ญี่ปุ่นที่วิทยาการเทคโนโลยี่ก้าวไกลขนาดสุดๆ แต่ขณะเดียวกันชาวญี่ปุ่นไม่น้อยมีความคิดว่าภูตผีวิญญานดูเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตความเป็นอยู่
ถึงกับนำมาคุยเล่าผสมผสานกันเป็นความสนุกบันเทิงในชีวิตไปเลย จะเห็นได้จากตัวแคแรคเตอร์ประชาสัมพันธ์สถานที่ หรือการ์ตูนสนุกๆเกี่ยวกับภูตๆผีๆของญี่ปุ่น หรืออย่างการไลต์อัพหินข้างทางที่น่ากลัวให้สวยๆแบบนี้
ภาพถ่ายที่ทางเดินเลาะโตรกธารไรไรเคียว (磊々峡）บริเวณบ่อน้ำพุร้อนอะคิอุ（秋保） ใกล้เมืองเซนไดค่ะ
ภูมิภาคอีสานของญี่ปุ่นหรือที่เรียกกันว่าโทโฮะกุมีนิทานปรัมปราต่างๆที่เล่าเกี่ยวกับภูตผีปีศาจและวิญญานอยู่มาก ดังเช่นเรื่องภูตน้ำ"คัปปะ"（河童）เป็นเรื่องหนึ่งที่เล่าขานกันมากในเขตเมืองโทโนะ จ.อิวะเตะ เหนือเมืองเซนได จ.มิยะกิที่จขกท.อยู่
คัปปะเป็นภูตน้ำที่ทะลึ่งซน ตัวสีเขียว ขนาดราวเด็กสัก 5-6 ขวบ หน้าแหลม ที่หลังมีกระดองเหมือนเต่า มือและตีนเป็นพังผืดพุ้ยน้ำ ข้างบนหัวเป็นแอ่งชามที่ต้องมีน้ำใส่ไว้อยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นคัปปะจะหมดกำลัง จนตายได้ ส่วนอาหารโปรดของมันคือไส้ในของมนุษย์ที่จะล้วงกินจากทางทวาร แต่ที่คัปปะชอบมากกว่าไส้ในของคนคือแตงกวา ！
คัปปะแม้จะฟังดูแล้วน่ากลัว แต่ญี่ปุ่นก็สามารถทำให้ภาพพจน์กลับกลายเป็นตัวภูตที่น่ารักได้
ที่เมืองโทโนะ จ.อิวะเตะ มีบริเวณหนึ่งที่เรียกว่า"คัปปะบุชิ" （カッパ淵）ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลำน้ำเล็กๆที่ไหลผ่านหลังวัด
เล่ากันว่าในสมัยก่อนมีการปรากฏตัวของคัปปะบ่อยมาก มีคนเห็นคัปปะลากม้าที่เป็นสัตว์ใช้ช่วยทำไร่นาของชาวบ้านลงไปจัดการในลำน้ำนี้
การปรากฏตัวของคัปปะเล่ากันจนเป็นเหมือนเรื่องปกติของคนแถบนี้มาจนถึงสมัยเมจิ (ร.5 ของไทย) เมื่อสังคมค่อยๆเปลี่ยนไปตามความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เรื่องราวเหล่านี้ก็ค่อยๆเลือนหายไปจนเป็นเหมือนอดีตที่หาอะไรยืนยันไม่ได้
อย่างไรก็ดี เมื่อร้อยปีก่อนมีนักเขียนผู้หนึ่งที่ชื่อ ยะนะงิดะ คุนิโอะ (柳田 國男) ได้เขียนเรื่องคัปปะไว้ในตำนานเล่าแห่งเมืองโทโนะ (Tono Monogatari) ซึ่งเป็นรวมเรื่องพลังเหนือธรรมชาติต่างๆในบริเวณนี้ และหนังสือเล่มนี้ได้มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ ( The Legends of Tono) และภาษาอื่นๆในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน Kappa buchi เป็นจุดที่คนแวะมาด้วยความหวังว่าจะได้เห็นคัปปะ มีคนไม่น้อยที่ต้งใจจะจับคัปปะกันเสียอีกด้วย วิธีจับคือใช้เบ็ดตกปลาและแตงกวาเป็นเหยื่อล่อ
วิธีไปKappa buchi: นั่งรถไฟJR สาย Kamaishi （釜石線）มาลงที่สถานีTono（遠野駅）แล้วต่อรถแท็กซี่ไปอีก 6 กม. หรือต่อรถประจำทางสายที่ไปทาง Ontoku/ Ichinowatari (恩徳・一の渡) นั่งไปสัก 20 นาที ลงที่ป้าย Denshoen (伝承園) เดินต่ออีก 5 นาที ใครชอบขี่จักรยาน หน้าสถานีTono มีจักรยานให้เช่าด้วยค่ะ ค่าเช่า 500 เยนต่อ 2 ชม. ขี่จักรยานเที่ยวดูชีวิตบ้านนอกของชาวเมืองเล็กๆนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย
คนญี่ปุ่นจะเชื่อในเรื่องคัปปะกันมากน้อยแค่ไหนไม่ทราบ แตที่แม่น้ำลำคลองในเมืองเล็กๆบางเมืองที่ญี่ปุ่น ยังมีป้ายเตือนให้ระวังคัปปะ และบางแห่งมีศาลเจ้าคัปปะซึ่งยังมีคนมาเซ่นไหว้กัน ว่ากันว่าหากต้องเผชิญหน้ากับคัปปะ วิธีเอาชนะมี 2 วิธีดังนี้ค่ะ
1. เอาแตงกวาเขียนชื่อตัวเอง แล้วโยนลงไปในน้ำไป คัปปะจะตามตะครุบแตงกวาแล้วไม่ยุ่งกับเรา
2. ให้โค้งคำนับคัปปะ เนื่องจากคัปปะเป็นภูตที่มีความสุภาพ ก็จะโค้งคำนับตอบ ตอนนั้นเองน้ำบนชามที่หัวก็จะหก ทำให้หมดกำลังพ่ายไป
ดินแดนโทโฮะกุแถบนี้ยังมีเรื่องลึกลักอีกมากมาย เช่นพระที่อุทิศตนเป็นมัมมี่ขณะที่ยังเป็นๆอยู่ ผีเด็กที่คนชอบให้มีอยู่ในบ้าน และอื่นๆ
วันหลังจะพยายามหาโอกาสเขียนอีกค่ะ
ภูตน้ำคัปปะแห่งดินแดนโทโฮะกุ ประเทศญี่ปุ่น
ถึงกับนำมาคุยเล่าผสมผสานกันเป็นความสนุกบันเทิงในชีวิตไปเลย จะเห็นได้จากตัวแคแรคเตอร์ประชาสัมพันธ์สถานที่ หรือการ์ตูนสนุกๆเกี่ยวกับภูตๆผีๆของญี่ปุ่น หรืออย่างการไลต์อัพหินข้างทางที่น่ากลัวให้สวยๆแบบนี้
ภาพถ่ายที่ทางเดินเลาะโตรกธารไรไรเคียว (磊々峡）บริเวณบ่อน้ำพุร้อนอะคิอุ（秋保） ใกล้เมืองเซนไดค่ะ
ภูมิภาคอีสานของญี่ปุ่นหรือที่เรียกกันว่าโทโฮะกุมีนิทานปรัมปราต่างๆที่เล่าเกี่ยวกับภูตผีปีศาจและวิญญานอยู่มาก ดังเช่นเรื่องภูตน้ำ"คัปปะ"（河童）เป็นเรื่องหนึ่งที่เล่าขานกันมากในเขตเมืองโทโนะ จ.อิวะเตะ เหนือเมืองเซนได จ.มิยะกิที่จขกท.อยู่
คัปปะเป็นภูตน้ำที่ทะลึ่งซน ตัวสีเขียว ขนาดราวเด็กสัก 5-6 ขวบ หน้าแหลม ที่หลังมีกระดองเหมือนเต่า มือและตีนเป็นพังผืดพุ้ยน้ำ ข้างบนหัวเป็นแอ่งชามที่ต้องมีน้ำใส่ไว้อยู่ตลอดเวลา มิฉะนั้นคัปปะจะหมดกำลัง จนตายได้ ส่วนอาหารโปรดของมันคือไส้ในของมนุษย์ที่จะล้วงกินจากทางทวาร แต่ที่คัปปะชอบมากกว่าไส้ในของคนคือแตงกวา ！
คัปปะแม้จะฟังดูแล้วน่ากลัว แต่ญี่ปุ่นก็สามารถทำให้ภาพพจน์กลับกลายเป็นตัวภูตที่น่ารักได้
ที่เมืองโทโนะ จ.อิวะเตะ มีบริเวณหนึ่งที่เรียกว่า"คัปปะบุชิ" （カッパ淵）ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลำน้ำเล็กๆที่ไหลผ่านหลังวัด
เล่ากันว่าในสมัยก่อนมีการปรากฏตัวของคัปปะบ่อยมาก มีคนเห็นคัปปะลากม้าที่เป็นสัตว์ใช้ช่วยทำไร่นาของชาวบ้านลงไปจัดการในลำน้ำนี้
การปรากฏตัวของคัปปะเล่ากันจนเป็นเหมือนเรื่องปกติของคนแถบนี้มาจนถึงสมัยเมจิ (ร.5 ของไทย) เมื่อสังคมค่อยๆเปลี่ยนไปตามความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เรื่องราวเหล่านี้ก็ค่อยๆเลือนหายไปจนเป็นเหมือนอดีตที่หาอะไรยืนยันไม่ได้
อย่างไรก็ดี เมื่อร้อยปีก่อนมีนักเขียนผู้หนึ่งที่ชื่อ ยะนะงิดะ คุนิโอะ (柳田 國男) ได้เขียนเรื่องคัปปะไว้ในตำนานเล่าแห่งเมืองโทโนะ (Tono Monogatari) ซึ่งเป็นรวมเรื่องพลังเหนือธรรมชาติต่างๆในบริเวณนี้ และหนังสือเล่มนี้ได้มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ ( The Legends of Tono) และภาษาอื่นๆในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน Kappa buchi เป็นจุดที่คนแวะมาด้วยความหวังว่าจะได้เห็นคัปปะ มีคนไม่น้อยที่ต้งใจจะจับคัปปะกันเสียอีกด้วย วิธีจับคือใช้เบ็ดตกปลาและแตงกวาเป็นเหยื่อล่อ
วิธีไปKappa buchi: นั่งรถไฟJR สาย Kamaishi （釜石線）มาลงที่สถานีTono（遠野駅）แล้วต่อรถแท็กซี่ไปอีก 6 กม. หรือต่อรถประจำทางสายที่ไปทาง Ontoku/ Ichinowatari (恩徳・一の渡) นั่งไปสัก 20 นาที ลงที่ป้าย Denshoen (伝承園) เดินต่ออีก 5 นาที ใครชอบขี่จักรยาน หน้าสถานีTono มีจักรยานให้เช่าด้วยค่ะ ค่าเช่า 500 เยนต่อ 2 ชม. ขี่จักรยานเที่ยวดูชีวิตบ้านนอกของชาวเมืองเล็กๆนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย
คนญี่ปุ่นจะเชื่อในเรื่องคัปปะกันมากน้อยแค่ไหนไม่ทราบ แตที่แม่น้ำลำคลองในเมืองเล็กๆบางเมืองที่ญี่ปุ่น ยังมีป้ายเตือนให้ระวังคัปปะ และบางแห่งมีศาลเจ้าคัปปะซึ่งยังมีคนมาเซ่นไหว้กัน ว่ากันว่าหากต้องเผชิญหน้ากับคัปปะ วิธีเอาชนะมี 2 วิธีดังนี้ค่ะ
1. เอาแตงกวาเขียนชื่อตัวเอง แล้วโยนลงไปในน้ำไป คัปปะจะตามตะครุบแตงกวาแล้วไม่ยุ่งกับเรา
2. ให้โค้งคำนับคัปปะ เนื่องจากคัปปะเป็นภูตที่มีความสุภาพ ก็จะโค้งคำนับตอบ ตอนนั้นเองน้ำบนชามที่หัวก็จะหก ทำให้หมดกำลังพ่ายไป
ดินแดนโทโฮะกุแถบนี้ยังมีเรื่องลึกลักอีกมากมาย เช่นพระที่อุทิศตนเป็นมัมมี่ขณะที่ยังเป็นๆอยู่ ผีเด็กที่คนชอบให้มีอยู่ในบ้าน และอื่นๆ
วันหลังจะพยายามหาโอกาสเขียนอีกค่ะ