อาทิตย์ที่ผ่านมา เครียดมาก ยอดขายของบริษัทตกลงหนักที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งมา 40 ปี

มันก็คงมาจากหลายสาเหตุ ถ้าเศรฐกิจดี คนอื่นดีหมดแล้วผมแย่ คงสรุปได้ว่า ที่แย่เพราะตัวเราเองไม่พัฒนาหรือธุรกิจกำลังไปไม่ถูกทาง
ช่วงนี้ ภาวะ ณ ตอนนี้ ไม่สิ

มันตั้งแต่ เป่านกหวีดแล้ว นั่นก็ว่าแย่แล้ว ชะลอตัวแล้วนะ
พอมีอาเซนอล เข้ามาจัดการ ล้างระบบใหม่ เหมือนจะมีดีขึ้นชั่วขณะนึง

หลังจากนั้นก็ ค่อยๆ ลงๆๆๆๆๆ จนมาถึงวันนี้
ของที่เคยขายได้ ขายดี กลับขายไม่ดี
ของที่เคยขายส่งสร้างรายได้ ตอนนี้เงียบ
คนที่เคยซื้อของไปขาย บ้างก็ปิดกิจการไปแล้วก็มาก
ไปทำอย่างอื่น ขายที่ดิน กู้แบงค์ จำนอง บ้างอะไรสารพัด

เรื่องพวกนี้ ในรุ่นวัยผม ไปนั่งทานข้าวกับเพื่อนทีไร ไม่ได้คุยหรอกครับ
เรื่องธุรกิจเหมือนเรื่องไกลตัว วัยผม น้อยคนที่จะได้เข้ามาอยู่บริหารจัดการ
แบกรับภาระในบริษัทแบบที่ผมทำอยู่ ผมเชื่อว่าคนที่เริ่มต้นก่อนมันได้เปรียบ
คนที่ออกจากบ้านแต่เช้าเพื่อมาโรงเรียนวันแรกแล้วจองที่นั่งหน้าสุด ของห้องมักจะประสบความสำเร็จ

บางที ชีวิตมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ผมเชื่อว่า หลายๆคนก็คงอยู่ในอารมาณ์เหมือนผมตอนนี้
เศร้า สิ้นหวัง หมดกำลังใจ ...... ผมก็เป็นครับ ทุกวันนี้

แต่ที่น่าเศร้าใจที่สุดคือ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ในสถาณการณ์แบบนี้
พวกเรา คนตัวเล็กๆ ก้มหน้าก้มตากันต่อไป
บอกเลย ทุกวันนี้ผมไม่รู้จริงๆว่าสาเหตุคืออะไร

อะไรคือสาเหตุครับ

เรากำลังเผชิญปัญหากันอยู่รึเปล่า
หรือแค่ผม หรือแค่คนบางคน หรือแค่คนบางกลุ่ม

ผมเห็นร้านอาหารบางร้าน ที่เคยขายดี กลับเงียบ
ร้านเหล้าราคาถูก มีคนมากขึ้น เยอะจนล้นร้าน

ของ สินค้า ลดราคามากมาย
บางคนก็ใช้จ่ายเหมือนเดิม
เพื่อนๆผมที่เป็นแค่พนักงาน
เงินเดือนก็ออกปกติ
แต่กลับผม ผมกลับต้องรัดเข็มขัดอยู่ร่ำไป
ใช้จ่ายแบบคิดเยอะ

อะไรจำเป็น อะไรรอได้ อะไรต้องเดี่ยวนี้
ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ผมถามพ่อ พ่อก็บอกไม่เคยเจอมาก่อน
แล้วไอ่คนหนุ่มที่เพิ่งหักขึ้นหลังม้าอย่างผม อาจจะเป็นม้าตัวเล็กๆ แต่ถ้าล้ม
ไม่ใช่แค่ผม ครอบครัวผม ภรรยา อีก

ผมเคยคิดว่าปีนี้ ผมไม่หวังให้ขายดี ขอแค่เท่าปีที่แล้ว
เราพอยืดไปนะ ช่วงนี้ต้องค่อยๆพยุงๆไป
อีกซักพักน่าจะดีขึ้น


นกหวีดปี 56 ปลายปี อาเซนอลมากลางปี 57 นี่จะผ่านไปอีกปีนึงแล้ว

มันก็พูดยากนะ บางทีผมหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ว่าเราพลาดตรงไหน
สรุปคือ ตอนนี้ผมไม่รู้เลยครับว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนไม่ใช้จ่าย
เงินที่เคยใช้จ่ายกันทุกๆบ้านหายไปไหน หลายๆคนก็คงเป็นแบบผม
รัดเข็มขัดจนพุงปลิ้นแล้ว ก็ของมันขายไม่ได้

ของขายไม่ได้ เพราะอะไร ของไม่ดี หรือคนไม่ซื้อของ

ไม่รู้หวะ ไม่รู้จริงๆ เฮ้ยใครรู้บ้างครับ

ถ้าเราหาสาเหตุไม่ได้แล้วเราจะแก้ยังไงครับ

ไอ่ที่ออกข่าวโครมๆ คนนึงว่าแย่ๆๆๆๆ รัฐบาลบอกดีขึ้นแล้วๆๆๆๆ
เฮ็ย ยังไงกันแน่วะ งง

เอางี้ใครดีใครแย่ เม้นเลยฮะ เม้นเลย
อยากรู้ เพราะอะไร ทำไม สาเหตุ บอกมาเลย เม้นมาเลย
เครียดฮะ แม่มมม

จริงๆแล้วที่ผมตั้งกระทู้เนี่ย คือผมบอกว่า อาทิตย์ที่แล้ว เครียดมาก
แต่ตอนนี้ไม่เครียดเท่าไหร่แล้ว พอดีผมไปเจอน้องคนนึงเป็นรุ่นน้อง

ชีวิตเค้า หนักกว่าผมอีก เป็นนักร้องกลางคืน กลางวันเรียนมหาลัย
ที่บ้าน ฐานะไม่ดี ต้องสู้เลี้ยงดูตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก
ภรรยาผมเล่าให้ฟังว่า น้องเค้าเล่นคืนนึงได้ 500
ภรรยาผมกะว่าจะพาไปเลี้ยงข้าว สามคนสามพัน
เชื่อมมั้ย เค้าไม่ยอมให้ภรรยาผมเลี้ยง

แล้วน้องเค้าก็เป็นผู้หญิงนะ ได้วันละ 500 กินข้าวมื้อละพันก็ยอมจ่าย ไม่ยอมให้เลี้ยง
ผมฟังก็เลย เฮ้ย เค้าบอกเค้ามี 700 นะ ภรรยาผมบอกไม่เป็นไร
คือ เด็กมันน่ารักมั้ย มันดูแลที่บ้านด้วย เลี้ยงดูตัวเอง คือเงินในบัญชี
ไม่เคยมีเกินห้าพันอะ เดือนชนเดือน ในบัญชีนี่ สองพันก็หรูแล้วอะ

แล้วกลับมามองตัวเรา บอกเลยว่าอายน้องเค้ามาก
คือ นี่เราเป็นอะไรวะ ทำไมเราถึงไม่สู้เหมือนน้องเค้า
คือเราสู้แล้วไง แต่เราสู้ เราก็ยังสบายๆอะ
ไม่ต้องเดือนร้อนผ่อนนู่น ผ่อนนี่
ค่าบ้านไม่มี ค่าโทรศัพท์ก็มีจ่าย คือเรื่องเงินหมุนมันยังดี
แต่ของขายไม่ได้ เราก็ต้องประหยัด ลดรายจ่าย
ปรับตัวไปให้มันรอดพ้นจากตรงนี้ไปได้

คือผมไปเจอเรื่องนี้มาแล้วผมอยากจะบอกทุกคนว่า
อยากเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่ประสบปัญหาเหมือนผม

คุณเคยดู ชีวิต 800 มั้ย
ผมร้องไห้

เรื่องน้องที่เป็นนักดรตรี ผมฟังแล้วยังซึมเลย
คือทุกคนเจอปัญหาเหมือนกัน แต่เราต้องใช้ความคิดมากๆ
ในการทำให้ธุระกิจเราไปได้ อย่าจมกับปัญหา
อาทิตย์ที่แล้วผมจมกับปัญหามาก

แต่ตอนนี้ที่ผมสู้มาตลอดๆ ทุกอย่างมันก็ส่งผลแล้ว
ผมเชื่อว่าทุกคนจะเจอทางออก แต่มันมักจะอยู่ไกล แทบสุดปลายอุโมงค์
แต่นั่นแหละ เหมือนที่เราเกิดมา
เราเกิดจากสเปริมที่แข็งแรงที่สุด และรวดเร็วที่สุดเช่นกัน

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
ตอบกลับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
ทำมา 40 ปี แล้วพี่ผ่านปี '40 มาได้ไง ผ่านตอนเผาบ้านเผาเมืองมาได้ไง
แล้วทำไมมามาแย่ตอนเป่านกหวีดกับตอนรัฐประหารเท่านั้นล่ะครับ
ความคิดเห็นที่ 6
ภาพรวมแย่ลงครับ  สภาพคล่องหายไป  แต่ไปล้นอยู่ที่ธนาคาร ธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ  ประชาชนเข้าถึงทุนได้น้อยลงบางส่วนประวัติเสีย บางส่วนมีความเสี่ยง  สภาพการแข่งขันของทั้งโลกสูงขึ้น สงครามแย่งชิงลูกค้ามีมากขึ้น แต่ประเทศไทยไม่มีกลยุทธอะไรเลยมาช้านานแล้ว ใช้แต่สูตรประชานิยมกับโครงการถลุงงบเอาใจประชาชนโดยไม่ก่อให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขันระดับประเทศ  สินค้าของเราไม่ว่าจะเป็นสินค้ากาเกษตรและการท่องเที่ยวมีแต่เสื่อมโทรมและล้าหลัง แรงงานคุณภาพดีราคาถูกและมีมากที่เคยเป็นข้อได้เปรียบตอนนี้ไม่มีแล้ว  ด้านการเมืองก็มีแต่คนเลวกับคนบ้า  นั่นแหล่ะฝีแตกมันมาพร้อมๆกัน เลยป่วยหนักครับประเทศไทย
ความคิดเห็นที่ 42
ดร. วิรไท สันติประภพ

ช่วงนี้ผมมักถูกถามว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจไทย

หลายคนกังวลกับข่าวและตัวเลขเศรษฐกิจชะลอตัว บางคนสับสนกับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้น(หรือไม่เกิดขึ้น) และบางคงหงุดหงิดกับนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐที่ไม่เกิดผลแบบทันอกทันใจ

หลายคนสงสัยและหงุดหงิดเพราะมองไม่ออกว่าปัญหาของเศรษฐกิจไทยเวลานี้เป็นปัญหาวัฏจักรทางเศรษฐกิจช่วงสั้นๆ (cyclical) หรือเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง (structural) ที่ต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัด

คนที่มองว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับปัญหาวัฎจักรทางเศรษฐกิจ มักหวังให้ภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากเข้าไว้เพื่อจุดเครื่องยนต์ภาคเอกชนให้กลับมาเดินเครื่องใหม่

แต่สำหรับคนที่มองว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างแล้ว การกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะเกิดผลเพียงเล็กน้อยในช่วงสั้นๆ ไม่สามารถขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้จริง ที่สำคัญผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสั้นๆ จะทำให้เราชะล่าใจ ผลักปัญหาไปข้างหน้า ไม่จัดการกับปัญหาเชิงโครงสร้าง ซ่อนไว้เป็นปัญหาใหญ่ขึ้นในอนาคต

ผมเชื่อว่าระบบเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างหลายจุด ถ้าจะเปรียบกับร่างกายคน เศรษฐกิจไทยเวลานี้เหมือนกับคนอ้วนที่เคยปล่อยเนื้อปล่อยตัวกินตามใจปากมานาน มีอาการทั้งโรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ข้อเข่าเริ่มเสื่อม กระดูกหลายชิ้นเริ่มทรุด

ทางเดียวที่จะทำให้กลับมาแข็งแรงได้อย่างแท้จริง คือต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ลดการกินตามใจปาก หันมาออกกำลังกายรีดไขมัน สร้างกล้ามเนื้อ รวมทั้งยอมเจ็บผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข้าและชิ้นกระดูกที่เป็นปัญหา

ใครก็ตามที่โดนหมอวินิจฉัยโรคแบบนี้ย่อมทำใจยาก การเลิกกินตามใจปากและหันมาออกกำลังกายทำให้เกิดผลข้างเคียงหลายอย่าง ทั้งหน้ามืด อ่อนแรง หงุดหงิด จนหลายคนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้

คนไข้ที่ใจอ่อนมักหันกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม และหวังว่าจะเจอหมอคนใหม่ที่ชอบเอาใจ วินิจฉัยโรคว่าไม่ได้เป็นอะไรรุนแรง

ทุกคนรู้ดีว่าคนไข้ที่หลอกตัวเอง มีแต่จะสะสมโรคร้ายมากขึ้น เสี่ยงที่จะหัวใจวาย หรือเส้นเลือดในสมองแตกได้แบบฉับพลัน

ถ้าเราปล่อยให้สุขภาพเสื่อมลงถึงจุดนั้นแล้ว การรักษาให้กลับมาปกติใหม่จะยากขึ้น และต้นทุนค่ารักษาพยาบาลก็จะสูงขึ้นมาก (จนอาจจะทำให้คนไข้และญาติพี่น้องหมดเนื้อหมดตัว)

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจไทยเหมือนกับคนอ้วนที่เคยกินตามใจปากจนเกินพอดี เป็นเพราะนโยบายภาครัฐในอดีตหลายเรื่องที่สร้างรายได้เทียมให้แก่ประชาชน ส่งเสริมให้คนนำเงินในอนาคตมาใช้ล่วงหน้า และสร้างวัฒนธรรมรอรัฐอุปถัมภ์

หมอที่ชอบเอาใจคนไข้มักเร่งให้คนไข้ดูดี ด้วยการเร่งการบริโภคและการลงทุน เพื่อทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเร็วในช่วงสั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถคันแรก (ที่หลายคนกู้เงินซื้อรถเพื่อรักษาสิทธิ์เอาภาษีคืนจากรัฐบาล) โครงการรับจำนำข้าวในราคาที่สูงเกินจริง (ที่สร้างผลขาดทุนกว่าครึ่งล้านล้านบาท สร้างหนี้สาธารณะ และทำให้เกษตรกรถูกหลอกว่าจะมีรายได้ดีต่อเนื่อง จนใช้จ่ายจนเกินตัว) การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ (ทำให้แรงงานเชื่อว่าจะมีรายได้สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กไปไม่รอด และราคาสินค้ากระโดดขึ้นเร็ว ) และการขึ้นเงินเดือนข้าราชการแบบก้าวกระโดดโดยไม่เพิ่มประสิทธิภาพ (ได้สร้างข้อจำกัดทางงบประมาณ โดยเฉพาะงบลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ)

ทั้งนี้ ยังไม่รวมโครงการขยายสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ และโครงการเร่งลงทุนผ่านรัฐวิสาหกิจที่ไม่คุ้มค่าอีกหลายสิบโครงการ


เมื่อนโยบายเหล่านี้เริ่มอ่อนฤทธิ์ และร่างกายเริ่มแสดงอาการที่แท้จริง จึงพบสัญญาณหลายอย่างว่าการกินเกินพอดีที่ผ่านมาได้ทำให้โครงสร้างของเศรษฐกิจไทยอ่อนแอลงมาก ตัวบ่งชี้โรคร้ายหลายตัวกระโดดขึ้นเกินค่ามาตรฐานมาก ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ประชาชาติ สัดส่วนรายจ่ายประจำของรัฐบาล อัตราหนี้เสียของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ผลขาดทุนของรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง หนี้สาธารณะของรัฐบาล ตลอดจนการคอรัปชั่นในหลายรูปแบบ ที่เป็นพยาธิคอยสูบเลือดจากทุกอวัยวะของระบบเศรษฐกิจไทย

นอกจากนี้ เรากำลังเผชิญกับปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง ข้อเข่าเสื่อม และกระดูกทรุดอีกมากมาย จากการอ่อนประสิทธิภาพของระบบราชการ การด้อยคุณภาพของระบบการศึกษาไทย ความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยที่ถดถอยลง โดยเฉพาะการส่งออก การขาดแคลนแรงงานอาชีวะและแรงงานมีฝีมือ รวมไปถึงความแตกแยกในสังคมที่ส่วนหนึ่งเกิดจากระบเศรษฐกิจที่มีความเหลื่อมล้ำสูง คนมือยาวสาวได้สาวเอา

การที่เราเพลินกับการกินตามใจปาก ไม่รักษาสุขภาพ และขาดวินัย ได้สร้างปัญหาให้กับเราแล้วในวันนี้และจะเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นในอนาคตถ้าเราไม่แก้ไข

จุดเริ่มต้นของการรักษาคือ ต้องทำให้คนไข้ยอมรับความจริงว่าเศรษฐกิจไทยกำลังป่วยรุนแรงด้วยปัญหาเชิงโครงสร้าง คนไข้ต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างจริงจัง และต้องยอมรับการผ่าตัดในหลายจุด

คนไทยหลายกลุ่มยังคิดว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับปัญหาวัฎจักรเศรษฐกิจในช่วงสั้นๆ เช่น เศรษฐกิจไม่ดีเพราะการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คนไม่ยอมใช้จ่ายเงินเพราะขาดความมั่นใจในรัฐบาล รัฐบาลเบิกจ่ายเงินช้า ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำชั่วคราว หรือค่าเงินบาทแข็งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การส่งออกมีปัญหา

คนกลุ่มนี้ (ซึ่งส่วนหนึ่งเคยชินกับวัฒนธรรมรอรัฐอุปถัมภ์) มักเรียกร้องให้รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยยาชูกำลังแบบเดิมๆ ซึ่งจะทำให้อาการป่วยหลบใน รอเวลาสำหรับการเจ็บป่วยที่รุนแรงกว่าในอนาคต

ในสภาวะที่เศรษฐกิจเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้าง การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วยการเพิ่มรายจ่ายภาครัฐ หรือเร่งให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจปล่อยสินเชื่อ เป็นได้เพียงแค่ยาชูกำลังที่ทำให้คนไข้สดชื่นชั่วคราว หรือเป็นเพียงยาหอม ยาดม ที่เยียวยาอาการภายนอกในช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะภาครัฐมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับขนาดของระบบเศรษฐกิจไทย และการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้แก้ต้นเหตุของปัญหาที่ซ่อนอยู่ภายใน

แต่ถ้าเราใช้ยาพวกนี้มากเกินควรย่อมเกิดผลข้างเคียงหลายอย่าง รวมทั้งต้องระวังไม่ให้รัฐบาลซื้อยาชูกำลัง ยาหอม ยาดมจนเงินหมดกระเป๋า ไม่เหลือเงินสำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนแปลงที่ต้นเหตุของปัญหา

ในเวลานี้ หมอและคนไข้ต้องร่วมกันแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจ การปฏิรูประบบราชการ การปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ การปฏิรูปการศึกษา และการแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นทุกระดับ

การปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจสำคัญมากสำหรับอนาคตของประเทศไทย (สำคัญกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสั้นๆ หลายเท่านัก) ปัญหาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้เราวุ่นวายกับเรื่องภายใน และมองแต่ปัญหาระยะสั้นมากกว่าการทำเรื่องระยะยาว ในขณะที่ประเทศคู่แข่งรอบบ้านของเราตั้งแต่จีนถึงอินโดนีเซีย และพม่าถึงเวียดนาม ได้เดินหน้าปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศ(และนักลงทุนไทย)มองข้ามประเทศไทย และสินค้าส่งออกของไทยหลายรายการเริ่มตกรุ่น แข่งขันไม่ได้

นโยบายปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจหลายเรื่องไม่ต้องใช้เงินงบประมาณและไม่สร้างภาระการคลังให้แก่รัฐบาล การปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการลงทุนใหม่ๆ ของภาคเอกชน ภาครัฐต้องทำงานเชิงรุกเพื่อเพิ่มการลงทุน โดยเฉพาะในกิจกรรมที่จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว ต้องเร่งทำให้นโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษตรงกับตามความต้องการของธุรกิจในอนาคตและเกิดผลจริงในทางปฏิบัติ ต้องยอมตัดใจเลิกอุดหนุนกิจกรรมที่ล้าสมัยหรือไม่สอดคล้องกับการแข่งขันในอนาคต ภาครัฐต้องเร่งเปิดประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่หลายเรื่องที่ภาคเอกชนเฝ้ารอมานาน ภาครัฐต้องสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับจุดยืนของประเทศไทยในข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญ (โดยเฉพาะ Trans Pacific Partnership หรือ TPP และ EU-Thailand FTA) นอกจากนี้ ภาครัฐควรเปิดเสรีเพิ่มเติม โดยเฉพาะในภาคเศรษฐกิจที่(ธุรกิจไทยขนาดใหญ่)ได้รับการคุ้มครองมากเกินควร เพื่อลดต้นทุนการทำธุรกิจในประเทศไทย และส่งเสริมการลงทุนใหม่ๆ โดยผู้ประกอบการที่มีความสามารถสูงกว่า

ความสงสัยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจไทย และความหงุดหงิดว่านโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐไม่เกิดผลแบบทันอกทันใจจะบรรเทาลง ถ้าเรายอมรับความจริงว่าเศรษฐกิจไทยกำลังป่วยด้วยปัญหาเชิงโครงสร้าง ต้องเลิกกินตามใจปาก ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างจริงจัง และยอมเจ็บตัวผ่าตัดเปลี่ยนชิ้นกระดูกหลายจุดที่มีปัญหา

การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจไม่มีทางลัด ต้องใช้ความอดทนและใช้เวลากว่าจะเห็นผล ตอนนี้ได้แต่หวังว่าหมอต้องมั่นคงและคนไข้ต้องเข้าใจ ไม่ใจอ่อน กลับมารักษาโรคเบาหวาน ความดัน และหัวใจ ด้วยยาหอม ยาดม ยาชูกำลัง แบบเดิมๆ

ปล. ก๊อปมาให้อ่าน เผื่อจะได้เข้าใจ คนไทยกินของหวานจนเคยตัวเลยกินยาขมๆไม่ค่อยจะเป็น
ความคิดเห็นที่ 10
ทำกิจการ มา 40 ปี เหรอคะ
กิจการ ที่บ้านทำมานาน เหมือนกันค่ะ ช่วงนี้ ก็ไม่ดี อย่างไม่เคยเป้นมาก่อน
แต่ว่า ไม่ถึง กับเครียดมากค่ะ กิจการผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน ขายดีมาก ถึง ขายไม่ดีมาก
วนแบบนี้ หลายรอบ เวลาที่ผ่านมา ขายดี ก็เก็บไว้ ลงทุนบ้าง ทำอาไร บ้าง ขายไม่ดีก็ประคองตัว
เลี้ยงลุกน้องไป ควักทุนบ้างไรบ้าง มองหาโอกาส ใหม่ๆๆเสมอ

เดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ เหมือนกับที่มันเคยผ่านมาแล้ว
ตนเป้นที่พึ่งแห่งตน ค่ะ เราผ่านมันไปได้ พอเศรษฐกิจดี ก็ไปได้เร็วกว่าคนอื่น
ความคิดเห็นที่ 16
ขอโทษจริงๆนะครับ....

กิจการทำมา 40 ปี แล้วกิจการคุณผ่านปี 40 มาได้อย่างไงครับ...

ตอนนั้น เช็คเด้งระนาว ธุรกิจใดที่มีหนี้ ส่วนมากล้มครับ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่