ผมได้เจอข้อความหนึ่ง ก็เลยหยิบมาให้อ่านกัน
อ่านดูเน๊าะ ส่วนในแง่ของความเป็นจริง
คงต้องรอดูกันต่อไป อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ
หลังตายแล้ว 49 วัน ไปอยู่ที่ไหน?
แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
มาดูกันเลย
มนุษย์และสัตว์มิได้สิ้นสุดที่ความตาย
เพราะการ ‘ตาย’ หมายถึงสภาพร่างกาย
ที่ไม่สามารถให้บริการแก่จิตวิญญาณ
ใช้งานต่อไปได้อีก วิญญาณยังคงอยู่
แม้ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้ว
สภาพการตายจะบ่งบอกให้รู้
ว่าจิตวิญญาณนั้นไปสุคติหรือลงสู่นรกภูมิ
1. ตอนตายใหม่ๆ ถ้าหากสีหน้าปกติ
ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่
เนื่องจากได้รู้ธรรมปฎิบัติธรรมหรือบรรลุธรรม
ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ
2. ตอนตายใหม่ๆ หน้าซีดผาด เหมือนคนตกใจ
แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว
3. ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัว
เพราะความตกใจ บ้างจะกรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์
คนเหล่านี้จะไปเกิดเป็นสัตว์ 4 ชนิด สังเกตได้
จากตา หู จมูก ปาก
ตาจะมีน้ำตาออก
หูจะมีขี้หู
จมูกจะมีน้ำมูก
ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก
เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง
เมื่อจิตวิญญาณออกทางนั้น
จะเกิดเป็นสัตว์ 4 ประเภท
- ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุ่มหลงในรูปต่างๆ
คนเหล่านี้เวลาใกล้ตาย ดวงตาจะเบิกกว้าง
จะไปเกิดเป็นสัตว์ปีก (เกิดออกจากไข่)
- หู ชอบฟังเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา
คนเหล่านี้เวลาตาย หูจะชันขึ้น
จะไปเกิดเป็นสัตว์ที่เกิดจากครรภ์
เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย
- จมูก ชื่นชมกลิ่นคาวโลกีย์ เช่น เงินทอง
สุรา นารี การพนัน ชื่อเสียงลาภยศ
และค่านิยมที่ผิดศีลธรรม ฯลฯ
จะไปเกิดเป็นแมลง มด ยุง แมลงวัน ฯลฯ
บาปหนักมาก วิญญาณจึงถูกตีเป็นเศษวิญญาณ
- ปาก ชอบพูดเรื่องเหลวไหล นินทา วิจารณ์
พูดกล่าวร้ายป้ายสี ด่าคำหยาบคาย
คนเหล่านี้เวลาตาย ปากจะอ้าค้างอยู่ตลอด
จะเกิดเป็นสัตว์น้ำ ไปอยู่กับรสชาติ
ที่โสโครกและสกปรก
เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน?
ดวงวิญญาณที่ออกจากร่างในตอนแรก
จะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น พอได้สติรู้ตัว
จะมีท่านมัจจุราชมาทำหน้าที่
นำเอาวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์
ที่ชะะตาถึงฆาต พาไปยังยมโลก
เพื่อตรวจสอบบาปบุญความดีความชั่ว
ในขณะที่มีชีวิตอยู่
วิญญาณบาปจะถูกนำตัวส่งไปนรก 8 ขุมใหญ่
แต่ละขุมแบ่งย่อยขุมละ 36 แห่ง
แต่ละแห่งมีการลงทัณฑ์และทรมานอีก 800 ด่าน
แต่ละด่านมีเครื่องทรมานนับไม่ถ้วน
วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทั้ง 8 ขุมเลยก็มี
โดยเฉพาะคนที่ทำกรรมชั่วมหันต์
หรือเรียกว่า ‘อนันตริยกรรม’
มีอยู่ 5 อย่าง คือ
1.ฆ่าพ่อ
2. ฆ่าแม่
3. ฆ่าพระอรหันต์
4. ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก
5. ทำร้ายพระพุทธเจ้าห้อเลือด
หลังจากที่คนเราตายประมาณ 1-2 วัน
ปรกติแล้ว เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองตาย
7 วันให้หลังเขาจึงรู้ว่าตนเองตายแล้ว
วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว้ 49 วัน
เพื่อรอพิจารณาคดี
ระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลังรอบุญกุศลจากทางโลก
ในขณะที่กำลังง่วนอยู่กับ งานศพ
เรามาดูปรากฏการณ์ 49 วันหลังความตายกัน
ขณะที่วิญญาณของผู้ตายออกจากร่าง
ชีวิตหลังความตายก็เริ่มต้นเปิดฉากขึ้น
ในโลกที่ผู้ตายต้องเข้าไปเพียงลำพัง เท่านั้น
ไม่มีสิ่งใดเลย ที่สามารถเอาติดตัวไปได้
เว้นเสียแต่บาปกับบุญเท่านั้น
เจ็ดวันรอบแรก
วิญญาณผู้ตายต้องเดินผ่านดงหมาป่า
ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทาง
เมื่อวิญญาณบาปไปถึง จะเกิดความหวาดกลัว
ไม่กล้าเดินต่อไป ฝูงหมาป่าเห็นดังนั้น
กระโจนเข้าขย้ำขบกัดวิญญาณบาป
จนเลือดท่วมตัว กรีดร้องโหยหวน
ด้วยความเจ็บปวดทุกขเวทนา
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี
เมื่อมาถึงดงหมาป่า
จะมีหมู่เทวทูตคอยพิทักษ์คุ้มครอง
พวกหมาป่าได้แต่นิ่งเฉย ไม่กล้าทำอะไร
ผ่านไปได้โดยปลอดภัย
เจ็ดวันรอบที่ สอง
เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านประตูผี
เจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน เมื่อเห็นเป็นวิญญาณบาป
ก็จะทุบตีอย่างไม่ปรานี และมีเจ้ากรรมนายเวร
พากันมาทวงหนี้เวลานั้น
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี
เมื่อมาถึงด่านประตูผี
จะได้รับการต้อนรับและสามารถผ่านด่านนี้ไป
โดยปลอดภัย
เจ็ดวันรอบที่ สาม
เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลก
ถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกโซ่ตรวนไว้
และถูกบังคับนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่องกรรม
ยามมีชีวิต ทำชั่วอะไร
ภาพก็จะปรากฏขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ
เสร็จแล้วก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ
ถึงวิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิดตอนนี้
แต่ก็สายไปเสียแล้ว
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี
เมื่อมาถึง จะได้รับการต้อนรับ
มีเจ้าหน้าที่พาไปท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆ
และพาไปดูสภาพของบรรดาญาติพี่น้อง
ที่ ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณา
ตัดสินความผิด
เจ็ดวันรอบที่ สี่
เมื่อมาถึงด่านภูเขากระดาษเงินกระดาษทอง
การจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยากลำบากมาก
กระดาษเหล่านี้ได้มาจากลูกหลานญาติพี่น้อง
ในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้
ทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา
ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว
แม้ผู้ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์
เจ็ดวันรอบที่ ห้า
วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม
ได้เห็นลูกหลาน คนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์
ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการตายของตน
ถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าตนเองตายแล้ว
ไม่อาจกลับบ้านได้อีก ได้แต่เสียใจอาลัยอาวรณ์
เจ็ดวันรอบที่ หก
เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านคุมบัญชี
ยมบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูบาปบุญ
ที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต
หลังจากหักลบกันแล้ว
ถ้าบุญมีมากกว่าบาปก็จะให้ไปเกิดยังสุคติภูมิ
ถ้าบาปมีมากกว่าบุญ จะส่งไปยังนรกภูมิ
รับทุกข์อย่างน่าเวทนา
เจ็ดวันรอบที่ เจ็ด
เมื่อวิญญาณผู้ตายไปถึงด่านตรวจสอบ
ยมบาลก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า
ผู้ตายตอนมีชีวิตอยู่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือไม่
เช่น ได้ถือศีลกินเจ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์
ก็จักลหุโทษ
ถ้ามัวหลงผิดฆ่าสัตว์เพื่อความสุขที่เกินขอบเขต
โทษจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว.
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้
ขอให้ทุกคนในขณะมีชีวิตอยู่นั้น
เร่งสะสมความดีกันให้มากๆ
นรก-สวรรค์นั้น ไม่ใช่สิ่งลวงโลก
ตอนนี้ท่านอาจยังไม่เห็น
แต่สักวันท่านก็ต้องเห็น
กฏแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องจริง
ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท
หลังความตาย เราจะไปใหน ?
อ่านดูเน๊าะ ส่วนในแง่ของความเป็นจริง
คงต้องรอดูกันต่อไป อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ
หลังตายแล้ว 49 วัน ไปอยู่ที่ไหน?
แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
มาดูกันเลย
มนุษย์และสัตว์มิได้สิ้นสุดที่ความตาย
เพราะการ ‘ตาย’ หมายถึงสภาพร่างกาย
ที่ไม่สามารถให้บริการแก่จิตวิญญาณ
ใช้งานต่อไปได้อีก วิญญาณยังคงอยู่
แม้ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้ว
สภาพการตายจะบ่งบอกให้รู้
ว่าจิตวิญญาณนั้นไปสุคติหรือลงสู่นรกภูมิ
1. ตอนตายใหม่ๆ ถ้าหากสีหน้าปกติ
ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่
เนื่องจากได้รู้ธรรมปฎิบัติธรรมหรือบรรลุธรรม
ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ
2. ตอนตายใหม่ๆ หน้าซีดผาด เหมือนคนตกใจ
แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว
3. ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัว
เพราะความตกใจ บ้างจะกรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์
คนเหล่านี้จะไปเกิดเป็นสัตว์ 4 ชนิด สังเกตได้
จากตา หู จมูก ปาก
ตาจะมีน้ำตาออก
หูจะมีขี้หู
จมูกจะมีน้ำมูก
ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก
เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง
เมื่อจิตวิญญาณออกทางนั้น
จะเกิดเป็นสัตว์ 4 ประเภท
- ตา ชอบดูสิ่งเหลวไหล ลุ่มหลงในรูปต่างๆ
คนเหล่านี้เวลาใกล้ตาย ดวงตาจะเบิกกว้าง
จะไปเกิดเป็นสัตว์ปีก (เกิดออกจากไข่)
- หู ชอบฟังเรื่องเหลวไหล เรื่องซุบซิบนินทา
คนเหล่านี้เวลาตาย หูจะชันขึ้น
จะไปเกิดเป็นสัตว์ที่เกิดจากครรภ์
เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย
- จมูก ชื่นชมกลิ่นคาวโลกีย์ เช่น เงินทอง
สุรา นารี การพนัน ชื่อเสียงลาภยศ
และค่านิยมที่ผิดศีลธรรม ฯลฯ
จะไปเกิดเป็นแมลง มด ยุง แมลงวัน ฯลฯ
บาปหนักมาก วิญญาณจึงถูกตีเป็นเศษวิญญาณ
- ปาก ชอบพูดเรื่องเหลวไหล นินทา วิจารณ์
พูดกล่าวร้ายป้ายสี ด่าคำหยาบคาย
คนเหล่านี้เวลาตาย ปากจะอ้าค้างอยู่ตลอด
จะเกิดเป็นสัตว์น้ำ ไปอยู่กับรสชาติ
ที่โสโครกและสกปรก
เมื่อออกจากร่าง วิญญาณจะไปที่ไหน?
ดวงวิญญาณที่ออกจากร่างในตอนแรก
จะวนเวียนอยู่บริเวณนั้น พอได้สติรู้ตัว
จะมีท่านมัจจุราชมาทำหน้าที่
นำเอาวิญญาณของมนุษย์หรือสัตว์
ที่ชะะตาถึงฆาต พาไปยังยมโลก
เพื่อตรวจสอบบาปบุญความดีความชั่ว
ในขณะที่มีชีวิตอยู่
วิญญาณบาปจะถูกนำตัวส่งไปนรก 8 ขุมใหญ่
แต่ละขุมแบ่งย่อยขุมละ 36 แห่ง
แต่ละแห่งมีการลงทัณฑ์และทรมานอีก 800 ด่าน
แต่ละด่านมีเครื่องทรมานนับไม่ถ้วน
วิญญาณบางดวงอาจตกนรกทั้ง 8 ขุมเลยก็มี
โดยเฉพาะคนที่ทำกรรมชั่วมหันต์
หรือเรียกว่า ‘อนันตริยกรรม’
มีอยู่ 5 อย่าง คือ
1.ฆ่าพ่อ
2. ฆ่าแม่
3. ฆ่าพระอรหันต์
4. ยุยงสงฆ์ให้แตกแยก
5. ทำร้ายพระพุทธเจ้าห้อเลือด
หลังจากที่คนเราตายประมาณ 1-2 วัน
ปรกติแล้ว เขาจะไม่รู้ว่าตัวเองตาย
7 วันให้หลังเขาจึงรู้ว่าตนเองตายแล้ว
วิญญาณจะถูกกักบริเวณไว้ 49 วัน
เพื่อรอพิจารณาคดี
ระหว่างนั้นผู้ตายก็กำลังรอบุญกุศลจากทางโลก
ในขณะที่กำลังง่วนอยู่กับ งานศพ
เรามาดูปรากฏการณ์ 49 วันหลังความตายกัน
ขณะที่วิญญาณของผู้ตายออกจากร่าง
ชีวิตหลังความตายก็เริ่มต้นเปิดฉากขึ้น
ในโลกที่ผู้ตายต้องเข้าไปเพียงลำพัง เท่านั้น
ไม่มีสิ่งใดเลย ที่สามารถเอาติดตัวไปได้
เว้นเสียแต่บาปกับบุญเท่านั้น
เจ็ดวันรอบแรก
วิญญาณผู้ตายต้องเดินผ่านดงหมาป่า
ซึ่งมีฝูงหมาป่าดุร้ายเหมือนเสือขวางทาง
เมื่อวิญญาณบาปไปถึง จะเกิดความหวาดกลัว
ไม่กล้าเดินต่อไป ฝูงหมาป่าเห็นดังนั้น
กระโจนเข้าขย้ำขบกัดวิญญาณบาป
จนเลือดท่วมตัว กรีดร้องโหยหวน
ด้วยความเจ็บปวดทุกขเวทนา
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี
เมื่อมาถึงดงหมาป่า
จะมีหมู่เทวทูตคอยพิทักษ์คุ้มครอง
พวกหมาป่าได้แต่นิ่งเฉย ไม่กล้าทำอะไร
ผ่านไปได้โดยปลอดภัย
เจ็ดวันรอบที่ สอง
เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านประตูผี
เจ้าหน้าที่ผู้รักษาด่าน เมื่อเห็นเป็นวิญญาณบาป
ก็จะทุบตีอย่างไม่ปรานี และมีเจ้ากรรมนายเวร
พากันมาทวงหนี้เวลานั้น
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี
เมื่อมาถึงด่านประตูผี
จะได้รับการต้อนรับและสามารถผ่านด่านนี้ไป
โดยปลอดภัย
เจ็ดวันรอบที่ สาม
เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงยมโลก
ถ้าเป็นวิญญาณบาปก็จะถูกโซ่ตรวนไว้
และถูกบังคับนำไปอยู่ตรงหน้าหอกระจกส่องกรรม
ยามมีชีวิต ทำชั่วอะไร
ภาพก็จะปรากฏขึ้นเองอย่างอัตโนมัติ
เสร็จแล้วก็จะถูกคุมตัวไปรับการพิจารณาโทษ
ถึงวิญญาณบาปจะเริ่มสำนึกผิดตอนนี้
แต่ก็สายไปเสียแล้ว
ส่วนวิญญาณผู้ประกอบกรรมดี
เมื่อมาถึง จะได้รับการต้อนรับ
มีเจ้าหน้าที่พาไปท่องเที่ยวนรกขุมต่างๆ
และพาไปดูสภาพของบรรดาญาติพี่น้อง
ที่ ทำบาป กำลังรอคอยการพิจารณา
ตัดสินความผิด
เจ็ดวันรอบที่ สี่
เมื่อมาถึงด่านภูเขากระดาษเงินกระดาษทอง
การจะขึ้นไปบนภูเขาลูกนี้ยากลำบากมาก
กระดาษเหล่านี้ได้มาจากลูกหลานญาติพี่น้อง
ในเมืองมนุษย์หลงงมงายเผาส่งไปให้
ทับถมกันจนเป็นภูเขาเลากา
ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว
แม้ผู้ตายจะได้รับก็ไร้ประโยชน์
เจ็ดวันรอบที่ ห้า
วิญญาณผู้ตายมาถึงหอดูบ้านเดิม
ได้เห็นลูกหลาน คนในครอบครัวต่างไว้ทุกข์
ด้วยความเศร้าโศกเสียใจกับการตายของตน
ถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าตนเองตายแล้ว
ไม่อาจกลับบ้านได้อีก ได้แต่เสียใจอาลัยอาวรณ์
เจ็ดวันรอบที่ หก
เมื่อวิญญาณผู้ตายมาถึงด่านคุมบัญชี
ยมบาลจะสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูบาปบุญ
ที่ผู้ตายได้สร้างสมตอนมีชีวิต
หลังจากหักลบกันแล้ว
ถ้าบุญมีมากกว่าบาปก็จะให้ไปเกิดยังสุคติภูมิ
ถ้าบาปมีมากกว่าบุญ จะส่งไปยังนรกภูมิ
รับทุกข์อย่างน่าเวทนา
เจ็ดวันรอบที่ เจ็ด
เมื่อวิญญาณผู้ตายไปถึงด่านตรวจสอบ
ยมบาลก็จะสั่งเลขาให้ตรวจสอบดูว่า
ผู้ตายตอนมีชีวิตอยู่ได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือไม่
เช่น ได้ถือศีลกินเจ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์
ก็จักลหุโทษ
ถ้ามัวหลงผิดฆ่าสัตว์เพื่อความสุขที่เกินขอบเขต
โทษจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว.
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้
ขอให้ทุกคนในขณะมีชีวิตอยู่นั้น
เร่งสะสมความดีกันให้มากๆ
นรก-สวรรค์นั้น ไม่ใช่สิ่งลวงโลก
ตอนนี้ท่านอาจยังไม่เห็น
แต่สักวันท่านก็ต้องเห็น
กฏแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องจริง
ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท