ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเป็นคนพิมพ์หรืออธิบายอะไรไม่ค่อยเก่งนัก แล้วนี้ก็เป็นกระทู้แรกที่ตั้งใจอยากจจะบอกเล่า

เรื่องราวในอดีตของตัวเองและเชื่อว่าหลายๆคนน่าจะผ่านเรื่องราวแบบนี้มาบ้าง
ย้อนกลับไป สามปีที่แล้ว แต่ต้องบอกก่อนว่าเราเองไม่ได้อยู่ที่ไทยนะ เรามาเรียนอยู่ ตปท และที่ที่เราเรียนนั้นเรา
ก็ได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง ซึ่งเค้าแก่กว่าเรา สองปี ตอนแรกเราเองก็ไม่ได้สนใจอะไร เค้าเองก็ไม่ได้มีทาทีสนใจเราเช่นกัน และโชคชะตาก็บันดาล
ให้เราทั้งสองได้มาอยู่ห้องเดียวกัน ซึ่งตอนแรกๆเราก็มองว่า เห้ยทำไมไอ้นี้มันหยิ่งจัง

พูดด้วยไม่ยอมพูดด้วย
แต่ก็เลือกที่จะทักเค้าก่อนเพราะเค้าเป็นเอเชี่ยนเหมือนกับเรา และแล้วเมื่อเวลาผ่านไป เราก็รู้จักกันมากขึ้นสนิทกันมากขึ้น
เพราะเค้าเป็นคนที่อัธยาศัยดี พูดเก่ง เป็นสุภาพบุรุษมากกกกถึงมากที่สุด ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไร
แค่อยากให้เค้าช่วยเรื่องเรียน เพราะภาษาเราแย่มากกกกกก และแล้วเราก็ตกหลุมพรางตัวเองรักเค้าไปอย่างจัง
หลังจากนั้นไม่นานเราก็ตกลงปลงใจเป็นแฟนกับเค้า ซึ้งตอนนั้นเรามีความสุขมาก ความรู้สึกมันเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน
โลกทั้งใบเป็นสีชมพู วิ้งวิ้ง

และเราก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย ซึ่งก่อนหน้านี้เราเองก็เคยมีแฟนมาก่อน
ระหว่างที่คบกันต้องบอกเลยว่า ภาษาคืออุปสรรคที่ยากที่สุด แต่ด้วยความที่เค้าพยายามที่จะเข้าใจเรา พยายามแทคแคร์เราสุดๆๆ
มันยิ่งทำให้เราประทับใจในตัวเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเราก็คบกันมาเกือบปีแต่แล้ว....................
มาวันนึงเค้าได้รู้จักกับ แอปพลิเคชั่น ตัวนึงที่เวลาเราเขย่าแล้วจะเจอเพื่อนใหม่ๆ เราคิดว่าหลายคนคงรู้จักแอปตัวนี้ดี
ซึ่งเราเองก็ไม่ได้ เอะใจอะไร เพราะเราไว้ใจเค้ามาก แต่ความคิดเราก็เปลี่ยน เพราะ จากที่เราคุยกันเจอกันทุกวัน
มันเริ่มไม่ค่อยมีอะไรคุย เค้าเริ่มไม่อยากเจอ ชวนไปไหนไม่อยากไปเค้าขอเวลาอยู่คนเดียวและเราก็ทะเลาะกันบ่อยขึ้น
เราเริ่มสงสัยว่าทำไม เราจึงไปแอบเปิดโทรศัพท์เค้าดู ซึ่งเราก็เจออ.......... เค้าคุยกับผู้หญิงคนนึง เราแบบ ใจสั่น มือเย็น
น้ำตาเริ่มคลอ แต่ก็พยายามจะอ่านข้อความที่เค้าส่งหากันให้จบ ซึ่งในบทสนทนา เค้าคุยกันดึกดื่นบางครั้งก็ถึงเช้า
เราแทบไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เรารักและไว้ใจ ทำกับเราแบบนี้ หลังจากนั้น เราจึงถามเค้า ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เค้าบอกว่าเจอ
ในแอป แต่ไม่มีอะไร แค่คุยด้วยถูกคอ อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นน่าสงสารมาก อยากหย่ากับสามีแต่สามี
ไม่ยอมหย่าให้และยังทำร้ายร่างกายเธออีก ซึ่งพอเราฟังแบบนั้นก็รู้สึกเห็นใจ ผู้หญิงคนนั้น
กลับกลายเป็นสงสารแทนที่จะโกรธ ต้องบอกก่อนว่าแฟนเรากับผู้หญิงคนนั้นอายุห่างกันถึง ห้าปี
แถมผู้หญิงคนนั้นก็ยังมีลูกเล็กอีกด้วย เราจึงปล่อยวางไม่คิดมาก แล้วเรื่องนั้นก็ผ่านไป.
หลังจากนั้นก็ผ่านไปได้สักพักเราเองก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะแฟนก็กลับมาเป็นปกติ เราก็คิดว่าเค้าอาจจะเลิกคุยกันไปแล้ว

แต่มีอยู่วันนึงกลับมีเสียงโทรศัพท์ของแฟนเราดังขึ้น แล้วเค้าก็วิ่งพรวดไปรับอย่างเร็ว ทิ้งให้เรานั่งเอ๋ออยู่ตรงนั้น
เค้าออกไปคุยข้างนอก ซึ้งเราไม่ได้ตามไป พอกลับมาเค้าก็มีสีหน้า ยิ้มแย้มดีใจ เราก็ถามว่าใครโทรมาเค้าก็บอกว่าถ้าบอกไป
อย่าโกรธนะ เราก็แบบยิ่งอยากรู้ ต่อจากนี้เราขอแทนผู้หญิงคนนั้นว่า D นะค่ะ เค้าก็ว่า D โทรมา เราก็แบบอ้าวนึกว่าเลิกคุยไปแล้วนะ
นี้มีเบอร์กันด้วย มันชักจะยังไงๆแล้ว เราก็รีบคว้าโทรศัพท์เค้ามาดู และสีหน้าเค้าก็เริ่มเปลี่ยน เราก็เลยแย่งมาดู
แต่พอเข้าไปดูแล้วถึงกับสตั้นไปหลายนาที ครั้งนี้เค้าคุยกันหวานนนช่ำ มากกก "แบบคิดถึงนะ ทำอะไรอยู่เบบี้ เด่วไปหา" และอีกเยอะ ซึ่งตอนนั้น
เราแบบเห้ยอะไรวะ มันมีคำถามมากมาย ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะถามอะไรออกไปคือพูดไม่ออกแล้ว คือแบบ เค้าทำไมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
ความไว้ใจมันหายไปในไม่กี่วินาที เราไม่รู้จะพูดอะไร เพราะในบทสนทนามันมีอะไรมากมาย ที่ไม่สามารถเอ่ยเป็นคำพูดได้
และเค้ากับ D ทำเหมือนเราเป็นตัวตลก ที่หลอกยังไงก็เชื่อ




จากนั้นเราก็ได้แต่นั่งเงียบ น้ำตาไหลพรากอยากจะหยุดแต่มันก็ไม่หยุดไหลสักที มันเจ็บไปลึกลงไปข้างใน แต่ก็โทษตัวเอง
เพราะเราเองที่หวังกับเค้ามาก หวังว่าเค้าจะไม่ทรยศเรา จะรักและซื่อสัตย์กับเราเพียงคนเดียว
แต่คือความรู้สึกดีดีมันหายไปหมดแล้ว เราจำได้ว่า เราถามเค้าว่าเค้าจะเลือกใคร และเค้าก็บอกว่า
เค้ารักเรามากนะ แต่เค้าก็เลิกคุยกับ D ไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งเค้าเองก็บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร เรารั้งเค้าอยู่นาน แต่ทำไงได้
ในเมื่อคนจะไป ยังไงเค้าก็ต้องไปอยู่ดี ต่อให้รักมากแค่ไหนยังไงก็ต้องปล่อย หลังจากวันนั้นเราก็ได้คุยกันบ้างเค้าดูโอเคมีความสุขดี
แต่ทุกวันของเรา มันชั่งแสนยาวนานและทรมาน จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังจดจำความเจ็บปวดนั้นได้
ถึงแม้ว่าจะไม่อยากจำแต่ก็โกหกตัวเองไม่ได้ว่าลึกลึกก็ยังเสียใจอยู่ แต่ก็จะยิ้มรับมันไว้
สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบนะค่ะ ผิดพลาดประการใดเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

และอยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ ผิดหวัง หรือ เสียใจกับความรักที่ไม่สมหวัง แต่ยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อไป
และเวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่างเอง พอเรามองกลับไป มันอาจจะเป็นความทรงจำที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
แต่เราเชื่อว่ามันจะช่วยเตือนตัวเราเองว่า
อย่ารักใครมากกว่าตัวเราเอง
Time machine
เรื่องราวในอดีตของตัวเองและเชื่อว่าหลายๆคนน่าจะผ่านเรื่องราวแบบนี้มาบ้าง
ย้อนกลับไป สามปีที่แล้ว แต่ต้องบอกก่อนว่าเราเองไม่ได้อยู่ที่ไทยนะ เรามาเรียนอยู่ ตปท และที่ที่เราเรียนนั้นเรา
ก็ได้รู้จักกับผู้ชายคนนึง ซึ่งเค้าแก่กว่าเรา สองปี ตอนแรกเราเองก็ไม่ได้สนใจอะไร เค้าเองก็ไม่ได้มีทาทีสนใจเราเช่นกัน และโชคชะตาก็บันดาล
ให้เราทั้งสองได้มาอยู่ห้องเดียวกัน ซึ่งตอนแรกๆเราก็มองว่า เห้ยทำไมไอ้นี้มันหยิ่งจัง
แต่ก็เลือกที่จะทักเค้าก่อนเพราะเค้าเป็นเอเชี่ยนเหมือนกับเรา และแล้วเมื่อเวลาผ่านไป เราก็รู้จักกันมากขึ้นสนิทกันมากขึ้น
เพราะเค้าเป็นคนที่อัธยาศัยดี พูดเก่ง เป็นสุภาพบุรุษมากกกกถึงมากที่สุด ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไร
แค่อยากให้เค้าช่วยเรื่องเรียน เพราะภาษาเราแย่มากกกกกก และแล้วเราก็ตกหลุมพรางตัวเองรักเค้าไปอย่างจัง
หลังจากนั้นไม่นานเราก็ตกลงปลงใจเป็นแฟนกับเค้า ซึ้งตอนนั้นเรามีความสุขมาก ความรู้สึกมันเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน
โลกทั้งใบเป็นสีชมพู วิ้งวิ้ง
ระหว่างที่คบกันต้องบอกเลยว่า ภาษาคืออุปสรรคที่ยากที่สุด แต่ด้วยความที่เค้าพยายามที่จะเข้าใจเรา พยายามแทคแคร์เราสุดๆๆ
มันยิ่งทำให้เราประทับใจในตัวเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเราก็คบกันมาเกือบปีแต่แล้ว....................
มาวันนึงเค้าได้รู้จักกับ แอปพลิเคชั่น ตัวนึงที่เวลาเราเขย่าแล้วจะเจอเพื่อนใหม่ๆ เราคิดว่าหลายคนคงรู้จักแอปตัวนี้ดี
ซึ่งเราเองก็ไม่ได้ เอะใจอะไร เพราะเราไว้ใจเค้ามาก แต่ความคิดเราก็เปลี่ยน เพราะ จากที่เราคุยกันเจอกันทุกวัน
มันเริ่มไม่ค่อยมีอะไรคุย เค้าเริ่มไม่อยากเจอ ชวนไปไหนไม่อยากไปเค้าขอเวลาอยู่คนเดียวและเราก็ทะเลาะกันบ่อยขึ้น
เราเริ่มสงสัยว่าทำไม เราจึงไปแอบเปิดโทรศัพท์เค้าดู ซึ่งเราก็เจออ.......... เค้าคุยกับผู้หญิงคนนึง เราแบบ ใจสั่น มือเย็น
น้ำตาเริ่มคลอ แต่ก็พยายามจะอ่านข้อความที่เค้าส่งหากันให้จบ ซึ่งในบทสนทนา เค้าคุยกันดึกดื่นบางครั้งก็ถึงเช้า
เราแทบไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เรารักและไว้ใจ ทำกับเราแบบนี้ หลังจากนั้น เราจึงถามเค้า ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เค้าบอกว่าเจอ
ในแอป แต่ไม่มีอะไร แค่คุยด้วยถูกคอ อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นน่าสงสารมาก อยากหย่ากับสามีแต่สามี
ไม่ยอมหย่าให้และยังทำร้ายร่างกายเธออีก ซึ่งพอเราฟังแบบนั้นก็รู้สึกเห็นใจ ผู้หญิงคนนั้น
กลับกลายเป็นสงสารแทนที่จะโกรธ ต้องบอกก่อนว่าแฟนเรากับผู้หญิงคนนั้นอายุห่างกันถึง ห้าปี
แถมผู้หญิงคนนั้นก็ยังมีลูกเล็กอีกด้วย เราจึงปล่อยวางไม่คิดมาก แล้วเรื่องนั้นก็ผ่านไป.
หลังจากนั้นก็ผ่านไปได้สักพักเราเองก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะแฟนก็กลับมาเป็นปกติ เราก็คิดว่าเค้าอาจจะเลิกคุยกันไปแล้ว
แต่มีอยู่วันนึงกลับมีเสียงโทรศัพท์ของแฟนเราดังขึ้น แล้วเค้าก็วิ่งพรวดไปรับอย่างเร็ว ทิ้งให้เรานั่งเอ๋ออยู่ตรงนั้น
เค้าออกไปคุยข้างนอก ซึ้งเราไม่ได้ตามไป พอกลับมาเค้าก็มีสีหน้า ยิ้มแย้มดีใจ เราก็ถามว่าใครโทรมาเค้าก็บอกว่าถ้าบอกไป
อย่าโกรธนะ เราก็แบบยิ่งอยากรู้ ต่อจากนี้เราขอแทนผู้หญิงคนนั้นว่า D นะค่ะ เค้าก็ว่า D โทรมา เราก็แบบอ้าวนึกว่าเลิกคุยไปแล้วนะ
นี้มีเบอร์กันด้วย มันชักจะยังไงๆแล้ว เราก็รีบคว้าโทรศัพท์เค้ามาดู และสีหน้าเค้าก็เริ่มเปลี่ยน เราก็เลยแย่งมาดู
แต่พอเข้าไปดูแล้วถึงกับสตั้นไปหลายนาที ครั้งนี้เค้าคุยกันหวานนนช่ำ มากกก "แบบคิดถึงนะ ทำอะไรอยู่เบบี้ เด่วไปหา" และอีกเยอะ ซึ่งตอนนั้น
เราแบบเห้ยอะไรวะ มันมีคำถามมากมาย ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะถามอะไรออกไปคือพูดไม่ออกแล้ว คือแบบ เค้าทำไมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
ความไว้ใจมันหายไปในไม่กี่วินาที เราไม่รู้จะพูดอะไร เพราะในบทสนทนามันมีอะไรมากมาย ที่ไม่สามารถเอ่ยเป็นคำพูดได้
และเค้ากับ D ทำเหมือนเราเป็นตัวตลก ที่หลอกยังไงก็เชื่อ
จากนั้นเราก็ได้แต่นั่งเงียบ น้ำตาไหลพรากอยากจะหยุดแต่มันก็ไม่หยุดไหลสักที มันเจ็บไปลึกลงไปข้างใน แต่ก็โทษตัวเอง
เพราะเราเองที่หวังกับเค้ามาก หวังว่าเค้าจะไม่ทรยศเรา จะรักและซื่อสัตย์กับเราเพียงคนเดียว
แต่คือความรู้สึกดีดีมันหายไปหมดแล้ว เราจำได้ว่า เราถามเค้าว่าเค้าจะเลือกใคร และเค้าก็บอกว่า
เค้ารักเรามากนะ แต่เค้าก็เลิกคุยกับ D ไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งเค้าเองก็บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร เรารั้งเค้าอยู่นาน แต่ทำไงได้
ในเมื่อคนจะไป ยังไงเค้าก็ต้องไปอยู่ดี ต่อให้รักมากแค่ไหนยังไงก็ต้องปล่อย หลังจากวันนั้นเราก็ได้คุยกันบ้างเค้าดูโอเคมีความสุขดี
แต่ทุกวันของเรา มันชั่งแสนยาวนานและทรมาน จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังจดจำความเจ็บปวดนั้นได้
ถึงแม้ว่าจะไม่อยากจำแต่ก็โกหกตัวเองไม่ได้ว่าลึกลึกก็ยังเสียใจอยู่ แต่ก็จะยิ้มรับมันไว้
สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบนะค่ะ ผิดพลาดประการใดเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
และอยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ ผิดหวัง หรือ เสียใจกับความรักที่ไม่สมหวัง แต่ยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อไป
และเวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่างเอง พอเรามองกลับไป มันอาจจะเป็นความทรงจำที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
แต่เราเชื่อว่ามันจะช่วยเตือนตัวเราเองว่า อย่ารักใครมากกว่าตัวเราเอง