ผมบอกทำได้ แต่เธอสรุปให้แล้วว่า ผมทำไม่ได้
ผมก็ไม่อยากพูดอะไรต่อ เพราะเธอไม่เชื่อใจอะไรผมอีกแล้ว
นี่ขนาดยังไม่มีลูกนะ แค่ถกกันเฉยๆ
แล้วผมก็คุยกันกับเธอว่า หากจะเข้าเมือง
เราก็ไปในย่านจังหวัดใกล้ๆ เราได้ ไปนู่นนี่
ไปพร้อมกัน พ่อแม่ลูก ให้ลูกค่อยๆ ได้พบเจอ
โตไปตามวัยของเค้า แต่เธอก็ดูเหมือนไม่รับฟัง
เพราะคำตอบที่ผมให้ไป ไม่ตรงกับคำตอบในใจเธอ
เธอมีสิ่งที่เธอคิดมากั้น คำตอบผมไว้แล้ว
คุยไปมา เธอบอกว่า ถ้าให้เลือกจะอยู่ที่นี่มั้ย
ในใจผม อยากตอบว่าอยู่ เพราะที่นี่เป็นบ้านเกิดผม
มีร้านที่ผมต้องดูแล แต่สิ่งแวดล้อมไม่เปลอดภัย
เพราะอยู่ใน 1 ใน 3 จว.ชายแดนใต้
ผมเลยตอบไปว่า ถ้าไปได้ก็จะไป
เพียงแต่ว่า ถ้าที่ไหน ทำมาหากินได้มากกว่า ก็จะอยู่ที่นั่น
แต่เธอก็ไม่รับฟัง เพราะสิ่งที่เธอต้องการคือไม่อยากอยู่ที่นี่
ทำไม ไม่เหมือนกับวันแรกที่เธอได้ก้าวเข้ามา
พูดไป เถียงกันไป สลับไปมา
จนกลายมาเป็นชนวนให้เกิดรอยร้าวครั้งนี้ขึ้น
ถ้าอนาคตตกลงกันไม่ได้ เห็นทีต้องเลิกกัน
นั่นคือทางออกที่เธอมักจะให้เรามาบ่อยๆ
ทำไม ทุกครั้งที่เรากำลังจะมีความสุข
กลับต้องเจอเรื่องผิดหวังแบบนี้ตอนท้ายทุกที...
ผมควรทำยังไงต่อไปดีครับ
ขอโทษด้วยเรื่องมันยาว มันอึดอัดในใจมานาน
มาระบาย พร้อมอยากได้ความคิดเห็นจากทุกท่าน
ผมตันไปหมดแล้ว ผมเหนื่อยจากงาน
ผมกลัวทำให้พ่อผิดหวัง เพราะพ่อก็ดูเอ็นดูกับเธอมาก
เธอคุยกับพ่อผมเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น
แต่ในขณะที่ผมอยู่ด้วยตรงนั้น มันเจ็บแปลบในใจจริงๆ ครับ
เพราะถ้าอนาคต คนๆ นี้ จะไม่ใช่คนที่จะอยู่ร่วมกันได้กับเรา
ผมควรจะทำยังไงต่อดี เรื่องความรักของผม
พักหลังๆ เริ่มมีแต่คำว่าเลิกหลุดมาบ่อยเหลือเกิน
เราไม่มีค่าพอจะให้ได้จดจำสิ่งดีๆ ที่เราทำให้หรือไง
เค้ามองแต่สิ่งแวดล้อมเราไม่น่าอยู่
คอยพูดบ่อยๆ เฝ้าคิดสิ่งที่เค้าอยากทำ แต่ไม่ใช่ที่ๆ เราอยู่
ทั้งๆ ที่ ทุกวันนี้ สิ่งแวดล้อมตรงนี้ มันคือสิ่งที่กำลังจะสร้าง
อนาคต สร้างรายได้เพื่อดูแลครอบครัว
แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้คิดเหมือนเรา
หรือเป็นเพราะเราเข้ามาในช่วงที่เค้าแค่ต้องการคนปลอบใจ
พาไปเที่ยว พาไปให้เธอลืมอดีตที่เจ็บปวด
เหมือนเยียวยา พอหายดี จึงอยากผละไป อยากเป็นอิสระ
รวมถึงจากการพักเยียวยา เธอมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น
เธอมีคนชื่นชม เรามันก็แค่ที่พักให้เธอหายเจ็บปวดจากอดีต
สิ่งที่เราได้เคยคิดไว้ ว่าอนาคตเราจะได้อยู่ด้วยกัน
กลายเป็นเรื่องที่ถูกลืมไปแล้วมั้ง
เราไม่หวังอะไรจากคนที่เรารัก เราขอแค่เค้ารับสิ่งแวดล้อมเราได้
เราพร้อมเปลี่ยนตัวเราเอง ถึงได้ไม่หมด แต่ก็ทำได้
เท่าที่ให้อีกฝ่ายสบายใจ ไม่ฝืนใจ เราทำให้ได้หมด
เราไม่ต้องการคนสวย หรือคนน่ารัก
แต่หากเราได้คนเคียงข้าง สวย หรือน่ารัก
ก็ถือว่าเราโชคดี ที่ทำให้ใครๆ ก็ชื่นชมคนข้างกายเรา
เหมือนตอนนี้ แต่อะไรก็ไม่รู้ มาทำให้เราได้ฉุกคิดว่า
ณ เวลานี้ คนๆ นี้คงจะไม่ใช่คนของเรา
มันตรงข้ามกับความรู้สึกครั้งแรก ที่เราได้เอ่ยปากอยากดูแเลเค้า
เราอยากบอกว่า เราไม่ได้เป็นคนรวย มีเงินเลย
เราเป็นเพียงคนธรรมดาๆ ที่มีกิจการเล็กๆ ที่สามารถหาเงิน
ดูแลครอบครัว และคนที่เรารักได้ไปตลอดชีวิต
กับเธอคนนี้ เรารู้ว่าเธอลำบากมาตั้งแต่เด็กๆ
เราได้ฟังเรื่องราว ได้สัมผัสเธอและครอบครัว
ทำให้รู้ว่าเป็นครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นมาก
และเธอก็เป็นคนที่รักครอบครัวมาก
เราเลยรู้สึกรักเธอมากๆ จากตรงนี้
งานบ้านเธอก็เก่ง ไม่มีอะไรขาดตกเลย
เธอเป็นคนยิ้มสวย น่ารัก อยากมองทุกวัน
เราอยากดูแลเธอให้ดีที่สุดไปตลอดชีวิต ทำให้เธอและครอบครัว
มีความสุข ไม่ต้องลำบากอะไรอีก เราจะทำให้ได้ด้วยสองมือของเรา
นั่นคือทั้งหมดที่เราคิดไว้ อยากบอกว่าตอนนี้
ไม่ว่าคนที่เรารักจะสวย ไม่สวย ยังไง เราไม่สนเลย
เราขอแค่ เราทั้งสองจะเข้ากันได้ ไม่มีอุปสรรคในการใช้ชีวิตก็พอแล้ว
แต่มาช่วงหลังๆ นี้ เรามักจะถูกเธออารมณ์เสียใส่บ่อยๆ
เรื่องเล็กน้อย ที่เราไม่คิด ไปๆ มาๆ พอทะเลาะหรือไม่พอใจง่ายไป
เพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยบ่อยมากไป เราก็ต้องเถียง
แต่กลับกลายเป็นว่า ยิ่งทำให้ร้อนรน โกรธเคืองกันไป เราก็รู้สึกไม่ดี
ในใจอยากแค่ให้เธอได้คิดก่อนว่า เรื่องเล็กน้อย บอกหรือแนะก็ได้
อย่าเพิ่งใส่อารมณ์กับเรานักเลย เรายอมเพราะเรารัก
และระลึกถึงครอบครัวเค้าเสมอว่า เราไม่อยากทำให้เค้าเสียใจ
เพราะพ่อแม่เค้าน่ารักมากๆ เรากลัวทำให้พ่อแม่เค้าเป็นห่วง
เพราะต้องมาอยู่ที่ไกลๆ แบบนี้ ถ้าลูกไม่สบายใจ เราก็เข้าใจหัวอกพ่อแม่เค้า และเป็นสิ่งที่แม่เค้าเคยพบเจอมาจากอดีตที่เจ็บปวดของคนรักเก่า
ของเค้า เรายิ่งไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แย่ๆ ขึ้น เราเลยต้อง
ยอมและถอยออกมา ให้เค้าใจเย็นๆ แล้วค่อยคุยกัน
แต่บางครั้งเราเองก็ต้องทน จนถึงกับ น้อยใจ งอน ก็มีบ่อย
เราเองอยากบอกว่า เราเองก็เสียใจนะ ที่โดนโกรธบ่อยๆ
ทั้งๆ ที่ ถ้าเราคุยกันดีๆ มันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นเลย
วันนี้.. ก็ทะเลาะกันอีก เป็นเรื่องใหญ่ของเราเลย
เรื่องลูก แค่คิดกันเฉยๆ ถ้าวันนึงมีลูก จะให้เรียนไหน
คำตอบก็ออกมาเป็นสิ่งที่ไม่พอใจทั้งสองฝ่าย
เพราะอำเภอที่เราอยู่ ห่างไกลกับอำเภอครอบครัวของเธอ
1 พันกว่ากิโล เธออยากให้ลูกเรียนที่บ้านของเธอ
แต่เราอยากให้ลูกได้อยู่ใกล้ชิดพ่อแม่ ซึ่งคือ เราและเธอ ก่อน
ให้เราได้เรียนรู้การเติบโตของลูก ได้นอนกอดลูก จูงมือลูก
เฝ้าดูการเติบโตของลูกไปทุกๆ วัน ตั้งแต่เล็ก
ได้ถามไถ่ ไปงานโรงเรียนกับลูก ได้ไปส่งเค้าเรียน
ไม่อยากให้เค้าต้องไปอยู่กับทางตายายตั้งแต่เล็กๆ
เพราะเรากลัวว่า ความสัมพันธ์ครอบครัวจะห่างไป
เกิดเด็กถามหาพ่อแม่ จะทำยังไง
ไปๆ มาๆ เธอบอกว่า เธอก็จะไปอยู่กับลูกที่นั่นเลย
อ้าว... ตกลงจะทิ้งกันไปหมดเลย
เราเองทำกิจการเล็กๆ ก็ไม่ได้จ้างใคร หวังจะให้ช่วยกัน
ทำมาหากิน หาเงินส่งเสียลูกด้วยกัน
กลับเป็นว่า จะให้เราอยู่ห่างลูกคนเดียว
เราเลยบอกไปอย่างข้างต้น เธอก็ไม่พอใจ
เธอเริ่มตั้งคำถามว่า อำเภอที่ผมอยู่มีไรดีๆ มั่ง
เธอบอกไม่อยากให้ลูกอยู่สังคมแบบนี้
อยากให้อยู่ในเมืองไปเดินห้าง ไปนู่นนี่
เราบอก เราก็ทำได้ แต่ ณ วันนี้ ดูเหมือนเธอ
มองผมว่า ทำไมไ่ด้หรอก จะเอาเวลาไหนไป
ผมก็นิ่ง เงียบ ไปต่อไม่ถูก
ในเมื่อสิ่งที่ผมบอกทำได้ แต่เธอสรุปให้แล้วว่า ผมทำไม่ได้
ผมก็ไม่อยากพูดอะไรต่อ เพราะเธอไม่เชื่อใจอะไรผมอีกแล้ว
นี่ขนาดยังไม่มีลูกนะ แค่ถกกันเฉยๆ
แล้วผมก็คุยกันกับเธอว่า หากจะเข้าเมือง
เราก็ไปในย่านจังหวัดใกล้ๆ เราได้ ไปนู่นนี่
ไปพร้อมกัน พ่อแม่ลูก ให้ลูกค่อยๆ ได้พบเจอ
โตไปตามวัยของเค้า แต่เธอก็ดูเหมือนไม่รับฟัง
เพราะคำตอบที่ผมให้ไป ไม่ตรงกับคำตอบในใจเธอ
เธอมีสิ่งที่เธอคิดมากั้น คำตอบผมไว้แล้ว
คุยไปมา เธอบอกว่า ถ้าให้เลือกจะอยู่ที่นี่มั้ย
ในใจผม อยากตอบว่าอยู่ เพราะที่นี่เป็นบ้านเกิดผม
มีร้านที่ผมต้องดูแล แต่สิ่งแวดล้อมไม่เปลอดภัย
เพราะอยู่ใน 1 ใน 3 จว.ชายแดนใต้
ผมเลยตอบไปว่า ถ้าไปได้ก็จะไป
เพียงแต่ว่า ถ้าที่ไหน ทำมาหากินได้มากกว่า ก็จะอยู่ที่นั่น
แต่เธอก็ไม่รับฟัง เพราะสิ่งที่เธอต้องการคือไม่อยากอยู่ที่นี่
ทำไม ไม่เหมือนกับวันแรกที่เธอได้ก้าวเข้ามา
พูดไป เถียงกันไป สลับไปมา
จนกลายมาเป็นชนวนให้เกิดรอยร้าวครั้งนี้ขึ้น
ถ้าอนาคตตกลงกันไม่ได้ เห็นทีต้องเลิกกัน
นั่นคือทางออกที่เธอมักจะให้เรามาบ่อยๆ
ทำไม ทุกครั้งที่เรากำลังจะมีความสุข
กลับต้องเจอเรื่องผิดหวังแบบนี้ตอนท้ายทุกที...
ผมควรทำยังไงต่อไปดีครับ
ขอโทษด้วยเรื่องมันยาว มันอึดอัดในใจมานาน
มาระบาย พร้อมอยากได้ความคิดเห็นจากทุกท่าน
ผมตันไปหมดแล้ว ผมเหนื่อยจากงาน
ผมกลัวทำให้พ่อผิดหวัง เพราะพ่อก็ดูเอ็นดูกับเธอมาก
เธอคุยกับพ่อผมเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น
แต่ในขณะที่ผมอยู่ด้วยตรงนั้น มันเจ็บแปลบในใจจริงๆ ครับ
เพราะถ้าอนาคต คนๆ นี้ จะไม่ใช่คนที่จะอยู่ร่วมกันได้กับเรา