ชำแหละข่าวเต้า: ผลกระทบแผ่นดินไหว เนปาล ต่อประเทศไทย

แผ่นดินไหวที่เนปาลในคืนวันเสาร์ที่ 25 เมษายน 2558 เรียกได้ว่าเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในพื้นประเทศในช่วง 80 ปีที่ผ่านมา (M 8.0) แต่ยังนับว่ามีความสูญเสียน้อยกว่าแผ่นดินไหวที่ ไฮติ (M7.0) และ ญี่ปุ่น (M 9.0 ใต้ทะเล) เพราะพื้นที่ของเนปาลมีการกระจายตัวของประชากรเบาบาง  และมันก็นำมาซึ่งความหวาดกลัวของสังคม เพราะหมอเดาประเทศเราชอบนักไอ้เรื่องการเต้าข่าวภัยพิบัติ โดยไม่ได้คิดกันมั่งเลยว่าไอ้ที่หลอกๆให้คนเขาตระหนก มันก็จะทำให้งานที่จะทำให้เกิดความตระหนักนั้นยุ่งยากไปด้วย  ดังนั้น เรามาทำความเช้าใจในสภาพความเป็นจริงของแผ่นดินไหวครั้งนี้กันเล็กน้อย




แนวการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก[1]

แผ่นดินไหวที่เนปาล เป็นผลจากการสะสมแรงเครียดที่แผ่นเปลื่อกโลกอินเดีย เคลื่อนเข้าหาแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย แผ่นเปลือกโลกนั้นเห็นกว้างใหญ่แต่ก็บางเพียงนิดเดียวเทียบกับขนาดของโลก แผ่นเปลือกที่เลื่อนเข้าหากัน จะมีการขัดกันในลักษณะของแรงเสียดทาน เมื่อความเครียดของวัสดุ (เปลือกโลก) มีมากพอจะชนะแรงเสียดทาน ก็จะเกิดการเคลื่อนผ่าน เกิดการพังทลาย ระบายพลังงานออกในรูปของแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นคลื่นที่เคลื่อนผ่านเปลือกโลกและกลายเป็นการสั่นสะเทือนอย่างที่เราสัมผัสกัน


ตำแหน่งที่ตั้งของเนปาล บนแผ่นเปลือกโลก อินเดีย และ ยูเรเซีย [2]

เนปาลเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงการเกิดแผ่นดินไหวสูงตามธรรมชาติ เพราะทั้งประเทศตั้งอยู่บนรอยต่อที่แผ่นเปลือกโลกอินเดีย มุดลงใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย เทือกเขา หิมาลัย ทั้งหุบเขา เกิดจากแรงเครียดที่แผ่นเปลือกโลกนี้ชนเคลื่อนผ่านกันมานับล้านปี และ แผ่นเปลือกโลกนี้ก็ยังเคลื่อนตัวอยู่ และทำให้เทือกเขาหิมาลัย เคลื่อนตัวไปทางตอนเหนือปีละหลายมิลลิเมตร


ตำแหน่งรอยต่อเปลือกโลก[3]

ผลกระทบการเกิดแผ่นดินไหว จะส่งผลต่อเนื่องกันตามรอยเลื่อนเป็นหลัก ซึ่ง ประเทศไทย นั้นตั้งอยู่ในแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย เราไม่ได้ตั้งอยู่ใกล้ช่วงแนวตะเข็บรอยต่อเปลือกโลก ผลกระทบในลักษณะแผ่นดินไหวขนาดใหญ่นั้น จึงเรียกว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เราก็รู้กันว่า ประเทศไทยมีรอยเลื่อนกระจายอยู่ 14 แห่งในประเทศ ที่เรียกว่า รอยเลื่อนมีพลัง ที่อาจเกิดเป็นแผ่นดินไหวได้ เรามารู้จักกันสักนิดว่า รอยเลื่อนนี้ ต่างจากรอยเลื่อนแบบของเนปาลอย่างไร


ลักษณะรอยเลื่อนในประเทศไทย [4]

รอยเลื่อนในประเทศไทย เป็นการแปรสัณฐานจากการบิด เมื่อชั้นหินในแผ่นเปลือกโลกเดียวกันมีอัตราการเคลื่อนที่ๆต่างกัน เกิดจากการบิดเมื่ออัตราการเลื่อนไหลของเปลือกโลกที่กระทำต่อแผ่นเปลือกโลกของเราไม่เท่ากัน โดยมีแรงกระทำทั้งจากเปลือกโลกฝั่งอินเดีย และเปลือกโลก อินโด-ออสเตรเลียน ลักษณะของรอยเลื่อนนี้ เราอาจเทียบว่า เหมือนเป็นรอยยับของวัสดุเปลือกโลกก็ว่าได้ ในขณะที่ รอยเลื่อนที่เนปาล เป็นแผ่นเปลือกโลกที่อัดเข้าหากันคนละแผ่น แผ่นดินไหว อาจทำให้เกิดการพังทลายต่อเนื่อง ในช่วงรอยต่อเดียวกัน แต่การส่งผลข้ามมาถึงแนวรอยเลื่อน ที่อยู่คนละแนว และเกิดขึ้น คนละสาเหตุ แถมอยู่ไกลกันด้วยนี้ การเกิดผลกระทบถึงกันนั้น น้อยในระดับที่พูดในระดับชาวบ้าน เรียกว่า น้อยจนเลอะเทอะ

ในอีกด้านหนึ่ง ถ้าเรามองในแง่ของการบิดของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย แผ่นดินที่เคลื่อนเข้าหามีการพังทลายปลดปล่อยพลังงานศักย์ที่สะสมออกมา นั่นยังกลับจะเป็นการคลายพลังงาน ลดแรงต้านที่ทำให้เกิดการบิดเสียด้วยซ้ำ แต่จริงๆผลมันก็ไม่เท่าไหร่อยู่แล้วเพราะมันไกลกันมาก และเป็น region เล็กๆในสเกลขนาดของโลก


นอกเหนือจากในแง่ของการเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่อง ถ้าพูดถึงความรุนแรง ความรุนแรงของแผ่นดินไหวตามแนวรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลกจะรุนแรงได้ถึงระดับ M 9.0 แต่ในพื้นที่ประเทศไทย ที่มีรอยเลื่อนเป็นแค่รอยยับลึกเข้ามาในแผ่นเปลือกโลก ห่างจากรอยตะเข็บ การเกิดแผ่นดินไหวในระดับ M 6.0 นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ และการออกแบบเขื่อนต่างๆในไทย ก็ออกแบบไว้รอบรับแผ่นดินไหวในระดับ 7.0 ไม่ได้เสี่ยงขนาดที่ทั่น ดร. สมิทธ ออกมาให้ข่าวเป้นตุเป็นตะ ให้กล่าวโดยสรุป กรณี แผ่นดินไหวที่เนปาล จะไม่เกิดผลกระทบรุนแรงต่อประเทศไทย และ ความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวของไทย ไม่มีนัยสำคัญในระดับต้องมาตื่นตูมย้ายถิ่นฐานหนีขึ้นเหนือ เตรียมเสบียง อาหารอวกาศ บ้าๆบอๆแบบนักค้าความกลัวเช่น นาย ปิยชีพ อะไรนั่น


เปรียบเทียบประวัติแผ่นดินไหวในไทย ของเราในรอบ 700 ปี เทียบกับญี่ปุ่นในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา  จะเห็นได้ว่าในขณะที่แผ่นดินไหวระดับ 5.9 เป็นภัยที่เราต้องระวัง ของญี่ปุ่น จะมีไปถึงระดับ 8.0 ในคาบเวลาที่สั้นกว่าของเรามาก  [5][6]

ความตระหนัก vs ความตระหนก
คนเรานี้ก็แปลก ถ้าเราไม่เมินเฉยไปเลย เราก็มักจะตระหนกขี้หดตดหาย เรื่องอันตรายจากแผ่นดินไหวเป็นสิ่งที่คนไทยควรตระหนัก เราควรรู้จักวิธีเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหว (อย่าเคลื่อนไหว อยู่ติดพื้น ขดตัว หลีกเลี่ยงบริเวณกระจกและชั้นวางของ) ควรรับรู้ถึงความสำคัญของการตรวจสอบอาคารและโครงสร้าง ยึดเฟอร์นิเจอร์ให้ติดกับผนังไม่โคลงล้ม ไม่เทินของสูงจนเป็นอันตราย รู้เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน ฯลฯ แต่ไม่ใช่เอาแต่หวาดผวา กลัวไปกระทั่งจะกลายเป็นวันโลกาวินาศโลกหมุนกลับทิศตะวันตกเป็นตะวันออก ต้องมาสวดอ้อนวอน ไม่เป็นอันทำมาหากินละนะครับ แผ่นดินไหว ศึกษาไว้ก็ดี ระวังไว้ก็ดี แต่ไอ้ขนาดตื่นตูมอะไรเนี่ย อย่าให้มันเลอะเทอะกันไปเลย



อ้างอิง
[1] http://www.geologyin.com/2015/04/what-caused-nepal-earthquake.html
[2] http://www.washingtonpost.com/graphics/world/nepal-earthquake/
[3] http://academic.brooklyn.cuny.edu/geology/grocha/plates/platetec21.htm
[4] http://www.cicc.chula.ac.th/en/2012-04-26-04-31-26/203-likelihood-of-earthquakes-in-thailand.html
[5] http://www.annalsofgeophysics.eu/index.php/annals/article/download/3464/3509
[6] http://maps.unomaha.edu/Peterson/geog1000/MapLinks/Japan.htm
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่