สวัสดีกระทู้นี้ก็ขอดราม่าแล้วกัน
เริ่มเลยนะ..
บ้านเราเป็นครอบครัวฐานะกลางๆ เป็นร้านขายของปลีก-ส่ง มีพี่น้องสองคน เราไปคุณพี่ ตอนนี้อยู่มหาลัย ส่วนน้องเรียนไม่เก่งก็เลยไม่ได้เรียนต่อจบแค่ม.3 ตอนนี้ไปทำงานอยู่ชลบุรี
เข้าเรื่องเลยดีกว่า เราไปคนค่อนข้างหัวดี เรียนได้เกรดดีเสมอ แต่ถ้าย้อนกลับไปตอนเป็นเด็กเราก็ไม่ได้เก่งอะไรเรียนห่วยแตกด้วยซ้ำ จนกระทั่งมาเจออาจารย์ท่านหนึ่งที่เอาใจใส่เรามาก เราเลยเปลี่ยนแปลงตัวเอง ตั้งใจเรียนมากกว่าเก่า
จนมาถึงวันใกล้สอบ ทางบ้านเราเลยท้าบอกว่าถ้าสอบได้ไม่เกินที่ 10 จะ ซื้อคอมพิวเตอร์ให้ ซึ่งผลออกมาก็คือเราได้ที่ 7 ของห้อง แต่ก็ตามหัวกระทู้นั่นแหละ
จนผ่านตอนนั้นมาเราก็มาอยู่มัธยม จนเราได้สัญญาฉบับใหม่
"ถ้าสอบได้เกรดสวยๆจะซื้อไอแพดให้"
บอกเลยเราทำใจไว้แล้วล่ะ ผลก็จบลงตรงที่เดิม ไม่ได้อะไรเลยเช่นเคย
ต่อมาตอนที่เราเรียน ปวช. ตอนนั้นไอโฟนกำลังบูมเราเลยกลั้นใจไปขออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขึ้นกับคำสัญญามาเช่นเคย เราจริงจังกับคำสัญญาครั้งนี้มาก ตั้งใจเรียนแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจนได้เกรด 4.00
และสุดท้ายผลเป็นยังไงคงไม่ต้องบอกนะ

จนสุดท้ายเราเก็บเงินซื้อไอโฟนเอง ตอนนั้นภูมิใจมาก เงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง อาศัยทำงานพาร์ทไทม์บวกกับเงินเก็บเล็กน้อย

ตอนนี้เรามีของที่มาจากเงินเก็บเราหลายอย่างมากตั้งแต่จักรยาน กีตาร์ คอมพิวเตอร์ ไอโฟน ไอแพด จนถึงกระทั่งรองเท้าแพงๆคู่นึง แล้วก็เสื้อผ้าแบรนด์เนม นับเป็นสิบๆ ตัว
มาถึงตรงนี้แล้วเรายังไม่ตัดใจนะ เราอยากให้ที่บ้านซื้ออะไรให้เราสักอย่าง
ตอนนี้มหาลัยปี 1 (เทียบโอน) เราขอตรงๆ เราบอกกับที่บ้านว่า.. ซื้อมอเตอร์ไซค์คันนึงได้ไหม?
ทุกครั้งที่เราคนสักอย่าง รู้มั้ยสิ่งที่เราสังเกตุได้คืออะไร? การเปลี่ยนเรื่องคุย / ทำเป็นไม่ได้ยิน / เดินหนี / บลาๆ
ตลกดีอ่ะ เราช่วยงานทางบ้าน ทางร้านตลอด ไปส่งของ ไปซื้อของ ขายของ เราทำทุกอย่าง แต่เราก็ไม่ได้อะไรเลย เราไม่รู้สึกเสียใจกับ เรื่องแบบนี้หรอกนะ
เรามองเพื่อนที่อยู่ในมหาลัย เรามีเฟสของหลายคนนะ ตอนที่ปิดเทอมทุกคนไปเที่ยว มีอะไรดีๆ มีของขวัญ บอกตามตรงว่าเราโคตรอิจฉาเลย
เราขอตัดจบตรงนี้แล้วกัน ที่เหลือก็มีแต่ความรู้สึกของเราที่โคตรไม่เข้าใจทางบ้านเลย
แล้วคุณล่ะคิดยังไงทางบ้างของเรา?
พ่อแม่ไม่เคยให้อะไรเลย?
เริ่มเลยนะ..
บ้านเราเป็นครอบครัวฐานะกลางๆ เป็นร้านขายของปลีก-ส่ง มีพี่น้องสองคน เราไปคุณพี่ ตอนนี้อยู่มหาลัย ส่วนน้องเรียนไม่เก่งก็เลยไม่ได้เรียนต่อจบแค่ม.3 ตอนนี้ไปทำงานอยู่ชลบุรี
เข้าเรื่องเลยดีกว่า เราไปคนค่อนข้างหัวดี เรียนได้เกรดดีเสมอ แต่ถ้าย้อนกลับไปตอนเป็นเด็กเราก็ไม่ได้เก่งอะไรเรียนห่วยแตกด้วยซ้ำ จนกระทั่งมาเจออาจารย์ท่านหนึ่งที่เอาใจใส่เรามาก เราเลยเปลี่ยนแปลงตัวเอง ตั้งใจเรียนมากกว่าเก่า
จนมาถึงวันใกล้สอบ ทางบ้านเราเลยท้าบอกว่าถ้าสอบได้ไม่เกินที่ 10 จะ ซื้อคอมพิวเตอร์ให้ ซึ่งผลออกมาก็คือเราได้ที่ 7 ของห้อง แต่ก็ตามหัวกระทู้นั่นแหละ
จนผ่านตอนนั้นมาเราก็มาอยู่มัธยม จนเราได้สัญญาฉบับใหม่
"ถ้าสอบได้เกรดสวยๆจะซื้อไอแพดให้"
บอกเลยเราทำใจไว้แล้วล่ะ ผลก็จบลงตรงที่เดิม ไม่ได้อะไรเลยเช่นเคย
ต่อมาตอนที่เราเรียน ปวช. ตอนนั้นไอโฟนกำลังบูมเราเลยกลั้นใจไปขออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขึ้นกับคำสัญญามาเช่นเคย เราจริงจังกับคำสัญญาครั้งนี้มาก ตั้งใจเรียนแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจนได้เกรด 4.00
และสุดท้ายผลเป็นยังไงคงไม่ต้องบอกนะ
จนสุดท้ายเราเก็บเงินซื้อไอโฟนเอง ตอนนั้นภูมิใจมาก เงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง อาศัยทำงานพาร์ทไทม์บวกกับเงินเก็บเล็กน้อย
ตอนนี้เรามีของที่มาจากเงินเก็บเราหลายอย่างมากตั้งแต่จักรยาน กีตาร์ คอมพิวเตอร์ ไอโฟน ไอแพด จนถึงกระทั่งรองเท้าแพงๆคู่นึง แล้วก็เสื้อผ้าแบรนด์เนม นับเป็นสิบๆ ตัว
มาถึงตรงนี้แล้วเรายังไม่ตัดใจนะ เราอยากให้ที่บ้านซื้ออะไรให้เราสักอย่าง
ตอนนี้มหาลัยปี 1 (เทียบโอน) เราขอตรงๆ เราบอกกับที่บ้านว่า.. ซื้อมอเตอร์ไซค์คันนึงได้ไหม?
ทุกครั้งที่เราคนสักอย่าง รู้มั้ยสิ่งที่เราสังเกตุได้คืออะไร? การเปลี่ยนเรื่องคุย / ทำเป็นไม่ได้ยิน / เดินหนี / บลาๆ
ตลกดีอ่ะ เราช่วยงานทางบ้าน ทางร้านตลอด ไปส่งของ ไปซื้อของ ขายของ เราทำทุกอย่าง แต่เราก็ไม่ได้อะไรเลย เราไม่รู้สึกเสียใจกับ เรื่องแบบนี้หรอกนะ
เรามองเพื่อนที่อยู่ในมหาลัย เรามีเฟสของหลายคนนะ ตอนที่ปิดเทอมทุกคนไปเที่ยว มีอะไรดีๆ มีของขวัญ บอกตามตรงว่าเราโคตรอิจฉาเลย
เราขอตัดจบตรงนี้แล้วกัน ที่เหลือก็มีแต่ความรู้สึกของเราที่โคตรไม่เข้าใจทางบ้านเลย
แล้วคุณล่ะคิดยังไงทางบ้างของเรา?