สวัสดีครับ ชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้อยากจะมาแชร์ ประสบการณ์ที่พอเจอ ในสังคม มหาลัย ตลอด 4 ปี ที่ผ่าน ครับ ก็ มีทั้งเรื่อง ที่ น่าจดจำ และไม่น่าจดจำ คละเคล้า กันไป หวังว่าเรื่องเหล่าคงเป็นอุธาหรณ์ และกำลังใจให้กับเพื่อน/น้องๆ ที่เผชิญกับสังคมร้อยพ่อพันแม่ ในการเรียนด้วยครับ อันนี้ผมจะเอาจากไดอารี่ที่ผมได้เขียนเอาไว่ เอาเฉพาะตอนที่สำคัญๆ ครับ
ปวส ปี ที่ 1 ภาคสมทบ
- เด็กน้อย คนหนึง มุ่งเข้ากรุงเพื่อมาเรียนต่อ มหาลัย ใสๆซื่อตามวัยครับ เมื่อเรียนไปได้ซักระยะ ก็ มักจะมี ผญ อยู่คนนึง แก เป็นอะไรก็ไม่รู้ ชอบ พูดจา กระแทก-ดัน ข่ม ตลอด ทั้งที่ ไม่ได้ ทำอะไรให้ (เฉพาะผมคนเดียว) เช่น เด่นเวอร์ อยู่คนเดียว, ไหนเอารายงานมาให้กูลอกหน่อยสิ, คราวนึงผมตกวิชานึง แกก็มาเย้ยว่า โง่ เรียนให้ได้ตกยังไง, วันนึงผมก็ทนไม่ไหว ผมเข้าไปลุยถามกับแกเลยว่า คุณเป็นอะไรของคุณ อะไรมันไปหนักกบาล คุณ ผมก็อยู่ของผมเฉยๆ คุณจะเอาไงก็พูดมา ผมอยากรู้ ว่าคุณเป็นอะไร พอถามแก เสร็จ วันต่อมา แกก็ไป ฟ้องแฟนแก ให้มาเอาเรื่องกับผม ไอ้เราก็นั่งกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนอยู่ แฟนแกก็มาตวาด ซะ ไอ้หน้าต.ม. ไอ้ตอเรส เมิงเป็นลูกผู้ชายเปล่าว่ะ ที่มาด่าผู้หญิงแบบนี้ เมิงจะเอากับกูตรงนี้ก็ได้ โอ้โห มาแบบนี้ก็งงสิครับ ผมก็ชี้แจงนะ แต่ไม่ไหว จนเพื่อนทุกคนในกลุ่ม มาช่วยยืนยันว่า เราไม่ได้เริ่มก่อน หลังจากนั้นแกก็โดนทุกคนแบน แล้วก็ย้ายไปเรียนคาบอื่นแทน
ปวส ปี ที่ 2 ภาคสมทบ
- ปีนี้เป็นปีที่ดี ที่สุด ในของการเรียนมหาลัย ทั้ง 4 ปี ทุกคนที่คบหาก็มีความรักใคร่ สามัคคีกันดี ช่วยเหลือกันไปจนจบ
ปริญญาตรี เทียบโอน ปีที่ 1
ย้ายมาเข้าอีกมหาลัยที่รับเทียบโอน เรียนไปแรกก็ชิวๆดี แต่สังเกตมี เพื่อนผญ คนนึงแกมักจะทำหน้าคิดมาก หงอยๆ อยู่ตลอดเวลา ก็ไม่ได้ถามอะไรนะครับ จนวันนึง อาจารย์ให้จับกลุ่ม ทำโครงงาน พอเลิกเรียนแกก็ไปนั่ง ร้องให้ คราวนี้ผมก็เลยไปถามแกว่า เป็น อะไร แกเลยบอกว่า เธอถูกถีบออกมาจากกลุ่ม ไม่มีใครรับเธอเข้ากลุ่ม ผมก็เลย รับแกเข้ากลุ่ม ซึ่งเธอก็มักถามผมตลอดว่า เราเป็นตัวถ่วงหรือเปล่า ลำบากใจไหม ที่รับเข้ามา อยากให้เราไปวันไหนก็ได้น๊ะ (ซึ่งผมก็ไม่ได้ให้เธอทำงานอะไรมากครับ เพราะผมก็รับผิดชอบงาน 70 % อยู่แล้ว) ผมก็เลยถามเธอว่า ทำไมต้องคิดอย่างนั้น เธอก็ระบายว่า เธอมักถูกคนอื่นหักหลังตลอด เธอยังไม่วางใจในตัวผม เกรง จะเจอเรื่อง แบบนี้อีก นอกจากนี้แล้วทุกอย่างก็เป็นปกติ ผมก็ไม่เข้าใจนะครับ ว่าทำไมผมเทคแคร์ เพื่อนหญิง คนนี้ มาก
ปริญญาตรี เทียบโอน ปีที่ 2
สำหรับปี้นี้ เป็นปีที่ค่อนข้างเลวร้าย และเป็นปีที่ผมได้ทำเรื่องบัดซบลงไป จนเกิดเรื่องเสียหายต่อหมู่คณะ จากความเลวของตัวเอง เหตุการณ์ส่วนใหญ่อยู่ใน ช่วงโปรเจคครับ จนทำให้ผมต้องจดจำไว้เป็นบทเรียนจนตาย
- ก่อนจบโปรเจค 1 เดือน ได้เกิดเรื่องที่ไม่สมควรเกิด เมื่อโดนขโมย รูปเล่มโปรเจค ทนไม่ไหวบอกอาจารย์ แต่อาจารย์เข้าข้างกลุ่มเด็กโปรดแคปข้อความที่คุยลงในไลน์ห้อง จนต้องทะเลาะกับเพื่อนทั้งห้อง ต้องกลายไปเป็นคนโกหก ตอเรส เพื่อ ทำให้เรื่องๆจบๆซะ เท่านั้น ช่วงนั้นเราเองก็ประพฤติตัวบัดซบด้วยล่ะ เที่ยวระบาย นินทา ให้คนอื่นเขาฟังไปทั่ว ไม่นึกว่าจะมีไส้ศึกในกลุ่มตัวเอง จนกลายเป็น Talk of the town ในรุ่น (ขอซูฮกน้ำใจหัวหน้าห้อง ที่ไม่ถือสาเอาความ)
-ก่อนจบโปรเจค 12 วัน อาจารย์ได้แจก File Word อาจารย์ตะโกนเรียกหลายรอบ แต่ไม่มีคนไปเอา จนต้องต้องตัดสินใจไปเอาเอง และก็ได้ถูกคนด่า ว่าอาจารย์ไม่ดูรูปเล่มแล้ว แต่เราไม่สนใจ เราเดินไปขอไฟล์ งาน มา แล้วก็ได้ยินเสียงนินทา ว่าไอ้ XXX มันไป ตอเรส กะล่อน อะไรอีกเปล่า ดูสิ มันเอาหน้า รู้มาก
- วันพรีเซนต์ โปรเจค ไอ้คนที่ด่า เมื่อ 12 วัน ที่แล้ว มาขอไฟล์งาน น่าเตะ ไหมเล่า พอเข้า พรีเซนต์ โปรเจค ก็ถูกอาจารย์ ด่า เพราะไม่ได้ กรอกใบ อนุมัติกับปริ้นบทนำ เลยเดินลงมากรอกใบ ที่ห้องธุรการ ตอนลงมาสังเกตเห็น ทุกกลุ่ม มีใบอนุมัติ มีบทนำ หมดแล้ว เจ้าหน้าที่ห้องธุรการ ถาม ว่าไม่รู้เลยเหรอ ก็เอ๊ะใจ ว่าสงสังคงโดนแกล้ง เข้าให้ แล้ว และก็ต้องขอขอบคุณสมาชิกในกลุ่มที่แก้ไขสถานการณ์ไปได้ด้วยดี จนบรรลุวัตถุประสงค์ หลังจาก จบโปรเจค / ข้องใจยืมเฟสจากเพื่อนญแอบส่องคนในห้อง ก็พบว่า มีคนเอาเรื่องผิดพลาดเราไปบุชายัญ กลายเป็น คนตอเรส เก่งลับหลัง ดูเป็นฮีโร่กันจังนะ มีท้า นัดตี นัดต่อยด้วย ให้เบอร์โทร แล้วก็คนอวยมีจะซื้อกระโปรงให้ใส่ด้วยนะ แน่กันจริงๆนะ ในเฟส ในดงพวกเดียวกันเนี่ย ช่างเหอะ ไม่ได้มีเบอร์ มีเฟส เรานิ ไม่โกรธ เจอหน้าเราก็ทักทายเราตามปกติ แต่จะจำไว้ถึงคนหน้าไหว้หลังหลอก ได้รู้ถึงบทเรียนอันล้ำค่า ว่าเวลาเราล้มจะมีแต่คนจ้องซ้ำเรา และคิดถึงคำสอนพ่อแม่ ว่าคนจริง เขาจะทำเลยไม่มาเห่าหอนอย่างนี้หรอก
วันงานเลี้ยงจบ
-เข้าไปร่วมงานปกติ แต่เห็นเกือบทุกคนมีท่าทีเปลี่ยนไป มีเพื่อนญที่สนิทกันมากระซิบว่า ไม่ต้องไปคุยกับใคร แล้ว มาคุยกับเรานี่แหละ พอแล้ว พวกเขา แบนเธอ แล้วล่ะ ไม่คิดมากอะไร จบแล้ว จบกัน ดื่มเลี้ยงจบ ไปซะ แล้วโดนแบนจากไลน์กลุ่ม ด้วยเหตุผลที่รู้แก่ใจ
3 เดือนก่อนวันซ้อม
-ได้รับการแจ้งข่าวกำหนดรับปริญญา จากเพื่อนญที่สนิท ไงๆต้องขอบคุณเพื่อนคนนี้ที่ช่วยแจ้งเตือนให้
วันซ้อม
- อุตสาห์ไหว้ สวัสดี ทุกคน แต่ส่วนใหญ่ เขากับทำเป็นไม่สนใจเหมือนมองไม่เห็น บางคนมองแบบอิ้งๆนึ่งๆด้วยซ้ำ บางคนหลบหน้าเลย สงสัยจะยังคงฝังใจกับเรื่องพวกนั้นล่ะมั้ง ถือว่าเราไหว้อโหสิกรรมกันไป แต่ชั่ง เหอะ อีก ครั้ง เดียวก็ไม่เจอกันแล้ว แถมยังได้ยินเสียงว่ากูไม่อยากเห็นหน้าวันตอนวันรับเลยว่ะ แวะไปเจอเพื่อนญ แล้วจับกลุ่มเดิมปลีกตัวออกมา
วันรับ
- หลังถ่ายรูปหมู่แล้ว ทั้งห้องชวนกันไปถ่ายรูป แต่ไม่ชวนเรา แต่ก็ไม่แคร์ นั่งรอเพื่อนญ จนถ่ายเสร็จ แล้วเธอบอกว่า ไม่ต้องคิดมากน่ะ เรายังคงคบนายอยู่ หลังจากรับปริญญาแล้ว นัดทั้งครอบครัวกันไปกินร้านอาหารอำลา สั่งเพื่อนรักกลับสู่ถิ่นถาน
นี่ก็เป็นประสบการณ์ตลอด 4ปี ในมหาลัย ที่ให้ทั้ง บทเรียน ความ สุข ความทุกข์ คละเคล้ากันไป ในอีกหน้าชีวิตของมนุษย์คนนึงครับ
แชร์ ประสบการณ์ ผจญ สังคม ปวส - ป.ตรี จนวันรับปริญญา
ปวส ปี ที่ 1 ภาคสมทบ
- เด็กน้อย คนหนึง มุ่งเข้ากรุงเพื่อมาเรียนต่อ มหาลัย ใสๆซื่อตามวัยครับ เมื่อเรียนไปได้ซักระยะ ก็ มักจะมี ผญ อยู่คนนึง แก เป็นอะไรก็ไม่รู้ ชอบ พูดจา กระแทก-ดัน ข่ม ตลอด ทั้งที่ ไม่ได้ ทำอะไรให้ (เฉพาะผมคนเดียว) เช่น เด่นเวอร์ อยู่คนเดียว, ไหนเอารายงานมาให้กูลอกหน่อยสิ, คราวนึงผมตกวิชานึง แกก็มาเย้ยว่า โง่ เรียนให้ได้ตกยังไง, วันนึงผมก็ทนไม่ไหว ผมเข้าไปลุยถามกับแกเลยว่า คุณเป็นอะไรของคุณ อะไรมันไปหนักกบาล คุณ ผมก็อยู่ของผมเฉยๆ คุณจะเอาไงก็พูดมา ผมอยากรู้ ว่าคุณเป็นอะไร พอถามแก เสร็จ วันต่อมา แกก็ไป ฟ้องแฟนแก ให้มาเอาเรื่องกับผม ไอ้เราก็นั่งกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนอยู่ แฟนแกก็มาตวาด ซะ ไอ้หน้าต.ม. ไอ้ตอเรส เมิงเป็นลูกผู้ชายเปล่าว่ะ ที่มาด่าผู้หญิงแบบนี้ เมิงจะเอากับกูตรงนี้ก็ได้ โอ้โห มาแบบนี้ก็งงสิครับ ผมก็ชี้แจงนะ แต่ไม่ไหว จนเพื่อนทุกคนในกลุ่ม มาช่วยยืนยันว่า เราไม่ได้เริ่มก่อน หลังจากนั้นแกก็โดนทุกคนแบน แล้วก็ย้ายไปเรียนคาบอื่นแทน
ปวส ปี ที่ 2 ภาคสมทบ
- ปีนี้เป็นปีที่ดี ที่สุด ในของการเรียนมหาลัย ทั้ง 4 ปี ทุกคนที่คบหาก็มีความรักใคร่ สามัคคีกันดี ช่วยเหลือกันไปจนจบ
ปริญญาตรี เทียบโอน ปีที่ 1
ย้ายมาเข้าอีกมหาลัยที่รับเทียบโอน เรียนไปแรกก็ชิวๆดี แต่สังเกตมี เพื่อนผญ คนนึงแกมักจะทำหน้าคิดมาก หงอยๆ อยู่ตลอดเวลา ก็ไม่ได้ถามอะไรนะครับ จนวันนึง อาจารย์ให้จับกลุ่ม ทำโครงงาน พอเลิกเรียนแกก็ไปนั่ง ร้องให้ คราวนี้ผมก็เลยไปถามแกว่า เป็น อะไร แกเลยบอกว่า เธอถูกถีบออกมาจากกลุ่ม ไม่มีใครรับเธอเข้ากลุ่ม ผมก็เลย รับแกเข้ากลุ่ม ซึ่งเธอก็มักถามผมตลอดว่า เราเป็นตัวถ่วงหรือเปล่า ลำบากใจไหม ที่รับเข้ามา อยากให้เราไปวันไหนก็ได้น๊ะ (ซึ่งผมก็ไม่ได้ให้เธอทำงานอะไรมากครับ เพราะผมก็รับผิดชอบงาน 70 % อยู่แล้ว) ผมก็เลยถามเธอว่า ทำไมต้องคิดอย่างนั้น เธอก็ระบายว่า เธอมักถูกคนอื่นหักหลังตลอด เธอยังไม่วางใจในตัวผม เกรง จะเจอเรื่อง แบบนี้อีก นอกจากนี้แล้วทุกอย่างก็เป็นปกติ ผมก็ไม่เข้าใจนะครับ ว่าทำไมผมเทคแคร์ เพื่อนหญิง คนนี้ มาก
ปริญญาตรี เทียบโอน ปีที่ 2
สำหรับปี้นี้ เป็นปีที่ค่อนข้างเลวร้าย และเป็นปีที่ผมได้ทำเรื่องบัดซบลงไป จนเกิดเรื่องเสียหายต่อหมู่คณะ จากความเลวของตัวเอง เหตุการณ์ส่วนใหญ่อยู่ใน ช่วงโปรเจคครับ จนทำให้ผมต้องจดจำไว้เป็นบทเรียนจนตาย
- ก่อนจบโปรเจค 1 เดือน ได้เกิดเรื่องที่ไม่สมควรเกิด เมื่อโดนขโมย รูปเล่มโปรเจค ทนไม่ไหวบอกอาจารย์ แต่อาจารย์เข้าข้างกลุ่มเด็กโปรดแคปข้อความที่คุยลงในไลน์ห้อง จนต้องทะเลาะกับเพื่อนทั้งห้อง ต้องกลายไปเป็นคนโกหก ตอเรส เพื่อ ทำให้เรื่องๆจบๆซะ เท่านั้น ช่วงนั้นเราเองก็ประพฤติตัวบัดซบด้วยล่ะ เที่ยวระบาย นินทา ให้คนอื่นเขาฟังไปทั่ว ไม่นึกว่าจะมีไส้ศึกในกลุ่มตัวเอง จนกลายเป็น Talk of the town ในรุ่น (ขอซูฮกน้ำใจหัวหน้าห้อง ที่ไม่ถือสาเอาความ)
-ก่อนจบโปรเจค 12 วัน อาจารย์ได้แจก File Word อาจารย์ตะโกนเรียกหลายรอบ แต่ไม่มีคนไปเอา จนต้องต้องตัดสินใจไปเอาเอง และก็ได้ถูกคนด่า ว่าอาจารย์ไม่ดูรูปเล่มแล้ว แต่เราไม่สนใจ เราเดินไปขอไฟล์ งาน มา แล้วก็ได้ยินเสียงนินทา ว่าไอ้ XXX มันไป ตอเรส กะล่อน อะไรอีกเปล่า ดูสิ มันเอาหน้า รู้มาก
- วันพรีเซนต์ โปรเจค ไอ้คนที่ด่า เมื่อ 12 วัน ที่แล้ว มาขอไฟล์งาน น่าเตะ ไหมเล่า พอเข้า พรีเซนต์ โปรเจค ก็ถูกอาจารย์ ด่า เพราะไม่ได้ กรอกใบ อนุมัติกับปริ้นบทนำ เลยเดินลงมากรอกใบ ที่ห้องธุรการ ตอนลงมาสังเกตเห็น ทุกกลุ่ม มีใบอนุมัติ มีบทนำ หมดแล้ว เจ้าหน้าที่ห้องธุรการ ถาม ว่าไม่รู้เลยเหรอ ก็เอ๊ะใจ ว่าสงสังคงโดนแกล้ง เข้าให้ แล้ว และก็ต้องขอขอบคุณสมาชิกในกลุ่มที่แก้ไขสถานการณ์ไปได้ด้วยดี จนบรรลุวัตถุประสงค์ หลังจาก จบโปรเจค / ข้องใจยืมเฟสจากเพื่อนญแอบส่องคนในห้อง ก็พบว่า มีคนเอาเรื่องผิดพลาดเราไปบุชายัญ กลายเป็น คนตอเรส เก่งลับหลัง ดูเป็นฮีโร่กันจังนะ มีท้า นัดตี นัดต่อยด้วย ให้เบอร์โทร แล้วก็คนอวยมีจะซื้อกระโปรงให้ใส่ด้วยนะ แน่กันจริงๆนะ ในเฟส ในดงพวกเดียวกันเนี่ย ช่างเหอะ ไม่ได้มีเบอร์ มีเฟส เรานิ ไม่โกรธ เจอหน้าเราก็ทักทายเราตามปกติ แต่จะจำไว้ถึงคนหน้าไหว้หลังหลอก ได้รู้ถึงบทเรียนอันล้ำค่า ว่าเวลาเราล้มจะมีแต่คนจ้องซ้ำเรา และคิดถึงคำสอนพ่อแม่ ว่าคนจริง เขาจะทำเลยไม่มาเห่าหอนอย่างนี้หรอก
วันงานเลี้ยงจบ
-เข้าไปร่วมงานปกติ แต่เห็นเกือบทุกคนมีท่าทีเปลี่ยนไป มีเพื่อนญที่สนิทกันมากระซิบว่า ไม่ต้องไปคุยกับใคร แล้ว มาคุยกับเรานี่แหละ พอแล้ว พวกเขา แบนเธอ แล้วล่ะ ไม่คิดมากอะไร จบแล้ว จบกัน ดื่มเลี้ยงจบ ไปซะ แล้วโดนแบนจากไลน์กลุ่ม ด้วยเหตุผลที่รู้แก่ใจ
3 เดือนก่อนวันซ้อม
-ได้รับการแจ้งข่าวกำหนดรับปริญญา จากเพื่อนญที่สนิท ไงๆต้องขอบคุณเพื่อนคนนี้ที่ช่วยแจ้งเตือนให้
วันซ้อม
- อุตสาห์ไหว้ สวัสดี ทุกคน แต่ส่วนใหญ่ เขากับทำเป็นไม่สนใจเหมือนมองไม่เห็น บางคนมองแบบอิ้งๆนึ่งๆด้วยซ้ำ บางคนหลบหน้าเลย สงสัยจะยังคงฝังใจกับเรื่องพวกนั้นล่ะมั้ง ถือว่าเราไหว้อโหสิกรรมกันไป แต่ชั่ง เหอะ อีก ครั้ง เดียวก็ไม่เจอกันแล้ว แถมยังได้ยินเสียงว่ากูไม่อยากเห็นหน้าวันตอนวันรับเลยว่ะ แวะไปเจอเพื่อนญ แล้วจับกลุ่มเดิมปลีกตัวออกมา
วันรับ
- หลังถ่ายรูปหมู่แล้ว ทั้งห้องชวนกันไปถ่ายรูป แต่ไม่ชวนเรา แต่ก็ไม่แคร์ นั่งรอเพื่อนญ จนถ่ายเสร็จ แล้วเธอบอกว่า ไม่ต้องคิดมากน่ะ เรายังคงคบนายอยู่ หลังจากรับปริญญาแล้ว นัดทั้งครอบครัวกันไปกินร้านอาหารอำลา สั่งเพื่อนรักกลับสู่ถิ่นถาน
นี่ก็เป็นประสบการณ์ตลอด 4ปี ในมหาลัย ที่ให้ทั้ง บทเรียน ความ สุข ความทุกข์ คละเคล้ากันไป ในอีกหน้าชีวิตของมนุษย์คนนึงครับ