การย้ายกลับเยอรมันค่ะ

ขออนุญาตเรียนถามนะคะ ดิฉันชื่อ ตุ้ม ค่ะ ได้แต่งงานกับสามีเยอรมันที่รักเป็นเวลา 9 ปี และสามีได้เสียชีวิตอย่างกระทันหัน เรามีบุตรชาย 1 คน หญิง 1 คน หลังจากสามีเสียชีวิต คุณตาคุณยายบินไปรับเราทั้งสามกลับทันทีหลังงานศพ ต้องยอมรับว่าครอบครัวเรามีความสุขมาก การเสียชีวิตของสามีทำให้เราทั้งสามเคว้งคว้างอย่างที่สุด ขณะนั้นลูกชายอายุได้ 8 ปี ลูกสาวอายุได้ 3 ปี เค้า 2 คน เห็นพ่อเสียชีวิตต่อหน้า ( ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ลูกสาวอุดหูทุกครั้งหลังจากนั้นถ้าได้ยินภาษาเยอรมัน ) เรากลับมาอยู่เมืองไทยได้ 6 ปีแล้ว ลูกชายตอนนี้เรียน บดินทร์ 2 ขึ้นชั้นมัธยม 2 โปรแกรม EP ค่าเทอมรวมจิปาถะ 40,000 บาท/ เทอม ลูกสาวเรียนโสมาภาพัฒนา IEP ขึ้นชั้นประถม 4 ค่าเทอมรวมจิปาถะ 45,000 / เทอม ตุ้มเป็นครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษ รายได้ดีพอสมควร คุณตาซื้อบ้านให้ 1 หลัง แต่ค่าใช้จ่ายเมืองไทยสูงมากอย่างที่ฝรั่งยังไม่เชื่อ ขณะนี้ทำใจได้มากแล้ว และได้พูดคุยถึงอนาคตของลูกมาตลอด และได้ตัดสินใจจะให้ลูกกลับไปเรียนที่เยอรมันจนกว่าจะจบ High School ซึ่งลูกชายยังคงสามารถพูดภาษาเยอรมันได้เป็นอย่างดี แต่ไม่เข้าใจศัพท์ที่ยากเท่าไหร่นัก แต่ลูกสาวพูดไม่ได้เลย ทั้งสองถือพาสสปอร์ตเยอรมัน อยากรบกวนถามความคิดเห็นว่าควรทำอย่างไร เพราะย่าของเด็กไม่ยอมรับให้กลับไป เพราะเค้ามาเห็นความเป็นอยู่ที่ไทยว่าดีแล้วจะกลับทำไม แต่เด็กมีสิทธิอย่างเต็มที่ในการเป็นประชาชนเยอรมัน ( ตุ้มยังคงถือพาสสปอร์ตไทยค่ะ ) จึงตัดสินใจว่าจะยอมกลับไปกับลูกเพื่อให้ลูกได้มีอนาคตที่ดีกว่า และตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะกลับไปที่นู้นแน่นอนใน พค. ปี 2016 เรามีเพื่อนที่ดีมากทั้งชาวเยอรมันและไทยที่จะยินยอมช่วยเหลือทางเอกสารทั้งหมด จึงเรียนมาเพื่ิอขอรับคำแนะนำ จะได้นำมาเป็นข้อมูลได้ต่อไปค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ปัญหาในการกลับไปไม่ได้อยู่ที่กฏระเบียบ   คุณและครอบครัวกลับไปได้อยู่แล้ว

ติดใจตรงที่ว่า   ย่าไม่ยอมรับกลับไป  นี่เป็นประเด็นหนึ่งที่น่าตั้งข้อสังเกตุ   ปกติแล้วสมาชิกครอบครัวต้องเป็นผู้สนับสนุนที่มีน้ำหนักความสำคัญที่สุด

ที่บอกว่ามีเพื่อนที่ดีมากทั้งชาวไทยและเยอรมัน     ไม่ได้เป็นสิ่งการันตีว่าเขาเหล่านั้นจะช่วยแบ่งเบารับภาระแต่อย่างใด   คงช่วยได้ในระดับหนึ่งและในระยะสั้นๆ    ทุกคนต่างมีภาระเป็นของตนเองและมีขีดจำกัดในการช่วยเหลือ   จงหวังพึ่งตนเองเป็นหลักเท่านั้น

คำถามที่สำคัญที่สุดคือ    แหล่งรายได้ที่จะเลี้ยงครอบครัว      คุณได้มาจากไหนและเพียงพอสำหรับที่จะเลี้ยงลูก 2 คนให้เติบโตได้อย่างมีคุณภาพหรือไม่?

อย่ามองเห็นแค่ภาพลวงตาที่ว่า    ค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาในเยอรมันนั้นไม่แพงเมื่อเทียบกับประเทศตะวันตกอื่นๆ   ความเป็นจริงอีกด้านหนึ่งคือ ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่นั้นคือค่าใช้จ่ายประจำตัวในชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคลของสมาชิกในครอบครัวต่างหาก   ได้แก่   ค่าที่อยู่อาศัยถ้าต้องเช่าและค่าสาธารณูปโภค (น้ำ  ไฟฟ้า  แก๊ส  อินเตอร์เนท  กำจัดขยะ  ฯลฯ)  ค่าอาหารการกิน   เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม   และค่าประกันสุขภาพ      กลายเป็นว่าค่าใช้จ่ายการศึกษาถูกลง    แต่ค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ แพงกว่าเมืองไทย 3 เท่าตัว      เฉพาะสำหรับลูก 2 คนยิ่งโตวันโตคืนค่าใช้จ่ายยิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว       คุณจะหารายได้เลี้ยงครอบครัวอย่างไร?   ด้วยอาชีพอะไร?    การเป็นครูสอนภาษาอังกฤษรายได้ดีสามารถทำได้ในเมืองไทย     แต่ไม่ใช่ในเยอรมนี    อันดับแรกเพราะ จขกท ไม่ได้มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่    ประการต่อไปถ้าจะสอนให้เป็นอาชีพจริงๆ จังๆ คุณต้องมีใบรับรองอาชีพการสอนในสาขานั้นๆ    ประการสุดท้ายนั้น   มีครูภาษาอังกฤษชาวเยอรมันที่เรียนมาทางด้านภาษาโดยอาชีพมากมายในตลาด  ฉะนั้นโอกาสที่จะหาเลี้ยงชีพด้วยอาชีพนี้นั้นมองไม่เห็นความสุกสว่าง

ตามที่บอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เมืองไทยมานั้น   แสดงว่าคุณต้องมีแหล่งรายได้อยู่    ซึ่งไม่ทราบว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร  มากขึ้นหรือน้อยลงเมื่อย้ายไปอยู่เยอรมนี?  ส่วนหนึ่งน่าจะมีรายได้ประจำจากเงินแม่หม้ายที่ได้รับ 60% จากเงินเดือนสามี  อีกส่วนที่คุณหาเองจากการเป็นครูสอนพิเศษ      คุณตาเป็นคนซื้อบ้านให้  แสดงว่าคุณพ่อคุณแม่คุณยังเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินให้อยู่ในกรณีที่จำเป็นและยังห่วงใยหลานถึงขนาดที่ไปรับตัวกลับทันทีหลังจากพ่อของเด็กๆ เสียชีวิต        ในขณะที่ฝ่ายย่าของเด็กกลับมีปฏิกิริยาตรงกันข้ามไม่ยอมรับครอบครัวคุณกลับไปเยอรมนี   

คำถามในประเด็นนี้ผมตั้งขึ้นมาให้เป็นข้อคิดเท่านั้น    ไม่จำเป็นต้องตอบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ

สำหรับเด็กๆ การเข้ามาในช่วงมัธยม 2  และประถม  4   ลูกคนโตพูดภาษาเยอรมันได้คงจะค่อยๆ ปรับตัวเรื่องการเรียนได้    ส่วนคนเล็กพูดภาษาไม่ได้เลยจะมีปัญหามาก     และที่เห็นว่ามากเป็นพิเศษกว่าคนอื่นๆ ก็ตรงที่ว่า   สมาชิกในบ้านไม่มีคนพูดเยอรมันเลย     ถ้าพ่อซึ่งเป็นชาวเยอรมันยังมีชีวิตอยู่ด้วยกัน    จะช่วยส่งเสริมให้การปรับตัวเป็นไปวันละเล็กละน้อย     คุณตัวคนเดียวจะแก้ปัญหาสภาพแวดล้อมนี้ของครอบครัวได้อย่างไร?

เมื่อฟังเรื่องราวของคนอื่นนั้น    ขอให้เปรียบเทียบเงื่อนไขสภาพแวดล้อมของครอบครัวคุณที่แตกต่างไปด้วย    คุณจะเอากรณีของคุณซึ่งตัวคนเดียวไปเปรียบเทียบกับคนอื่นที่สภาพครอบครัวพร้อมโดยมีหัวหน้าครอบครัวเป็นชาวเยอรมันเป็นหลักทั้งทางรายได้และเป็นผู้นำทั้งในการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ในสังคมประจำวันที่คุณไม่ได้รู้รอบถึงจะเคยอยู่มา 9 ปีก็ตาม     ย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ข้อมูลทางสภาพสังคมเยอรมันในปัจจุบันนั้น   แม่ที่เลี้ยงลูกตัวคนเดียวไม่ว่าจะสาเหตุจากคู่สมรสเสียชีวิตหรือหย่าร้าง   จะเป็นกลุ่มที่มีเปอร์เซนต์สูงสุดที่มีสภาพฐานะการเงินยากจนที่ต้องรับสวัสดิการที่ คห 2   บอกนั่นแหละครับคือ  Hart IV   และจะกลายเป็นปมด้อยและมีผลต่อการพัฒนาทางพฤติกรรมและนิสัยของเด็กที่จะเติบโตไปในภายหน้า    และจะมีปัญหาแม้แต่ในสังคมเพื่อนที่โรงเรียน

บ้านเช่าระดับปานกลางหรือดีไม่รับผู้เช่าที่รับเงินสวัสดิการสังคม Hart IV   และมักจะอยู่รวมในสังคมเดียวกัน

เรื่องสวัสดิการเงินตกงานนั่น   ถ้า จขกท ไม่เคยทำงานในเยอรมนีแล้วจะได้สวัสดิการนี้ยังไงครับ ?  และเงินที่ให้ลูก Kindergeld นั้น จ่ายให้แก่เด็กเยอรมันที่ต่างประเทศด้วย  นั่นหมายถึง จขกท ต้องได้รับเงินนี้ประจำเดือนอยู่แล้ว    จะได้รับจนถึงอายุ 25  ไม่ใช่แค่ 18  อย่างที่ คห 2 เข้าใจผิด

อยู่เมืองไทยมีชีวิตดีอยู่แล้ว  มีความสามารถจ่ายเงินให้ลูกไปโรงเรียนดีๆ     แต่เลือกที่จะไปอยู่เยอรมันเพื่อที่จะไปรับสวัสดิการคนยากจน Hart IV ??
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่